อย่าใช้เวลาทั้งชีวิตหาเงิน จงใช้เวลาส่วนหนึ่งของชีวิต หาเงินเพื่อใช้ตลอดชีวิต FACE BOOK : Tuckkatan Ketsarin
 
หุ้นหนีน้ำท่วม

วานนี้มีอารมณ์ร่วม 2 อย่างในคราวเดียวกัน...โดยอารมณ์แรกเป็นอาการเศร้าสร้อย หลังเห็นพ่อแม่พี่น้องลุงป้าน้าอา ขนของหนีน้ำท่วมกันอย่างอลหม่าน ส่วนอารมณ์ที่สองออกอาการคึกคักสุดฤทธิ์ หลังเห็นดัชนีเหินทะยานขึ้นไปถึง 51.07 จุด ก่อนจะมาปิดที่ 913.72 จุด ท่ามกลางมูลค่าการซื้อขายกว่า 3 หมื่นล้านบาท มันช่างเป็นอารมณ์ “เศร้าปนสุข” ที่เดี๊ยนไม่เคยมีมาก่อนในรอบหลายสิบปีนะคะ

ที่น่าสนใจคือ สถานการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ทุกคนรู้ว่า “โลกนี้ไม่มีอะไรแน่นอน” และอย่าตั้งตนอยู่ในความประมาทเป็นอันขาด เพราะทุกสิ่งทุกอย่างอาจสลายหายไปเป็นศูนย์ภายในชั่วข้ามคืน ถึงพยายามให้ทุกคนเข้าใจกลไกเรื่องต่างๆ อย่างเป็นระบบ เพราะถ้าคิดแบบนั้นได้ ก็สามารถแปลงวิกฤติเป็นโอกาสได้ตลอดเวลา ขณะเดียวกันก็ขอแสดงความยินดีกับนักลงทุนที่สามารถทำกำไรในช่วงตลาดหุ้นผันผวนได้อีกครั้งพะยะค่ะ

ประเด็นที่น่าสนใจในสายตา เดี๊ยนอยู่ที่การกลับเข้ามาซื้อของนักลงทุนสถาบัน (โบรกเกอร์ไม่เกี่ยว เพราะรายนี้เทรดเอามันลูกเดียว ไม่เคยลงทุนระยะยาว ยิ่งซื้อเยอะเท่าไหร่ วันถัดไปยิ่งขายเยอะเท่านั้น) น่าจะหมายถึงการสิ้นสุดขาลงอย่างบูรณาการแล้วกระมั่ง เพราะทุกคนเริ่มรู้สึกว่า แนวทางการแก้ไขปัญหาหนี้ฝั่งยุโรป เริ่มมีทางออกที่เป็นรูปธรรมมากขึ้น จึงย้อนกลับเข้ามาลงทุนในหุ้นอีกครั้งไงล่ะค่ะ

วานนี้ในช่วงภาคบ่ายถึงเห็นดัชนีพุ่งขึ้น 5% และกลับขึ้นมายืนเหนือ 900 จุดอีกครั้ง ซึ่งเป็นไปในทิศทางตลาดหุ้นต่างประเทศที่ดีดตัวขึ้น 1-5% โดยแรงซื้อหลักๆ ยังพุ่งเป้ามาที่หุ้นขนาดใหญ่อย่าง “พลังงานและแบงก์” แถมยังเป็นแรงซื้อที่ติดพันเสียด้วย ส่งผลให้ในช่วงภาคบ่ายราคาหุ้นชั้นนำของประเทศอย่าง BBL ขยับขึ้นไปกว่า 7% ส่วนป่อเต็กตึ๊ง PTT ขยับขึ้นไปมากถึง 9% ส่วนหุ้นปูนใหญ่ SCC ขยับขึ้นไปกว่า 7% แบบนี้...เสียดายของกันใช่ม๊า...ถึงตะลุยซื้ออย่างหนัก

ถึงกระนั้นก็มีกูรูของ บล.ภัทร PHATRA ออกมาปรับลดเป้าดัชนีตลาดหุ้นไทยปีนี้เหลือแค่ 920 จุด จากเดิม 1,100 จุด พร้อมกันนี้ “เฮียศุภวุฒิ” ในฐานะกรรมการผู้จัดการ หัวหน้าสายงานวิจัย ให้เหตุผลปรับลดเป้าดัชนีปีนี้ เนื่องจากได้รับผลกระทบจากวิกฤติเศรษฐกิจโลก และยังยืนยันให้นักลงทุนถือเงินสดมากสุดในพอร์ต และให้ติดตามสถานการณ์ยุโรป และสหรัฐอย่างใกล้ชิดพะยะค่ะ

งานนี้ใครเชื่อหรือไม่เชื่อ เดี๊ยนไม่สามารถไปบีบบังได้ แต่ที่รู้ๆ คือ ถ้าเป็นคนมีเงินเย็น และกล้าพอ น่าจะโหนกระแส เพื่อเพิ่มช่องทางในการทำกำไร ขณะเดียวกันก็ควรรับรู้ว่า ราคาหุ้นหลายตัว ณ ระดับปัจจุบันให้ผลตอบแทนค่อนข้างสูง...ยกเว้นสถานการณ์ของหุ้นกลุ่มยานยนต์ เพราะรองนายกฯ ออกมาพูดอย่างเป็นทางการแล้วว่า น้ำท่วมที่เกิดขึ้นอาจส่งผลกระทบกับไลน์ผลิตรถยนต์นะจะบอกให้

เมื่อตลาดหุ้นเข้าสู่ช่วงการดีดตัวขึ้น หรือพูดให้เข้าประเด็นหน่อยก็คือ เด้งรับข่าวดี ย่อมทำให้หุ้นบลูชิพเกิดอาการ “ปึ๋งปั๋ง” อย่างกับได้รับยาไวอากร้านั้น!! เดี๊ยนมองจากในมุมของคนที่มองโลกในแง่ดีเป็นหลักว่า นี่คือการเปิดโอกาสให้คนที่ต้องการเป็นเศรษฐีใหม่ได้ทำฝันให้เป็นจริง และดูเหมือนว่าประเด็นดังกล่าวจะโดนใจขาโจ๋วัยมันส์อย่างจังเสียด้วย...สุดยอดหุ้นบลูชิพถึงกลับมาได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วพะยะค่ะ

งานนี้ไม่ขออธิบายเหตุผลที่ทำให้ดัชนีขึ้นแรง แต่อยากบอกให้ทุกคนรู้ว่า ขาช็อตทั้งหลายตัวดำเกรียมกันถ้วนหน้า เพราะต้องกลับลำมาไล่ซื้อหุ้นอย่างอลหม่าน และดูเหมือนว่า แต่ละรายจะออกมาบ่นเป็นเสียงเดียวกันว่า “อ่านเกมพลาด ก็เจ็บตัวหนักแบบนี้แหละ” เดี๊ยนถึงเชื่อว่า ความเป็นไปได้ที่หุ้นจะอ่อนตัวลงแรงเริ่มน้อยลง เพราะแรงซื้อที่อัดแน่นเข้ามาเมื่อวานเป็นเครื่องยืนยันว่า มีคนพร้อมจะซื้อหุ้นตลอดเวลาเจ้าค่ะ

ป.ล.หุ้นปรับตัวขึ้นแรงในคราวนี้ว่ากันว่า เป็นการหนีน้ำท่วม ดัชนีก็เลยต้องยกฐานสูงขึ้นเจ้าค่ะ

จาก..โมนิก้า - ข่าวหุ้น


Create Date : 07 ตุลาคม 2554
Last Update : 7 ตุลาคม 2554 9:25:02 น. 0 comments
Counter : 459 Pageviews.  
 
Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

tuckkatan-ket
 
Location :
เชียงใหม่ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




สาวเจียงใหม่เจ้า
[Add tuckkatan-ket's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com