giffa สวัสดีค่ะ ยินดีต้อนรับทุกคนค่ะ
Group Blog
 
All blogs
 

รีวิวโคลนมาส์คหน้าสำหีับผิวมัน ไทยVS เกาหลีใครเจ๋งกว่ากัน




สวัสดีค่ะ กิ๊บนะคะ วันนี้จะมารีวิวเอาใจสาวผิวมันกัน ตัวกิ๊บเองนี่แหละค่ะที่เป็นหนึ่งในสาวผิวมัน

มันเกินกว่าคำว่าดิวอี้ไปไกล มองมุนไหนก็เยิ้มมมม

รีวิวนี้เป็นรีวิวมาร์คถือว่าเป็นสกินแคร์เสริมตัวนึงสำหรับสาวๆเนาะ เพราะงั้นขอบอกสภาพผิวก่อนเพื่อจะเข้าใจถึงผลลัพธ์การรีวิวมากขึ้นนะคะ ผิวแบบอื่นก็จะได้ผลลัพธ์ที่ต่างกันไป แม้ผิวแบบกันก็ใช่ว่าจะเหมือนกันทั้งหมดเนาะ 
ผิว ผสมถึงมัน และบางวันมันมาก รูขุมขนกว้างบริข้างจมูก มีหลุมสิวเล็กน้อย
รอยดำแดงจากสิวพอควร และมีสิวผด ผิวอักเสบนิดหน่อย




นี่คือหนังหน้า เอ้ยย ผิวหน้าสดใสในยามเช้า ไม่ใช่จานดาวเทียมบ้านใครนะ กลมแท้
ทู้นี้เป็นการพลีชีพเบาๆด้วยการถ่ายหน้าตรงแบบจะๆ หลายๆรูป ปกติฮาวทูจะหน้าตรงแค่รูปเดียว หรือแอบเอียงบ้าง แอบอายนะเนี้ยะ

มาดูโคลนที่เราจำใช้ในกระทู้นี้กันเลยค่ะ เริ่มที่ฝั่งเกาหลีก่อน เพราะคุ้นหน้ากันดี

Innisfree Super Volcanic Pore Clay Mask คงคุ้นหน้าคุ้นตากันดีเนาะ
กิ๊บได้แถมตอนสมัครสมาชิค คุณสมบัติลดความมัน กระชับรูขุมขน
ต่อที่โคลนไทยกันบ้าง

สบันงา โวคานิค เคลย์มาส์ค ราคา 25 บาท ช่วยคุมความมัน และผลัดเซลล์ผิว


เนื้อของอินนิสฟรีจะเป็นโคลนมาส์คเนื่อครีมข้นแน่นๆเหมือนดินเหนียว สีเทา มีกลิ่นนิดๆไม่ฉุน กลิ่นธรรมชาติๆเบาๆ
ส่วนสบันงา จะเป็นผงต้องผสมน้ำก่อนทาค่ะ ค่อยๆใสน่ำทีละนิด ให้ได้ความข้นที่ทาหน้าได้ค่ะ จะมีกลิ่นหอมๆหวานๆ แต่เราไม่ค่อยชอบเครื่องสำอางกลิ่นน้ำหอมค่ะ 

ระหว่างนี้ซ้อมทำหน้านึ่งๆไปด้วย


เพื่อไม่เสียเวลาล้างหน้าซับให้แห้งแล้วทาเลยค่ะ อันนี้แบ่งครึ่งๆเนาะ
จะเห็นว่าตอนทาสีสบันงาเข้มกว่า ตอนทาจะรู้สึกร้อนวูบๆ สลับเย็นๆนิดๆ บอกไม่ถูกจะร้อนหรือเย็นดี แต่ไม่นานก็หาย อินนิสฟรีจะหายวูบๆเร็วกว่า ทั้งสองตัวเกลี่ยไม่ยากค่ะ แต่สบันงาด้วยความที่เป็นผงแล้วผสมน้ำจึงเหลวทาง่ายกว่าค่ะ 
ระหว่างนี้เราก็ทำตัวหยิ่งๆไปค่ะ ใครทักใครทายก็ไม่ตอบ 



ตัวกิ๊บนั้นก็ไปรดน้ำต้นไม้ค่ะ ไม่ต้องพูดกันให้เมื่อยหน้า 
แต่เดชะกรรมที่ทำไว้รถข้ายขนมก็ดันขึ้นมาขายที่บ้าน(หลังจากพอกผ่านไปซัก 10 กว่านาที)
ลืมบอกว่ารดน้ำต้นไม้หน้าบ้าน (ด้วยสภาพแบบนี้ นี่นะ) ค่ะ 
วินาทีนั้น ซวยแล้ว ซวยแล้ว ไม่อยากจะพูดแต่ก็ต้องพูด อร้ายย หน้าชั้นแตกหมดละสิ
 ซื้อเสร็จใจเราอยากให้รีบๆได้แล้วโว้ย ไป ไป ไปขายต่อไป ชวนชั้นคุยอยู่ได้ 
โธ่ๆอุส่าไม่ขยับหน้าตั้งนาน
เห้อออ หน้าแตกเลยในด้านฝั่งไทย หักคะแนนความเป็นภัยต่อรอยเหี่ยวย่นบนหน้า
ได้แต่ยิ้มรับทั้งที่ในใจปวดร้าว ฮื่อๆ


และแล้วก็ผ่าน 30 นาทีมาอย่างทุลักทุเล
จริงจะทาแค่ 20 นาทีแต่เพลินไปหน่อย สองตัวนี้ก็ล้างไม่ยาก ฝั่งไทยจะล้างง่ายกว่า ฝั่งเกาหลีต้องวนๆนิดนึงก่อน 
ล้างเสร็จก็ไม่แห้งตึงทั้งสองด้าน สำหรับผิวมันเลเวลเรานะ มองภาพรวมไม่ต่างกันค่ะ ในด้านความชุ่มชื่นอิรนิสฟรีชุ่มชื่นกว่าค่ะ


ลองเอามาเปรียบเทียบแบบซูมๆ มันก็เห็นความแตกต่างยากอะนะ เรียกว่าเป็นความรู้สึกซะมากกว่าอะ การกระชับรูขุมขนเราว่าใช้ในครั้งเดียวมันไม่เห็นผลขนาดนั้นค่ะ ต่อให้ใช้ต่อเนื่องเรายังไม่ค่อยเชื่อเลย ฮ่าๆ แต่อันนี้ก็ดูเล็กลงจากผิวมันน้อยลง ผิวดูสะอาดขึ้น เลยมองว่าผิวกระชับขึ้นไปด้วย

ปล.พยายามจะภ่ายมุมเดียวๆกันนะคะ แต่กล้องเราจอมันหันไม่ได้ตอนถ่ายเลยไม่เห็น


ต่อไปเรามาพิสูจน์ความมันโดยการทาแป้งแล้วใช้ชีวิตไปตามปกติค่ะ



และแล้วก็ผ่านไป 6 ชม. ความมันก็มาเยือนจนต้องหลั่งน้ำตา
หน้าเราปกติก็มันมากอยู่แล้วค่ะ ป้าลอที่ว่าแน่ๆยังยกธงขาวไม่กล้าสู้หน้ากิ๊บอีกเลย
ใช้ตัวย่อ n และ s แทนนะคะ ความขี้เกียจมาเยือน


เราจะวัดความมันด้วยสายตาก็กระไรอยู่ ใช้กระดาษซับมันแล้วกันเนาะ
แปะๆมันลงไป








และนี่คือผลความมันที่ออกมาจากหน้า ใช้แค่ข้างละแผ่นนะคะ
สลับตำแหน่งวางซ้ายขวาให้ดูเฉยๆ เพื่อเป็นที่แสง
ดูจอกผลค่อนข้างชัดเราะเรื่องควบคุมความมัน

สรุปที่ละอย่างแล้วกันเนาะ

การใช้งานง่ายกกให้ อินนิสฟรีชนะคะ เปิดมาก็ป้ายได้เลย
กลิ่น ก็ยกให้อินนิสฟรี
เป็นมิตรต่อรอยตีนกา ยกให้อินนิสฟรีอีกเช่นกันค่ะ ขยับหน้าได้หน้าไม่แตกค่ะ
ล้างออกง่าย ยกให้สบันงาค่ะ แค่โดนน้ำก็ละลายแล้ว
ความชุ่มชื่นให้ อินนิสฟรีค่ะ แต่จริงๆมันก็ไม่ได้ต่างกันมากนะ นิดนึงอะนิดนึง
กระชับรูขุมขน อินนิสฟรี หลังจากการเพ่งอย่างบ้าครั้ง
ควบคุมความมัน สบันงา ชนะใสๆเลยค่ะ
ราคา สบันงา ราคาสบายกระเป๋ามากมายกดไลค์เลย

จบแล้วคร่า หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆโดยเฉพาะสาวผิวมันนะคะ มาส์คไว้ก่อนแต่งหน้าช่วยควบคุมความมันระหว่างได้อีกทางหนึ่งค่ะ
สรุปแบบสั้นๆอีกนิดเนาะ อินนิสฟรีเหมาะกับผิวมันไม่มาก ส่วนสบันงาเหมาะกับคนผิวมันมาก ต้องการควบคุมความมันระหว่างวันค่ะ

สำหรับกิ๊บใช้ได้ทั้งสองตัวค่ะ ถึงสบันงาจะให้ความชุ่มชื่นไม่เท่าแต่เราก็บำรุงกันทางอื่นด้วยอยู่แล้วเนาะ อย่าลืมของไทยๆกันนะคะ กิ๊บมีมาส์คหน้าไทยๆอีกหลายตัวเลยค่ะไว้จะมาแบ่งปันประสบการณ์ใช้ใหม่นะคะ วันนี้ลาไปก่อนค่ะ เลือกใช้ให้เหมาะกับผิว มีผิวสวยใสกันทุกคนนะค้าาา

สวัสดีค่ะ




 

Create Date : 24 กุมภาพันธ์ 2559    
Last Update : 26 มิถุนายน 2560 9:34:38 น.
Counter : 1467 Pageviews.  

รีวิวเกลือขัดผิว

รีวิวเกลือขัดผิว ผิวจะใสได้ไงถ้าขี้ไคลยังอยู

สวัสดีค่ะ เพื่อนๆทุกคน วันนี้สิ่งที่หยิบมารีวิวคือเกลือขัดผิวนั้นเอง

เพื่อนๆหลายคนคงใช้เกลือในการขัดผิวกันบ้างอยู่แล้วเนาะใครมียี่ห้อไหนมาแนะนำกันบ้างนะคะ

ส่วนกิ๊บใช้สลับๆกับไปจะได้ไม่เบื่อ ว่าแล้วก็ขอโชว์


ปล.1ผลการใช้เป็นการวัดผลจากความชอบ ความพอใจของกิ๊บคนเดียวคนอื่นอาจชอบไม่เหมือนกันนะคะ

มาเริ่มที่ตัวแรกแบรนด์อิตก่อนเลยนั้นคือ YOKOเห็นหลายๆคนชอบ


Yoko Tamarind SpaSalt

ราคา 28 บาท ปริมาณ 300 กรัม

Brand : เกลือขัดผิวมะขามสปา ใช้สำหรับขัดผิวให้ขาวขึ้นส่วนผสมของไวตามินอี,มะขาม และคุณสมบัติของเกลือซึ่งช่วยในการขัดผิวและขจัดเซลล์ที่ตายให้หลุดออกและยังให้ผิวชุ่มชื่นและช่วยให้ผิวคุณขาวขึ้นและนุ่มเนียน

Me : เม็ดเกลือละเอียด สีเม็ดเกลือสีน้ำตาลใสๆ ส่วนกลิ่นส่วนตัวชอบกลิ่นหอมแต่ไม่เหมือนมะขามเปียกนะออกแนวลูกอมมะขามมากกว่าไม่แน่ใจว่าตอนนี้ยังมีขายรึเปล่า แต่หอมดี ความรู้สึกเมื่อใช้ ด้วยความที่เกลือเม็ดค่อนล้างละเอียดเม็ดเกลือไม่ถึงกับแห้งร่วน มีความชื้นอยู่หน่อยๆ แต่ตอนใช้ก็ควรให้ตัวเปียกหมาดๆก่อนถึงเม็ดเกลือจะเล็กแต่กิ๊บรู้สึกว่ามันบาดผิวนิดๆ งงม๊ะคือถูๆแล้วมันไม่เจ็บแต่รู้สึกบาดถ้าถูแรง รู้สึกว่าเม็ดเกลือมันคมคืออาจเป็นเรารู้สึกคนเดียวคนอื่นเค้าว่าดี ส่วนถุงเกลือเป็นแบบถุงซิปล็อคเหมือนจะดีนะ แต่พอใช้จริงมันไม่ดีเหมือนที่คิด เวลาใช้ต้องเทออกมาแล้วเกลือมันก็จะไปติดกับปากถุง เวลากดปิดมันล็อคยากมากปกติก็เลยไม่ค่อยได้ปิดหรอก ไม่ปลื้มบรรจุภัณฑ์อย่างแรงเลย

ผลลัพธ์ : ตัวนี้บอกตามตรงว่าคาดหวังเพราะอ่านรีวิวเค้าว่าดี(ฉะนั้นรีวิวนี้ก็เป็นแค่อีกรีวิวหนึ่ง) แต่ส่วนตัวใช้แล้วไม่ปลื้มเท่าไหร่นะ ชอบที่กลิ่นมากสุดหลังขัดผิวจะลื่นๆไม่แห้ง เหมือนได้บำรุงไปด้วยนิดหน่อย ส่วนความสะอาดก็เฉยๆไม่ได้สะอาดจนรู้สึกได้ แบบเบาสบายตัวอะไรแบบนั้นรู้สึกตัวยังหนืดๆอยู่ยังมีขี้ไคลออกไม่หมดอาจเพราะเราเหงื่อออกเยอะกว่าคนอื่นด้วย* เกลือตัวนี้สำหรับคนทั่วไปอาจเอาอยู่ ความใสก็เหมือนผิวหลังอาบน้ำขัดขี้ไคลออกก็รู้สึกว่าใสขึ้นนิดๆแบบได้ชำระฝุ่นละอองออก

*ปล.2 เหงื่อออกเยอะเพราะกิ๊บทำส่วนค่ะ ผงๆติดติดตัวเยอะด้วยเพราะฉะนั้นรีวิวนี้ถ้ากิ๊บรู้สึกว่ายังขัดขี้ไคลไม่ออกหรือออกไม่หมดคนอื่นอย่างเช่นคนทำงานห้องแอร์อาจจะขัดออกได้สะอาดก็ได้ค่ะเรียนมาเพื่อเพิ่มเติมความเข้าใจ ^^

ต่อตัวที่สองเลยค่ะ


Yoko Yogurt Spa Milk Salt

ราคา จำไม่ได้ ซื้อมา 1 แถม 1 30กว่าบาทมั้ง ปริมาณ 300 กรัม

Brand : เกลือสปาขัดผิวสูตรน้ำนมผสมโยเกิร์ตอุดมด้วยคุณค่านมสารสกัดและวิตามินที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่า พร้อมเผยผิวใหม่ให้ขาวขึ้นอย่างเห็นได้ชัดถนอมผิวคุณให้ดูสดใสเนียนนุ่นน่าสัมผัส ด้วยคุณค่า 4 การบำรุงสารสกัดจากโยเกิร์ต วิตามินบี3 คอลลาเจน วิตตมินอี

Me : ตัวนี้ไม่ขออธิบายมากเนาะ คือเหมือนกับตัวบนแต่เปลี่ยนสีเปลี่ยนกลิ่น ตัวนี้กลิ่นออกแนวหอมเปรี้ยวๆหวานๆ

ผลลัพธ์ก็เหมือนกัน ตัวนี้บางทีเราก็เอาโยเกิร์ตมาผสมด้วยซะเลยใส่มะนาว น้ำผึ้งอีกนิด ขัดพอกๆบำรุงผิวไปทีเดียว

ส่วนตัวมะขามถ้าขยันเราก็เอามะขามเปียกผสมขัดแล้วรู้สึกใสกว่าแค่เกลือ

ตัวต่อมาเป็นของ A Bonne’ กันบ้าง


A Bonne’ Spa Yogurt Salt

ราคา 31 บาท , 350 กรัม

Brand : เผยเคล็ดลับการอาบน้ำอีกหนึ่งวิธีง่ายๆ ในแบบโอม สปาด้วยเกลือขัดผิวสูตรละเอียด สำหรับผิวบอบบาง ด้วยคุณค่า Micro Salt เกลือธรรมชาติเม็ดเล็กละเอียด ที่คัดสรรเป็นพิเศษ ช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่าอย่างทะนุถนอมไม่ละคายเคืองผิวและเผยผิวใหม่ให้สดใสเปล่งปลั่ง ผสมผสานอาหารบำรุงผิว MilkProtein และDermawhite ซึ่งเปี่ยมคุณค่าในการบำรุงและถนอมผิวพรรณให้ขาวเนียนนุ่ม พร้อมคุณค่าสารสกัดจาก Multi Fruit Yogurt สกัดเข้มข้นมาเป็นAHA ธรรมชาติ ช่วยเร่งการผลัดเซลล์ผิวใหม่ ให้ขาวใส สุขภาพดี เนียนนุ่ม

Me : เม็ดเกลือละเอียดพอๆกับโยโกะแต่เป็นสีขุ่นๆไม่ใส สีขาวกลิ่นเหมือนนมเปรี้ยวผลไม้รวมตัวเม็ดเกลือจะแห้งต้องขัดตอนผิวเปียกๆ หรือผสมอื่นๆขัดตัวนี้รู้สึกชอบมากกว่าโยโกะเม็ดพอๆกันแต่รู้สึกไม่บาดผิว เม็ดเกลือไม่คมที่ชอบอีกอย่างคือการใช้ง่ายทำหัวเปิดเหมือนเจเล่ดูดๆ เทออกมาใช้ง่ายเก็บก็ง่ายน้ำเข้าไม่ชื้นอาจมีเม็ดเกลือเปียกๆที่ปากจุกก็เคาะๆก็ออกแล้ว

ผลลัพธ์ : ขัดแล้วผิวลื่นๆนุ่มๆเหมือนกัน แต่ลื่นน้อยกว่าโยโกะเรื่องความสะอาดก็ผ่านแบบธรรมดา สำหรับคนเหงื่อออกเยอะแบบเรายังรู้สึกไม่สะอาดพอยังหนืดๆผิวอยู่


A Bonne’ Spa White C Salt

ตัวนี้ไม่ได้อยู่ในรูปรวมเนาะ มันอยู่ในห้องน้ำที่หอ

ราคา จำไม่ได้ ซื้อมาตอน 1 แถม 1 จากวัตสัน อีกอันซื้อสูตรนมใช้หมดไปแล้ว,ปริมาณ 350 กรัม

Brand : ลืมถ่ายไว้ค่ะ ขออภัยไว้ ณ ที่นี้

ME : เม็ดเกลือเหมือนตัวบนเลยค่ะ แค่เปลี่ยนสูตรตัวนี้เป็นกลิ่นออกเปรี้ยวๆ ขัดแล้วไม่ต่างกันมากแต่รู้สึกว่าสูตรนี้เม็ดเกลือจะหยาบกว่านิดหน่อย เหมือนสูตรโยเกิร์ตจะอ่อนโยนกว่าถ้าคนผิวบอบบางแนะนำสูตรโยเกิร์ตค่ะ

ตัวต่อไป


Agila Spa Whitening Salt Milky Body Scrub

ราคา 30+ บาท จำแน่ๆไม่ได้ ปริมาณ 300 กรัม

Brand : เกลือสปาขัดผิวให้ขาวเนียนมีส่วนผสมของครีมอาบน้ำและมอยเจอร์ไรเซอร์ช่วยบำรุงผิว กลิ่นหอมของสารสกัดผลไม้ AHAทำให้สดชื่นผ่อนคลายความตึงเครียด

Me : ตัวนี้เป็นเกลือขัดผิวแบบเปียก ใช้เป็นครีมอาบน้ำไปเลยก็ได้เนื้อเป็นเกลือข้นๆเม็ดขาวใส กลิ่นหอมมาก มากจริงๆ เป็นกลิ่นนมที่ไม่ใช่นมกล่องอะเหมือนขนมเวเฟอร์รสนม ขัดไปวนไปก็หอมตัวเองมากหอมหวานจนคิดว่ามันเป็นเกลือที่หวานรึเปล่านะ จนต้องพิสูจน์ ฮ่าๆมันก็เค็มแหละเอะหรือว่าเพราะขี้ไคลเราตอนขัดก็นุ่มๆเพราะเกลือมันเปียกแต่เม็ดก็ไม่ได้ละเอียดกว่าอันอื่นนะถ้าขัดจนแห้งๆก็เจ็บเหมือนกัน ซองเป็นแบบซิปล็อค ซึ่งเราไม่ชอบ มันปิดไม่ได้ตัวนี้เป็นเกลือแบบเปียกยิ่งปิดไม่ได้เลยแต่ไม่ต้องกลัวชื้นเพราะมันเปียกอยู่แล้วแต่กลัวหกแทน

ผลลัพธ์ : ผิวนุ่มลื่นไม่ค่อยจากจากตัวอื่นนะ เอาจริงๆเกลือขัดผิวหลายตัวมันคล้ายๆกันหมดเลือกใช้เพราะกลิ่นมากกว่า ซึ่งกลิ่นนี้เราชอบมาก ใช้งานง่ายเพราะมันมาแบบเปียกความใสก็ไม่ได้ชัดเจนอะไรแต่ความสะอาดรู้สึกสะอาดกว่าหรือเพราะว่ามันเป็นแบบครีมทำให้เกลือเกาะผิวได้ดี ทำให้ขัดได้สะอาดกว่าด้วย


Legano Spa Salt Body Scrub Milk Hokkaido &Charcoal

ราคา 39บาท ปริมาณ 250 กรัม

Brand : ด้วยคุณสมบัติของถ่านไม้ไผ่ ช่วยดูดซับสิ่งสกปรกที่อุดตันตามรูขุมขนให้หลุดออกอย่างอ่อนโยน ช่วยลดแบคทีเรียตามผิวหนังพร้อมกระชับผิวให้เต่งตึงเนียนใส ไม่แห้งกร้าน

Me : อ่านคุณสมบัติแล้วตรงกับที่ต้องการเลยคว้ามา เม็ดเกลือละเอียดมากๆอยู่ในเนื้อครีมนุ่มๆสีดำเทากลิ่นหอมฉุนแบบน้ำหอมเราไม่ค่อยชอบตรงกลิ่นนี่แหละ เม็ดเกลือขัดแล้วไม่เจ็บผิวเลยแทบไม่รู้สึก หรือหนังเอ้ยผิวเราหนา เป็นแบบกระปุกเวลาใช้ก็ควักๆเอา ใช้คนเดียวขัดคนเดียว ขี้ไคลตัวเองคงไม่เป็นไรเนาะ

ผลลัพธ์ : ขัดแล้วผิวก็สะอาดขึ้นระดับนึงนะรู้สึกขี้ไคลออกถึงจะไม่หมดก็เถอะตัวนี้ถือว่าชอบ แต่เกลียดกลิ่น ผิวนุ่นสื่นไม่เท่าตัวบน แต่ก็ไม่ทำให้ผิวแห้งนุ่นขึ้นแบบนิดนึง

ตัวสุดท้ายแล้วววว


โคลนขมิ้นขัดผิว

ราคา 165 บาท ปริมาณ 350 กรัม

Brand : ขัดผิวหน้าและผิวกายให้ขาวขึ้น เนียนขึ้น สะอาดขึ้น ผิวพรรณงามขาวผุดผ่อง มีน้ำมีนวล จขัดกลิ่นตัว กลิ่นใต้รักแร้ได้เด็ดขาดขัดผิวที่หยาบกร้านตามแขน ขา ศอก ส้นเท้า มือให้สะอาด ขาวเนียนนุ่ม ใส เนียน

Me : ความรู้สึกแรกเลยคือแพง ฮ่าๆ เม็ดเกลืออยู่ในโคลนสมุนไพร สีเหลืองกลิ่นสมุนไพรชัดเจน คือได่กลิ่นแล้วรู้เลย กลิ่นขมิ้น กลิ่นไพรนี่มาเลยกลิ่นเย็นๆของพิมเสนก็ตามมาสมทบ แต่เราชอบนะ ใครที่ไม่ชอบกลิ่นสมุนไพรคงไม่ชอบบรรจุภัณฑ์ก็ดูก๊องแก๊งอะ ไม่สมราคาเลย ใช้ยากนะ เพราะเป็นเนื้อโคลนแบบแข็งๆไม่นิ่มแบบครีมอาบน้ำ เกลือเม็ดใหญ่ ขัดแล้วเจ็บนะ ยิ่งตามข้อพับเนื้อบางๆขัดแรงไม่ได้นะนี่ยังงงที่กล้ามาก กล้าเขียนว่าขัดหน้า โหขืนขัดไปคงหน้าแหกถลอกไปถึงผิวชั้นใน

ผลลัพธ์ : ด้วยคุณค่าของสมุนไพรค่ะคุณขา ต้องยอมรับว่ามันดีจริงๆ ขัดได้สะอาดดีรู้สึกเลยว่าขี้ไคลหลุด หลังที่เหงือออกมากๆขัดแล้วก็รู้สึกไม่เหนียวตัวเลยแต่เกลือมันหยาบจริง เจ็บจริง เหมาะแก่ตรงที่ผิวหยาบๆแบบแขน ขา เข่า ศอก หลัง เท้าแต่แถวๆตัว แถวข้อพับนี่ต้องเบาๆมือ เตือนเลย การขัดคราบไคลตัวนี้มาวินมากแต่เรื่องผิวนุ่มนี่ตัวนี้แพ้หลุดเลย หลังขัดผิวไม่นุ่นขึ้นแค่ลื่นๆเพราะสะอาดแถมเหลืองๆติดนิดหน่อยอีกต่างหาก แย่จัง

จบแล้วคร้า รีวิวเกลือขัดผิวที่มีอยู่ตอนนี้ แต่ละตัวคุณสมบัติต่างกันขอให้เพื่อนๆเลือกตามความต้องการของผิวแต่ละคนด้วยนะคะ ผิวบอบบางใช้แรงๆจะแย่เอานะส่วนกิ๊บนอกจากเรื่องความสะอาดแล้วต่อมาก็เลือกกลิ่นนี่แหละเพราะถ้ากลิ่นที่ชอบเวลาเราอาบน้ำเราก็จะรู้สึกผ่อนคลายเวลาขัดก็นวดๆเน้นขาเพราะเดินเยอะลดการบวมให้ขาเรียวนอกจากได้ชำระคราบเหงื่อไคลออกแล้วยังได้ชำระความเหนื่อยล้าความตึงเครียดออกด้วยนะ

โชว์สีผิว ขัดขนาดนี้ผิวคงขาวผ่องสินะ ผิดจร้าผิวแทนจร้าใช้คำว่าผิวสองสีดูจะเข้ากว่าเนาะจินตนาการถึงสาวผิวแทนทีไรนึกภาพถึงสาวเซ็กซี่หรือไม่ก็สวยคมขึ้นมาทุกที แต่ที่เป็นมันไม่ใช่สินะทำไมให้ผิวสีแทนเรามาไม่ให้หน้าสวยคมเรามาด้วยนะ ชิ


ถึงเราจะผิวสองสีหรือผิวคล้ำแต่เราก็สะอาดนะ ผิวสีไหนก็ใส สุขภาพดีได้นะคะ

ปล.3การขัดผิวไม่สามารถทำให้สีผิวเปลี่ยนได้ เพียงแค่ผิวสะอาดใสขึ้นครีมบำรุงได้ดีขึ้น ผิวจึงดูขาวใสขึ้นได้บ้าง

วันนี้ลาไปก่อนแล้วค่ะ สวัสดีค่ะ




 

Create Date : 13 กุมภาพันธ์ 2559    
Last Update : 13 กุมภาพันธ์ 2559 12:09:05 น.
Counter : 3535 Pageviews.  

รีวิวลิปแคร์8ตัวในรอบครองและการดูแลแก้ปากคล้ำ

สวัสดีคร่า วันนี้รีวิวเกี่ยวกับปากๆนะคะ ไม่ใช่ปากดีปากเสียหรือปากร้ายนะคะ แต่เป็นริมฝีปากค่ะ

แน่นอนว่าใครๆก็อยากมีปากสีอ่อนๆปากอมชมพูเนาะทาลิปสติกสีอะไรก็สวย

กิ๊บเองเมื่อก่อนก็มีสีปากคล้ำมากเลย แถมปากแห้งง่ายด้วยกลางๆเดือนก็เริ่มปากแห้งละ ฮ่าๆๆ

เข้าเรื่องเลยดีกว่า

ภาพรวมทุกตัวที่ใช้อยู่ตอนนี้ค่ะ ไม่ต้องสงสัยนะคะ มีอยู่ปากเดียวเท่ากับคนอื่นนี่แหละค่ะ

ก่อนรีวิวลิปที่ใช้ปัจจุบันก็เล่าถึงการแก้ปัญหาปากคล้ำก่อนเนาะ ใครไม่มีปัญหานี้ข้ามไปอ่านรีวิวด้านล้างได้เลยค่ะ

ปล.1 ปัจจุบันสีปากไม่ได้ขาวอมชมพูนะคะ ก็เป็นคนผิวสองสีเนาะแต่ดีขึ้นมากไม่ดำคล้ำเด่นแบบเมื่อก่อน

เนื่องด้วยตัวกิ๊บเองตอนเด็กๆผิวสองสีเข้มมากๆๆดำเลยแหละปากก็ดำเป็นปกติ แต่พอเราขึ้นม.ปลายก็ดูแลตัวเองผิวดำน้อยลง(แค่ดำน้อยลงไม่ขาวนะคะ) แต่ปากนี้สิไม่หายดำแถมเด่นชัดเลย (คือดูแลแต่ผิว ลืมปาก)

ปากดำจริงๆไม่ได้คิดไปเองนะ ดำแบบเพื่อนผู้ชายทัก มุงสูบบุหรี่เหรอวะดำกว่ากรูอีก และอีกสารพัดคำถากถาง เจ็บค่ะเจ็บ (ในใจนี่ไอ อ้ เช รี้ ยย !! มุงพูดกับกรูถนอมน้ำใจหน่อยได้ไหมกรูก็ผู้หญิงจิตใจบอบบางคนนึงนะเว้ย ถึงจะมองไม่เหมือนอย่างนั้นก็เถอะ)

เหมือนมีเสียงเอคโคดังอยู่ในหู ชั้นปากดำกว่าคนสูบบุหรี่ตายละไม่ได้การต้องดูแลจริงจัง บวกกับแม่เราก็ว่าเราปากดำเหมือนกันคราวนี้ทั้งแม่ทั้งเพื่อนคงนึ่งเฉยไม่ได้แล้ว

พอดีตอนนั้นมีเพื่อนปากแดงสุขภาพดีมากใช้สีผึ้ง เราเลยฝากซื้อบ้างช่วงนั้นเรียกว่าฮิตกันทั้งห้องค่ะสีผึ้ง

ไม่ใช่สีผึ้งแม่เลียบที่ดังๆนะคะ สมัยนั้นเรายังไม่รู้จักเลยค่ะแต่มันคือสีผึ้งใบลานค่ะ รู้จักมะ (ดักแก่)

เราก็ขยันทามากเลย หนืดก็แสนหนืด หยิบมาทาก็ยาก หนทงนี้ไม่ง่ายเลยก็ทาไปเรื่อยๆเป็นเดือนๆนะก็ยังไม่เห็นผล

แบบว่าโคม่าจริงๆ ทำไมเพื่อนทาแล้วมันปากแดงวะ (ลืมบอกเพื่อนคงนั้นผิวขาวมากเนียนมากๆๆๆ อยากจะปากสีเหมือนเค้ามองผิวตัวเองก่อนไม๊)

ถึงทาแรกๆจะไม่ได้ผลแต่เราก็ไม่หยุดทานะ แต่บอกแม่ให้ซื้อสีผึ้งให้หน่อยเพราะไม่อยากรบกวนเพื่อนซื้อบ่อยๆ

คือมันอันเล็กๆในใบลานละลายไปบ้าง วางลืมหายบ้างแม่เราเลยซื้อมาให้สะใจซ้า เป็นขวดๆเลย เป็นสีผึ้งที่ใช้มาจนปัจจุบันที่จะรีวิวนี่แหละจ๊ะแต่ด้วยความที่มันทายาก ตอนทาจะดูปากสีน้ำตาลยิ่งดำไปใหญ่เราเลยไม่พกก็เลยซื้อลิปมันเภสัชมาใช้ ตลับกลมๆนั้นละถูกดี แล้วก็มีใช้ลิปมันมีสทีนบ้างวาสลีนก็ไม่พลาด ซื้อกระปุกนึงคุ้มมากทาปากทาส้นเท้าได้หมด กระปุกเดียวกันด้วยแหละฮึฮึ แต่ที่ใช้ต่อเนื่องจริงจังก็เป็นสีผึ้งกับเภสัชค่ะด้วยความที่ทาอย่างเดียวยังไม่เห็นผลก็มีสคับปากด้วยน้ำผึ้งกับน้ำตาลทรายแดงใช้สองอย่างนี้ผสมกันแล้วก็ทาๆนวดๆบนริมฝีปาก แล้วเช็ดด้วยน้ำอุ่นอาทิตย์ละครั้ง

ตอนเช้าก็ใช้แปรงสีฟันแปรงปากเบาๆด้วยๆทุกวันค่ะ ตอนแรกๆก็ไม่ชินนะทำบ้างลืมบ้าง ขี้เกียจบ้าง(ข้อนี้หลักเลย) แต่พอทำไปประจำก็ชินค่ะติดเป็นนิสัยไปเอง

ก็จำไม่ได้เหมือนกันว่ามันเริ่มเห็นผลเมื่อไหร่ คือทำไปเรื่อยๆ มันก็ค่อยๆดีขึ้น ทุกวันนี้เราก็ยังทาลิปไม่ให้ปากแห้งแตก(แต่เพิ่มจำนวนลิปมัน) แปรงปากแล้วนวดน้ำผึ้ง(ไม่ได้สคับ้ำตาลด้วยแล้วแบบว่าขี้เกียจ)อยู่นะคะ

ใครปากคล้ำขอให้ทำอย่างสม่ำเสมอนะคะ มันเห็นผลแน่ๆค่ะแต่อาจไม่ไวทันใจ ก็อย่าเพิ่งถอดใจนะคะ ที่เห็นผลชัดๆเลยคือความชุ่มชื่นค่ะปากเราจะดูสุขภาพดีถ้าไม่แห้งแตกนะคะ ดังนั้นถึงใครจะขี้เกียจสคับแต่ห้ามลืมทาลิปบำรุงเด็ดขาด

งั้นมาต่อที่รีวิวลิปบำรุงในครอบครองเลยค่ะขอเรียงตามลำดับความยาวนานที่ใช้นะคะ


ตัวแรกเลยสีผึ้งค่ะ ตราแม่เภา ใช้มานานมากๆๆๆๆ ตั้งแต่ ม.ปลาย

สีผึ้งนี่สำหรับเรามันเด็ดสุดๆค่ะ จะตราแม่อะไรก็แล้วแต่ค่ะ ขอให้เป็นสีผึ้งเราว่าไม่ต่างกันนะ

ตัวนี้ปัจจุบันกิ๊บจะทาแค่กลางคืนค่ะ โบกหนาๆก่อนนอนเช้ามาก็ไม่หลุดค่ะ ทนมาก

ส่วนผสม/คุณสมบัติ ต้องเป็นขี้ผึ้งอยู่แล้ว ช่วยเรื่องความชุ่มชื่นและป้องกันปากแห้งแตกได้ดีมากช่วยปรับสีริมฝีปากให้อ่อนลง

เนื้อ/สี/กลิ่น สีผึ้งจะเป็นสีน้ำตาลเหนียวๆแข็งๆ ยิ่งหนาวยิ่งแข็งค่ะทายากนิดนึง กลิ่นหอมแบบไทยๆน้ำอบ เราชอบนะ

ผลลัพธ์ แม้จะเหนียวแต่คุ้มมาก ทำให้สีปากอ่อนลงด้วย ชอบไม่ชอบก็คิดเอาใช่มาจนปัจจุบันก็นะตัวนี้อากาศหนาวแค่ไหนก็เอาอยู่ขอย้อนหน่อยตอนเด็กกิ๊บเป็นคนปากแตกบ่อยๆยิ่งเวลาหน้าหนาวนะแตกมากๆยืนหน้าเสาธงไปแกะปากไปท่ามกลางอากาศหนาวและลมแห้งๆ แกะไปเลือดก็ออกแสบๆเค็มๆลิปก็ไม่ค่อยอยากทา รู้สึกไม่เท่ ถ้าต้องมาลิป ฮ่าๆ ไปเอาความคิดนี้มาจากไหนฟระ(น้องๆอาจไม่เข้าใจ เมื่อก่อนเมืองไทยเคยมีหน้าหนาวนะคะหนาวแบบที่เรียกหน้าหนาวจริงไม่ใช่แค่ลมหนาวพัดผ่านประเทศไทยอย่างปัจจุบัน จริงๆนะไม่ได้โม้)

ราคา/สถานที่จำหน่าย ราคาจำไม่ได้ค่ะแม่ซื้อด้วย อันนึงใช้เกินปีนานเกิ้น /ซื้อร้านโชว์ห่วยค่ะ

ตัวที่สองนี้คือลิปของเภสัช ใช้ต่อมาจากสีผึ้งเลยใช้มานานมากเช่นกันตั้งแต่ ม.ปลาย รักกันเหนียวแน่นมาก

ก็ราคามันน่ารักสุดๆ จำไม่ได้ว่าเคยต่ำกว่า 10 ลืมละแต่เคยซื้อด้วยราคา 10 บาทแน่ๆ

ตัวนี้ด้วยความที่ราคาถูกมีหลายตลับวางห้องนั้นบ้างห้องนี้บ้าง(บางทีก็หาไม่เจอ) พอหาไม่เจอก็ซื้ออีกเลยยิ่งมีเยอะ

ส่วนผสม/คุณสมบัติ มีวิตามินอีช่วยลดการเสื่อมสภาพของเซลล์ผิว บำรุงริมฝีปากที่แห้งแตก หรือแพ้ง่าย

เนื้อ/สี/กลิ่น เป็นกึ่งๆเจลกับลิปบาล์ม ทาแล้วลืนๆนุ่มๆ สีชมพูอ่อนใสๆมีกลิ่นหอมอ่อนๆของผลไม้

ผลลัพธ์ ตัวนี้ทาแล้วชอบดูเวลาการใช้ที่ยาวนานเอาแล้วกันนะเป็นอีกตัวที่ช่วยให้ปากเราหนีจากความดำคล้ำได้ เนื้อมันกำลังดีไม่เหนียวเกินไปทาแล้วนุ่มๆ ไม่มันเยิ้ม อยู่บ้านนี้ทาถูกๆตลอด แต่ไม่ติดทนเท่าสีผึ้งเอาไว้ทาระหว่างวัน ทาก่อนทาลิปสติก

ราคา/สถานที่จำหน่าย 12บาท กิ๊บซื้อที่เซเว่นบ้าง ร้านขายยาบ้างตัวนี้หาง่ายนะเห็นว่างเกือยทุกร้านยาเลย

ตัวที่สาม maybelline baby lips นั้นเองตัวนี้เริ่มใช้ตอน มหาลัยละหลังจากใช้เภสัชแบบตลับมันไม่สะดวกแก่การเอาออกมาทานอกสถานที่เท่าไหร่ก็หาซื้อแบบแท่งๆไว้พกพา เพราะเราจะปล่อยให้ปากแห้งไม่ได้ช่วงนั้นก็มีลองๆตัวอื่นด้วยนะ แต่ที่ใช้มาถึงปัจจุบันก็ตัวนี้ล่ะ

ส่วนผสม/คุณสมบัติ shea butter ,centella ,spf 20 บำรุงริมฝีปากชุ่มชื้นเนียนนุ่ม ลดแห้งแตก และป้องกันแสงแดด

เนื้อ/กลิ่น/สี ออกเป็นแนวลิปบาล์มเนื้อจะแน่นๆเหมือนกาวยูฮู สีขาวขุ่นๆสีเขียวแบบเรากลิ่นเชอร์รี่

ผลลัพธ์ ทาแล้วเนียนนุ่มดีรู้สึกว่าตอนทาช่วยลดร่องปาก ทำให้ทาลิปสติกง่ายขึ้น แล้วก็ชอบที่มันไม่มันเหนาะหนะ

เอาไว้ทาก่อนทาลิปสติก และพกใส่กระเป๋าไปทาระหว่างวัน

ราคา/สถานที่จำหน่าย 89 บาท ซื้อมาจากวัตสัน เห็นบูธห้างโซนเครื่องสำอางก็มี


ตัวที่สี blistex herbal answer ตัวนี้ก็ใช้มาต่อจากเมเบอลีนคือบางทีก็เบื่อๆเนาะอยากเปลี่ยนบ้าง หลังจากลองนั้นนี้ไปก็ได้ตัวนี้ที่ติดใจมาครอบครองอีกตัวตัวนี้เป็นลิปหลักร้อยแบบคิดนานเหมือนกันกว่าจะซื้อ แหะๆ

ส่วนผสม/คุณสมบัติ aloe vera,chamomile,jojoba,avocado,shea butterวิตามินA,C,E และ SPF15 ให้ความชุ่มชื่น และบำรุงจากธรรมชาติ ช่วยปกป้องแสงแดด

เนื้อ/สี/กลิ่น เนื้อเป็นลิปบาล์มสีขาวแต่ไม่ขุ่นเท่าเมบอลีน ออกใสๆกว่า กลิ่นหอมชอบ ไม่รู้ว่ากลิ่นอะไรหอมๆหวานๆเย็นๆ

ผลลัพธ์ ทาแล้วเคลือบปากได้ดีปากไม่แห้ง ไม่มันเยิ้ม(ชอบลิปมันที่ไม่มัน ไม่งงเนาะ) รู้สึกสดชื่นคงเพราะกลิ่นมันเย็นๆแต่แอบเหนียวคล้ายกาวไปหน่อย ไว้พกใส่กระเป๋า(อีกใบ)(ผญ.มักไม่มีกระเป๋าเดียวแม้จะใช้กระเป๋าเดียว)

ราคา/สถานที่จำหน่าย 105บาทซื้อจากวัตสัน ห้างโซนเครื่องสำอางก็เคยเห็นเช่นกันจร้า


ตัวที่ห้าแล้วจร้า ลิปพริมเพอร์เฟคของภูมิพฤกษา ตัวนี้เพิ่งใช้ได้ไม่กี่เดือนนะอยากได้ของใหม่อีกและเลยหยิบมา เห็นส่วนผสมเยอะดี

ส่วนผสม/คุณสมบัติ avocado oil , sweet almond oil, honey, vitaminC&E ช่วยแก้ปากแตก แห้ง เพิ่มความชุ่มชื่นลดการละคายเคือง ทาผิวหนังส่วนอื่นได้ด้วย

เนื้อ/สี/กลิ่น ตัวนี้เป็นเจลลี่อยู่ในหลอด ขาวใสๆ เนื้อบางๆมันๆ มีกลิ่นหอมอ่อนๆบวกกับกลิ่นน้ำมัน

ผลลัพธ์ ทาแล้วบางเบาดีไม่เป็นคราบชุ่มชื่นดี แต่รู้สึกมันๆมีกลิ่นน้ำมันเบาๆด้วยซึ่งไม่ค่อยชอบ ส่วนการทาผิวแห้งก็เหมือนเอาวาสลีนไปทามันเหมือนให้ความชุ่มชื่นไว้ผิวเลยไม่ลอกแต่ยังไม่ได้ลองทาจริงๆจังๆ ตัวนี้ติดไว้ที่บ้านจร้า หยิบมาทาระหว่างวัน

ราคา/สถานที่จำหน่าย 49บาท ซื้อจากเซเว่นแต่จากที่เห็นไม่ทุกสาขานะ


ตัวที่ หก carmax อันโด่งดัง ได้ยินชื่อเสียงว่ามันดีมานานละ จะซื้อหลายรอบละแต่เพิ่งได้ซื้อจริงก็เดือนที่แหละ (กันยายน) จริงๆอยากจะสอยตัว burt’sbees ด้วยแต่ตัวนั้นขอเวลาคิดอีกหลายๆครั้ง ฮ่าๆ

ส่วนผสม/คุณสมบัติ กันแดด SPF 15 , เมนทอล,การบูร,ขี้ผึ้ง ปกป้องริมฝีปากจากแสงแดด รักษารอยแตกแห้งเป็นขุย เค้าบอกทาต่อเนื่องปากจะเป็นสีชมพูด้วย

เนื้อ/สี/กลิ่น ลิปบาล์ม รู้สึกแบบเนื้อแว๊กซ์อัดแข็ง สีเหลืองใสทาแล้วจะเย็นปากนิดๆ เราซื้อเป็นกลิ่นสตอร์เบอรรี่ก็หอมตามกลิ่นบวกกับกลิ่นเย็นสดชื่นดี

ผลลัพธ์ ตอนทานี่รู้สึกได้ว่าเนื้อเนียนนุ่มมากกกกชอบเนื้อสัมผัสตัวนี้สุดๆไม่เสียแรงที่ยอมทุ่มเงิน 150 บาทซื้อมาปราบปลื้มน้ำตาจิไหล ไม่เหนียวเหนอะหนะ เหมือนมีฟิล์มเคลือบบางๆ ผลลัพธืระยะยาวยังไม่ทราบค่ะ

ราคา/สถานที่จำหน่าย 150บาทสั่งจากอินเตอร์เน็ต


ตัวที่เจ็ดลิปเภสัช อีกแล้วคร้า แต่เป็นแบบเจลนุ่มๆอยู่ในหลอดแทนด้วยความที่ชอบลิปเภสัชแบบตลับอยู่แล้วตัวนี้มันน่าลองมาก หลอดก็สีหวานน่ารักมากเลย

ส่วนผสม/คุณสมบัติ alovera extract, chamomile extract, vitamin E, jojoba oil ช่วยลดการอักเสบของเซลล์ผิวเพิ่มความชุ่มชื่น ฟื้นฟูริมฝีปากแห้งเป็นขุย และเป็นสูตร hypoallergenic ใช้ได้แม้ริมฝีปากแพ้ง่าย

เนื้อ/สี/กลิ่น เป็นเจลสีชมพูใสๆ คลายแบบตลับแหละแต่เบาๆกว่าไม่เหนียวเหนอะหนะ กลิ่นเชอร์รี่ หอมหวานอ่อนๆ

ผลลัพธ์ ทาแล้วบางเบามากสบายปากอะลื่นๆนุ่มๆ ตัวนี้ปลายหลอดเป็นแบบตัดนะใช้ได้ง่ายขึ้นเยอะยังใช้ไม่นานผลลัพท์ระยะยาวยังไม่ทราบค่ะ

ราคา/สถานที่จำหน่าย 65 บาท มีที่เซเว่น ร้านยา ท็อปแต่ไม่ทุสาขาอะ ถ้าอยากลองเจอแล้วซื้อเลยเพราะอาจไม่เจออีก ฮ่าๆ


ตัวสุดท้ายแล้วจร้า ตัวที่แปด Vaseline lip essence ทำเพื่อปากโดยเฉพาะเลยต่อไปนี้เราไม่ต้องสลับทาปากทาเท้าในกระปุกเดียวกันละตัวนี้เพื่อนสุดน่ารักซื้อมาฝากจร้า ของฟรีมันดี้ดี

ส่วนผสม/คุณสมบัติ ปิโตรเลียมเจลลี่ ช่วยเพิ่มความชุ่มชื่น ปกป้องริมผีปากไม่ให้แห้งกร้าน

เนื้อ/สี/กลิ่น เป็นเจลลี่ใสๆ บางเบาเหมือนวาสลีนกระปุกนั้นแหละและมีสีใสจร้า สารภาพว่าตอนแรกจินตนาการว่ามันเป็นสีแดงระเรื่อๆแน่นอนก็กลิ่นเชอร์รี่นี่นา กลิ่นก็ตามนั้นเชอร์รี่หอมเชอร์รี่เปรี้ยวนิดๆ

ผลลัพธ์ บางเบาจ๊ะไม่เหนาะหนะ ลื่นๆ ทากันปากแห้งได้ดี ไว้โบกหนาๆทับสีผึ้งอีกทีตอนกลางคืน (ปากหนา3มิล)ช่วยให้ลื่นขึ้น กลางวันก็ไว้โบกสลับๆกับตัวอื่นที่แล้วแต่จะหยิบได้ผลระยะยาวไม่ทราบเพิ่งได้มาไม่นาน

ราคา/สถานที่จำหน่าย เพื่อนซื้อมาฝากค่ะ




 

Create Date : 10 ตุลาคม 2558    
Last Update : 10 ตุลาคม 2558 2:09:20 น.
Counter : 13941 Pageviews.  

รีวิว วิธีกำจัดสิวเสี้ยนให้หลุดง่าย ออกเกลี้ยง และการดูแลให้ขึ้นน้อยลง

สวัสดีค่ะ วันนี้กิ๊บมารีวิวกำจัดเสี้ยนหนาม ที่เห็นทีไรก็ขัดใจทุกทีกันค่ะ

ไม่ใช่อะไรอื่นไกลมันคือสิวเสี้ยนนั้นเอง สิวเสี้ยนนี่มักขึ้นที่จมูก
ยิ่งสาวๆคนไหนที่มีผิวหน้ามันยิ่งเกิดสิวเสี้ยนได้ง่ายกว่าผิวแบบอื่นๆ
กิ๊บเองก็เป็นหนึ่งในนั้น เป็นสาวผิวมัน ถึงมันมาก เอาๆงั้นมาดูกันว่าเรากำจัดมันได้ยังไง



มาดูก่อนลอกสิวเสี้ยนกันก่อนนะคะ 

ต้องขออภัยด้วยที่อาจมองไม่ชัดกล้องมันถ่ายซูมกว่านี้ไม่ได้ค่ะ

กิ๊บไม่ค่อยมีสิวเสี้ยนแบบหัวดำเท่าไหร่ มีบ้างแต่น้อยค่ะ ก็เราดูแลอย่างดีนี่นา

สิ้วเสี้ยนเป็นหัวขาวๆมีปกติค่ะ

ผิวที่จมูกไม่ค่อยเนียนเพราะเมื่อก่อนมีสิวเสี้ยนเยอะมากๆๆๆ และนั้นทำให้เราบีบสิวจนเป็นหลุมเลยค่ะ เศร้าแพร๊บ

เตือนเลยอย่าบีบเลยค่ะ หลุมมันรักษายากมาก แต่รู้ว่าห้ามยากเพราะกิ๊บเองก็ยังมีเพลอบีบบ้าง ฮ่าๆ



มาเริ่มการเอามันออกกันก่อนนะคะ แล้วค่อยต่อการดูแลเนาะ

อ้อ วิธีนี้ไม่ควรทำบ่อยนะคะ มันเป็นการรบกวนผิวค่ะ นานๆทำทีนะคะ

กิ๊บนี่ลอกครั้งล่าสุดเกิน 3 เดือนมาแล้วค่ะ


เริ่มแรกเราต้องเปิดรูขุมขนก่อนเพื่อเอาออกได้ง่ายขึ้น



ส่วนผสมคือ น้ำมะนาวและโยเกิร์ต

โดยการเปิดรูขุมขนกิ๊บใช้น้ำมะนาวค่ะ แต่น้ำมะนาวมันจะแรงไปแสบผิว เลยขอผสมกับโยเกิร์ตค่ะ

โดยผสม 1 ต่อ 1 ทาไว้ประมาณ 15 นาที

*สามารถใช้มะขามแทนมะนาวได้นะคะ

อย่างที่เรารู้ๆกันเนาะว่ามะนาวนั้นมีกรด ที่ทำให้เซลล์ผิวเราผลัด ดังนั้นเราจึงใช้มันมาช่วยเปิดผิวให้

ส่วนโยเกิร์ตก็มีจุลินทรีย์ที่ดีช่วยบำรุงผิว และขจัดสิ่งสกปรกบนผิวได้ด้วยนะ



เจลาติน

ต่อมาระหว่างที่ทาส่วนผสมขั้นที่หนึ่งไว้เราก็มาจัดการกับเจ้าเจลาตินค่ะ

ของกิ๊บซื้อมาแบบแผ่นๆ จากร้านขายพวกเบเกอร์รี่ค่ะ ราคาจำไม่ได้ซื้อมานานมาก นานๆใช้ที

มีแบบผงด้วยนะคะ เลือกใช้กันตามสะดวกเลยค่ะ กิ๊บเลือกแบบแผ่นเพราะคิดว่ามันเก็บง่ายค่ะ

เจลาตินมันจะเป็นแผ่นแบนๆยาวๆ วึ่งยาวเกินไปจะใช้ในครั้งเดียว กิ๊บเลยแบ่ง 4 ค่ะ

นำเจลาติน มาตัดเป็นชิ้นเล็กๆ และใส่ถ้วยเติมน้ำปลายช้อนชาแล้วนำไปละลายในหม้อน้ำร้อน

อย่าเติมน้ำเยอะนะคะ กิ๊บใส่แค่ปลายช้อนค่ะ

ถ้ามันละลายไม่ได้ค่อยเติมเพิ่ม เราต้องการให้มันเหนี่ยวที่สุดค่ะ

เคยใช้วิธีเติมน้ำร้อนเข้าไปละลายแต่แบบแผ่นมันละลายยากกว่าผงอะคะ

ต้องใส่น้ำเยอะทำให้มันข้นน้อยลง ทำให้ลอกได้ไม่ดีเท่าที่ควรค่ะ



ระหว่างที่เรารอมันละลาย (คนๆแป๊บเดียวก็ละลายแล้วค่ะ) ก็มาล้างหน้าค่ะ

ล้างหน้าด้วยโฟม และล้างน้ำอุ่น

ถ้าล้างน้ำเปล่ามันจะยังมีความมันที่ผิวเหลืออยู่ทำให้ทาเจลาตินติดไม่ดีค่ะ มันจะลื่นๆ

กิ๊บใช้สบู่ถ่านค่ะ มีมีในวัตสัน เซเว่นก็มีอันเล็กๆ

เสร็จแล้วก็ตามด้วยล้างน้ำอุ่นค่ะ



เช็ดหน้าให้แห้ง แล้วลาเจลาติน

ทาลงไปเลยค่ะ อยากลอกตรงไหนตรงนั้น อยากลอกทั้งหน้าก็ทาไปเลยเลยค่ะ

แต่บอกก่อนนะคะว่าเจ็บค่ะ เพราะมันดึงขนอ่อนๆหลุดมาด้วยค่ะ

กิ๊บเคยทาทั้งหน้าเลย ผลคือหน้าแดงเลยต่ะ ใครแพ้ง่ายใช้ระวังๆด้วยนะคะ


ทิ้งไว้ให้แห้ง  แล้วลอกเลยค่ะ

ค่อยๆดึงนะ

นี่คือส่วนคางค่ะ ไม่ค่อยมีสิวเสี้ยน แต่เห็นไม๊ขนอ่อนๆหลุดมา


นี่ส่วนที่ลอกจมูกค่ะ เม็ดใหญ่ๆก็หลุดมาด้วยนะ ปกติใช้ที่ลอกอื่นๆเส้นๆเล็กยังแทบไม่หลุดเลย

สิ้วเสี้ยนแข็งๆ หลุดมาหมดเลยค่ะ ขนอ่อนๆด้วย แต่สิ้วเสี้ยนแบบที่กดแล้วเป็นนิ่มๆเหมือนใส้ครีมไม่ออกนะ

**พยายามถ่ายแล้วแต่มันไม่เห็น



เหมือนจะเสร็จแล้วแต่ยังไม่เสร็จนะจ๊ะ เราเปิดรูขุมขนไปแล้ว ลอกไปแล้วมันทารุรผิวเหลือเกิน

มาปลอบมันนิดนึงเนาะ

เมื่อล้างเสร็จแล้วก็ไปล้างหน้าด้วยน้ำอุ่นอีกทีนะคะ วนๆให้ออกให้หมดอย่าให้เจลาตินเหลือตืดผิวนะ

เมื่อล้างหน้าสะอาดแล้วก็มาทาหน้าด้วยน้ำผึ้งค่ะ

ทาแล้วก็นวดๆให้ น้ำผึ้งจะช่วยคืนความชุ่มชื่นให้ผิวและลดการระคายเคืองค่ะ

นวดไปสักพักแล้วทิ้งไว้อีกประมาณ 10 นาที ค่ะ ก็ไปล้างหน้าด้วยน้ำปกติ

แล้วใช้น้ำแข็งถูหน้า

เป็นการปิดรูขุมขนค่ะ เป็นอันเสร็จ เช็ดหน้าทาครีมได้ปกติ (งดพวกครีมมันๆก่อนก็ดีค่ะ)



เสร็จแล้วค่ะ กับการลอกสิวเสี้ยน ผิวจะค่อนข้างแดงนะบอกแล้วของเค้าแรงอย่าทำบ่อย

ต่อมาเป็นวิธีดูแลให้มันขึ้นน้อยลง ขึ้นช้าที่สุดนะ

กิ๊บจะไม่พูดถึงวิธีไม่ให้มันเกิดนะคะเพราะไม่ทราบเหมือนกัน แต่บอกเล่าประสบการณ์ให้มันขึ้นน้อยลงจากคนที่มีสิ้วเสี้ยนมากๆมาก่อนค่ะ
จากการหาวิธีจัดการสิ้วเสี้ยนมาเกือบ 30 ปี (เริ่มแต่เกิดกันเลยเรอะ) ยังไม่พบวิธีที่ไม่ให้มันเกิดค่ะ
เราเอามันออกได้แต่มันก็ขึ้นมาใหม่อย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะคนที่ผิวมัน
เพราะสิวเสี้ยนเกิดจากน้ำมันตามธรรมชาตของเรานี่แหละค่ะที่อยู่ในรูขุมขน ปนกับความความสกปรกฝุ่นละอองต่างๆ รวมถึงเซลล์ผิวที่ตายแล้วของเราค่ะ
หรือสิวเสี้ยนอีกอย่างนึงก็จะเป็นสิ้วเสี้ยนที่เกิดจากขนคุดค่ะ
รู้สาเหตุแล้วเหมือนจะไม่ทีอะไรมาก ก็แค่รักษาความสะอาดและดูแลอย่าให้ผิวมัน แต่เห้ยย นั่นแหละที่มันยากล่ะแกรรร๋

คิดว่าล้างหน้าสะอาดแล้วแต่ทำไมไม่ลดลงเลย


เมื่อก่อนกิ๊บก็เป็นค่ะ ด้วยความที่หน้ามันมาก เราก็เลยทำความสะอาดมากตามไปด้วย
ใช้โฟมล้างหน้าที่ลดความมัน ล้างแบบให้มันเอี๊ยดอ๊าดกันไปเลย ซึ่งมันผิดมากค่ะ
ยิ่งเราล้างแบบนี้จะยิ่งเพิ่มภาระให้ผิว พอล้างแล้วหน้าแห้งผิวก็จะยิ่งสร้างน้ำมันมาเคลือบผิวยิ่งขึ้น
การล้างหน้าแบบนี้จึงไม่ลดความมัน แถมยิ้งทำให้ผิวผลิตน้ำมันมากขึ้นอีก
มันไม่ได้ลดความันให้ผิวได้เลยค่ะ มันแค่ขจัดความมันตอนที่เราล้างค่ะ

ดังนั้นอย่างแรกเลยเราควร

ใช้โฟมล้างหน้าแบบโอนโยน

รวมถึงคลียซิ่งล้างเครื่องสำอางด้วยนะ

ว่าด้วยเรื่องความมันต่อ เมื่อไม่ให้ความมันมันเพิ่มจากการล้างหน้าแล้ว เราก็ต้องไม่เพิ่มความมันจากครีมด้วยค่ะ

ใช้ครีมที่ไม่มีส่วนผสมของน้ำมัน

โดยเฉพาะกับคนผิวมันนะผิวเรามันอยู่แล้วการทาครีมที่มันเข้าไปอีกมันจะยิ่งเพิ่มการอุดตัน
(สาวๆผิวแห้งอาจไม่มีปัญหานี้) 
เดี๋ยวนี้มีครีมบำรุงให้เราเลือกเยอะแยะจะตายไป
ไม่ได้มีแค่น้ำมันที่เพิ่มความชุ่มชื่นให้ผิวได้ เลือกกันตามความชอบนะ

หยุดบีบ จับผิวแรงๆ


เวลาเห็นสิ้วเสี้ยนแล้วมือมันชอบชนทุกที เห็นแล้วคันไม้คันมือเชียวแหละ

กิ๊บก็เป็นหนึ่งในนั้นชอบบีบมาก แล้วมามานั่งเสียใจทุกวันนี้เพราะมันทำให้รูขุมขนกว้างแถมบางอันที่รุนแรงก็เป็นหลุมสิวไปอีก

หยุดบีบนะคะ เพราะยิ่งทำรุนแรงกับผิวผิวอาจอักเสบ กลายเป็นสิวเม็ดใหญ่กว่าเดิมนะ

ถ้าทนเห็นไม่ได้ก้หยุดส่องกระจกมันไปเลย จบๆไปนะคะ ฮ่าๆ

เอาเซลล์ผิวเก่าออกซะบ้าง

เพราะสิวเสี้ยนก็เกิดจากเซลล์ผิวเราไปอุดตันรวมกับน้ำมันนั้นหละ

ส่วนตัวกิ๊บใช้วิธีพอกโยเกิร์ตค่ะ ผสมน้ำมะนาวบ้าง น้ำมะนาวผสมน้ำผึ้งบ้าง สลับๆกันค่ะ

คือเน้นของจากธรรมชาติ คิดเอาเองว่ามันไม่รบกวนผิวมากเกินไป เราทำได้บ่อยๆ ใช้ส่วนผสมที่มีส่วนช่วยผลัดเซลล์ผิวของเรา นานๆครั้งก็มีสคับบ้าง

จะได้ผลรึเปล่าอยู่ที่ตัวเราเองนะคะ ต้องทำอย่างสม่ำเสมอค่ะ
ผิวหน้าเรายังไงก็ผลิตน้ำมัน และไหนก็ฝุ่นละอองต่างๆอีก การเกิดสิวเสี้ยนคงหนีไม่พ้นเนาะ
เพราะงั้นอย่ากังวลมากไปนะคะ

จบแล้วคร้าาาาาา

หวังว่าคงเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆนะคะ






 

Create Date : 25 กันยายน 2558    
Last Update : 25 กันยายน 2558 1:46:10 น.
Counter : 1687 Pageviews.  

รีวิว Cleaning เช็ดเครื่องสำอางสูตรน้ำ(Cleaning Water) และ เจลล้างหน้าสำหรับหน้าเป็นสิว ผิวบอบบางแพ้


สวัสดีค่ะ วันนี้ขอมารีวิวกับผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดหน้านะคะ 

คะแนนที่ได้เป็นความรู้สึกของกิ๊บเองนะคะ

ก่อนอื่นขออธิบายสภาพผิวเพื่อเป็นการเข้าใจตรงกันก่อนนะคะ 

คนที่มีผิวต่างกันจะได้ศึกษาก่อนใช้ให้มากขึ้นค่ะ

           สภาพผิว
---ผิวผสม มันมากช่วงทีโซน
---มีสิวอักเสบและหัวช้างขึ้นช่วงมีประจำเดือนมาต่อเนื่อง แต่ไม่มาก
---แพ้เหงื่อ ความร้อน ถ้าออกกำลังหรือมีเหงื่อแล้วไม่รีบล้างหน้าจะขึ้นผื่นแดงๆและลามเป็นสิวผด (เป็นมานานแล้ว แต่ไม่กี่วันก็แห้งหายเอง)
---ผิวเคยแข็งแรง ไม่แพ้ครีมอะไรเลย แต่ปัจจุบันผิวแพ้ง่าย จะขึ้นสิวผด และมีอุดตันเล็กน้อยที่กรอบหน้า 
ทั้งที่ไม่ได้ใช้ครีมอันตรายแต่เริ่มรู้สึกผิวบางตั้งแต่ทำ  IPL ไม่ทราบว่าเกี่ยวไหม (ตอนนั้นอยากหน้าใสเลยไปทำ ตอนทำก็ใสดี แต่รู้สึกผิวบางแสบหน้าเลยเลิกทำไป)
---ผิวปัจจุบันมีช่วงหน้าใสบ้าง หน้าสิวบ้าง วนเวียนกันไป ถ้า ปจด.จะมีสิวอักเสบ ส่วนช่วงอื่นๆจะมีสิวผดขึ้นๆหายๆ



เนื่องจากตอนนี้ผิวเป็นสิวผดบ่อยมาก จึงใช้ที่อ่อนโยน และเกี่ยวกับรักษา ป้องกันการเกิดสิวซะเป็นส่วนใหญ่ 

เลยอยากมาแบ่งปันเพื่อนที่มีปัญหาเดียวกันค่ะ 

เริ่มที่คลีนซิ่งวอเตอร์กันก่อนเลยค่ะ




ตัวแรกบีเฟสต้า น่าจะคุ้นกันอบู่แล้วเนาะ ใช้มาหลายขวดแล้วเหมือนกันค่ะ

ก่อนหน้านี้ใช้ขวดสีเขียวสูตรซีบัม สำหรับคนหน้ามัน ตัวในรูปสูตรไบร์ทอัพค่ะ เพราะตอนไปซื้อมันมีแค่สูตรเดียวจึงหยิบมา

ผลการใช้ไม่ต่างกันมากค่ะ

แยกการให้คะแนนตามความพอใจส่วนตัวเป็นข้อๆดังนี้ค่ะ

ราคา 300 +แล้วแต่โปรด้วย ซื้อตอนลด 319 บาท

ปริมาณ 300 ml. ถือว่าคุ้มอยู่ไม่แพงแต่ก็ไม่ถูกนะสำหรับเรา 

ความสะอาด  8/10 แต่งหน้าเบาๆแค่แป้งกันแดด เขียนคิ้วก็แผ่นเดียว หน้า หลัง สะอาดค่ะ แต่ถ้าแต่งเต็มมาสคาร่ากันน้ำเช็ดไม่ออกค่ะ ออกแค่4/10

ความอ่อนโยน 6/10 เช็ดที่ตามีเคืองๆเล็กน้อย ส่วนผิวถ้าเช็ดหลายรอบแอบร้อนๆนิดนึง แต่เมื่อก่อนไม่เป็นนะ อาจเพราะผิวเราเองที่อ่อนแอขึ้น

ความรู้สึกหลังใช้ 7/10 ตัวนี้เค้าบอกว่าไม่ต้องล้างน้ำซ้ำก็ได้แต่เราว่ามันก็ยังหนืดๆอยู่อะ รู้สึกไม่สบายผิวถ้าไม่ล้างน้ำอีกครั้ง

สรุป ซื้อซ้ำไม๊ อยากลองสูตรสิวที่ออกใหม่ค่ะ



ตัวที่2 เป็นคลีนซิ่ง วอเตอร์ของนีเวีย ซื้อมาเพราะโฆษณาเลย ดูแล้วน่าใช้มาก และราคาก็น่ารัก

ราคา 99 บาท ในเซเว่น 

ปริมาณ 200 ml. ราคาและปริมาณคุ้มค่าที่สุด

ความสะอาด  5/10 ไม่ปลื้มเอาซะเลย ไหนว่าแค่แปะแล้วเช็ดออก มันไม่จริ้ง ไม่จริง 
                          ขนาดแต่งไม่จัดเต็มยังไม่เกลี้ยงเลยอะ มาสคาร่ากันน้ำไม่ต้องพูดถึง เช็ดตัวนี้แล้วเอาบีเฟสต้าเช็ดตามอีกทีออกอีก

ความอ่อนโยน 9.5/10 ข้อนี้ยอมรับไม่แสบผิวเลย เช็ดรอบตาก็ไม่แสบนะ แต่ไม่เคยเข้าตาจังๆ

ความรู้สึกหลังใช้ 7.5/10 ก็มีหนืดๆนิด แต่น้อยกว่าบีเฟสต้า เบาผิวกว่า

สรุป ซื้อซ้ำไม๊  ไม่แน่ ถ้าราคานี้อาจซื้ออีก อ้าวไหนว่าไม่ค่อยดี ทำไมจะซื้ออีก เราเอาไว้เช็ดก่อนเช็ดตัวอื่นจะได้ไม่เปลือง แบบเอาพวกฝุ่นๆออกก่อน



ตัวที่3 คือของสมูธ อีนั้นเอง เนื่องจากเราใช้ครีมของสมูธ อี อยู่แล้วพอเห็นออกมาจึงของลองเลยละกัน 

ตัวนี้ที่ปั้มจะแปลกกว่าตัวอื่นตรงหัวปั้ม มันเป็นแบบกลมๆให้เอาสำลีแปะแล้วกดๆ 

แต่ขอบอกข้อเสียก่อนเลยว่าพอตะแคงแล้วน้ำมันไหลหกออกมาค่ะ พกพาไม่ได้เลย T__T ไม่ทราบว่าเป็นแค่ขวดเรารึเปล่าเพราะพึ่งใช้ขวดแรก

ราคา 2-300 + จำราคาไม่ได้ค่ะ ขแอภัยด้วย

ปริมาณ 200 ml./300 ml. ของเราขวดเล็กค่ะ ถือว่าแพงกว่าบีเฟสต้านะ เพราะขวดใหญ่มัน4 ร้อยกว่า

ความสะอาด  8/10 สำหรับเรามันทำความสะอาดได้ดีเท่าบีเฟสต้าเลยนะ

ความอ่อนโยน 10/10 ไม่แสบไม่ร้อนผิวเลยนะ ดีอะ

ความรู้สึกหลังใช้ 8.5/10 มันก็ยังมีความหนึบๆบนผิวอยู่นะ ยังไม่สบายผิวถึงขาดไม่ล้างอะ และตัวนี้มีกลิ่นด้วย ไม่หอมแต่บอกไม่ถูกว่ากลิ่นอะไร

สรุป ซื้อซ้ำไม๊ ซื้อค่ะโดบรวมชอบ ถ้าราคาถูกกว่านี้ได้จะดีมากเลย



ตัวที่ 4 จากบีโอเรนั้นเอง ตั้วนี้เพิ่งใช้ได้ไม่กี่ครั้ง เห็นลดราคาในวัตสันเลยซื้อมา

ราคา  ซื้อตอนลด 319 บาท

ปริมาณ 300 ml. ราคาปกติ ไม่ถูกไม่แพง

ความสะอาด  9/10 ตัวนี้ชอบนะเรื่องการทำความสะอาด รู้สึกออกได้มากกว่าบนๆที่กล่าวมาในการเช็ดครั้งเดียว 

มาสคาร่าก็ออกมาระดับนึง แต่ไม่ถึงกลับเกลี้ยง ต้องซ้ำสักสามคร้ั้งพอไหวอยู่

ความอ่อนโยน 8/10 เนื่องจากยังใช้ไม่หลายครั้งแต่เท่าที่ใช้ก้ไม่แสบหน้าใดๆค่ะ 

ความรู้สึกหลังใช้ 9/10 ก็ยังมีความหนืดๆอยู่เช่นเดิม แต่ไม่มาก ถือว่าผ่าน

สรุป ซื้อซ้ำไม๊ คงจะซื้ออีกถ้าช่วงลดราคา โดยรวมชอบมากนะ



มาที่ตัวสุดท้ายของคลีนซิ่ง วอเตอร์ จากยูเซอร์รีนจร้า ตัวนี้ได้มาเพราะแลกซื้อในวัตสัน แลกมาสองขวด ใช้ไปขวดนึงละ

ปกติจะไม่ตกเป็นเหยื่อการแลกซื้อนะ เพราะของแลกซื้อไม่ค่อยมีของที่อยากได้ แต่ตัวนี้ด้วยราคาเต็มขวดปกติเรามิอาจเอื้อมถถึงจริง

บวกกับมันเป็นสูตรสำหรับคนเป็นสิวด้วย ช่างเหมาเจาะอะไรเช่นนี้ 

ราคา แลกซื้อ 49 บาท

ปริมาณ 20 ml. ขวดค่นี้ยังราคานี้ขนาดแลกซื้อนะเนี้ยะ

ความสะอาด  9/10  รู้สึกสะอาดดีเลยแหละ เบาๆเอาอยู่หนักๆก็ต้องเช็ดซ้ำ

ความอ่อนโยน 9/10 เนื่องจากแพงเลยไม่เคยเช็ดเข้าตาแบบหนักๆ กับผิวหน้า รอบดวงตาพวกนี้ก็ไม่แสบค่ะ ปกติ เช็ดโดนสิวก็ไม่แสบนะ

ความรู้สึกหลังใช้ 9.5/10 ตัวนี้ชอบอะ ไม่รู้มโนไปเองเปล่า ฮ่าๆ มันก็ยังหนึบๆนะ แต่รู้สึกสบายผิวสุดละ รู้สึกเย็นๆผิว ใช้ต่อเนื่องไปขวดเล็กที่แลกมา สิวก็เม็ดผดก็ดูยุบๆไป แต่ไม่รู้เพราะตัวนี้หรือถึงเวลายุบพอดี เพราะเราขึ้นๆยุบๆอยู่ละ

สรุป ซื้อซ้ำไม๊ แหมมม ดีขนาดนี้คงต้องพักไว้ก่อนละค่ะ เนื่องด้วยราคา ไม่สู้จริงๆ



มาที่ฝั่งเจลล้างหน้ากันบ้างนะ เป็นคนที่ชอบที่ล้างหน้าแบบเจลมากๆ ตัวอื่นที่นอกรีวิวก็เคยใช้มาอีกหลายตัวนะ 

เห็นอะไรเป็นเจลล้างหน้าชอบลองหมด แต่ที่ผ่านและใช้อยู่ก็มีดังนี้เลย



ขอประเดิมด้วยตัวแรก ลูกรัก ลูกหลง ใช้มานับหลอดไม่ได้ละ เป็นสูตรอ่อนโยนเหมากับผิวเป็นสิวและแพ้ง่ายเป็นอย่างยิ่ง

ราคา 195 บาท แล้วแต่ร้านยา

ปริมาณ 99 ml. เป็นตัวเลขที่แบบ แปลกประหลาด (มีหลายขนาดนะ)


ลักษณะเป็นเจลใสๆ หนืดๆหน่อยๆ ใช้ล้างหน้าขณะหน้าแห้งโดยแต้มหน้าจุดแล้วนวดๆ

ภาพขวาคือตอนที่ทาเจลล้างหน้าอยู่จะเห็นว่ามันใสแบบมองไม่เห็นเนื้อเจลเลย จะเห็นแค่เหมือนมีอะไรเคลือบผิว

ความสะอาด  8/10 เครื่องสำอางเอาไม่ออกหรอกนะ ถ้าวันเบาๆล้างโดยไม่เช็ดเครื่องสำอางออกก่อนจากเจลใสๆจะเห็นเลยว่ากลายเป็นสีขุ่นจากพวกแป้ง แต่ไม่สะอาดหมดจดสำหรับเครื่องสำอาง ถึงไม่ได้ทำความสะอาดเกลี้ยงแต่ปกติเราก็เช็ดหน้าก่อนอยู่แล้ว การล้างหลังจากนั้นถือว่าผ่าน

ความอ่อนโยน 10/10 ไม่แสบเลย เข้าตาก็ไม่แสบเลยละ เราถูหมดอะลืมตาได้สบายมาก รู้สึกได้ว่าอ่อนโยนมาก สิวไม่เพิ่มแต่ก็ไม่ลด ฮ่าๆ

การล้างออกง่าย 9/19 ล้างไม่ยาก ถ้าเอาน้ำล้างผ่านๆเลยจะยังรู้สึกมีฟิมล์เคลือบ แต่แค่เอาน้ำลูบๆแล้ววนๆก่อนก็ออก ไม่เหนียว ไม่ลื่นติดหน้าละ

ความรู้สึกหลังใช้ 9/10 บอกแล้วว่าลูกรักเลย ทำความสะอาดได้ดี ความมันออกเกือบหมดนะ จะมีบ้างบางวันตรงซอกจมูก
จะยังมีความมันหลงเลืออยู่บ้างเล็กน้อย และที่ชอบมากคือมันไม่แห้งตึงเลยผิวยังอิ่มๆหลังล้าง

สรุป ซื้อซ้ำไม๊ ซื้อมาไม่รู้เท่าไหร่ละ ต้องซื้อต่อแน่นอน



ตัวต่อมากันเลย

ตัวนี้ไม่ใช้เจลนะ เป็นกึ่งครีมเหลวๆ เอคเน่เอดเป็นที่รู้จักกันของคนเป็นสิว เราเคยใช้สูตรสีแดงมาก่อนนะก็ดีแต่จะแรงกว่าตัวนี้หน้าแห้งกว่า

ราคา 120+ 

ปริมาณ 100 ml.


ลักษณะเป็นเนื่อลิควิค คล้ายน้ำนมข้นๆ ต้องผสมน้ำเล็กน้อยก่อนใช้

ภาพขวาคือตอนที่ล้าง สังเกตได้ว่าจะเป็นเนื้อฟองแบบนุ่มๆ มองจากรูปอาจไม่ชัด แต่ฟองมันไม่หนา ล้างบนหน้าจะลื่นๆ

ความสะอาด  6.5/10 ถ้าแต่งหน้าล้างไม่ออกนะ คราบความมันของหน้าเราเองยังไม่ออกเลย แบบว่าเป็นคนหน้ามัน

ความอ่อนโยน 8/10 ไม่แสบหน้า แต่แสบตาระดับ6 ลืมตาขึ้นมาแล้วต้องล้างไม่เหมาะกับคนที่กลัวผีแล้วต้องล้างหน้าตอนกลางคืน

มันลืมตาขึ้นมาดูบ่อยๆไม่ได้แสบตา

การล้างออก 9/10 ล้างไม่ยากนะ แค่น้ำไหลผ่านก็หลุดละ แต่หักที่ยังรู้สึกลื่นๆ แต่คงเป็นที่ตัวมอยเจอร์น่ะ

ความรู้สึกหลังใช้ 8/10 ผิวจะลื่นๆนิดนึง เหมือนมีอะไรเคลือบบางๆ ผิวดูชุ่มชื่นดี ไม่แห้งเลย แต่ก็ล้างความมันออกไม่ค่อยดีเลย

สรุป ซื้อซ้ำไม๊ ก็คงซื้อมาเปลี่ยนๆกับตัวอื่น ไว้ใช้ตอนเช้า เพราะไม่ต้องล้างอะไรมาก

ส่วนเรื่องสิวเราว่ามันไม่ได้ช่วยให้หาย แต่มันอ่อนโยนใช้ร่วมกับยารักษาสิวได้ดีมากกว่า



ตามมาทีตัวนี้ลูกรักตัวต่อมาจากสมูธ อี  ใช้ไปหลายหลอดแล้วเหมือนกัน ไม่เห็นใครรีวิวเลยอะ แต่มันดีน้าาา 

ยี้ห้อที ทรี เราเคยใช้รุ่นก่อนๆมาด้วย เพราะมันมีส่วนผสมของที ทรีออย ช่วยเรื่องสิว แล้วก็ส่วนผสมอื่นที่ช่วยเรื่องความมัน

เคยใช้สมัย มอปลาย ตอนนั้นก็ชอบนะ แต่มีแค่แบบโฟมเนื้อครีม แล้วก็เลือกใช้ไปตอนไหนไม่รู้ พอเห็นออกแบบเจลเลยกลับมาใช้ซึ่งไม่ผิดหวัง

ราคา 69 บาท เห็นมีในท็อป 109 บาท มั้ง

บริมาณ 40 g. หลอดเล็กไปหน่อยเนาะ หมดไวไปหน่อย


ลักษณะเป็นเจลใสๆ เหมือนสมูธ อี แต่เหลวกว่ามาก เห็นไม๊ในอุ้งมือนั้นละ ใส๊ใส ตัวนี้ผสมน้ำเล็กน้อยแล้วล้างหน้าตอนเปียก

ภาพขวาคือล้างด้วยที ทรี ฟองมันไม่นุ่มเท่าแอคเน่เอด จะออกแนวฟองแบบเบาๆ ใสๆ เนื่อฟองไม่ละเอียดมาก มองในภาพอาจไม่ชัด

ความสะอาด  8/10 ให้เท่ากับสมูธอี แต่ล้างคนละแนวกันตัวนี้จะขจัดความมันได้ดีกว่า หน้ามันๆของเรา

ล้างแล้วตรงร่องแก้มข้างจมูกก็หายมันไม่หนืดเลย แต่ล้างเครื่องสำอางได้ไม่ดีเท่าสมูธ อี แต่ไงเราก็เช็ดหน้าก่อนอยู่แล้วล่ะ

ความอ่อนโยน 8.5/10 ล้างหน้าแล้วไม่มีอาการแสบผิวแต่อย่างใด ไม่แสบตาด้วยนะ ตอนแรกเตรียมใจตอนลืมตาว่าต้องแสบแน่ๆ

แต่ต้องแปลกใจที่ไม่แสบตา แต่ที่หักคะแนนเพราะว่ามันล้างความมันได้ดี คิดว่าคงไม่อ่อนโยนแบบเต็ม10 คนผิวแห้งอาจไม่ชอบ

การล้างออก 10/10 ล้างง่ายมากตัวนี้ 

ความรู้สึกหลังใช้ 9/10 ล้างได้สะอาดดี หน้าไม่มัน แล้วก็ไม่แห้งตึงด้วย แต่ไม่ชุ่มชื่นเท่าตัวที่ผ่านมา มีกลิ่นหอมแบบเย็นๆอ่อนๆด้วยชอบอะ

สรุป ซื้อซ้ำไม๊ ซื้อสิ แหม บรรยายมาซะขนาดนี้

ตัวสุดท้ายนั้นคือ



ตัวนี้ของด็อกเตอร์สมชาย เพิ่งใช้หลอดแรก หยิบมาเพราะมันเป็นแบบเจล และยังเขียนว่าลดความมัน ดูแลปัญหาสิวอีกด้วย

แหม...ช่างเป็นสิ่งที่ตามหา มันมีสองสี สีน้ำเงิน กับเขียว ช่วยเรื่องเดียวกัน แต่สีเขียวมีว่านหางจระเข้ เหมากับผิวแพ้ง่าย หยิบสิค่ะ รออะไร

ราคา จำไม่ได้อะ ซื้อมาพร้อมอย่างอื่น แต่ไม่แพงแน่ ไม่งั้นคงไม่หยิบมา

ปริมาณ 55 g.

ลักษณะเป็นเจลใสๆ เหมือนตัวอื่นแต่ข้นกว่าตัวอื่น ตอนบีบออกมาทีแรกจะอยู่ตัวแต่สักพักก็ไหลตามือเหมือนกัน ผสมน้ำก่อนใช้

ภาพขวา ตัวนี้ก็มีฟอง คล้ายๆที ทรี แต่ฟองแน่นกว่า เยอะกว่า

ความสะอาด  8/10 เครื่องสำอางแน่นอนว่าล้างไม่ได้ ความมันก็หลงเหลือนิดหน่อยถ้าหน้ามันมาก 

ความอ่อนโยน 8/10 ไม่แสบหน้า แต่แสบตา ฮื่อๆ 

การล้างออก 9.5/10 ตัวนี้ก็ล้างออกง่าย ไม่ต้องถูนานก็ออกหมดละ

ความรู้สึกหลังใช้ 8/10 หน้าสะอาดดี ไม่แห้งตึง ไม่ทิ้งความมัน แต่ก็ไม่เพิ่มความชุ่มชื่นเท่าไหร่ ลื่นๆที่ผิวนิดนึง

สรุป ซื้อซ้ำไม๊ อยากลองอีกสูตรนึง คือตัวนี้ก็อยู่ในระดับดี แต่ยังไม่ถึงขนาดไม่เปลี่ยนใจ ชอบลองของใหม่ๆ

จบแล้วคร่าาาา

ปล.ทีมีหลายตัวพร้อมกันไม่ได้ใช้วันเดียวนะ แต่เป็นคนขี้เบื่อนิดนึง หยิบอะไรได้ก็ใช้ตัวนั้นเป็นการเปลี่ยนกลิ่นด้วยเท่านั้นเอง

                                                :):):):):):):):):):):)

หวังว่าคงจะเป็นประโยชน์กับคนที่กำลังหาคลีนซึ่งตัวใหม่นะคะ ยังไงก็ลองเปรียบเทียบดูตามความชอบ

แต่ละตัวมีข้อดีหมดเลย แค่ข้อดีคนละข้อ ชอบแบบไหนก็แล้วแต่คนเนาะ




 

Create Date : 08 กันยายน 2558    
Last Update : 8 กันยายน 2558 23:40:26 น.
Counter : 1162 Pageviews.  

1  2  

แพลงก์ตอนอวกาศ
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]






Friends' blogs
[Add แพลงก์ตอนอวกาศ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.