แม้จะมี Microsoft Project เป็นเครื่องมือช่วยในการทำ Workplan แต่เชื่อว่าหลายคนก็คงเหมือนผม คือถนัดที่จะใช้เครื่องมือที่มีอยู่เช่น Microsoft Excel สร้าง Workplan อย่างง่ายๆมาใช้ ซึ่งในบางกรณีนั้น สะดวก และรวดเร็วกว่าใช้ซอฟท์แวร์ที่เทอะทะอย่าง Microsoft Project เสียด้วยซ้ำ
ผมมีเทคนิคที่จะทำให้ Workplan บน Excel ของเราทำงานได้ไกล้เคียงกับซอฟท์แวร์ที่ทำงาน Planning โดยตรงได้ (อย่างน้อยก็เรื่อง Barchart ของงานแหละครับ)
ตัวอย่าง Workplan แบบง่ายๆบน Excel
ก่อนอื่นต้องรู้จักคุณสมบัติของ Conditional Formatting ของ Excel ก่อน ประโยชน์ของมันก็คือ เราสามารถจัดฟอร์แมตของเซล หรือกลุ่มของเซลโดยใช้เงื่อนไขในเซลของมันเอง หรือจากเซลอื่นๆได้
ตัวอย่างเช่นข้อมูลอยู่ยอดขายอยู่ 5 บรรทัด อยากจะให้มีการ highlight ข้อมูลยอดขายตั้งแต่ 15000 บาทโดยอัตโนมัติเราก็เพียงแต่เลือกเซลข้อมูลทั้งหมด แล้วเลือกเมนู Home --> Conditional Formatting --> Highlight Cells Rules --> More Rules...
จากนั้นตั้งค่าตามรูปข้างล่าง แล้วคลิก OK
ตารางข้อมูลเราก็จะมีการ highlight สีตามที่ต้องการ
ทดลองเปลี่ยนค่าในตารางดูก็ได้ จะพบว่ามันจะ highlight ใหม่ตามเงื่อนไขที่เราตั้งไว้โดยอัตโนมัติ
คราวนี้เราอาจจะอยากให้มัน Highlight ทั้งบรรทัดในตาราง ก็สามารถทำได้แต่ต้องปรับปรุงการตั้งค่า Conditional Formatting นิดหน่อย เริ่มจากเลือกเซลแรกของคอลัมน์
พนักงานขาย แล้วเลือกเมนู Home --> Conditional Formatting -->
Highlight Cells Rules --> More Rules... แล้วตั้งค่าตามรูป
(สังเกตุให้ดีว่ามีการเปลี่ยน Rule Type ไปใช้ Use a formula to determine which cells to format)
มีการใส่สูตรลงในช่อง Format values where this formula is true: ดังนี้
=$B2>=15000
เมื่อคลิก OK จะพบว่าเซลแรกของคอลัมน์พนักงานขายจะเปลี่ยนรูปแบบตามที่ต้องการแล้ว
*** สำคัญมาก ***
สังเกตุการใช้สูตรให้ดีๆ เราจะใส่ $ ไว้ข้างหน้าเลขคอลัมน์ B เท่านั้น แต่ไม่ใส่ไว้ที่เลขแถว ทั้งนี้เพื่อใช้ในขั้นตอนต่อไปซึ่งเป้นการก๊อปปี้ฟอร์เมตของเซลนี้ไปที่บรรทัดอื่นๆ สูตรจะเปลี่ยนแปลงการเเปรียบเทียบเซลในคอลัมน์ยอดขายให้เราเอง (เช่นจาก $B2>=15000 เป็น $B3>=15000 และ $B4>=15000 ตามลำดับ)
ขั้นตอนต่อไปเป็นการก๊อปปี้ฟอร์เมตของเซลแรกของคอลัมน์พนักงานขายไปยังแถวอื่นๆในคอลัมน์เดียวกัน ให้กดปุ่ม Ctrl-C เพื่อก๊อปปี้เซลที่เพิ่งตั้งค่า Format ข้างต้น แล้วเลือกเซลที่เหลือของคอลัมน์พนักงานขายแล้วคลิกเมาส์ขวา เลือก Paste Special --> Formats
เมื่อคลิก OK ทั้งบรรทัดก็จะ highlight ตามเงื่อนไขในค่าในคอลัมน์ยอดขาย
ขั้นตอนต่อไป เราจะใช้ Condition Formatting นี่แหละในการสร้าง Barchart ที่จะแสดงโดยอัตโนมัติเมื่อเรากำหนดช่วงเวลาของ Task ที่เราต้องการ
แรกสุด ให้สร้างตารางรายการ Task ที่ต้องดำเนินการตามแผนงานของเรา
ขึ้นมาก่อน โดยแต่ละ Task มีคอลัมน์ Manday ที่ต้องใช้ในแต่ละ Task
วันเริ่มงาน (start date) และวันสิ้นสุดงานในแต่ละ Task ตามรูป
ขั้นตอนต่อไปคือ สร้างหัวตารางด้านบนให้เป็นวันที่ตามแผน โดยในตัวอย่างนี้ผมสร้างตารางแผนงานรายวัน เพื่อจะได้ง่ายต่อการทำความเข้าใจสูตรที่จะใช้
จากหัวตาราง ผมใส่วันเริ่มต้นของแผนงานที่เซล F2 เป็นวันที่ 31-Aug-09 ส่วนในเซลข้างขวาต่อไปก็เพียงแต่ใส่สูตร =F2+1 แล้วก๊อปปี้สูตรไปตามด้านขวาเรื่อยๆตามแต่ที่ต้องการจะสร้าง จัดรูปแบบเสียหน่อยให้แสดงแค่วันที่กับเดือนก็ได้ครับ ในตัวอย่างผมจะทำสัก 15 วัน
ขั้นตอนต่อไป ลองใส่วันที่เริ่มทำงาน (Start Date) ที่บรรทัด Conceptual
Design แล้วใส่จำนวนวันที่จะใช้ (Duration Day) สมมติว่าเป็น 31-Aug-09
และ 2 วันตามลำดับ ส่วนช่อง End Date ให้ใส่สูตร =C5+B5-1
ขั้นตอนต่อไป เป็นการใช้ประโยชน์จาก Conditional Formatting
โดยเราใช้หลักการที่ว่า ถ้าเซลไหนไม่เป็นเซลว่า เราจะให้กลายเป็นสีน้ำเงินทั้งเซล เลือกเซล F5 จนถึง U5 แล้วกำหนด Conditional Formatting ดังรูป
ช่องหลัง Containing นั้นความจริงไม่ใช่ช่องว่า แต่มีการเคาะ spacebar
หนึ่งทีที่ช่องนี้ครับ (ความหมายคือมี space 1 ตัวอักษรนั่นเอง)
กำหนดสูตรลงในเซล F5 ดังนี้ (ดุรูป Workplan 6)
=IF(AND(F$2>=$C5,F$2<=$D5)," ","")
ความหมายของสูตรนี้ก็คือ หากวันที่บนเซลหัวตาราง (row 2) มีค่าอยู่ระหว่า
Start Date กับ End Date ก็ให้ใส่ space ไว้ 1 ตัวอักษร ถ้าไม่ก็ไม่ใส่อะไร
ระวังการใช้เครื่องหมาย $ ในสูตรด้วย เพราะเราจะใช้การก๊อปปี้สูตรไปที่เซลอื่นทางขวาจนถึงเซล U5 (Workplan 7) และก๊อปปี้ลงไปทั้งแถวจนถึงเซล U9 (Workplan 8)
จะเห็นว่า ในบรรทัด ่Conceptual Design นั้น จะมีเซลที่เป็นสีน้ำเงินอยู 2 เซล ตรงตำแหน่งวันที่เดียวกับ Start Date และ End Date
ลองกำหนดงานในบรรทัดอื่นๆเข้าไป
โดยที่วัน Start Date ของบรรทัดถัดไป อาจจะใช้การคำนวนจาก End Date
ของบรรทัดบน+1 ก็ได้ (ดูรูป Workplan 9) ส่วนคอลัมน์ End Date ของแต่ละแถว
ให้ก๊อปปี้สูตรจากบรรทัดด้านบนคอลัมน์เดียวกันลงมา เราจะได้ Bar Chart ด้านขวามือโดยอัตโนมัติ (ดูรูป Workplan 10)
ฺBarchart ด้านขวาในแผนนั้น จะเปลี่ยนตามวันที่เรากำหนด Start Date และ End Date ครับ