-=Jfk=- Blog ดินแดน แห่ง มิตรภาพ ใน Cyber Space ที่ไร้พรมแดน
Group Blog
 
All Blogs
 
=== รวบรวมเรื่องราวเกี่ยวกับ กรุ๊ปเลือดของคน ABO_Rh_Bombay blood (Mini Lecture) ===

ถือโอกาสลูกสาว ถามการบ้านเรื่องนี้

เลยจัดการเอาข้อมูลเก่า มาดัดแปลงแก้ไข รีวิวใหม่ ให้เค้า

แต่แทนที่จะส่งเมล์ เลยเอามาแปะ Blog แทนเผื่อเพื่อนๆคนอื่นได้เอาไปใช้ประโยชน์ด้วยได้

%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%
ความรู้เรื่องหมู่โลหิต และ การให้เลือด

หมู่โลหิต หรือกรุ๊ปเลือด โดยทั่วไป ที่พูดถึงกัน จะหมายถึง ABO System ทั้งนั้น ซึ่งมีกรุ๊ปเลือดทั้งหมด อยู่ 4 กรุ๊ป คือ

หมู่เลือด A จะมี Antigen A Antibody B
หมู่เลือด B มี Antigen B Antibody A
หมู่เลือด AB มี Antigenทั้งสองชนิดคือ A,B ไม่มี Antibody
หมู่เลือด O ไม่มี Antigenทั้งสองชนิด แต่จะมี Antibody A,B ทั้งสองชนิด

(หมายเหตุ Antigen คือโปรตีน หรือสารที่ร่างกายเรามี หรือ ได้รับเข้าไป และเป็นตัวกระตุ้นให้ร่างกายเราสร้างภูมิต้านทานขึ้นมาต่อต้าน หรือทำลาย Antigen นี้ (ภูมิต้านทานที่สร้างขึ้นนี้เรียกว่า Antibody ซึ่งปกติแล้ว คนเราจะไม่สร้าง Antibody ต่อ สารหรือ ร่างกายของตนเอง แต่จะสร้างภูมิต้านต่อ Antigen แปลกปลอมที่ ตัวเองไม่มีและเข้าสู่ร่างกายเท่านั้น)

ถ้ายังจำกันได้ เราเคยถูกสอนในวิชาวิทยาศาสตร์ สมัยตอนเรียนมัธยมว่า
การให้เลือดนั้น เลือดของผู้ให้ จะต้องไม่มี Antigen ที่ผู้รับ มี Antibody นั้น

เลยได้ข้อสรุป ออกมา ว่า คนหมู่เลือด O ซึ่งไม่มี Antigen ใดๆ อยู่เลย จะสามารถนำไปให้กับเลือดหมู่อื่นได้ทุกหมู่เลือด แต่จะสามารถรับได้เฉพาะหมู่เลือด O เท่านั้น

ส่วนคนที่มีหมู่เลือด AB ซึ่งมี Antigen ทั้ง A และ B จะให้กับคนอื่นที่เป็นหมู่ A B หรื อ O ไม่ได้เลย จะให้ได้แต่ กับ คนไข้กรุ๊ป AB ด้วยกันเท่านั้น
แต่ว่า เนื่องจากตัวเองไม่มี Antibody ใดๆ ดังนั้นจึงสามารถรับเลือดได้ทุกหมู่

แต่ในความเป็นจริงแล้วในการรักษา

เวลาแพทย์จะให้เลือด จะต้องให้เลือดที่ตรงหมู่กันเท่านั้น เนื่องจากถ้าถ้าเป็นเลือดต่างกรุ๊ป อาจจะทำปฏิกริยากัน ทำให้เกิดการแตกของเม็ดเลือดได้

ยกตัวอย่างเช่น คนเลือด Gr AB ถ้ารับเลือด Gr A มา แม้ว่า ตัวเองไม่มี Antibody A ไปทำลายเม็ดเลือดที่รับมา แต่ในน้ำเลือดคนให้มา จะมี Antibody B ซึ่งจะปฎิกริยากับ Antigen ของตัวเองได้

ดังนั้นคนที่เลือดกรุ๊ป AB ซึ่งน่าจะดี ที่รับเลือดได้ทุกกรุ๊ป กลับหาเลือดยากเนื่องจาก เลือดกรุ๊ปนี้มีอยู่ไม่ถึง 5% ของประชากรทั้งหมด เวลาต้องหากรุ๊ปเดียวกันตอนให้เลือด จึงหายากหน่อย ไม่ดีเหมือน ที่ได้รับการสอนกันมา แต่เดิม

(สรุป คือ การให้เลือด นั้น ต้องให้ เลือดตรงกรุ๊ปกันเท่านั้น ยกเว้นกรณีฉุกเฉินจำเป็นจริงๆ เท่านั้นจึงเลือกใช้เลือดอย่างที่บอกไว้ข้างบน และการให้มักจะแยกเอาเฉพาะเม็ดเลือดแดงมาใช้ แยกน้ำเลือดทิ้งและอาจจะมีการล้าง ให้มีAntibody ปนมากับเลือดน้อยที่สุด)

การให้เลือดนี้ แม้แต่เลือดกรุ๊ปเดียวกัน ก็ยังมีโอกาส ที่จะทำปฏิกริยาเข้ากันไม่ได้ เหมือนกัน แต่ โอกาสไม่มากนัก ดังนั้นก่อนให้เลือดทุกครั้ง จึงต้องเอาเลือดทั้งสองฝ่ายมาตรวจสอบ ความเข้ากันได้(Group matched) ก่อนทุกครั้ง

พ่อ กับ แม่ มีเลือดกรุ๊ปใด จะได้ลูก ที่มีกรุ๊ปเลือดใดได้บ้าง

เรื่องนี้ อธิบายได้ดังนี้

ให้นึกภาพว่ายีนส์ ของคนเรานั้นจะมีสองอันประกบกันเป็นคู่ อันนึงได้จากแม่ อีกอันได้จากพ่อ และจะแยกตัว ออกเป็นสองข้าง ในตอนเป็นเซลสืบพันธ์ เพื่อไปจับคู่กับอีกครึ่งหนึ่งของฝ่ายตรงข้าม กลับมาเป็นเต็มคู่ อีกครั้งในลูก

ลักษณะของยีนส์ ในกรุ๊ปเลือดต่างๆ (โดยยีนส์นั้นเป็นตัวกำหนดให้ร่างกายสร้าง Antigen นั้นๆบนผิวเม็ดเลือดแดง)
Gruop A = มียีนส์ AO หรือ AA
Gruop B = มียีนส์ BO หรือ BB
Gruop AB = มียีนส์AB
Gruop O = มียีนส์ OO

ทีนี้มาดู ว่า พ่อ กับแม่ แม่กรุ๊ปใด ให้ลูก กรุ๊ปใด ได้บ้าง

กรณีที่ 1 ทั้งสองฝ่าย group A เหมือนกัน จะเป็นได้ดังนี้
ถ้าพ่อแม่เป็น AA+ AA ลูกจะเป็น AA ร้อยเปอร์เซนต์ (Group A ทั้งหมด)
ถ้าพ่อแม่เป็น A0 +AA ลูกจะเป็น AO กับ AA อย่างล่ะครึ่ง( แต่ก็เป็น Gr A ทั้งหมด)
ถ้าพ่อแม่เป็น A0 + AO ลูกจะเป็น AO 50% กับ AA กับ OO อย่างล่ะ 25% (เป็น Gr A 75% กับ O 25%)

ในทางปฏิบัติ คนกรุ๊ป A เราไม่ทราบหรอกครับ ว่ามันเป็น AA หรือ AO แต่จะเห็นได้ว่า ไม่ว่าจะเป็นแบบใด ลูกก็จะมีโอกาสเป็นได้แค่ Gr A หรือ O เท่านั้น

กรณีที่ 2 ทั้งสองฝ่ายกรุ๊ป B เหมือนกัน
ก็ จะเหมือนกับ กรณีของ A ข้างบน แต่เปลี่ยนเป็น จาก A เป็น B เท่านั้น

กรณีนี้ จะได้ลูกแค่ Gr B และ O เท่านั้น

กรณีที่ 3 ทั้งสองฝ่ายเป็น AB เหมือนกัน จะเป็นดังนี้
AB+AB จะได้ ลูก AB 50% กับ AA และ BB อย่างล่ะ 25%

กรณีนี้จะได้ลูก Gr AB 50% และ A กับ B อย่างล่ะ 25% ไม่มีกรุ๊ป O เลย

กรณีที่ 4 ทั้งสองฝ่ายกรุ๊ป O เหมือนกัน จะได้ ดังนี้
OO+OO จะได้ลูก เป็น OO 100%

กรณีนี้จะได้แต่ลูกกรุ๊ป O เท่านั้น ไม่มีกรุ๊ปอื่นปน

กรณีที่ 5 ฝ่ายหนึ่ง Group A อีกฝ่ายกรุ๊ป B จะเป็นได้ดังนี้
AA + BB = ลูกได้ AB ร้อยเปอร์เซ็นต์(Gr AB ทั้งหมด)
AO + BB = ลูกได้ AB ครึ่งนึง กับ BO ครึ่งนึง (Gr AB กับ Gr B อย่างล่ะครึ่ง)
AA + BO = ลูกได้ AB กับ AO อย่างล่ะครึ่ง (Gr AB กับ Gr A อย่างล่ะครึ่ง)
AO+BO = ลูกได้ AB ,AO, BO, OO อย่างล่ะ 25% ( มีได้ทุกกรุ๊ป อย่างล่ะ 25% )

กรณีนี้ จะเห็นได้ว่า ถ้าพ่อแม่ คนนึง Gr A อีกคน B จะมีลูกได้ ทุกกรุ๊ปเลย

กรณี 6 ฝ่ายหนึ่งกรุ๊ป A อีกฝ่าย AB จะเป็นได้ดังนี้
AA + AB จะได้ลูก AA และ AB อย่างล่ะครึ่ง(ได้ลูกกรุ๊ป A และ AB อย่างล่ะครึ่ง)
AO +AB จะได้ลูก AA ,AO, AB, BO อย่างละ 25% (ได้ลูกกรุ๊ป A 50% และ กรุ๊ปAB กับ กรุ๊ป B อย่างล่ะ 25%)

กรณีนี้จะเห็นว่า ถ้า ฝ่ายหนึ่งเป็น A อีกฝ่ายเป็น AB จะได้ลูก กรุ๊ป A ,AB, B ได้ แต่ ไม่มีทางเป็น Gr O

กรณีที่ 7 ฝ่ายหนึ่ง AB อีกฝ่าย B จะเป็นได้ดังนี้
AB + BB จะได้ลูก BB และ AB อย่างล่ะครึ่ง(ได้ลูกกรุ๊ป A และ AB อย่างล่ะครึ่ง)
AB +BO จะได้ลูก BB ,BO, AB, AO อย่างละ 25% (ได้ลูกกรุ๊ป B 50% และ กรุ๊ปAB กับ กรุ๊ป A อย่างล่ะ 25%)

กรณีนี้จะเห็นว่า ถ้า ฝ่ายหนึ่งเป็น AB อีกฝ่ายเป็น B จะได้ลูก กรุ๊ป A ,AB, B ได้ แต่ ไม่มีทางเป็น Gr O เหมือนกัน กับกรณีที่ 4

กรณีที่ 8 ฝ่ายหนึ่ง Gr AB อีกฝ่าย O จะได้ดังนี้
AB + OO จะได้ AO กับ BO

กรณีนี้จะได้ลูก กรุ๊ป A กับ B ไม่มี AB และ O

กรณีที่ 9 ฝ่ายหนึ่ง Gr A อีกฝ่าย O จะได้ดังนี้
AA + OO ได้ AO ทั้งหมด (กรุ๊ป A ทุกคน)
AO + OO ได้ AO กับ OO อย่างละ50% (

กรณีนี้จะได้ลูก Gr A กับ O อย่างล่ะครึ่ง ไม่มี กรุ๊ป B กับ AB

กรณีที่ 10 ฝ่ายหนึ่ง Gr B อีกฝ่าย O จะได้ดังนี้
BB + OO ได้ BO ทั้งหมด (กรุ๊ป B ทุกคน)
BO + OO ได้ BO กับ OO อย่างละ50%

กรณีนี้จะได้ลูก Gr B กับ O อย่างล่ะครึ่ง ไม่มี กรุ๊ป A กับ AB

สรุปจากสิบกรณี ข้างบนมาให้ดูง่ายๆคือ
A +A = A ,O
B+B = B,O
AB+AB = A ,AB ,B(ได้ทุกกรุ๊ป ยกเว้น O)
O+O = O เท่านั้น
A+B = เป็นได้ทุกกรุ๊ป
A+AB = A ,AB ,B(ได้ทุกกรุ๊ป ยกเว้น O)
B+AB = A ,AB ,B(ได้ทุกกรุ๊ป ยกเว้น O)
AB+O = ได้ A หรือ B
A+O = A หรือ O
B+O = B หรือ O
A+B = A.,B,AB,O

แต่ถ้าเราสามารถระบุไปถึง ระดับยีนส์ได้ ว่าเป็นตัวไหน ก็พยากรณ์ได้แคบลงตามตัวอย่างข้างบน (อาจจะดูได้โดยดูจากประวัติครอบครัว เช่น คนที่ Gr A หรือ Gr B ที่มาจาก พ่อแม่ ที่เป็น AB +AB ย่อมเป็น grA ที่มี ยีนส์ AA หรือ Gr B ที่มียีนส์ BB เป็นต้น

จำนวนคนที่มีหมู่โลหิตต่างๆใน ABO System มีรายงานแตกต่างกันไปไม่แน่นอน

แต่ตัวเลขโดยประมาณ ของคนที่มีหมู่โลหิตต่างๆ ในระบบนี้ มีดังนี้

กรุ๊ป A มี Antigen A พบได้ประมาณ 20-25%
กรุ๊ป B มี Antigen B พบได้ประมาณ 20-25%(ในคนเอเชียโดยเฉพาะพวกจีนญี่ปุ่นจะพบมากหน่อย)
กรุ๊ป O ไม่มี Antigen ทั้ง Aและ B พบได้ประมาณ 45-50%
กรุ๊ป AB มี Antigenทั้ง A และ B พบได้ประมาณ 5%

ยาวหน่อยครับ แต่คิดว่าละเอียดทุกแง่มุม :)

Bombay Blood คืออะไร

เอาอันนี้ มาแปะแถมท้ายอีกหน่อย กรณี ยกเว้นที่ผลกรุ๊ปเลือดลูก ไม่สอดคล้องกับ พ่อแม่ คือไม่เป็นไปตามข้างบน

เช่นถามว่า O+O เป็น A ได้มั้ย หรือ A+O เป็น B ได้มั้ย

ตอบว่าเป็นไปได้ แต่เป็นข้อยกเว้นที่พบได้น้อยมากๆ

ภาวะที่ว่าคือ O ในพ่อหรือแม่นั้นไม่ใช่ O จริงๆ ซึ่งจะไม่มียีนส์ ที่สร้างแอนติเจ้น ทั้ง A และ B
แต่ว่าเป็น เป็นพวก Bombay Blood Group

โดยปกติคนที่ว่าเป็นเลือด Gr A หรือ B หรือ AB นี่ จะต้องมี Gene ทีสร้าง Antigen ดังกล่าวขึ้นมาอย่างที่บอกไว้ข้างบน แต่ว่าการจะแสดงลักณะของยีนส์ นั้นออกมาได้ ยังจะต้องมี Antigen H ซึ่งเป็นแอนติเจนอีกตัวอยู่บนเม็ดเลือดนั้นด้วย(ปกติเลือดทุกกรุ๊ป จะมี Antigen H อยู่แล้ว)

แต่ถ้าเลือด A หรือ B นั้นไม่มี Antigen H อยู่ด้วยตามปกติ พวกนี้จะไม่แสดงลักษณะ ของ Antigen A และ B ออกมาให้เห็น ทำให้เราตรวจแล้ว ดูเหมือนกับไม่มี Antigen ดังกล่าว ทำให้คิดว่าเป็นเลือดกรุ๊ป O แต่ว่าเมื่อ มีปัญหาต้องใช้เลือดและนำไปตรวจการเข้ากัน มันจะฟ้องออกมา เนื่องจากการเข้ากันไม่ได้ ของ Antibody และ Antigen ของเลือดที่นำมาให้

ดังนั้นถ้ากรณี อย่างนั้น O จากพ่อหรือแม่ฝ่ายหนึ่งเป็น Bombay Blood Groupหรือ O ปลอมๆ ที่จริงๆมี Antigen A หรือ B อยู่ แต่ไม่มี H อย่างนี้พอมาถึงรุ่นลูก ซึ่งอาจจะไปได้ H จากพ่อหรือแม่อีกฝ่าย ทำให้ ยีนส์ Aหรือ B ดังกล่าว มาแสดงออกในรุ่นลูกได้

แต่ขอบอกนะครับ ว่า ภาวะ Bombay Blood Group นี่หายากมากๆๆๆ

และถ้าพ่อแม่ไม่ใช่ Bombay Blood ล่ะก้อ ต้องมีรายการหยิบลูกผิดมากจากไหนกันมั่งละ

หมู่โลหิต Rh คืออะไร

ระบบหมู่โลหิต นอกจาก ABO System ที่บอกข้างบนแล้ว

ยังมีหมู่โลหิต อีกอันที่เป็นที่รู้จักกันดี นั่นคือ Rh หรือ Rhesus Blood System

โดย กรุ๊ปเลือด ในระบบนี้ จะมี Antigen ที่เรียกว่า D Antigen
ถ้าคนไข้ ที่มี D Antigen ก็เรียกว่า Rh+ve หรือ +
ส่วนคนที่ไม่มี D Antigen ก็เรียกว่า Rh-ve หรือ -

โดยการรายงาน กรุ๊ปเลือด เรามักจะรายงาน สองอันควบไปด้วยกันเลย เช่น O+ คือเลือดกรุ๊ป A และ Rh+Ve

ในคนทั่วๆไปเกือบทั้งหมดจะเป็น Rh+ve

Rh-ve ในคนไทยจะพบได้น้อยมากแค่ ประมาณ 3 ในพันคน (0.3%) แต่ถ้าในคนไทยซิกข์ จะพบสัดส่วนสูงขึ้น แต่ก็ยังน้อยมาก Rh+ve มากอยู่ดี รวมทั้งพวกคนในยุโรป หรือ ตะวันตก

ซึ่งมีสัดส่วน Rh-ve มากกว่า คนไทย แต่ถ้าเทียบกับ Rh+ve แล้ว ก็ยังพบน้อยกว่ามากๆๆๆๆๆๆๆ

คนไข้ที่ มี Rh- เราอาจจะเรียกว่าเป็นคนไข้หมู่พิเศษ เนื่องจากเป็นกลุ่มที่หายาก เมื่อต้องการใช้เลือดจะหายาก ดังนั้นจึงมีการรวมตัวกันเป็นชมรมผู้มีหมู่โลหิตพิเศษ เพื่อที่จะได้ติดต่อตาม

กันได้เมื่อต้องการใช้เลือด

นอกจากปัญหาเรื่องการหาเลือดใช้ยากแล้ว

ในแม่ที่ Rh-ve นี้ ยังอาจจะมีปัญหาในเรื่องการคลอดลูกได้อีก เช่นถ้าคนนี้แต่งงานกับสามีที่เป็น Rh+ve ตามปกติ และลูกที่เกิดมาคนแรก เป็น Rh+ve ตามพ่อ ในตอนคลอด อาจจะมี

เลือดของลูกบางส่วนผ่านไปยังแม่ตอนคลอด(เนื่องจากตอนนั้นจะมีการลอกตัวของรก มีการสัมผัสเลือดลูกกับแม่ได้ จากการฉีกขาดของเส้นเลือด ส่งผลให้แม่ ) ได้รับ Antigen D บางส่วน

จากเลือดลูกแล้ว สร้าง Antibody ต่อ Antigen นี้ (Anti D ) ขึ้นมาในเลือดตัวเอง
ถ้ามีลูกอีกในท้องสอง และลูกเป็น Rh+ve เช่นกัน เลือดแม่ที่มี AntiD จะปล่อย AntiD นี้ผ่านรกเข้าไปยังลูกได้ทำให้ไปทำลายเม็ดเลือดแดง ของลูกทำให้เม็ดเลือดแดงแตก และทำให้เด็ก

เสียชีวิตได้ ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ



Create Date : 19 กุมภาพันธ์ 2550
Last Update : 19 กุมภาพันธ์ 2550 18:22:25 น. 3 comments
Counter : 15732 Pageviews.

 
Thanks !



โดย: law of nature วันที่: 19 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:20:00:18 น.  

 
มิน่าค่ะ หนูเลือดกรุ๊ป โอ คุณพ่อคุณแม่ กรุ๊ป เอ
คุณพ่อโวยวายใหญ่เลยค่ะ นึกว่าหมอตรวจผิด อิอิ


โดย: amp (COCOSWEET ) วันที่: 2 มิถุนายน 2550 เวลา:15:42:01 น.  

 
ได้ความรู้มากเลยค่ะ

ขอบคุณมากนะคะ ไว้จะเข้ามาอ่านอีกค่ะ



โดย: นัน (นวลกนก ) วันที่: 26 กรกฎาคม 2550 เวลา:12:45:38 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

-=Jfk=-
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 13 คน [?]




มิตรภาพ อาจจะเป็นสิ่งเดียว ที่เราแจกจ่ายออกไปเท่าไรก็ไม่มีวันหมด

ยิ่งให้ออกไป มอบออกไป มากเท่าไร ก็ยิ่งผลิบาน ไปทั่ว และย้อนกลับคืนมามากเท่าทวีคูณ

ขอบคุณ Internet ที่ช่วยหว่านเมล็ดพันธ์แห่งมิตรภาพให้กระจายไปทั่วใน Cyber Space ที่ไร้พรมแดนนี้
Friends' blogs
[Add -=Jfk=-'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.