|
|
|
รสชาติแบบ พั้นช์ วรกาญจน์ โรจนวัชร
วันพฤหัสบดีที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2552
“คน ที่หยิ่ง ทะนง ลืมตัว พั้นช์มีความรู้สึกว่าคนที่เป็นแบบนั้น เขาคิดอะไรอยู่ อย่างเรื่องการสุรุ่ยสุร่าย ถ้าเขามีเงินมากมาย มีเงินเหลือพอใช้แบบนั้นก็อีกเรื่องหนึ่ง
แต่ที่หยิ่ง ทะนง โอหัง นี่ทำไมเขากล้าทำ พั้นช์ก็มาคิดนะ เออดีนะที่เราไม่เป็น เพราะคนรอบตัวพั้นช์จะรู้ว่าพั้นช์ไม่ได้เปลี่ยนไปตามชื่อเสียงที่ดังขึ้น”
พั้น ช์-วรกาญจน์ โรจนวัชร ศิลปินหญิงคลื่นลูกใหม่ของแกรมมี่ ที่ตลอดเวลา 4 ปีในวงการเพลง เธอได้พิสูจน์ให้เห็นกันแล้วว่า เรื่องคุณภาพของการร้องเพลงไม่ด้อยกว่าใคร ยิ่งเรื่องของการวางตัวข่าวคาวเสื่อมเสียไม่ได้แตะต้องให้ระคายชื่อเสียง แถมยังมีตำแหน่งลูกกตัญญู และเยาวชน ดีเด่นแห่งชาติ ในปี 2550 การันตีอีกด้วย
กว่าจะมาถึงจุดนี้ได้ พั้นช์ได้ทำเต็มที่กับทุกๆ อย่าง โดยเฉพาะการร้องเพลงที่ร้องมาตั้งแต่เด็กๆ เพราะเป็นครอบครัวดนตรี หรือจะเรียกว่าตระกูลดนตรีก็ได้ เพราะมีคุณปู่เป็นหัวหน้าวง รายได้จากนักร้องตัวเล็กๆ คนนี้เป็นรายได้หลักของครอบครัว และตอนนั้นก็เป็นเพียงเงินก้อนจำนวนน้อยนิด
จนเมื่อพั้นช์มีโอกาส ได้เข้ามาเป็นศิลปินฝึกหัดที่แกรมมี่ เมื่ออายุ 17 ปี และได้ออกอัลบั้มแรกเมื่ออายุ 20 ปี “พั้นช์ไม่มีเงินไปเรียนร้องเพลงที่ไหน มีแต่ประสบการณ์ที่ครอบครัวให้ พอประกวดร้องแกรมมี่เห็นก็เรียกเข้ามา ตอนนั้นเขาห้ามพั้นช์ไปร้องเพลงที่ไหน แต่ด้วยตอนนั้นเราไม่มีรายได้เลย เพราะเขาไม่ได้ให้เป็นเงินเดือน พั้นช์ก็แอบไปร้องเพลงเหมือนเดิม ไม่อย่างนั้นเราจะไม่มีเงินมาเป็นค่าใช้จ่ายใดๆ เลย เพราะพ่อกับแม่ก็ไม่ได้ทำงาน รายได้มาจากพั้นช์คนเดียว” ... ตอนนี้ความลับที่พั้นช์ปกปิดไว้คงจะเป็นที่รู้ทั่วกันแล้ว
พั้นช์ ต้องเป็นเสาหลักให้ครอบครัวตั้งแต่ยังเด็ก แต่ด้วยใจสู้ และการมองโลกในแง่บวก ปัญหาที่ใครหลายๆ คนอาจจะมองว่าหนักหน่วง แต่สำหรับเธอแล้ว เป็นความสุขใจที่ได้ทำ “เกิดและเติบโตมาในชุมชนเสสะเวช ย่านฝั่งธน คนภายนอกอาจจะมองว่า ที่นั่นมียาเสพติด สิ่งแวดล้อมอาจจะไม่ดีมาก แต่สำหรับพั้นช์ที่นั่นเหมือนบ้าน เหมือนบ้านที่อยู่ชานเมือง และการที่เราก้าวมาถึงจุดนี้ได้พั้นช์ภูมิใจ เรามีความคิดความฝันอยากเป็นศิลปิน เดินทางไปประกวดร้องเพลง ไม่หลงไปกับยาเสพติด เราอยู่ในสังคมที่มีแบบนี้ แต่เราผ่านตรงนั้นมาได้ ซึ่งพั้นช์คิดว่าเราก็เป็นตัวอย่างให้กับเยาวชนได้
ครอบ ครัวพั้นช์เป็นครอบครัวใหญ่ มีความสุขมาก คนมองจากภายนอกมาสิ่งแวดล้อมอาจจะมีวัยรุ่น มียาเสพติด แต่พั้นช์ว่ามันเรียบง่าย เป็นสิ่งที่เราคุ้นเคย ทุกวันนี้พั้นช์ก็อยู่ที่นั่น การมาเป็นศิลปินดารา เราไม่ได้เปลี่ยนไป เราถูกปลูกฝังให้อยู่ง่ายกินง่าย การทำงานทำกับใครก็ได้ มีมนุษยสัมพันธ์ เพราะเราเจออะไรที่ลำบากมา ไปต่างจังหวัดก็ได้ แต่ตอนแรกที่ไปไม่คุ้นเพราะจะอยู่กับแม่ตลอดก็อยากกลับบ้าน แต่พอเรารู้ว่าต้องทำงานจะมีความรู้สึกเป็นผู้ใหญ่ขึ้นมาเอง เป็นหน้าที่ของเรา เราทำงานได้เงิน แลกกับสิ่งที่ช่วยเหลือครอบครัวเราได้ ซึ่งตรงนี้เราก็ปรับสภาพได้เอง”
พั้นช์เป็นศิลปินมา 4 ปี ผลงานออกมาแล้ว 4 อัลบั้ม นับว่ามีผลงานถี่และต่อเนื่องมากคนหนึ่งในบรรดาศิลปินยุคนี้ และล่าสุดอัลบั้มที่ 5 ก็เตรียมการจะออกราวปลายปีนี้ ซึ่งตอนนี้กำลังทยอยทำเพลง โดยปล่อยซิงเกิลแรก “เพื่อนกันวันสุดท้าย” ออกมา คราวนี้พั้นช์มาพร้อมความสนุก สดใส แสดงถึงความเป็นคนช่างแซว ช่างอำ เป็นอีกมุมหนึ่งที่สนุกสนาน อารมณ์ดีของพั้นช์ ต่างจากในอัลบั้มที่ผ่านมาซึ่งค่อนข้างเศร้า กับเพลงนี้พั้นช์ยังได้ใช้เทคนิคการร้องแบบดับเบิล เป็นการร้องเสียงตัวเอง 2 ครั้ง เป็นกลวิธีเพิ่มความน่าสนใจในเสียงร้องท่อนฮุก เพราะการร้องทั้ง 2 ครั้งนั้นจะต้องร้องให้เป๊ะ ทุกคำ ทุกเสียงต้องสั้น ยาวเท่ากัน ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่าย ส่วนภาคดนตรีมีความแข็งแรง เข้มขึ้น เป็นมีเดียมร็อกแอนด์โรลล์ที่ฟังสนุก
“ตั้งใจที่จะปล่อยเพลงแรกเป็น เพลงเร็ว เพราะทำอัลบั้มใหม่ก็อยากให้คนได้เห็นอะไรใหม่ๆ เป็นการเปลี่ยนแปลง ที่ภาพรวมก็ยังคงคอนเซปต์เดิม คือเรียบง่าย เข้าถึงได้ง่าย มีความเป็นกันเอง เนื้อเพลงสื่อสารเข้าใจง่าย เป็นกันเอง แต่การทำงานก็เปลี่ยน ที่ผ่านมาจะทำทั้งอัลบั้ม แต่อัลบั้มนี้ทำเป็นซิงเกิลไปก่อน เดี๋ยวนี้เป็นแบบนี้หมด การทำซิงเกิลจะไม่เห็นภาพรวมอัลบั้มมากนัก แต่จะรู้แนวคร่าวๆ ก็เห็นแนวดนตรี แต่การทำงานแบบนี้ก็ไม่หนักมากสำหรับศิลปิน เรามีเวลาโปรโมตเพลงนี้เต็มที่ไปเลย ก็ได้เตรียมตัวเยอะขึ้น ได้หาประสบการณ์ในช่วงทำเพลงเยอะขึ้น ก็ถือว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ดี ทำงานไม่กดดันมาก”
นอกจากงานเพลงแล้วพั้นช์ได้มีโอกาสเล่นหนังเรื่อง วิญญาณอาฆาต แม้จะยังยืนยันเหมือนตอนแรกที่เล่นหนังว่า งานแสดงยังยากกว่างานร้องเพลงอยู่ดี และเธอก็ถนัดและชอบการร้องเพลงมากกว่า แต่ล่าสุด เธอก็ได้รับเล่นละครเรื่อง “ทัดดาว บุษยา” ทางช่อง 3 แล้ว หลังจากที่ทางผู้จัดละครตามจีบกันอยู่ข้ามปี ถึงยอมใจอ่อน
“การแสดง เป็นสิ่งที่พั้นช์ไม่ชอบ เป็นสิ่งที่รู้สึกว่าไม่เคยทำแล้วไม่เหมาะ เพราะเป็นคนพูดเร็ว แล้วบทละครมันต้องพูดยาว เราต้องจำ และใส่อารมณ์กับเนื้อหาในคาแรกเตอร์นั้น ซึ่งมันยากมาก คิดนานมากกว่าจะรับเล่น ขอทำเพลงดีกว่า แม่บอกเล่นไปเลย หลายคนก็บอกลองดูสิ ซึ่งถ้าไม่มีใครพูดพั้นช์จะไม่รับ เพราะไม่ชอบเลย ความรู้สึกมันยาก กลัวทำออกมาได้ไม่ดี พอมาถึงจุดหนึ่งลองดูก็ได้นะ งานที่เราคิดว่าทำไม่ได้ ถึง ณ จุดหนึ่งเราอาจชอบ หรือเรื่องนี้อาจจะเป็นเรื่องเดียวของเราก็ได้”
ตอนนี้ละครทัดดาว บุษยา กำลังอยู่ในระหว่างการถ่ายทำ และมีกำหนดออกอากาศต้นปีหน้า ต้องรอดูว่าพั้นช์จะสวมบทบาททัดดาว บุษยา ที่มีคำพูดฮิตติดปากว่า “เจ้าฮะ” ได้โดนใจผู้ชมเหมือนการร้องเพลงหรือไม่ ต้องให้โอกาสเธอทดสอบ
Thanks :: //www.posttoday.com/lifestyle.php?id=60572
  
| Create Date : 16 สิงหาคม 2552 | | |
| Last Update : 16 สิงหาคม 2552 8:31:29 น. |
| Counter : 1624 Pageviews. |
| |
|
 |
|
|
|
|
|
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [