| All Blog
|
Europe trip * : Hallstatt เมื่อความฝันกลายเป็นความจริง  27.10.2015 Hallstatt, Austria หลังจากที่เราใช้เวลาที่ Salzbug กันอย่างเต็มที่ เช้านี้เราจะมุ่งหน้าไปเมือง Hallstatt เมืองในฝันที่เฝ้ารอคอยจะมาเยือนสักครั้งนึงในชีวิต การเดินทางจากเมือง Salzburg ไปได้หลายวิธี แต่ครั้งนี้เราจะไปโดยบัสสาย 150 จาก Salzburg ไปลงและต่อรถไฟที่เมือง Bad ischl เพื่อไป Hallstatt และนั่งเรือข้ามฟากไปหมู่บ้าน แต่ช่วงนั้นรถไฟจาก Bad ischl ไป Hallstatt ปิดปรับปรุงพอดี เราเลยได้นั่งบัสตรงยาวจาก Bad ishl ไปยังตัวหมู่บ้านเลย แอบเสียดายเล็กน้อยที่ไม่มีโอกาสได้ล่องเรือข้ามฟากที่ทะเลสาบ นี่แหระนะข้อเสียของการมาเที่ยวช่วงก่อนเข้าหน้าหนาว TT บริเวณที่รอรถบัสสถานี Salzburg  วิวระหว่างทางไป Hallstatt เราจะผ่านทะเลสาบ Wolfgang ใครมีเวลามากสามารถแวะล่องเรือในทะเลสาบได้  การเดินทางโดยรถบัสเนี่ย วิวข้างทางจะสวยมาก ผ่านหมู่บ้านเล็กๆ วิวทุ่งหญ้า ภูเขา   หลังจากดูวิวสวยๆ ระหว่างการเดินทางราวๆ 2 ชม. กว่า เราก็มาถึง Hallstatt รถบัสจะมาจอดบริเวณลานจอดรถแถวๆ ทางขึ้นเหมืองเกลือ ป้ายชื่อ Hallstatt Lahn (Seelande) ถ้าหันหน้าออกไปทางทะเลสาบซ้ายมือจะเป็นทางเข้าหมู่บ้าน  ขวามือจะเป็นหมู่บ้านเช่นกัน จะมีพวก Guesthouse  มากมายที่ราคาถูกกว่าโรงแรมในโซนใจกลางหมู่บ้านซึ่ง Guesthouse เราก็อยู่โซนนี้ ขอบอกก่อนว่าที่พักที่ฮอลสแตทค่อนข้างแพง ตกคืนละ 5 พันถึง 10,000 ก็มีแต่ถ้าเป็นพวกเกสเฮ้าส์ราคาจะถูกหน่อย แต่ต้องจองกับเจ้าของบ้านโดยตรงผ่านเว็บไซต์ของเมืองฮอลสแตทเอง ซึ่งช่วงที่ไปเนี่ยที่พักเกือบจะเต็มหมด เมลล์ไปหลายโรงแรมมากเกือบท้อใจ สุดท้ายก็ได้ที่พักชื่อ Haus Trausner เจ้าของบ้านใจดีมาก และที่พักใกล้กับลานจอดรถบัส และซุเปอร์มาร์เก็ตด้วย ตกคืนละ 80 ยูโร มีอาหารเช้า ห้องอาบน้ำในตัว แต่ห้องส้วมอยู่นอกห้อง แต่วันที่เราไปห้องข้างๆ ยังไม่มีคนมาพัก เราเลยได้ครองส้วมแต่เพียงผู้เดียว หุหุ ภาพที่พัก บ้านหลังเหลืองๆ ใหญ่ๆ จากป้ายบัสเดินข้ามสะพานมานิดเดียว จะเจอบ้านหลังเหลืองๆ เด่นๆ ฝั่งซ้ายมือ   พอเราเช็คอินเรียบร้อย ก็ได้เวลาทัวร์หมู่บ้าน ที่นี่เป็นเมืองเล็กมากๆ มีประชากรแค่ 500 คน ได้รับการขึ้นทะเบียนมรดกจากยูเนสโก้ด้วย ภาพถ่ายจากสะพานก่อนข้ามไปเกสเฮ้าส์   บ้านที่สร้างขึ้นไปบนเขา แซมไปด้วยต้นไม้ที่ใบไม้กำลังเปลี่ยนสี สวยสมกับความตั้งใจมา แต่ทัวร์จีนเยอะไปหน่อยเสียบรรยากาศตรงนี้แหระ   บรรยากาศเรียบฝั่งทะเลสาบ มีหงส์ตัวใหญ่ๆ ออกมาต้อนรับ โชคดีวันนี้อากาศดี แดดแรง ไม่หนาวเกินไป   เราเดินไปสุดตัวหมู่บ้านเพื่อตามหามุมมหาชน ที่เราได้แต่ดูรูปภาพจากอินเตอร์เน็ท และพร่ำเพ้ออยากจะมาเห็นของจริง มุมนี้จะเดินสุดถนน จะขึ้นเขานิดหน่อยนะคะ   ในที่สุดเราก็เดินมาถึงวิวมหาชนแล้ว วิวที่ได้แต่นั่งมองรูปภาพจากอินเตอร์เน็ต แล้วได้แต่ฝันว่าสักวันเราจะต้องมาให้ได้ วันนี้ความฝันก็เป็นจริง เรามีรูปวิวนี้เป็นของตัวเองแล้ว มีเยอะด้วยยยยย ภาพวิวมหาชนตอนเที่ยงๆ แดดแรงภาพจะย้อนแสงหน่อย ถ่ายออกมาภาพสีจะฟุ้งๆ สวยไปอีกแบบ แต่ปรับค่อนข้างยาก  และได้เวลาอาหารกลางวันของเรา คือมาที่นี่ต้องกินปลาเทราต์ เคล้าบรรยากาศริมทะเลสาบ เราไม่มีร้านในใจ ไม่ได้หามาด้วยว่าร้านไหนดี เราวอคอิน และสำรวจบรรยากาศเอาค่ะ ก็มาเจอกับร้านอาหารของโรงแรม Seehotel Gruner Baum มีที่นั่งทานอาหารติดริมทะเลสาบบรรยากาศดีมาก แต่ตรงระเบียบติดทะเลดันโต๊ะเต็ม เลยได้นั่งข้างบน แต่บรรยากาศก้ดีมาก  อีกอย่างบริกรร้านนี้ก็แซ่บบบบบบบบ เผ็ดดดมากกกก  ราคาอาหารค่อนข้างสูงเลย ปลาเทราต์จานนี้ตก 18 ยูโร ประมาน 800 กว่าบาท เพราะเปนปลาเทราต์จากทะเลสาบนี้ ถามว่าอิ่มมั้ย บอกเลยว่าไม่ แต่มันสด และอร่อยจริงๆ แต่ขนาดเท่าปลาทูบ้านเราเลยอะ แต่เพื่ออรรถรสอะเนอะ กระเป๋าแอบแฟ่บเบาๆ  หลังจากอิ่มแล้ว เราก็ได้เวลาเดินทัวร์หมู่บ้าน ซึ่งจะเดินเล่นขึ้นไปตามบ้านบนเขา ที่นี่บ้านน่ารักมาก สมกับเป็นหมู่บ้านมรดกโลกจริงๆ  จตุรัสกลางเมืองจะมีวงเวียนน้ำพุ แต่วันที่เราไปน้ำพุกำลังปิดซ่อมต้อนรับหน้าหนาวพอดี  จากตรงจตุรัสเดินไปข้างหลังจะมีทางเดินขึ้นหมู่บ้านไล่ระดับเพื่อไปชมวิวสูงได้  นอกจากบ้านแต่ละหลังจะสร้างได้น่ารักแล้ว การตกแต่งบ้านก็น่ารักด้วย เอารองเท้ามาทำกระถังดอกไม้ ไอเดียเก๋ สังเกตว่าที่นี่ทุกบ้านจะต้องปลูกดอกไม้สวยๆ  วิวจากหมู่บ้านบนภูเขา   ที่นี่จะมีสุสานเล็กๆ วิวสวยมากๆอยู่บนเขา เราสามารถชมวิวทะเลสาบจากบนนี้ และเห็นยอดโบสถ์ประจำเมืองด้วย สวยเลยแหระ   จริงๆ เมืองนี้มันเล็กมาก เดินสัก 2 ชั่วโมงก็ครบแล้ว และไปเที่ยวเหมืองเกลือต่อได้ แต่เราไม่ได้ไปเที่ยวเหมืองเกลือ เพราะเราอยากใช้เวลาดื่มด่ำกับที่นี่ให้นานที่สุด เดินทอดน่องไปช้าๆ เหนื่อยก็พัก นั่งคุยนั่งเล่น มองดูนู่นนี่นั่นเพลิน ๆ เราใช้เวลาทั้งหมดครึ่งวัน เต็มอิ่มและคุ้มมาก สมกับที่รอคอยจะมาพบสักครั้ง ใครที่มาเที่ยวเมืองนี้ แนะนำนะคะว่าควรจะค้างสักคืนจริงๆ หมดไปอีก 1 วันที่แสนประทับใจ แล้วพบกับตอนหน้า ที่จะเป็นตอนส่งท้ายแล้ว ปิดทริปยุโรปอันแสนยาวนาน .....
สวยจัง
 โดย: tuk-tuk@korat
  วันที่: 14 เมษายน 2559 เวลา:22:09:44 น. |
ฉันจะเที่ยวให้รอบโลก
 ฝากข้อความหลังไมค์ Rss Feed  Smember ผู้ติดตามบล็อก : 10 คน [?] Friends Blog Link |
||||||||||||
all about my journey :)
