นอน-กิน-เที่ยว-รักสวยแต่ขี้เกียจ
Group Blog
 
All blogs
 

Taipei, Taiwan - เก็บตก

จากที่บอกว่ามาไต้หวันหลายรอบแล้ว แต่ไม่มีโอกาสได้เที่ยวจริงจัง อันนี้จะรวมมิตรที่เหลือนอกจากมาเที่ยวที่ได้เล่ามาแล้ว ส่วนใหญ่จะอยู่แถว ๆ สนามบิน เรียกว่า Taoyuan ชื่อเดียวกับสนามบิน Taoyuan International Airport นะแหล่ะ

ไม่รู้จะเริ่มยังไงดี.... เพราะรูปมาจากที่ไปมา 2-3 ครั้ง รวม ๆ กัน คงจะนานมากกกถ้าจะได้ไปไต้หวันอีก เพราะไม่ได้มีงานที่จะต้องไปแล้ว แอบเศร้าง่ะ ..

เอาน่า... มีบล็อกไว้ให้หายคิดถึงก็พอแล้ว ไว้มีโอกาสเราเจอกันใหม่นะ!!

เริ่มจากหน้าโรงแรม..........

มีของขึ้นชื่อที่เรารู้จักกันดีก็คือชานมไข่มุก ขอรับรองว่าอร่อยกว่าที่กินเมืองไทยมาก ๆ ไปทุกทีกินทุกทีเลย นอกจากไข่มุก พุดดิ้งก็อร่อยสุด ๆ


ร้านนี้เปิดกลางคืน ชื่อร้าน Coco


เมนู


วันนี้เราสั่งช็อกโกแลตพุดดิ้ง แก้วบะเริ่ม 35NT เรากินหมดภายใน 15 นาที เนื้อพุดดิ้งจะนิ่ม ๆ หยุ่น ๆ หวาน ๆ หอม ๆ โอ๊ย อร่อย !! ที่เห็นเป็นสีขาว ๆ ก้น ๆ ถ้วยนั่นแหล่ะ พุดดิ้ง


ไป ๆ มา แป๊บเดียว ก็มีร้านชานมเปิดใหม่อยู่ฝั่งตรงข้ามร้าน Coco


ราคาแพงกว่าร้าน Coco เล็กน้อย เราสั่งชานมเพราะว่าอยากลองมีคนบอกว่าหอมกว่าร้าน Coco อีก เรากินแล้วไม่ชอบ มันหอมอะไรก็ไม่รู้ กลับไปกินร้าน Coco เหมือนเดิม แหะ แหะ


เวลาส่วนใหญ่ที่เรามาถึงก็จะมืดแล้วประมาณ 2-3 ทุ่ม เราก็จะไปสอยชานม 1 แก้ว แล้วก็พร้อมไปลุยตลาดกลางคืน จากโรงแรมไปตลาดกลางคืนแค่ 10 นาทีก็ถึงแล้ว ค่าTaxi ประมาณ 115 NT เที่ยวเดียว

ตลาดกลางคืนอันนี้ เรียกว่า Taoyuan yeshi มีของขายคล้าย ๆ shilin แต่ขนาดเล็กกว่าเยอะเลย


บรรยากาศภายในตลาด


แวะมาดูร้านรวงต่าง ๆ ในตลาดกัน เริ่มด้วยร้านขายถั่วนึ่ง เผือกนึ่ง แห้วนึ่ง


ร้านเครื่องดื่ม มีพวกน้ำเต้าหู้ น้ำผลไม้




ร้านขายผลไม้ มีสตอเบอรรี่ ฝรั่ง แล้วก็หน้าตาไม่คุ้นเคยอีกนิดหน่อย


ร้านขายของทอด จะมีเต้าหู้ ผัก ให้เลือกเยอะแยะ แล้วเค้าก็จะเอาไปทอดให้ โรยผงอะไรไม่รู้ อร่อยดี ชอบกินเต้าหู้ทอด ร้านแบบนี้หาได้ทั่วไปตามตลาดกลางคืนไต้หวันหรือว่าริมถนน


ร้านต่อไปนี่ขอแนะนำ เพราะว่าอร่อยมาก เป็นร้านขายเห็ดทอดหลาย ๆ อย่าง มีเห็ดหอม เห็ดนางฟ้า เห็ดเข็มทอง ขนาดเล็ก 50 NT ใหญ่ 100 NT




ต่อไปเป็นร้านไก่อบ มีปีกบนอบ ท่าทางน่ากิน ชิ้นละ 10 NT ก็อร่อยดี




ถัดมาอีกหน่อยนึงก็จะเป็นร้านขายคล้าย ๆ ร้านหอยทอดบ้านเรา แต่ใส่ผักอะไรไม่รู้ แล้วก็ราดซอสที่เราไม่คุ้น ถ้าไม่ราดอร่อยกว่านะ เรากว่าอันนี้กลาง ๆ มีขายเยอะมากในโซนอาหารที่ซื่อหลิน ร้านชนร้านเลย


ซูม ๆ


อันนี้เห็นมีคนต่อเยอะดีเลยแวะไปดู เป็นร้านขายซุปมีเลือดมีเครื่องใน แต่เราขอผ่านเพราะไม่ชอบกินเลือด




เดินไปท้ายตลาดก็มีร้านขายหม้อไฟ


ลูกชิ้นที่อยู่ในหม้อไฟ อร่อยมาก ๆ เลย ไส้ไข่ปลาหรือไข่กุ้งเนี่ย อยากกินอีก ๆ ๆ



ร้านนี้คนก็เยอะเหมือนกันเป็นร้านขาย Stuffed Potatoes หรือว่ามันฝรั่งสอดไส้ เบคอนเหรือว่าอะไรพวกเนี้ย เผอิญกินเห็ดทอดจนอิ่มแล้ว ไม่งั้นได้ชิมแน่ ๆ


width='450' height='337' border=0>

ของขึ้นชื่อของไต้หวันที่ควรลอง แต่ชอบไม่ชอบไม่รู้ ได้แก่ โฉ่วโต้วฟุ หรือว่าเต้าหู้เหม็น เค้าเอามาทำหลายอย่างเลย เช่นทอด หรือว่าใส่ในซุป ลองแล้วทั้งสองอย่าง ไม่ชอบง่ะ กลิ่นแรงจริง ๆ

เดินออกมาจากตลาดข้ามถนนไปหน่อย ก็มีของขึ้นชื่ออีกอย่างก็คือ zha ji pai คือไก่ทอดชิ้นค่อนข้างใหญ่ 50 NT กินชิ้นเดียวก็ไม่หมดแล้ว อันนี้เราเฉย ๆ เพราะซื้อมาทีไร กินไม่หมดทุกที

อันนี้ของคนที่มาสั่งก่อนหน้าเรามีผักด้วย น่ากินเชียว..


ไก่ชุบแป้ง


ทอด...


เสร็จแล้ว


ถ้ายังไม่อิ่มจากตลาด แถว ๆ โรงแรมตอนดึก ๆ ยังมีของกินรอเราอยู่อีก...
เดินไปไม่กี่ก้าวก็ถึงร้านขายของลวก ๆ ให้เราเลือกเนื้อ เส้น ผัก อะไรตามใจใส่ตระกร้า เค้าจะเอาไปลวกให้ ใส่น้ำซุป พริก ผักดอง กินร้อน ๆ อร่อย..(อีกแล้ว)

อันนี้เป็นเนื้อ เครื่องใน


ลูกชิ้น ไส้กรอก เต้าหู้ มีให้เลือกเยอะแยะ


เส้นต่าง ๆ วุ้นเส้น บะหมี่ มาม่า




ไส้อะไรไม่รู้


เสร็จแล้วเอาไปลวก เราชอบกินเห็ดเข็มทอง เต้าหู้ เต้าหู้ทอด ผักไต้หวัน


ปรุงรสด้วยพริก เครื่องปรุงรส (เป็นความลับ) ผักดอง


คุณลุงเจ้าของร้าน ใจดีมาก ๆ น่ารัก พยายามพูดกับเราเป็นจีน+อีงกฤษ ใบ้กันสนุกไปเลย


ที่ร้านไม่มีที่ให้นั่งกิน เราก็ถือกลับมากินที่ห้องในโรงแรม


แต๊น!!


น้ำซุปอร่อย คล่องคอ ราคาแพงนิดหน่อย ของ 4 อย่างประมาณ 160 NT 1 อย่างประมาณ 40 NT บางวันคุณลุงใจดี แถมผักให้เราฟรี ๆ ด้วย

ถัดจากร้านคุณลุงมาอีกหน่อย มีร้านลวก ๆ แบบนี้เปิดใหม่อีกหนึ่งร้าน เราก็ต้องตามไปชิมกันหน่อย


ผักกับเห็ด


เส้นก็มีเหมือนกัน


อันนี้เสร็จแล้ว


แต๊น !!! คราวนี้สั่งน้อย เพราะอิ่ม แต่อยากกิน (พูดง่าย ๆ ว่าตะกละ)



น้ำซุปรสชาติต่างกัน พริก ผักดองต่างกัน เราชอบน้ำซุปร้านคุณลุงมากกว่า แต่ร้านนี้มีลูกชิ้นใส้ไข่กุ้งให้เราเลือกด้วย ร้านลุงไม่มีขาย สรุปว่าผ่านทั้ง 2 ร้าน

หลังจากอิ่มจนแทบจะจุกตายก็เก็บภาพโรงแรมมาฝากกันนิดหน่อย

เราพักที่ Monarch Plaza Hotel คืนละเท่าไหร่ไม่รู้เพราะไม่ได้จ่ายเอง โรมแรมอยู่ห่างจากสนามบินประมาณ 30 นาที


อันนี้ห้องในโรงแรมจ้า


โต๊ะกับทีวี บนโต๊ะมีของรก ๆ เราอยู่เพียบเรย


เช้าแล้วเดินชมรอบ ๆ โรงแรมกันหน่อย

ยามเช้า..




เยื้องกับโรงแรงมีสวนหย่อม (park) เล็ก ๆ มีคนมาออกกำลัง เดินเล่นจนถึงดึก ๆ 5 ทุ่ม เที่ยงคืนเลยแหละ


ฝั้งตรงข้ามโรงแรมมีร้านสะดวกซื้อ ที่ไต้หวันเห็นร้านสะดวกซื้อเยอะมาก ๆ ทั้ง 7-11, Family Mart หรือยี่ห้ออื่น ๆ มีแทบจะทุกหัวมุมถนนเลย


ตึกสูง ๆ ก็เยอะ น่าจะเป็นอพาร์ทเม้นท์


แท๊กซี่เค้าสีเหลือง


เดินไปอีกไม่ไกลก็มีวัด(หรือว่าศาลเจ้า)เล็ก ๆ ด้วย


เข้าไปใกล้ ๆ


ภายในวัด


เราได้แวะทำบุญ, เสี่ยงเซียมซี แล้วก็โยนกรับแดง ๆ (ของจีน) มาด้วย ใบเซียมซีแปลไม่ออก เก็บไว้ก่อน เอาไว้เป็นศิริมงคล :)

หลังจากนั้นเราก็เดินไปหาอะไรเติมเข้าท้อง ก็ร้านอาหารเช้าแถว ๆ โรงแรมนี่แหล่ะ


ร้านนี้ขายอาหารเช้าประเภทแซนด์วิช


บรรยากาศในร้าน


ไข่ดาว หมูแฮม ไส้กรอก แซนด์วิช


แผ่นแป้งคล้าย ๆ แพนเค้ก อันนี้อร่อย..


เมนูแยกสำหรับทานในร้านหรือซื้อออกไปให้เขียนเอง




อาหารเช้าของเรา ขอบอกว่าสั่งไม่เป็น สั่งมั่ว ๆ ได้อันนี้มา อิอิ ที่เป็นถ้วย ๆ ก็เป็นน้ำเต้าหู้ อร่อยไม่หวาน แก้วละ 15 NT สั่งเป็นชานมร้อนก็ได้ อร่อยเหมือนกัน 20 NT จานรวมมิตรนี่ 55 NT ถ้าจำไม่ผิด มีไข่ แฮม มันฝรั่งทอด hash brown


แผ่นแป้งกลม ๆ เหมือนรูปข้างบน เค้าจะใส่ไข่ตี ๆ เอาไปย่างบนกระทะร้อน ๆ เลือกไส้ได้ตามใจชอบ เช่นแฮม เบคอน หมูหยอง ผัก เราชอบไส้ไก่รมควัน เค้าจะผัดกับหอมใหญ่ก่อนเอามาห่อ ราดซอสเค็ม ๆ หวาน ๆ นิดหน่อย เฮ้อ.... คิดถึง...



ถัดไปอีกหน่อยจะเป็นร้านขายซาลาเปา ขนมกุ้ยช่าย


แป้งขนมแบบต่าง ๆ


เสี่ยวหลงเปาก็รสชาติใช้ได้


บรรยากาศในร้าน


เราชอบกินเสี่ยวหลงเปากับขนมกุ๊ยช่าย น้ำจิ้มอร่อยดี แต่แป้งแอบหน้าไปนิดนึง

รวม ๆ ทั้งบล็อกมีแต่เรื่องของกินไป 95% แล้ว ถ้ามีโอกาสอยากไปอีก เพราะคิดถึงของกินทั้งหลายเหล่านี้อ่ะ

ขอจบรีวิวไต้หวันฉบับเก็บตกตรงนี้เลยละกันนะ




 

Create Date : 31 มีนาคม 2551    
Last Update : 31 มีนาคม 2551 17:33:00 น.
Counter : 3223 Pageviews.  

Taipei, Taiwan - Part 4

วันที่ 4 - Jiufen + Small Night Market

ก่อนออกเดินทางวันที่สี่เราก็หอบหิ้วกระเป๋าทั้งหมดมา check-in ที่โรงแรมใกล้ ๆ กับที่เดิม ชื่อโรงแรม Rainbow ค่า ราคาต่อคืน 2480 NT เป็นห้อง 3 เตียง พนักงานที่นี่น่ารักมาก ๆ ค่ะ ยิ้มแย้มตลอดเลย มีอาหารเช้าให้ด้วยแต่เราไม่ได้ทานเพราะว่าต้อง check -out แต่เช้าไปสนามบินวันรุ่งขึ้น โรงแรมเก่ากว่า Wonstar ค่อนข้างมาก แต่ที่นี่เทียบกันแล้วอยู่ใจกลาง Ximending จริง ๆ คืออยู่ตรงกลางเลย ใครเคยไปคงนึกภาพออกแน่ ๆ

ลองคุยกับพนักงานโรงแรม wonstar ว่าควรจะไปดู Yangmingshan ที่กำลังมีเทศกาลดอกไม้หรือว่าไปเที่ยวไหนดี เค้าแนะนำ Jiufen ว่าน่าไปกว่า เป็นบ้านโบราณ ๆ แล้วก็มีของขาย ก็เลยตัดสินใจไป

นั่งรถไฟ MRT ไปลงสถานี Zhongxiao Fuxing ออก exit 1 ไปยืนรอ ต่อรถบัสอีกคนละ 90 NT ระหว่างที่อยู่บนรถบัสฝนก็เริ่มปรอย ๆ ..... ตกอีกแล้ว ตกมันทุกวันเลย ใช้เวลาประมาณชั่วโมงกว่า ๆ ก็มาถึงจิ่วเฟิน





ทางเดินเป็นเหมือนซอยแล้วก็มีร้านขายของเต็มไปหมด ฝนตกเฉอะแฉะ เดินลำบากนิดนึง เราก็เลยต้องซื้อร่มในที่สุด (ซื้อมันวันสุดท้ายเนี่ย) เพิ่งสังเกตุว่าลุงเสื้อแดงนี่อยู่ในรูปเราหลายรูปเลยแฮะ



และแล้วเดินไปเดินมาก็ไปเจอร้านน่าสนใจ อิอิ ของกินอีกเหมือนเดิม ร้านเห็ดย่าง เห็ดชิ้นบะเร่อเลย อ้อ มีเห็ดทอดด้วย ชิมทั้ง 2 อย่าง เห็ดทอดอร่อยกว่า ว่าแล้วอยากกินอีกจัง งั่ม ๆ



เดินดูต่อไปก็ไปเจอร้านขายน้ำส้ม (หรือว่าผลไม้อะไรสักอย่าง) กำลังหนาว ๆ ก็เลยได้น้ำส้มร้อน ๆ มา 1 แก้ว รสแปลก ๆ อร่อยรึเปล่าไม่แน่ใจ แต่กินแล้วชุ่มคอดี เค้าบอกว่าแก้หวัดได้ด้วย แก้วละ 50 NT





เดินไปจนเกือบสุดทางมีจุดชมวิว <-คิดเอาเอง เพราะเห็นว่ามีน้ำตกด้วย



ขาเดินกลับวนออกมาทางเดินเจอร้านขายมันเคลือบ น่ากิน น่ากิน ไม่แน่ใจว่าอร่อยรึเปล่า


คุณลุงคนขายเลยจิ้มมาให้กิน 1 ชิ้น .... เท่านั้นแหล่ะ เอาเลย 1 กล่อง อร่อยจัง !!!! กล่องละ 40-50 NT นี่แหล่ะ จำไม่ได้แล้ว นอกจากมันแล้วเค้ายังขายทุเรียนทอดด้วย คิดเหมือนเดิม จะอร่อยเหมือนทุเรียนทอดบ้านเรามั้ยนะ มันเป็นก้อน ๆ หน้าตาแปลก ๆ


สรุปว่าซื้อมา 2 อย่าง ทุเรียนที่เห็นคือทุเรียนทั้งพูเอาไปทอด ข้างในยังเป็นทุเรี๊ยน ทุเรียนอยู่เลย เราก็เลยเฉย แต่รสชาติมันเคลือบอร่อยจริง ๆ


ร้านผลไม้เคลือบหาได้ทั่วไปนะเนี่ย เดิน ๆ ไปก็เจอ เจอทุกที่ ๆ ไปมาเลยนะเนี่ย



ตอนเย็นแวะไปตลาดกลางคืนในแผนที่เมือง City Map ที่มีอยู่ มันเล็กมาก ๆ เลย เป็นร้านขายของกินประมาณ 20 ร้านติด ๆ กัน ไม่น่าสนใจเท่าไหร่ เลยกลับมากินข้าว แถว Ximending ใกล้ ๆ โรงแรม ดีกว่า


วันที่ 5 - Taoyuan International Airport

ตื่นแต่เช้าแพ็คกระเป๋าเตรียมออกเดินทาง เสียดายไม่ได้ชิมอาหารเช้าที่ Rainbow เลย เพราะกินอาหารเช้าทำนองเดียวกันที่ wonstar มาหลายวัน อิอิ



วันที่เราไป Jiufen ทางออกจาก MRT สถานี Zhongxiao Fuxing มีรถไปสนามบินด้วย ก็เลยว่าจะกลับทางนี้ดีกว่าไม่ต้องเดินไกล เพราะถ้าไปที่ Taipei Main Station ต้องไปหาว่ารถกลับสนามบินไปทางไหนอีก กลับทางนี้คงจะสะดวกกว่า อ้อ! ตอนออกจากสถานีอย่าลืมคืนบัตร Easy Card ได้ตั้งคืนมาอีก 100 กว่า NT โหย เที่ยวขึ้น ๆ ลง ๆ ตลอด 4 วันเนี่ย ใช้ไปแค่ 300 กว่า ๆ NT เท่านั้นเอง ปลื้มมาก



รถมีทุก ๆ 15-20 นาทีเหมือนออกจากสนามบินเลย ค่ารถคนละ 130 NT แอบถูกกว่าขามา 5 NT นะเนี่ย ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงก็มาถึงที่สนามบินแล้ว




ขอปิดท้ายด้วยสนามบินขาออก ละกันนะคะ บ๊าย บาย






 

Create Date : 14 มีนาคม 2551    
Last Update : 14 มีนาคม 2551 21:24:25 น.
Counter : 1777 Pageviews.  

Taipei, Taiwan - Part 3

วันที่สาม - Sun Yat Sen Memorial Hall + Jiang Kai Shek Memorial Hall + Maokong Cable Car + Danshui

เริ่มจากไป Sun Yat Sen Memorial Hall ก่อนเลย นั่ง MRT ไปลงสถานีเดียวกับชื่อนี่แหล่ะ เห็นวิวตึก 101 อยู่ด้านหลังด้วย มองจากตึก 101 ก็เห็น SYS Memorial Hall นี่เหมือนกัน ตึกมันแอบดูเก่า ๆ นิดนึงด้วยนะ




ทุก ๆ ชั่วโมงจะมีการเปลี่ยนเวรยามของทหารด้วย มาได้จังหวะอีกแล้ว




เค้าจะมีการเดินสวนสนาม(ล่ะมั้ง) ควงปืน ก็ดูแปลกดี ถ้าสังเกตุที่พื้นจะเป็นรอยขาว ๆ เพราะเค้าเอาด้ามปืนกระแทกพื้น วันละหลาย ๆ รอบ พื้นเป็นรอยเลย แต่เวลาทำทีเสียงดังก้องอาคารเลยล่ะ



รูปปั้นท่านซุนยัดเซ็นของจริงสวยมากเลยค่ะ รายละเอียดดี ดูยิ่งใหญ่ อลังการ



อีกด้านหนึ่งของเมมโมเรี่ยลฮอลล์ก็เห็นตึก 101 เหมือนกันค่ะ ที่สำคัญคือเดินไปอีกไม่กี่เก้าก็ถึงเทศกาลโคมไฟที่เดินมาดูกันเมื่อคืนก่อนนี่เอง ใกล้กันสุด ๆ แต่กลางคืนมันมืด มองไม่เห็นเลย



เสร็จจาก SYS Memorial Hall ก็ไปต่อกันที่ Jiang Kai Shek Memorial Hall ห่างไปอีกไม่กี่สถานีเอง ออกจากสถานีมาก็เจอเลย ตัวสถานี้รถอยู่ในรั้วของ Memorial Hall ด้วย




ผ่านประตูด้านหน้าเข้ามาด้านข้าง ๆ จะเป็นโรงละครใหญ่ ๆ แต่ปิดซ่อมอยู่



เดินเข้าไปด้านหน้าจะมีบันไดไว้ขึ้นไปดูรูปปั้นท่านเจียงไคเช็คด้านใน เราก็แอบหันหลังกลับมาถ่ายวิวซะหน่อย สวยทีเดียว แถมลมแรงด้วย แต่บรรยากาศดีมาก ๆ เราชอบที่นี่มากกว่ากู้กงซะอีก (ไม่อินกับของเก่า ๆ เท่าไหร่ ชอบวิวกับบรรยากาศดี ๆ มากกว่า)




ทางเข้าหลังจากเดินขึ้นบันไดมาครึ่งทาง



แล้วก็มีรูปปั้นของเจียงไคเช็ค ตั้งอยู่บนฐานสูงเหมือนกัน ก็เลยเป็นมุมเงย




ในตัวอาคารจะมีเหมือนนิทรรศการเอารูปอะไรมาทำเป็น Billboard ใหญ่ ๆ ด้วย ก็เดินดูกันแป็บนึง

เสร็จจากเจียงไคเช็คเมมโมเรี่ยลฮอลล์แล้วเพิ่งจะเที่ยงวัน ยังมีเวลาเหลือเฟือพอดีมีคนอยากไปขึ้นกระเช้าก็เลยตกลงนั่ง MRT ไปสุดสายเพื่อไป Maokong Cable Car ... แต่ด้วยความโชคดีอะไรก็ไม่รู้ นั่งไปสุดสายจะไปซื้อตั๋วขึ้นกระเช้าคนขายเค้าบอกว่าวันนี้วันจันทร์ กระเช้าปิดเพื่อทำการ maintenance .. แง่ม ๆ สรุปว่าอดขึ้น เราก็เลยแวะกินข้าวแถว ๆ นั้น ป้าย MRT ที่ลงเป็นป้ายเดียวกับสวนสัตว์ไทเปด้วย

พลาดไป 1 ก็เลยมีเวลาเหลืออีก...ไปไหนดี ไปไหนดี ก็เลยว่าไปเที่ยวท่าเรือดีกว่า นั่ง MRT เหมือนเดิมไปสุดสายสีแดงบนสุดสถานี Danshui ไปชม Fisherman's Wharf กัน ลงจาก MRT ต่อรถเมล์อีกเพื่อเข้าไปถึงท่าเรือ ฝนตกพรำ ๆ อีกแล้ว แอบคิดว่าวันนี้วันจันทร์ ท่าเรือมันจะปิดมั้ยเนี่ย
ทีกระเช้ายังปิดเลย ไปถึงท่าเรือ ไม่ค่อยมีคนเลย เพราะว่าฝนตก แถมร้านขายของก็ปิดไปครึ่งนึง เปิดอยู่ไม่กี่ร้าน ถึงแม้ฝนจะตกแต่วิวของสะพานก็สวยมากทีเดียว มีเปิดเพลงให้ฟังด้วย ถ้ามาตอนอากาศดี ๆ ได้ใจเราไปแน่ ๆ เห็นแล้วคิดถึง Yokohama ที่ญี่ปุ่น ชอบบรรยากาศเมืองติดทะเลจริง ๆ เลย


width='450' height='337' border=0>

หลังจากฝนตกกันมาหลายยกก็เข้าไปหลบฝนในร้านสะดวกซื้อ กินกาแฟแก้หนาวแล้วก็ขนมรองท้องนิดหน่อย ก็ประมาณหกโมงเย็น ฟ้าเริ่มมืดแล้ว เนื่องจากไม่มีอะไรทำเราก็อพยพออกจาก Danshui โดยรถเมล์ต่อรถไฟ MRT เหมือนเดิม..


ไม่ดึก...ไม่กลับ...ไม่เลิก เอาล่ะ ไปไหนต่อดีเนี่ย เราก็แอบแซว ๆ ว่าไปหาไรกินกันก่อนกลับโรงแรมดีกว่า ไปกินที่ไหนดี... ไปกินที่ซื่อหลินกันมั้ย ยังเดินไม่ทั่วเลย อิอิ แล้ว ก็สำเร็จเรากลับไปที่ตลาดกลางคืนซื้อหลินรอบที่สอง เพื่อไปกินแล้วก็.. ไปช็อป..


แล้วก็ไม่ผิดหวังกับวันนี้ ร้านเกี๊ยวนี่ล่อตาล่อใจมาตั้งแต่คราวก่อนแต่อิ่มซะก่อนแล้วก็รีบ ๆ กลัวไม่ได้เดินดูของ คราวนี้แหล่ะ ได้ลองซะที แต่ที่ร้านเค้าไม่ได้เรียกว่าเกี๊ยว เค้าเรียกอะไรก็ไม่รู้ เพราะเกี๊ยวภาษาจีนมันจะเรียกเจียวจึ (jiao zi) แต่นี่เรียกอีกอย่างนึง อะไรก็ช่าง อร่อยก็แล้วกัน ...


พิกัดร้านนี้อยู่หน้าตลาด food court ของซื่อหลินเลย แถวหน้าสุดหันหน้าเข้าตลาดอยู่ขวามือสุด ชามเล็ก 40 NT-ชิมเล่นสบาย ๆ มีเกี๊ยวอยู่ 4 ชิ้นได้ ชามใหญ่ 70 NT


ถ่ายไม่ทัน อิอิ



คราวนี้พอมีรูปร้านขายของกินที่อยู่ food court อยู่บ้างนิดหน่อย อย่างเช่นร้านขายน้ำผลไม้ปั่นหลายหลายมาก ๆ เห็นมีมะระปั่นด้วย ท่าทางจะดีต่อสุขภาพ แต่เราขอผ่าน!!



ถัดจากร้านน้ำผลไม้ปั่นติดกันเป็นร้านขายไก่ทอดที่คนเยอะมาก ๆ มาทีไรต่อแถวรอกันตลอด แต่ต่อแป๊บเดียวก็ได้กิน เพราะเคยไปต่อมาเหมือนกัน ไก่ชิ้นบะเริ่มทอดราดผงปรุงรส พริกป่น ก็อร่อยดี แต่กินไม่หมด เพราะชิ้นใหญ่จัง อยากเก็บท้องไว้กินอย่างอื่นมั่ง ชิ้นละ 50 NT



มาทางด้านหน้าตลาด มีร้านรถเข็นขายผลไม้เคลือบน้ำตาลหวาน ๆ ร้านนี้เราไม่ได้กิน เราได้ไปชิมสตอเบอรรี่เคลือบน้ำตาลที่ตลาดฮวาซี่มาแล้ว อร่อยพอได้ นอกจากสตอเบอรรี่ยังมีลูกแดง ๆ กลม ๆ เคลือบด้วย แต่ไม่รู้ว่าเป็นลูกอะไรซิน่า..



ติดกับร้านขายผลไม้เคลือบก็เป็นร้านขายข้าวโพดปิ้ง เป็นข้าวโพดสีขาว ๆ เอาไปปิ้งร้อน ๆ ทาซอสแล้วก็โรยงา ... มันจะต่างจากข้าวโพดปิ้งบ้านเรามั้ยน้า เอาน่าลองสักฝักนึงจะเป็นไรไป.... ฝักละ 50 NT ราคาแต่ละฝักไม่เท่ากันจ๊ะ ใหญ่ก็แพงหน่อยนะ เป็นข้าวโพดปิ้งที่แพงอยู่นะ รสชาติ... เค็ม ๆ หวาน ๆ ... อืม.. ชอบทาเนยแบบบ้านเรามากกว่าแฮะ

แถบ ๆ นั้นมีคนรอต่อคิวร้านแป้งทอดนี่เยอะ ขอไปดูซะหน่อย


แป้งทอดเลือกรสไส้ได้เยอะแยะ มีทั้งเผือก พริกไทย ประมาณ 10 กว่าใส้ได้ล่ะ ผงปรุงรสก็แล้วแต่เราจะเลือกรสอะไร ในกระป๋องนั่นก็คือรสต่าง ๆ ล่ะ


เค้าจะเอาแป้งกรอบ ๆ มาทุบ ๆ ใส่ใส้ แล้วก็กิน ... เราสั่งรถพริกไทยดำมา 1 ชิ้น กัดไป 2 คำ อืม..... มันก็แป้งกะพริกไทยดำอ่ะ ไม่อร่อย ...

หลังจากกินกันอิ่มหนำก็เข้าไปเดินตะลุยในตลาดเสื้อผ้ากันต่อ ไม่ได้ถ่ายรูปมาอีกแล้วเพราะรีบ 555 ขากลับรู้เวลารถไฟเลยออกจากตลาดตอนเที่ยงคืน ได้รูปใน รถไฟ MRT มาหนึ่งรูปถ้วน ปกติเราจะมองไม่เห็นด้านหน้าหรือว่าโบกี้หน้า ๆ ของรถไฟมากนักเพราะมันจะเลี้ยวหรือว่าคนเยอะมองไม่เห็น อันนี้มองตรง ๆ ไปได้ไกลมาก แปลกดี



กลับถึงสถานีโรงแรม Ximen Station เดินอีก 5 นาทีถึงโรงแรม สลบเหมือดเหมือนเดิม ... เราจองโรงแรม Wonstar ไว้ 3 คืน แต่ว่าตั้งใจจะอยู่ต่ออีก 1 คืนเลยต้องหาโรงแรมใหม่ ในบริเวณ Ximending ก็มีโรงแรม Rainbow อีก 1 ที่ เดินจากโรงแรมเราไปแค่ 3 นาที พอดีมีห้องว่าง เดี๋ยวพรุ่งนี้เราต้องย้ายโรงแรมกันนิดนึง

ก่อนจะย้ายโรงแรม ขอรีวิว โรงแรมนิดนึงละกัน Wonstar ค่อนข้างใหม่ ตัวห้องเหมือนกับรูปที่โชว์ในเวปพอสมควร พนักงาน front อายุค่อนข้างน้อย แล้วก็บอกทางขึ้นรถเมล์ไปกู้กงเราผิด - ให้เราไปขึ้นผิดฝั่ง ดีนะถามคนขับก่อน ไม่งั้นไปไหนไม่รู้)

สถานที่ : 9/10 ใกล้ Ximen Station สะอาด ใหม่
บริการ : 7/10 บอกทางเราผิดอ่ะ แล้ว 2 คนบอกไม่เหมือนกันด้วยบางที งง
ราคา : 8/10 ไม่แพง ไม่ถูกมาก แต่ดีมีอาหารเช้าให้ด้วย
โดยรวม : 8.5 /10




 

Create Date : 14 มีนาคม 2551    
Last Update : 31 มีนาคม 2551 17:22:00 น.
Counter : 3182 Pageviews.  

Taipei, Taiwan - Part 2

วันที่สอง - National Museum +Longshan Temple + Huasi Night Market

วันนี้ตื่นสายหน่อยประมาณ 9 โมง จริง ๆ ตื่นประมาณนี้ทุกวัน เพราะอยากเที่ยวสบาย ๆ ไม่อดนอนมาก เที่ยวที่ไร โทรมทู๊กที เพราะว่านอนน้อย เน้นเที่ยว เอาคุ้มอย่างเดียว

แผนวันนี้คือ National Museum หรือที่เค้าเรียกกันว่ากู้กง (พิพิฑภัณฑ์แห่งชาติ-เศร้ามากสะกดไม่ถูก )

ถามทางโรงแรมเค้าแนะนำให้นั่งรถเมล์ไปถึงเลย ไม่ต้องต่อ ถ้านั่ง MRT ต้องต่อ Taxi อีก

ป้ายรถเมล์ตรงข้ามโรงแรม ถ้าจำไม่ผิดเรานั่งสาย 340 นะ


รถติด ฝนตก.... จริง ๆ ก็ดูพยากรณ์อากาศมาแล้วบอกว่าฝนจะตกเกือบทุกวันที่เรามาเที่ยว แต่จะให้ทำยังไงล่ะ หยุดช่วงนี้พอดี ก็ต้องมาแหละ ประมาณชั่วโมงถึงชั่งโมงกว่า ๆ ก็มาถึงเป็นป้ายสุดสายของรถเมล์เลย ค่ารถเมล์นี่ประมาณคนละ 30-35 NT ก็ถูกดี

รูปจากด้านหน้า


อีกมุมนึง


มีนิทรรศการอะไรสักอย่างด้วย


รูปจากด้านในไม่ได้ถ่ายไว้เลย เพราะเค้าห้าม แต่ก็มีถ้วย ชาม ภาพวาด รูปปั้น ตัวอักษรจีน ฯลฯ ระหว่างที่เดินอยู่ด้านใน ด้านนอกฝนก็ตกเอา ๆ ๆ สรุปว่าโชคดีมั้ยน้า.... เราเฉย ๆ กับ museum อยู่แล้ว แล้วแต่คนชอบเนอะ

ออกจาก museum ก็นั่งรถเมล์มาต่อรถไฟฟ้าเพื่อมาเที่ยววัดหลงซาน Longshan Temple

เป็นวัดค่อนข้างจะมีชื่อเสียง ไปถึงเค้ามีสวดอะไรก็ไม่รู้ มีคนมายืนถือหนังสือสวดกันเต็มไปหมด ฝนตกด้วย เลยไม่ค่อยได้ถ่ายรูปมา


แล้วด้านนอกวัดจะมีโคมไฟอันใหญ่ ๆ คนก็ไปต่อคิวเข้าไปอยู่ในโคม เหมือนขอพร เราก็ไปต่อกะเค้าด้วย


ออกจากวัดมาอีกหน่อยมีตลาดกลางคืนอีกที่เรียกว่า Huasi Night Market มีนักท่องเที่ยวมากันเยอะ เพราะมีขายงู เอางูมาปรุงอาหารให้กิน


บรรยากาศด้านใน คนเดินกันพอสมควร แต่ของจะไม่ใช่ของวัยรุ่นเหมือนตลาดซื่อหลิน จะมีร้านนวด ร้านขายหนังสือ ร้านเซ็กส์ช็อป ร้านขายงู ของแปลก ๆ หน่อย


เราไม่ได้ของจากตลาดนี้เลยแต่แอบได้ชิมอะไรนิด ๆ หน่อย ๆ ตามข้างทาง มีกุนเชียงย่าง สตอเบอรรี่เคลือบน้ำตาล อร่อยดี

หลังจากเดินผู้ร่วมทางก็หิว จึงตัดสินใจแวะกินข้าวต้มข้างทางก่อนนั่ง MRT กลับโรงแรม เนื่องจากเราอิ่มเพราะของกินข้างทางเลยไม่ได้กินด้วย

ถึงโรงแรม สลบเหมือดเหมือนเดิม.. เหนื่อยจัง




 

Create Date : 14 มีนาคม 2551    
Last Update : 14 มีนาคม 2551 1:01:12 น.
Counter : 745 Pageviews.  

Taipei, Taiwan - Part 1

Taiwan - Touch Your Heart - February 2008

ทริปไต้หวัน ในที่สุดก็ได้ไป

ดีใจจริง ๆ ทั้ง ๆ ที่ไต้หวันเป็นประเทศที่ไม่ค่อยมีที่เที่ยว ทัวร์ก็มีน้อย แต่สิ่งที่ทำให้เราอยากไปไต้หวันมากที่สุดก็คือของกิน!!!

ได้ไปแวะไต้หวันประปรายมาหลายรอบ แต่ว่าไม่ได้เห็นเมืองจริง ๆ เค้าสักที ก็เลยว่าต้องมาจริง ๆ จัง ๆ ให้ได้

เตรียมตัวก่อนเดินทาง

ก่อนอื่นก็ต้องไปทำวีซ่าก่อนนิ ทำวันเดียวได้เรย เร็วดี ทำวันนี้ พรุ่งนี้ไปรับ single entry 1800 บาท/คน ถ้วน

แต่ข้อมูลในเวปที่ไป search มาไม่ค่อยตรงง่ะ เวลาทำการเอย ค่าวีซ่าเอย ผิดหมดเลยยย

ทางที่ดีควรจะโทรไปถามรายละเอียดเองดีกว่า แต่พี่ที่เคาน์เตอร์เค้าก็ใจดี ให้เรายื่นถึงแม้จะไปสายไป 20 นาที เพราะข้อมูลที่มันไม่ตรงนี่แหล่ะ

อันนี้เป็นรายละเอียดนะคะ อาจจะมีเปลี่ยนแล้วนะ (credit : //www.hflight.net/forum/m-1180270090/)


ตั้งอยู่ที่ ชั้น 20 เอ็มไพร์ทาวเวอร์ 195 ถ.สาทรใต้ กทม. 10120
โทรศัพท์ 0-2670-0228, 0-2670-0200-9
โทรสาร 0-2670-0229
เวลาทำการ จันทร์-ศุกร์ 09.00-16.00 น.
แผนกวีซ่า เปิดทำการ จันทร์- ศุกร์ 9.00-11.00 น.

หลักฐานที่ใช้สำหรับการขอวีซ่า
1. พาสปอร์ตที่มีอายุการใช้งานเหลืออยู่ อย่างน้อย 60 วัน นับจากวันที่เดินทางกลับจากไต้หวัน
2.รูปถ่าย 2 นิ้ว 2 รูป (พื้นหลังสีอะไรก็ได้ .. รูปถ่ายผมพื้นหลังสีทึบเค้ายังให้ผ่านเลยครับ)
3.หลักฐานทางการเงิน สมุดเงินฝาก(สำเนา+ตัวจริง) หรือเอกสารรับรองทางการเงินจากธนาคาร
4.หลักฐานทางการทำงาน สลิปเงินเดือน และหนังสือรับรองการทำงาน
5.บัตรประชาชน ทะเบียนบ้าน ตัวจริงและสำเนา (สำหรับตัวจริงเค้าจะคืนให้หลังจากตรวจสอบสำเนาแล้ว)
6.ค่าธรรมเนียม
- Single 1,800 บาท (ที่ผมไปขอได้มา 14 วันครับ อายุวีซ่า 3 เดือน-ต้องเข้าไต้หวันภายใน 90 วันหลังจากได้วีซ่าแล้ว)
- Multiple 3,000 บาท
- ถ้ายื่นแบบ Group Visitor Visa 750 บาท
- มีแบบ Resident ด้วย Single 2,800 บาท และ Multiple 3,800 บาท (ไม่ทราบรายละเอียดครับ)
7.Application Form ไปรับที่สำนักงานได้เลยครับ ที่สำนักงานมีตัวอย่างการกรอก/รายละเอียดติดไว้ที่บอร์ดข้างหน้าครับ หรือไปโหลดที่
//www.boca.gov.tw/lp.asp?ctNode=92&CtUnit=58&BaseDSD=7&mp=2

หมายเหตุ สำหรับช่องที่ให้กรอกที่อยู่ในไต้หวันให้กรอกไปก่อนได้เลยนะครับ ไม่ต้องจองโรงแรมก่อน

ล่าสุดรู้สึกว่าราคาวีซ่าประเภท SINGLE จะขึ้นเป็น 1,800 บาทแล้ว ครับ

----------------------------------------------------------------------------------

หลังจากได้วีซ่าเรียบร้อย ตั้งแต่เดือนธันวา กว่าจะได้ฤกษ์ไปก็นู่นกุมภาเข้าไปแล้ว

เราไม่ได้เตรียมตัวอะไรมาก เพราะกะจะเที่ยวในเมืองที่เที่ยวง่าย ๆ รถไฟฟ้า MRT ไปถึง ก็พอแล้ว เพราะเราเน้น กินมากกว่า

วันเดินทาง - ซีเหมินติง + ไทเป 101 + ซื่อหลิน

เครื่องออกตอนเช้าตรู่ด้วย eva air เครื่องออก 6.50 น. แอร์น่ารัก ๆ กันทั้งนั้นเลย อยากถ่ายรูปเค้ามาแต่ไม่กล้าอ่ะ มีแอร์คนไทย 3 คนแหน่ะ เสริฟฝั่งเราด้วยสบายไป อิอิ อ้อ ทริปนี้เราไปกันทั้งหมด 3 คน

เครื่องขึ้นไปอึดใจเดียวก็เสริฟอาหาร เก็บภาพมาฝาก ของเราเป็นข้าวต้มไก่ค่ะ



เปิดออกมาหน้าตาเป็นเยี่ยงนี้ค่ะ



อีกเมนูนึงเป็นออมเล็ตกับไส้กรอกค่ะ (แอบโดนจกไปแล้ว) อันนี้ของคนข้าง ๆ



ถึงแล้ว!!!! ถ่ายรูปสนามบิน Taipei Taoyuan Airport ทำไมดูจากภายนอกมันดูเก่าจริง ๆ



รูปถ่ายจากบนรถบัสเข้าเมืองไทเป คนละ 135 NT ต่อ 1 เที่ยวนั่งไปลงที่ Taipei Main Station (Taipei che zhan) ถ้านั่ง Taxi เข้าไปจะประมาณ 1000-1300 NT ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเป็นทริปแบบประหยัด อิอิ

รถบัสจอดอยู่ทางออก custom หยิบกระเป๋าออกประตูมาเลี้ยวขวา ตรงไปเรื่อย ๆ ก็เจอ รถมาบ่อยทุก ๆ 15-20 นาที มีตั้งแต่เช้าประมาณ หกโมงเช้า ถึงเที่ยงคืน ใช้เวลาเดินทางประมาณ 50 นาทีก็ถึงสถานีรถไทเปเป็นสถานีหลักสำหรับต่อรถไฟไปเที่ยวต่างเมืองหรือว่ารถไฟฟ้า MRT ด้วย
(อาจจะดูเหมือนอธิบายไปนิดนะคะ แต่ว่าบางทีเราก็แวะไปอ่าน blog ชาวบ้านข้อมูลมันน้อยอ่ะ อันนี้สำหรับคนที่สนใจจะไปเที่ยวจะได้มีข้อมูลเยอะ ๆ หน่อย)

อันนี้เป็นแผนที่บนรถบัส จะแวะจอดประมาณ 2-3 ป้ายก่อนถึงป้ายสถานีรถใหญ่



จาก Taipei Main Station ไปถึงโรงแรมที่จองไว้แถว ๆ Ximending หรือว่าคล้าย ๆ สยามบ้านเรา ใช้เวลาประมาณไม่เกิน 10 นาทีโดยรถแท๊กซี่

โรงแรมที่เราเลือกคือ Wonstar Hotel ตกคืนละ 1980 NT-2280 NT ต่อคืน เราพัก 3 คน มีค่าหัว + เตียงปูพื้นเสริมเพิ่มอีกคืนละ 800 NT อ้อมีอาหารเช้าให้ฟรีด้วย มีขนมปัง คอร์นเฟลก ข้าวต้ม หมูหยอง ชา-กาแฟ นิด ๆ หน่อย ๆ ทำให้ประหยัดได้อีก 1 มื้อ (แต่จริง ๆ อยากกินข้างนอกมากกว่า) เอาไว้รองท้องตอนเช้าก่อนออกเดินทาง

เราติดต่อโรงแรมโดยตรง ไม่ได้ผ่านเวปหาโรงแรมทั่ว ๆ ไป รูปโรงแรม(จากเวป) เพราะรูปที่เราถ่ายมา มุมไม่ดี ไม่เห็นป้ายโรงแรมเลย



อันนี้เป็นทางเข้าโรงแรม



ลักษณะห้องในโรงแรม ห้องเราก็ประมาณนี้ล่ะ



พอไปถึงโรงแรมประมาณ บ่ายกว่า ๆ ยัง check-in ไม่ได้ แต่ในเวปเห็นบอกว่าเช็คอินได้เร็วสุดเที่ยงนิ ทำไมล่ะ ช่างเหอะ ไม่เป็นไร ไปหาของกินก่อนก็ได้ ก็ไปเดินเล่น แถว ๆ Ximending กินข้าวกลางวันเสร็จ เดินเล่นอีกนิดหน่อย ก็ได้เช็คอินพอดี

วันแรกยังไม่ค่อยมีแผนเท่าไหร่เลยตัดสินใจไป ตึก 101 ตึกที่สูงที่สุดในโลกกันก่อน นั่ง Taxi ไปกัน ประมาณ 25 นาทีก็ถึง (รถติดนิดหน่อย)

ทางเข้าตึก


โฉมหน้าตึกมุมเงยจากทางเข้า


ด้านในของตึกจะเป็นห้างสรรพสินค้า แบรนด์ต่าง ๆ มาดูบรรยากาศภายในตึกกันเลย



เราไปถึง Taipei 101 ประมาณ 4-5 โมง ค่าขึ้นตึกคนละ 400 NT จะมี Audio ให้กดฟังไปเรื่อย ๆ ด้วย ฟรีค่ะ เราก็เอามาฟังเล่น ๆ เครื่องจะบอกว่าตึกไหนอยู่ตรงไหน อธิบายไปเรื่อย ๆ

รูปถ่ายจากบนตึก



อีกรูปค่ะ อันนี้เป็นถนนที่ตัดเข้าไปในภูเขาเป็นอุโมงค์ สวยดีนะ



เดินเล่นไปมาอยู่บนตึก สักพักก็ใกล้มืด.. ก็เลยตัดสินใจอยู่ต่อเพื่อชมวิวตอนกลางคืน (แหมมาได้จังหวะดีจริงเลย )

พลบค่ำแล้ว...



หลังจากนั้นเดินขึ้นบันไดไปดู Outdoor Observation ด้านนอก ลมแรงมาก ๆ เลย
รูปนี้ถ่ายจากส่วนด้านนอกตึก



มีตัวอย่างจำลองของลิฟท์ที่เร็วที่สุดในโลกด้วย เก็บรูปมาซะหน่อย


ลูกตุ้มสำหรับถ่วงเวลามีลมพัดตึก สร้างสมดุลให้ตึกมันตั้งอยู่ได้


พอเดินจนได้ที่แล้วไปดูด้านนอกมาก็ได้เวลาชมวิวกลางคืนกันแล้ว....สวยไปอีกแบบนะ




ขาลงตึกก็แอบเก็บภาพในลิฟท์มาฝากด้วย จะมีรายละเอียดว่าเราอยู่ชั้นไหน ความสูงเท่าไหร่แล้ว



ออกจากตัวตึกมาด้านนอก ได้มาอีก 1 รูป ตัวหนังสือจีนแดง ๆ บนตึกแปลว่าฤดูใบไม้ผลิค่ะ (อ่านว่าอะไรจำไม่ได้แล้ว ความรู้ภาษาจีนอันน้อยนิดของเรา)



เดินออกมานอกตึกว่าจะไปไหนต่อดีก็มีป้ายเชิญชวนชี้ไปให้ไปเทศกาลโคมไฟ ก็เลยเดินไปดูซะหน่อย



ปีนี้เป็นปีนักษัตรหนูเลยมีโคมไฟหนูเต็มไปหมดเลย



ประเพณีแต่งงาน มีแบกเกี้ยวด้วย




อันนี้เป็นเด็กขี่จักรยาน


อีกด้านหนึ่งของเทศกาลโคมไฟก็จะมีคอนเสริต์ และตึกหลัง concert ก็คือ City Hall มีเวลาบอกแล้วก็อุณหภูมิด้วย หนาวกำลังดี 14 องศาค่า



ค่ำ ๆ กำลังดีได้เวลาไปหาอะไรกินดีกว่า.... เราตัดสินใจนั่ง MRT ไปที่ สถานี Jiantan ที่มีตลาด night market ที่ใหญ่และนิยมที่สุดของไทเปเลย ตลาดนี้เรียกว่า Shihlin Night market (Shihlin Ye Shi)

เราซื้อ Easy Card เป็นบัตรแบบเติมเงิน ราคา 500 NT มัดจำ 100 NT เที่ยวไปเรื่อย ๆ คุ้มมาก ๆ ๆ ๆ ๆ แนะนำให้ทุกคนใช้บัตรนี้ เพราะว่าเที่ยว 4 วันยังไม่หมดเลย ค่ารถไฟฟ้าเค้าถูกดีจัง จาก City Hall มา Shihlin ก็แป็บเดียวไม่เกิน 15 นาทีก็ถึง


รูปนี้ถ่ายจากสถานี MRT



หลังจากเดินเลือกร้านอยู่พักนึงก็แวะลงนั่งเป็นร้าน open counter สั่งชุดซีฟู้ดมากิน เพราะพนักงานเค้าแนะนำ ที่ดูน่ากินมาก ๆ เพราะเค้าผัดให้เราเห็นตรงหน้าเลย ร้อน ๆ สั่งเสร็จเค้าจะมาปูฟอลย์ให้เราตรงหน้า (คงจะไม่ให้อาหารไหม้ละมั้ง เดาเอา)



แต๊น!!! พร้อมรับประทานแล้วจ้า



เราว่าปลาอร่อยสุด ทุกอย่างเค้าใส่เนยหมดเลย แอบเลี่ยนนิดนึง มื้อนี้ให้ 6.5 เต็ม 10 สั่งน้ำชามา 1 ขวด ใส่น้ำตาลมาด้วย แง ๆ ไม่ชอบชาใส่น้ำตาลอ่ะ

หลังจากท้องอิ่มก็เดินตลาด แต่ไม่มีรูปมาด้วยเพราะว่าถ่ายไม่ทัน มัวแต่ดูของเพราะเยอะมาก ๆ ได้ติดไม้ติดมือมาด้วย ชุดเดรส รองเท้าบู้ต น่ารัก ๆ ทั้งน้าน

หลังจากช้อปเสร็จเกือบ ๆ ตีหนึ่งก็ได้เวลานั่งรถไฟฟ้ากลับโรงแรม รถไฟฟ้ามีถึงตี 1 ดีนะ เกือบไปแล้ว กว่าจะขึ้นรถก็เที่ยงคืนสี่สิบห้าแล้ว

กลับถึงโรงแรมสลบเหมือด..ด...ด....ด




 

Create Date : 13 มีนาคม 2551    
Last Update : 14 มีนาคม 2551 0:37:53 น.
Counter : 1650 Pageviews.  

1  2  

KaNa-IRC
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




นอน.. กิน.. เที่ยว... รักสวยแต่ขี้เกียจ
Friends' blogs
[Add KaNa-IRC's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.