บ้านครอบครัวมีสุุข
ชาวนากับเศรษฐีไม้เท้าทองคำ
ชาวนากับเศรษฐีไม้เท้าทองคำ บทที่ 10 ...ฝันที่เป็นจริง...
ชาวนากับเศรษฐีไม้เท้าทองคำ บทที่ 9 ...เป็นเศรษฐีในชั่วข้ามคืน...
ชาวนากับเศรษฐีไม้เท้าทองคำ บทที่ 8 ...ศักยภาพที่ซ่อนเร้น...
ชาวนากับเศรษฐีไม้เท้าทองคำ บทที่ 7 ...วิกฤติ และ โอกาส...
ชาวนากับเศรษฐีไม้เท้าทองคำ บทที่ 6 ...ทีมที่ปรึกษาและบริหารธุรกิจ...
ชาวนากับเศรษฐีไม้เท้าทองคำ บทที่ 5 "เอารองเท้าไปขาย... แต่อย่าขายรองเท้าให้เขา"
ชาวนากับเศรษฐีไม้เท้าทองคำบทที่ 4 หยุดทำงาน... แต่ยังคงมีรายได้อยู่
ชาวนากับเศรษฐีไม้เท้าทองคำ บทที่ 3 เคล็ดลับมหาเศรษฐี
ชาวนากับเศรษฐีไม้เท้าทองคำ บทที่ 2 ...ทำไม...
ชาวนากับเศรษฐีไม้เท้าทองคำ
ชาวนากับเศรษฐีไม้เท้าทองคำ บทที่ 2 ...ทำไม...
ชาวนากับเศรษฐีไม้เท้าทองคำ
บทความดีดีจาก
//www.facebook.com/farmer.Millionaire
บทที่ 2 ...ทำไม...
หนุ่มน้อยชาวนาถือหนูตัวนั้นเดิ
นไปตามทางเพื่อจะกลับบ้าน...แต่
ในสมองก็ ครุ่นคิดอย่างหนัก...จะทำอย่างไ
รดีกับหนูตัวนี้นะ...เกิดมาก็ไม
่เคยทำการค้า กับเขาสักทีวันวันมีแต่ ทำไร่ไถนา เลี้ยงวัวเลี้ยงควายหรือไม่ก็ออ
กไปหาปูหาปลาเอามากินกัน...แล้ว
นี่ จะต้องสร้างตัวให้รวยที่สุด จากหนูตายหนึ่งตัวยิ่งคิดก็ยิ่ง
มองไม่เห็นหนทาง...แต่ก็ยังให้ค
วามสนใจใน โอกาสที่เข้ามาในช
ีวิตจะปล่อยให้มันผ่านไป หรือจะไขว่คว้าไว้ดี...
"หรือเราจะเข้าไปในตัวเมืองดีนะ
"ชายหนุ่มคิดในใจ ซึ่งเป็นหนทางเดียวที่อาจจะช่วย
ให้พบเจอหนทางที่จะก้าวเดินต่อไ
ปยังเป้าหมายได้
"หากกลับบ้านก่อนแล้วเข้าเมืองใ
นวันรุ่งขึ้น หนูนี้อาจจะเน่าก็เป็นได้เอาวะ เพื่อองค์หญิงที่เป็นดั่งดวงใจ วันนี้เราจะไม่กลับบ้านแต่จะตรง
เข้าเมืองพร้อมกับทุนที่พระราชา
ให้มานี้เป็น ไงเป็นกันสิน่า... แล้วค่อยกลับบ้านทีหลังก็ยังได้
..."ว่าแล้วหนุ่มน้อยชาวนาก็เปล
ี่ยนเส้นทาง เดิน เพื่อตรงเข้าสู่ตัวเมือง.....
ระหว่างทาง เขาได้เจอชายชราคนหนึ่งกำลังหาบ
ฟืนงกๆ เงิ่นๆ ...
"คุณตา คุณตา..." หนุ่มชาวนาเรียก"ตาจะหาบฟืนไปไห
นเหรอครับ..."
"ข้าจะเอาฟืนเข้าไปขายในเมือง..
. แล้วเอ็งล่ะ จะไปไหนเร๊อะ"ชายชราเป็นฝ่ายถาม
บ้าง
"ฉันก็จะเข้าไปในเมืองเหมือนกัน
จ้าตา" ชายหนุ่มตอบ"เจ้าจะไปธุระอะไรหร
ือ..." ชายชราถาม
"ฉันจะไปสร้างตัวให้ร่ำรวยกว่าป
ระชาชนคนไหนๆ ในเมืองจ้าตา..."
ชายชราหยุดเดิน แล้วหันมามองดูชายหนุ่มด้วยสีหน
้าประหลาดใจ...
"ไปสร้างความร่ำรวยด้วยตัวเปล่า
ๆ นี่น่ะเหรอวะ..." ชายชราอดที่จะถามไม่ได้...
"เปล่าจ้าตา ฉันมีหนูมาด้วยหนึ่งตัวจ้า..." ชายหนุ่มตอบด้วยใบหน้าใสซื่อ...
"แล้วไอ้หนูนี่ เป็นหนูวิเศษที่จะช่วยให้เจ้าร่
ำรวยยังงั้นรึ..." ชายชราถามอีก
"ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน..." ว่าแล้วชายหนุ่มก็เล่าเรื่องทั้
งหมดให้ชายชราฟัง...
หลังจากฟังจบ ชายชราก็นิ่งเงียบ พูดอะไรไม่ออก...ชายหนุ่มเพิ่งน
ึกขึ้นได้ว่า ควรจะช่วยตาหาบฟืนดีกว่าตาจะได้
เดินสบายๆ เข้าเมือง
"มานี่ตา... ฉันหาบฟืนให้ตาเอง ไหนๆ เราก็จะไปทางเดียวกันแล้ว"พูดจบ
ชายหนุ่มก็รีบเอื้อมมือไปยกเอาห
าบฟืนจากบ่าชายชรา
"ขอบใจเอ็งมากเลยว่ะ... วันนี้ข้าโชคดีแท้ๆ เลยที่เจอเอ็งแต่ข้าก็ไม่รู้จะช
่วยเอ็งยังไงจริงๆ...ข้าขนฟืนจา
กป่าเข้าไป ขายในเมืองมาก็ตั้งหลายปี
ข้าก็ยังไม่เห็นจะรวยเลย นี่เอ็งมีหนูตายแค่ตัวเดียวแล้ว
เอ็งจะรวยได้ยังไงวะ..."
"ไม่เป็นไรจ้าตา... ฉันจะลองดูให้ถึงที่สุดก็แล้วกั
น"
ชายหนุ่มกับชายชรา คุยกันไปตลอดทางอย่างถูกคอจนมาถ
ึงประตูเมือง... ก่อนจะเข้าประตูเมืองชายชราได้เ
อ่ยกับชายหนุ่มว่า...
"มีสิ่งหนึ่งที่ข้าพอจะช่วยเจ้า
ได้ ก็คือ คำแนะนำ...การที่เจ้าจะยิ่งใหญ่
จากดินขึ้นไปเป็นดาวนี่เจ้าจงอ่
อนน้อมถ่อมตน ให้มากๆ...ความอ่อนน้อมถ่อมตน จะเป็นบันใดขึ้นสู่ที่สูงให้แก่
เจ้าส่วนไอ้หนูตายตัวนั้น ข้าก็จนปัญญาจริงๆ ว่าจะให้เจ้าเอาไปขายให้ใคร..."
ขาย!!... ชายหนุ่มเกิดความคิดที่ดีขึ้นมา
ทันทีทีแรกก็ไม่รู้จะเอาไปทำอะไ
ร... พอชายชราพูดถึงเรื่องขาย...ทำให
้เขารู้แล้วว่า.... จะต้องเอาหนูตัวนี้ไปเร่ขาย...
หลังจากหาบฟืนไปส่งชายชราที่ตลา
ดสดแล้วชายหนุ่มก็กล่าวอำลาชายช
ราคนนั้น เพื่อเดินเร่ขายหนูตัวนั้นต่อไป
ไม่ว่าจะเจอใคร เขาก็จะร้องถามขายหนู พร้อมกับยกหนูให้ดูไปด้วย...ถ้า
กลุ่มที่เจอเป็นหญิง ก็จะมีเสียงกรี๊ดกร๊าด ดังจนแสบแก้วหูเลยทเดียว...
เดินถามมาจนเหนื่อย ก็ไม่เห็นมีใครมีทีท่าว่าจะซื้อ
เลยสักคนแล้วนี่มันจะขายได้ไหมเ
นี่ย.....
หลังจากเดินจนรอบตลาดแล้ว ก็ยังหาคนซื้อไม่ได้เขาจึงตัดสิ
นใจเดินออกจากตลาด เพื่อไปเดินขายตามบ้านผู้คน...
ตั้งแต่เกิดมาจากท้องพ่อท้องแม่
เขาก็เพิ่งจะเคยเข้าเมืองครั้งน
ี้เป็นครั้งแรก..ความอลังการ ความตื่นตาตื่นใจ สีสรรของเสื้อผ้าความากมายของผู
้คน สร้างความตื่นเต้นเร้าใจให้กับเ
ขาทำให้เขาไม่รู้สึกเหน็ดเหนื่อ
ย...
ยิ่งเห็นสิ่งของแปลกๆ ก็ยิ่งทำให้เขาอัศจรรย์ใจยิ่งนั
ก
อย่างก้อนเหล็กยาวๆ รีๆ ประมาณมือจับได้พอดีที่เขาเห็นใ
ครๆ เอาไว้แนบหู แล้วก็พูดคุยคนเดียวอย่างกับคนบ
้า บางคนก็เดินพูด บางคนก็นั่งพูดซึ่งเขาก็ไม่รู้ว
่าพวกนั้นทำอะไรกันจนมีคนบอกเขา
ว่า นั่นน่ะ เขาเรียกว่าโทรศัพท์มือถือและอะ
ไรต่อมิอะไรอีกมากมาย ที่เขาเคยเห็นเป็นครั้งแรก
คนบ้านนอกอย่างเขา อย่าว่าแต่โทรศัพท์มือถือเลยโค้
กกระป๋อง เขาก็ยังไม่เคยเห็นเลยถ้าไม่มีไ
อ้หนูตัวนี้ ชาตินี้เขาคงไม่มีโอกาสมาเห็นอะ
ไรๆ แบบนี้อย่างแน่นอน...
ในขณะที่เดินเพลิดเพลินชมกรุง ดูเทคโนโลยีสมัยใหม่เพลินๆเขาก็
ได้ยินเสียงใครคนหนึ่งเรียก...
"ไอ้หนุ่ม... ไอ้หนุ่ม..."
เขาหันไปมองตามทิศทางของต้นเสีย
งก็เจอชายวัยกลางคน พุงพลุ้ย ยืนอยู่หน้าบ้าน"เอ็งหิ้วหนูจะเ
อาไปทิ้งถังขยะเหรอวะนั่น..." ชายวัยกลางคนถามขึ้น"เปล่าจ้า..
. ฉันกำลังเดินเร่ขายหนูตัวนี้อยู
่จ้าลุง..." ชายหนุ่มตอบ"บ่ะ... เอ็งนี่ ท่าจะบ้าว่ะ... ข้าเคยเห็นแต่ใครๆเขาเอาหนูตายไ
ปทิ้งขยะแต่เอ็งกลับเอามาขาย แล้วใครเขาจะซื้อวะ..."
"ไม่รู้เหมือนกันลุง... อาจจะมีสักคนที่เขาอยากจะซื้อก็
ได้จ้า" ชายหนุ่มตอบด้วยความซื่อ
"เอางี้ก็แล้วกัน... ข้าซื้อไปให้แมวข้ากินก็ได้แต่ข
้าให้แค่บาทเดียวนะ เกินกว่านั้น ข้าไม่ซื้อหรอกว่ะ..."ชายหนุ่มด
ีใจจนออกนอกหน้า...
"บาทเดียวก็บาทเดียวจ้าลุง..." ว่าพลางก็ยื่นหนูส่งให้ชายวัยกล
างคนทันที
หลังจากรับเงินเหรียญบาทมาหนึ่ง
เหรียญเขาก็ดีใจเป็นที่สุด...ดี
ใจที่สามารถ ขายหนูได้จริงๆ...แบบนี้สิ เขาเรียกว่าความพยายามอยู่ที่ไห
น ความสำเร็จอยู่ที่นั่น...
"จากหนูตายหนึ่งตัว กลายมาเป็นเงินหนึ่งบาทแล้วเราจ
ะทำยังไงต่อล่ะทีนี้ ถึงจะทำให้เรารวยได้" ชายหนุ่มยืนพินิจพิจารณาเหรียญบ
าทที่อยู่ในมือในขณะที่สมองก็คร
ุ่นคิดไป ด้วย"เถ้าแก่ เก้าแก่..."เสียงชายคนหนึ่งดังข
ึ้นข้างๆเขา
"วันนี้จะซื้ออะไรบ้างล่ะครับ..
."ชายคนที่ซื้อหนูเขาไปนั่นเองค
ือเถ้าแก่
เขาทักทายปราศัยชายคนที่เรียกนั
้นเป็นอย่างดีไอ้หนุ่มชาวนายืนด
ูเหตุการณ์ ต่างๆ ที่เกิดขึ้นอยู่เบื้องหน้าจนชาย
คนนั้นจากไป ความสงสัยทำให้เขาถามเถ้าแก่ออก
ไปว่า"ลุง เอ้ย เถ้าแก่ครับ... ผู้ชายคนนั้น เขาซื้อของไปทำไมตั้งเยอะแยะครั
บ..."
"เขาซื้อเอาไปขายน่ะสิ... ร้านอั๊วเป็นร้านขายส่ง คนขายของส่วนใหญ่ก็จะมาซื้อของท
ี่นี่แหล่ะ"ถึงแม้เขาจะไม่เคยเป
็นพ่อค้าแต่ ฟังเท่านั้นเขาก็พอจะเดาออกแล้ว
ว่าคนมาซื้อของที่นี่ แล้วก็เอาไปขายต่ออีกที"แล้ว...
หนึ่งบาทของผมนี่ จะซื้ออะไรเถ้าแก่ได้บ้างครับ"เ
ขาถามขึ้น
เถ้าแก่มองหน้าเขาพร้อมกับยิ้มท
ี่มุมปาก แล้วตอบไปว่า"ไม่รู้จะซื้ออะไรไ
ด้บ้างนะ หนึ่งบาทเนี่ย...เอาอันนี้ไปก็แ
ล้วกัน..."
พูดจบเถ้าแก่ก็หยิบน้ำตาลปึกที่
อยู่ข้างๆ ส่งมาให้หนุ่มน้อยชาวนา 2 ก้อน...
เขารับเอามาพร้อมกับจ่ายเงินหนึ
่งบาทนั้นให้เถ้าแก่คืนไปแล้วก็
เดินจากมา...
ชายหนุ่มถือน้ำตาลปึกเดินไปเรื่
อยๆ ไม่รู้ว่าจะเอาไปขายให้ใครเหมือ
นกัน
จนมาถึงหน้าโรงงานแห่งหนึ่ง คนกำลังเลิกงานพอดีเขารีบคลี่น้
ำตาลปึกออกจากห่อ แล้วถามขายให้ผู้คนทันที
คนแล้วคนเล่า ไม่มีใครซื้อเขาเลยจนเดินมาถึงร
ถเข็นขายของคันหนึ่ง
เขาหยุดยืนพักอยู่ข้างๆ สิ่งที่เขาเห็นก็คือคนงานหยุดซื
้อของจากรถเข็นคันนี้เรื่อยๆในร
ถเข็นมีของ หลายสิ่งหลายอย่างให้เลือกซื้อด
ูแล้วน่าสนใจ ผิดกับเขา ที่ถือห่อน้ำตาลปึกสองก้อนดูแล้
วมันไม่น่าซื้อซะเลย...
พอแม่ค้าว่าง เขาจึงเดินเข้าไปทักทายด้วยความ
อ่อนน้อมด้วยจิตใจที่งดงามของเข
า ด้วยมารยาทที่ดีทำให้เขาสามารถไ
ด้มิตรไมตรีจากแม่ค้าคนนั้นเขาข
อแม่ค้าวาง น้ำตาลปึกของเขาเพื่อขายด้วยแม่
ค้าก็ยินดีให้วางได้...
ขณะที่รอขายของ เขาก็ซักถามพูดคุยกับแม่ค้าไปเร
ื่อยเปื่อยแต่สิ่งหนึ่งที่เขาได
้รู้จากแม่ ค้าก็คือ...แม่ค้าคนนี้ ขายของแบบนี้มา 10 ปีแล้วกำไรที่ได้ ก็พออยู่ได้ไปเดือนชนเดือนจะให้
ร่ำรวยนั้นเป็นไปไม่ได้หรอก
"แล้วป้าไม่คิดจะไปทำอย่างอื่นท
ี่ทำให้รวยได้เหรอครับ..."เขาถา
มขึ้น
"ก็เพราะไม่รู้จะไปทำอะไรน่ะสิ.
.. ที่ทำได้ก็ที่เห็นนี่แหล่ะเกิดไ
ปทำอย่างอื่นแล้วไม่ได้อย่างที่
คิดจะทำอย่าง ไรล่ะจะเอาเงินที่ไหนซื้อข้าว เอาเงินที่ไหนเลี้ยงลูกป้าไม่กล
้าเสี่ยงหรอก..."แม่ค้าอธิบายเห
ตุผลให้ชาย หนุ่มฟัง
เขาได้ฟังแม่ค้าบอกดังนั้น ก็เข้าใจทันทีเลยว่าเหตุใด คนที่อยากรวยหลายๆคน จึงไม่รวยเพราะความเสี่ยงนี่เอง
...คนไม่กล้าเสี่ยง ไม่กล้าเปลี่ยนแปลง ก็เลยต้องทำอย่างที่เคยทำอยู่ทุ
กวันเพราะมันมีความมั่นคงกว้า..
..
"แม่ค้า.. น้ำตาลปึกนี่ ขายยังไงคะ..."เสียงคนงานสาวคนห
นึ่งดังขึ้น ดึงเขาออกมาจากความคิด"อันละบาท
จ้าหนู เหลือแค่สองอันเอง หนูจะเอาหมดเลยไหม"แม่ค้าถามกลั
บ
"เอาสองอันเลยก็ได้ค่ะ... จริงๆแล้ว หนูอยากดื่มน้ำอ้อยมากกว่าแต่ไม
่เห็นมีใครเอามาขายเลย"สาวโรงงา
นบ่นให้แม่ ค้าฟัง พร้อมกับจ่ายเงินค่าน้ำตาลปึกแล
้วก็เดินจากไป
"โห... ป้า ไอ้น้ำตาลปึกนี่มันขายได้ก้อนละ
หนึ่งบาทเลยเหรอ"หนุ่มน้อยชาวนา
ถามขึ้น
"เขาก็ขายก้อนละบาทกันทั้งนั้นแ
หล่ะ... อ้าวนี่เอ็งเอามาขาย เอ็งไม่รู้เหรอว่าเขาขายก้อนละเ
ท่าไร"
"ไม่รู้ครับ..." เขาทำหน้าอายๆพร้อมกับรับเงิน 2 บาทจากแม่ค้า สักพักก็ขอลากลับบ้านตอนนี้เขาม
ีเงิน 2 บาทแล้ว...
ระหว่างที่จะเดินทางกลับบ้านนอก
เขาก็คิดขึ้นมาได้ว่า ไม่รู้จะกลับไปทำไมพ่อแม่ของเขา
ก็ไม่มี เขาอยู่ตัวคนเดียวมาตั้งแต่เด็ก
บ้านของเขาก็หามีไม่ อาศัยหลับนอนศาลาเก็บศพเก่าๆที่
เขาเลิกใช้กันไปแล้ว ข้าวของก็แทปไม่มีอะไรเลยอีกอย่
าง ระยะทางก็ไกลโขเอาการอยู่ทีเดีย
ว
และที่สำคัญ เขาจะต้องสร้างตัวให้ร่ำรวยภายใ
น 1 ปีเวลาของเขามีน้อยเหลือเกิน
เท้าไวเท่าความคิด...เขาเปลี่ยน
เส้นทางทันที มุ่งหน้าสู่บ้านของเถ้าแก่
เพราะไม่รู้จะไปทางไหน ที่พอนึกได้ก็บ้านของเถ้าแก่คนเ
ดียวเท่านั้น...
ไม่นานนัก เขาก็ยืนอยู่หน้าบ้านเถ้าแก่เขา
รู้สึกลังเล เก้ๆ กังๆ ไม่รู้จะเข้าไปดีหรือไม่ตัดสินใ
จอยู่นานทีเดียวที่สุดก็ตัดสินใ
จอย่างเด็ด เดี่ยวที่จะเข้าไปขอพึงพิงเถ้าแ
ก่
"อ้าว... พ่อหนุ่ม... มาซื้ออะไรอีกเหรอ ร้านอั๊วจะปิดแล้วนะ"เถ้าแก่ทัก
ขึ้นเมื่อเห็นหนุ่มน้อยชาวนาเดิ
นเข้ามาหาเขา ยกมือไหว้อย่างนอบน้อม พร้อมกับเอ่ยขึ้นว่า"หวัดดีอีกค
รั้งครับเถ้าแก่... พอดีผมขายน้ำตาลปึกหมดแล้วได้เง
ินมาสองบาทแน่ะครับ"ไม่รู้จะบอก
ยังไงที่จะขอ พักอยู่ที่นี่สักคืนก็เลยพูดเฉไ
ฉไปเรื่องอื่นแทน...
"แล้วนี่ ลื้อจะมาซื้อเอาไปขายอีกเร๊อะ..
." เถ้าแก่ถามขึ้น
"เปล่าครับ พอดีบ้านผมอยู่บ้านนอก ห่างจากที่นี่ไกลมากๆผมเลยตั้งใ
จว่าจะมาขออาศัยพักกับเถ้าแก่สั
กคืนผมทำงาน แลกก็ได้นะครับ"ชายหนุ่มรู้สึกโ
ล่งใจขึ้นมาบ้าง เพราะได้บอกความต้องการออกไปแล้
วรอแต่เพียงคำตอบจากเถ้าแก่ ซึ่งก็ทำเอาหัวใจของเขาเต้นไม่เ
ป็นจังหวะอยู่เหมือนกัน
เถ้าแก่นิ่งคิดอยู่อึดใจใหญ่ๆ เพราะรู้สึกไม่ค่อยจะไว้ใจเขาสั
กเท่าไรแล้วก็ตัดสินใจตอบไปว่า
"เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน เดี๋ยวลื้อไปนอนที่โรงปลาทูของอ
ั๊วคืนนี้เขานึ่งปลาทูกัน ลื้อก็ช่วยงานเขาเท่าที่ทำได้ก็
แล้วกัน"พูดจบเถ้าแก่ก็หันไปหาล
ูกน้องคน หนึ่งพร้อมกับสั่งว่า
"อาโยเอ้ย ตอนลื้อจะกลับไปโรงปลาทู พาอ้ายหนุ่มคนนี้ไปด้วยนะให้อีช
่วยงานลื้ออะไรก็ได้ แล้วหาที่หลับที่นอนให้อีด้วยล่
ะ"คนงานชื่อโย รับคำเสร็จก็ทำงานต่อ
ไม่ต้องรอให้ใครบอก หนุ่มน้อยชาวนาก็กุลีกุจอ ช่วยงานนายโยอย่างแข็งขัน...หลั
งจากปิดร้านเสร็จ เพื่อนใหม่ชื่อโย ก็พาเขาไปยังโรงปลาทู...
เมื่อคืนที่ผ่านมา หนุ่มน้อยชาวนาก็ได้รู้จักอาชีพ
อีกอาชีพนั่นก็คือ ลูกจ้าง ก็จากการพูดคุยกะนายโยเพื่อนใหม
่นี่แหล่ะ...โยทำงานอยู่กับเถ้า
แก่มาแล้ว 3 ปีหนุ่มน้อยชาวนาก็ได้รู้อีกว่า
ถ้าเขาทำงานอย่างโยอย่าว่าแต่ 1 ปีเลย ตลอดชีวิตก็ไม่สามารถรวยได้
หลังจากกินข้าวกินปลากันเสร็จเร
ียบร้อยโยก็พาหนุ่มหน้อยชาวนาไป
ยังร้าน เถ้าแก่เพื่อเตรียมเปิดร้านแต่เ
ช้า...ตอนกลางวัน โยต้องมาช่วยเถ้าแก่ที่ร้านตอนก
ลางคืน ต้องนึ่งปลาทูตอน ตี 2 ถึงตี 4เขาจะได้นอน 2 ช่วง คือ หลังจากเก็บร้านเสร็จแล้วกลับโร
งงานปลาทูก็อาบน้ำกินข้าวนอน
และมาตื่นตอน ตี 2- ตี 4นึ่งปลาทูเสร็จเขาก็กินข้าวเช้
าและมาเปิดร้านให้เถ้าแก่
ชายหนุ่มเคยถามโยว่า ไม่อยากทำงานอย่างอื่นหรือโยบอก
เขาว่า ความรู้น้อย ไม่รู้จะไปทำอะไรก็เลยต้องำงานอ
ยู่กับเถ้าแก่แบบนี้แหล่ะ...
คำตอบของโยทำให้หนุ่มน้อยชาวนาน
ึกถึงแม่ค้าขายของหน้าโรงงาน...
และอีกคนที่เขานึกถึงคือ หลาวพี่เปี้ยก พระที่เขารู้จักเขาเคยถามหลวงพี
่ว่า หลวงพี่เคยคิดอยากจะลาสิกขาไหมห
ลวงพี่เปี้ยกบอกเขาว่า คิดหลายครั้งเหมือนกันแต่ถ้าลาส
ิกขาออกไปแล้ว ก็ไม่รู้จะไปทำมาหากินอะไร.. นอกจากคนทั้งสามนี้แล้ว คงมีคนอีกมากมาย ที่คิดแบบนี้
ที่บ้านเถ้าแก่หลังจากช่วยนายโย
กับคนงานอื่นๆ จัดร้านเสร็จแล้ว
หนุ่มน้อยชาวนา ก็รอโอกาสให้เถ้าแก่ว่าง
"เถ้าแก่ครับ... เถ้าแก่รวยที่สุดในเมืองนี้หรือ
เปล่าครับ"หนุ่มน้อยชาวนาถาม
เถ้าแก่อึ้งไปเล็กน้อย แล้วตอบว่า"ไม่หรอก.. อั๊วก็แค่พอมีทรัพย์สินเงินทองบ
้างเท่านั้นแหล่ะมีคนรวยกว่าอั๊
วอีกตั้งเยอะ แยะ... ลื้อถามไปทำไมวะ"หนุ่มน้อยชาวนา
จึงเล่าเรื่องทั้งหมดให้เถ้าแก่
ฟัง
"โอ้โห... ให้รวยที่สุดในเมืองภายในหนึ่งป
ีนี่นะ...มันเป็นไปไม่ได้เลยล่ะ
... ข้าทำมาหากินมาเกือบทั้งชีวิตก็
เพิ่งจะพอมีบ้างเท่าที่เห็นนี่แ
หล่ะ...ข้า ว่ามันเป็นไปไม่ได้หรอก ลื้อเลิกคิดซะเถอะว่ะ..."
"ผมตั้งใจแล้วครับ ขอทำให้ถึงที่สุดก็แล้วกันครับ"
ชายหนุ่มหยุดคิด แล้วพูดต่อว่า"เมื่อวานวันเดียว
จากไม่มีอะไรเลย ผมยังหาเงินได้ตั้งสองบาทแล้วคร
ับ..."เขารู้สึกภาคภูมิใจกับผลง
านของเขาเป็น อย่างมากส่วนเถ้าแก่ ก็หัวเราะ ชอบใจอยู่ในลำคอด้วยความเอ็นดู.
.."แล้วใครรวยสุดในเมืองนี้หรือ
ครับ..." ชายหนุ่มถาม
"อืมมมมมม.... ข้าว่า น่าจะเป็นเศรษฐีไม้เท้าทองคำว่ะ
เห็นแกสร้างตึกสูงล้ำ เสียดฟ้าแทงเมฆนั่งคิดคำนวณตัวเ
ลข ทุกค่ำทุกเช้า คิดจะเอากำไรมีที่ดินตั้งหมื่นแ
สนไร่ รถยนต์มากมาย ยิ่งกว่าร้านขายรถยนต์บริวาร วิ่งกันสับสน แกเลี้ยงผู้คน แทนฝูงวัวควาย..."เถ้าแก่วิเครา
ะห์ให้ชายหนุ่มฟัง...
"เถ้าแก่แนะนำทางไปบ้านเขาให้ผม
หน่อยสิครับ... ผมจะไปหาเขา"ชายหนุ่มถามพร้อมกั
บทำหน้าตาจริงจัง
"เขาจะให้แกพบเหรอวะ... เวลาเขาเป็นเงินเป็นทอง"
"ไม่เป็นไรครับ... บอกทางผมเถอะครับ ผมจะเสี่ยงดวงเอาเอง"เห็นแววตาม
ุ่งมั่นของหนุ่มน้อยชาวนาแล้ว เถ้าแก่ก็เลยบอกทางให้...
Create Date : 23 กุมภาพันธ์ 2556
Last Update : 6 มีนาคม 2556 22:35:55 น.
0 comments
Counter : 8575 Pageviews.
Share
Tweet
ชื่อ :
Comment :
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
nadtytok
Location :
[Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [
?
]
Webmaster - BlogGang
[Add nadtytok's blog to your web]
Bloggang.com