|
ทำความรู้จักกับ Mysql , phpMyAdmin กันก่อนดีกว่า
มายเอสคิวแอล (MySQL) คือ โปรแกรมระบบจัดการฐานข้อมูล มีหน้าที่เก็บข้อมูลอย่างเป็นระบบ รองรับคำสั่งเอสคิวแอล (SQL = Structured Query Language) เป็นเครื่องมือสำหรับเก็บข้อมูล ที่ต้องใช้ร่วมกับเครื่องมือหรือโปรแกรมอื่นอย่างบูรณาการ เพื่อให้ได้ระบบงานที่รองรับความต้องการของผู้ใช้ เช่นทำงานร่วมกับเครื่องบริการเว็บ (Web Server) เพื่อให้บริการแก่ภาษาสคริปต์ที่ทำงานฝั่งเครื่องบริการ (Server-Side Script) เช่น ภาษาพีเอชพี ภาษาเอเอสพี หรือภาษาเจเอสพี เป็นต้น หรือทำงานร่วมกับโปรแกรมประยุกต์ (Application Program) เช่น ภาษาวิชวลเบสิก ภาษาจาวา หรือภาษาซี เป็นต้น มายเอสคิวแอล (MySQL) เป็นระบบฐานข้อมูลแบบโอเพนซอร์ท (Open Source Database) สำหรับจัดการระบบดาต้าเบส (Database System) ผ่านเอสคิวแอล (SQL) โปรแกรมนี้ถูกพัฒนาโดย บริษัท MySQL AB ในประเทศสวีเดน มีทั้งแบบใช้ฟรี และเชิงธุรกิจ
ส่วนโปรแกรม phpMyAdmin ก็คือโปรแกรมที่มีไว้จัดการ MySql ด้วยภาษา php ครับ หลังจากการได้ศึกษามาสักเวลาหนึ่งแล้ว รู้สึกว่าสิ่งที่จำเป็นมากๆในการเขียนเว็ปของเราให้สมบรูณ์นั้น ไม่ใช่แต่ ภาษา php เพียงเท่านั้น เรายังต้องใช้ Mysql หรือ DataBase นั้นเองเอาไว้เก็บข้อมูลต่างๆ โปรแกรม php ที่ต้องใช้ Mysql ช่วยในการทำงาน เช่น ระบบสมัครสมาชิก, การเช็คการเข้าสู่ระบบ, เว็ปบอร์ด เป็นต้นครับ เพราะฉะนั้น สิ่งที่ขาดไปเสียมิได้ก็คือ คำสั่งพื้นฐานต่างๆของ Mysql ครับ
---------------------------------------- คำสั่งพื้นฐาน ที่ใช้บ่อยๆในการเขียนเว็ปครับ ---------------------------------------- ติดต่อ Mysql Server โดยใช้ mysql_connect() mysql_connect(localhost,username,password);
เลือกติดต่อฐานข้อมูล โดยใช้ mysql_select_db() $link= mysql_connect(localhost,username,password); mysql_select_db(dbname$link);
สร้างฐานข้อมูล โดยใช้ mysql_create_db() $link= mysql_connect(localhost,username,password); mysql_create_db(dbname,$link);
คิวรี่ฐานข้อมูล โดยใช้ mysql_db_query() $link= mysql_connect(localhost,username,password); $query=select field1,field2 from table_name; $result=mysql_db_query(dbname, $query,$link); เงื่อนไขต่างๆ mysql_close($link);
ยกเลิกการติดต่อฐานข้อมูล โดยใช้ mysql_close() $link= mysql_connect(localhost,username,password); mysql_close($link);
ลบฐานข้อมูล โดยใช้ mysql_drop_db() $link= mysql_connect(localhost,username,password); mysql_drop_db(dbname,$link); mysql_close($link);
/***Note***/ localhost คือ hostname username คือ ชื่อผู้ใช้งาน MySQL password คือ รหัสผ่านของผู้ใช้งาน MySQL dbname คือ ชื่อฐานข้อมูล table_name คือ ชื่อตาราง field คือ ชื่อของฟิลด์ -----------------------------------------------
คำสั่ง SQL ในการ Select ตาราง select * from table_name select * from table_name where field_name=$variable_name
การใช้ limit ในการ Select ตาราง select * from table_name order by field_name desc limit 0, 1
คำอธิบาย limit 0, 1 0 หมายถึง ให้เริ่มแสดงจาก record ที่ 0 (record แรก) 1 หมายถึง ให้แสดงเป็นจำนวน 1 record หรืออธิบายเพิ่ม 1 หมายถึงนับว่าจะเอากี่เรคคอร์ด จาก 0 เช่น limit 2,2 หมายความว่าเอาตั้งแต่ เรคคอร์ด 2 ถึง 3 เป็น 2 เรคคอร์ด
การดึงข้อมูลโดยกำหนดให้เรียงลำดับข้อมูล select * from table_name order by field_name desc desc เป็นการเรียงลำดับจากมากไปหาน้อย asc เป็นการเรียงลำดับจากน้อยไปหามาก
การดึงข้อมูลเฉพาะฟิลด์ที่ต้องการ Select field_name1,field_name2 from table_name
คำสั่ง SQL ในการ Update Update table_name set field_name1=$data1′, field_name2=$data2′
คำสั่ง SQL ในการ Insert Insert into table_name (field_name1, field_name2) values ($data1′,$data2′)
คำสั่ง SQL ในการ Delete Delete from table_name where field_name=$variable
คำสั่งที่ใช้ในการ search คือ LIKE $sql=SELECT * FROM table_name WHERE $field_search LIKE $search; $result=mysql_query($sql); เมื่อ $field_search = ฟิลด์ที่ต้องการค้นหา เช่น ค้นหาโดยใช้ชื่อ , นามสกุล $search=คำที่ต้องการค้นหา LIKE %$search แปลว่า ลงท้ายด้วย $search LIKE $search% แปลว่า ขึ้นต้นด้วย $search LIKE %$search% แปลว่า มีคำว่า $search (ช้าสุด)
/***Note***/ table_name คือชื่อตาราง field_name คือชื่อฟิลด์ $variable คือค่าที่ได้รับมาจากตัวแปร $variable_name คือค่าที่ได้รับมาจากตัวแปร $data คือค่าหรือข้อมูลที่ได้รับมาจากตัวแปร $field_search คือค่าที่ได้รับมาจากตัวแปรว่าเลือกค้นหาใน ฟิลด์ไหน $search คือค่าที่ได้รับมาจากตัวแปร ว่าใช้คำ keyword ไหนในการค้นหา ------------------------------------ ขอบคุณแหล่งข้อมูล : //www.cmssociety.com ------------------------------------ หวังว่าเพื่อนๆที่ที่สนใจคงจะศึกษาไปพร้อมๆกันนะครับ ^^ เป็นอย่างไรบ้างก็ คอมเม้นมาคุยกันบ้างนะครับ เดียวจะเงียบเหงาจนเกินไป ^o^
ขอบคุณที่ติดตามรับฟัง+ข้อเสนอแนะดีๆครับ Baiiz
Create Date : 25 มิถุนายน 2552 |
| |
|
Last Update : 27 มิถุนายน 2552 9:46:16 น. |
| |
Counter : 4772 Pageviews. |
| |
|
|
|
มารู้จกกับเจ้าโปรแกรม AppServ กันก่อนดีกว่า ^^
AppServ คืออะไร?
กำเนิดโปรแกรม AppServ สำหรับโปรแกรม AppServ นี้ไม่ได้เกิดการสนับสนุนจากหน่วยงานรัฐบาล หรือหน่วยงานเอกชน หรือองค์กรอิสระ ใดๆเลยทั้งสิ้น แต่โปรแกรม AppServ ได้กำเนิดจากแรงบันดาลใจจากเพื่อนของผู้พัฒนาคนหนึ่งที่ได้เริ่มศึกษาภาษา PHP และฐานข้อมูล MySQL และมีปัญหาทุกครั้งในการติดตั้ง กว่าจะติดตั้งได้ก็ใช้เวลาไม่น้อยกว่า 3 ชั่วโมง บางทีทำได้บ้างไม่ได้บ้าง และทุกครั้งที่ติดตั้งไม่ได้ก็จะมาขอความช่วยเหลือจากผู้พัฒนาเป็นประจำทุกครั้ง จึงทำให้ผู้พัฒนาได้สร้างโปรแกรมที่สะดวกในการติดตั้งเพื่อให้เพื่อนของผู้พัฒนาสามารถนำไปใช้งานได้ทันที โดยไม่ต้องมาปวดหัวกับการติดตั้งที่ยุ่งยากอีกต่อไป ในช่วงแรกที่แจกจ่ายนั้น ผู้พัฒนาได้แจกจ่ายในเว็บไซต์ที่เป็นภาษาอังกฤษ ผู้ใช้งานต่างประเทศให้ความสนใจและมีการใช้งานเป็นจำนวนมาก และในปัจจุบันได้เพิ่มเติมในส่วนของเว็บไซต์ภาษาไทย ในอนาคตผู้พัฒนาจะจัดทำเว็บไซต์สามารถรองรับทุกภาษา และเข้าถึงผู้ใช้งานทุกคนทั่วโลก
ประวัตินักพัฒนาโปรแกรม AppServ สำหรับผู้พัฒนานั้นได้อาศัยอยู่ในประเทศไทย ชื่อ ภาณุพงศ์ ปัญญาดี ชื่อเล่น apples เกิดวันที่ 14 สิงหาคม 2523 สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีจาก สถาบันราชภัฏเชียงใหม่ คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สาขาวิทยาการคอมพิวเตอร์ First met ครั้งแรกที่ทุกคนเจอหน้าผม ก็มักจะคิดว่าเป็นเป็นนักศึกษา ไม่ก็นักเรียนมัธยม ทุกครั้งเสมอไป -___-' มีประสบการณ์และความเชียวชาญพิเศษในเรื่องของ Linux Security, Linux Network, Network Security, Network Admin, PHP Programming, MySQL Database, Linux/Unix Hacking System, Web Design, ฯลฯ ระบบปฏิบัติการที่เลือกใช้ Desktop เลือก Windows แต่ถ้าเป็น Server/Network เลือกเฉพาะ Debian GNU/Linux เท่านั้น
ความหมายของโปรแกรม AppServ AppServ คือโปรแกรมที่รวบรวมเอา Open Source Software หลายๆ อย่างมารวมกัน โดยมี Package หลักดังนี้ - Apache - PHP - MySQL - phpMyAdmin โปรแกรมต่างๆ ที่นำมารวบรวมไว้ทั้งหมดนี้ ได้ทำการดาวน์โหลดจาก Official Release ทั้งสิ้น โดยตัว AppServ จึงให้ความสำคัญว่าทุกสิ่งทุกอย่างจะต้องให้เหมือนกับต้นฉบับ เราจึงไม่ได้ตัดทอนหรือเพิ่มเติมอะไรที่แปลกไปกว่า Official Release แต่อย่างได้ เพียงแต่มีบางส่วนเท่านั้นที่เราได้เพิ่มประสิทธิภาพการติดตั้งให้สอดคล้องกับการทำงานแต่ละคน โดยที่การเพิ่มประสิทธิภาพนี้ไม่ได้ไปยุ่ง ในส่วนของ Original Package เลยแม้แต่น้อยเพียงแต่เป็นการกำหนดค่า Config เท่านั้น เช่น Apache ก็จะเป็นในส่วนของ httpd.conf, PHP ก็จะเป็นในส่วนของ php.ini, MySQL ก็จะเป็นในส่วนของ my.ini ดังนั้นเราจึงรับประกันได้ว่าโปรแกรม AppServ สามารถทำงานและความเสถียรของระบบ ได้เหมือนกับ Official Release ทั้งหมด จุดประสงค์หลักของการรวมรวบ Open Source Software เหล่านี้เพื่อทำให้การติดตั้งโปรแกรมต่างๆ ที่ได้กล่าวมาให้ง่ายขึ้น เพื่อลดขั้นตอนการติดตั้งที่แสนจะยุ่งยากและใช้เวลานาน โดยผู้ใช้งานเพียงดับเบิ้ลคลิก setup ภายในเวลา 1 นาที ทุกอย่างก็ติดตั้งเสร็จสมบูรณ์ระบบต่างๆ ก็พร้อมที่จะทำงานได้ทันทีทั้ง Web Server, Database Server เหตุผลนี้จึงเป็นเหตุผลหลักที่หลายๆ คนทั่วโลก ได้เลือกใช้โปรแกรม AppServ แทนการที่จะต้องมาติดตั้งโปรแกรมต่างๆ ที่ละส่วน ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่ความชำนาญในการติดตั้ง Apache, PHP, MySQL ก็ไม่ได้เป็นเรื่องง่ายเสมอไป เนื่องจากการติดตั้งโปรแกรมที่แยกส่วนเหล่านี้ให้มารวมเป็นชิ้นอันเดียวกัน ก็ใช้เวลาค่อนข้างมากพอสมควร แม้แต่ตัวผู้พัฒนา AppServ เอง ก่อนที่จะ Release แต่ละเวอร์ชั่นให้ดาวน์โหลด ต้องใช้ระยะเวลาในการติดตั้งไม่น้อยกว่า 2 ชั่วโมง เพื่อทดสอบความถูกต้องของระบบ ดังนั้นจึงจะเห็นว่าเราเองนั้นเป็นมือใหม่หรือมือเก่า ย่อมไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะติดตั้ง Apache, PHP, MySQL ในพริบตาเดียว มีบางคำถามที่พบบ่อยว่า AppServ สามารถนำไปเป็น Web Server หรือ Database Server ได้ทันทีหรือไม่ ข้อนี้ต้องตอบว่าได้แน่นอน 100% แต่ทางผู้พัฒนาเองขอแนะนำว่า ระบบจัดการ Memory และ CPU บน Windows ที่ทำงานเกี่ยวกับ Web Server หรือ Database Server ไม่เหมาะกับการใช้งานหนักๆ เป็นอย่างยิ่ง เพราะ Windows นั้นจะกลืนกินทรัพยากรอันมหาศาล และหากเทียบอัตรารองรับระบบงานกับ OS ตัวอื่นเช่น Linux/Unix จะยิ่งเห็นได้ชัดว่า OS ที่ป็น Windows ที่มีขนาด Memory และ CPU ที่เท่าๆ กัน OS ที่เป็น Linux/Unix นั้น จะรองรับงานได้น้อยกว่ามากพอสมควร เช่น Windows รับได้ 1000 คนพร้อมๆ กัน แต่ Linux/Unix อาจรับได้ถึง 5000 พร้อมๆกัน หากท่านต้องทำงานหนักๆ ทางผู้พัฒนาแนะนำให้เลือกใช้ Linux/Unix OS จึงจะเหมาะสมกว่า
ข้อแตกต่างของ AppServ ในแต่ละเวอร์ชั่น AppServ ได้แบ่งเวอร์ชั่นออกเป็น 2 ส่วนด้วยกัน คือ 2.5.x คือเวอร์ชั่นที่นำ Package ใหม่ๆ นำมาใช้งานโดยเฉพาะ เหมาะสำหรับนักพัฒนาที่ต้องการระบบใหม่ๆ หรือต้องการทดสอบ ทดลองใช้งานฟังก์ชั่นใหม่ ซึ่งอาจจะไม่ได้ความเสถียรของระบบได้ 100% เนื่องจากว่า Package จากนักพัฒนานั้นยังอยู่ในช่วงของขั้นทดสอบ ทดลองเพื่อหาข้อผิดพลาดอยู่ 2.4.x คือเวอร์ชั่นที่นำ Package ที่มีความเสถียรเป็นหลัก เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความมั่นคงของระบบ โดยไม่ได้มุ่งเน้นที่จะใช้ฟังก์ชั่นใหม่
คำแนะนำในการเลือกใช้งาน AppServ เราขอแนะนำว่าท่านที่ติดตั้ง AppServ ไม่จำเป็นต้องใช้เวอร์ชั่นใหม่เสมอไป แต่ถึงอย่างไรก็ดี ทางผู้พัฒนาเองอยากจะให้ผู้ใช้งานได้ทดสอบ ทดลองเวอร์ชั่นใหม่ทุกครั้งที่มีการแจกจ่าย เพื่อช่วยในการตรวจสอบปัญหาหรือข้อผิดพลาด ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อตัวผู้พัฒนาเอง และผู้ใช้คนอื่นๆ ที่จะได้ใช้งานระบบมีข้อผิดพลาดที่น้อยที่สุด สำหรับผู้ที่ใช้งานระบบที่ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงมาก หรือไม่ได้ต้องการสิ่งใหม่ๆ แต่ต้องการความเสถียรเป็นหลัก ในการเลือกใช้ AppServ ให้ท่านเลือกใช้เวอร์ชั่นที่เหมาะสมกับระบบงานของท่าน เช่น หากท่านใช้เวอร์ชั่น 1.8.0 ได้อย่างไม่มีปัญหา ท่านก็ไม่จำเป็นต้องอัพเกรดเวอร์ชั่นให้ใหม่อยู่เสมอ เพื่อที่จะให้การทำงานของระบบท่าน เป็นไปได้อย่างราบรื่น
บทความโดย : ภาณุพงศ์ ปัญญาดี Copyright © by AppServNetwork All Right Reserved.
--------------------------------
ด้านบนนั้นเป็นความหมายของเจ้าโปรแกรม Appserv ครับ แต่ถ้าขี้เกียจอ่านเพราะมันเยอะ ก็ให้เข้าใจไว้ว่าเราจะเอาไอ้ตัวนี้แหละ มา Complie ไฟล์ .php ของเราให้มันแสดงผลนะครับ การใช้งานนั้นก็ง่ายมากครับ เมื่อติดตั้งเสร็จเรียบร้อย path ของโปรแกรม ปกติมันจะอยู่ที่ C:/AppServ ครับ ต่อไปนี้คือวิธี complie file php ของเราก่อนอื่นเลยเราต้องสร้าง file php ขึ้นมาสักไฟล์หนึ่งก่อน source code ตามด้านล่างนะ
เขียนในโปรแกรม notepad ก่อนก็ได้ แล้ว save เป็น ชื่อไฟล์ .php โดยผมจะลอง save เป็น test.php ครับ save ไฟล์ดังกล่าวไว้ที่ C:/AppServ/www/ นะครับ แล้วลอง run ดู ครับ วิธี run ก็ง่ายๆครับ เปิด IE ขึ้นมาแล้วพิมพ์ url address ดังนี้ครับ //localhost/test.php ผลลัพท์ที่ได้ จะต้องเป็น
ถ้าขึ้นแบบนี้ก็แสดงว่าใช้ได้แล้วครับ แค่นี้เครื่องเราก็จะมาสามารถ run file php ได้แล้ว ^o^
!! เพื่อนๆลอง เล่นกันดูนะครับ Download AppServ วิธีการติดตั้ง AppServ
อันนี้แถมครับ จะได้หาง่ายๆ เน้ออ^^
Create Date : 24 มิถุนายน 2552 |
| |
|
Last Update : 27 มิถุนายน 2552 9:46:35 น. |
| |
Counter : 690 Pageviews. |
| |
|
|
|
| |
|
|
ลิ่วหลาง |
|
|
|
|