Group Blog
 
All Blogs
 
24 ตุลามคม 2551 กุ้ยหลิน สระมรกต น้ำตกร้อน และอ่าวนาง

  • วันนี้เราตื่นนอนตั้งแต่ตี 5 เพราะมีนัดขึ้นเรือตอน 6 โมงเช้า สิ่งที่เรากลัวที่สุดคือปวดท้องขณะอยู่บนเรือ เราสองคนจึงไม่กินอะไรหนัก ๆ ก่อนลงเรือ เตรียมแค่น้ำกับขนมติดไปกันหิวก็พอ อีกสิ่งที่ภวนาคือขออย่าให้ฝนตกเพราะจะดูวิวก็ลำบาก จะถ่ายรูปก็ลำบาก เป็นอีกวันที่ฟ้าเป็นใจไม่มีฝนตกระหว่างอยู่บนเรือ
  • ข้อแนะนำการเดินทางไปท่าเรือก่อน 6 โมงเช้า ถ้าพักที่บ้านริมเขื่อนหรือบ้านพักการไฟฟ้า ต้องวิ่งย้อนออกไปเกือบถึงประตูหน้าแล้วเลี้ยวซ้าย ถ้าไปทางสันเขื่อนจะเจอเหล็กกั้นบริเวณกลางสะพาน ถ้าไปท่าเรือหลัง 6 โมงเช้าไปทางไหนก็ได้ครับ

  • พี่คนขับเรือของเรา บ้านเดิมอยู่ในหมู่บ้านกลางเขื่อน เมื่อสร้างเขื่อนเสร็จบ้านของพี่คนขับเรือ วัด และโรงเรียนถูกน้ำท่วมจนหมด ทำให้เราเข้าใจว่าความสวยงามในวันนี้แลกมาด้วยคราบน้ำตาของใครอีกหลายคน

  • บรรยากาศระหว่างทาง เห็นหมอกอยู่ไกล ๆ

  • พี่ใจดีสองคนด้านหลังนี่แฟนผมนี่แหล่ะครับ ทำให้เราเปลี่ยนแผนการเดินทาง พี่ผู้หญิงชื่อโตโต้ บ้านอยู่ใกล้ภูชี้ฟ้า ซึ่งเป็นที่เที่ยวเป้าหมายของเราสองคนปลายปีนี้

  • บรรยากาศระหว่างทาง เต็มไปด้วยหมอก ทิวเขาตั้งตระหง่าน ท่ามกลางผืนน้ำกว้างใหญ่



  • น้ำจืดใส ๆ สีเขียวเข้ม แสดงว่าน้ำลึกมาก







  • เรืออีกลำที่พบกลางทาง ก๊วนนี้มากันหลายคน



  • ต้นไม้ตายซาก ดูสวยงามไปอีกแบบ

  • สัญลักษณ์ของกุ้ยหลินด้านหน้าเป็นยอดเขาเล็ก ๆ สามลูกเรียงต่อกัน สวยงามมากครับ

  • สัญลักษณ์ของกุ้ยหลินด้านหลัง ณ จุดนี้พี่คนขับจะดับเครื่องเรือและหยุดให้เราถ่ายรูป มุมนี้เป็นมุมที่นิตยสารท่องเที่ยวนิยมนำรูปไปลง

  • แพนางไพร แพที่พักของอุทยานที่อยู่ใกล้ที่สุด บริเวณหน้าแพมีวิวที่สวยงาม

  • เมื่อชมกุ้ยหลินเสร็จแล้ว กลับมาทานอาหารเช้าที่บ้านพักโดยมื้อนี้เป็นข้าวต้มปลาจากร้านครัวคุณเล็กเหมือนเมื่อคืน ราคาชามละ 40 บาท เนื้อปลาชิ้นใหญ่ ๆ ข้าวเต็มชาม เมื่ออิ่มแล้วเราก็มุ่งหน้าสู่จังหวัดกระบี่กันเลย โดยใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 105 ระหว่างทาง เราแซงรถคันหนึ่งที่ขับช้ามาก ๆ โดยบริเวณนั้นเป็นทางตรงแต่มีสะพานติดกันสองสะพาน ซึ่งเราสามารถมองเห็นข้างหน้าได้อย่างชัดเจน พอแซงปุ๊บก็เจอตำรวจทางหลวงตั้งด่านอยู่พอดี ตำรวจเค้าเป็นห่วงความปลอดภัยของประชาชนครับ กลัวว่าจะมีอุบัติเหตุจึงคอยยืนดักเตือนประชาชนที่เป็นผู้จ่ายเงินภาษีให้ท่านกับเขา
  • ในที่สุดก็ต้องเลี้ยงน้ำตำรวจไป 100 บาท จุดนี้อยากเตือนให้ระวังครับ ทางหลวงหมายเลข 105 อย่าแซงบริเวณทางตรงที่ดูเหมือนไม่มีอะไร เมื่อเลี้ยงน้ำตำรวจแล้ว 11:28 ก็เดินทางมาถึงป้ายต้อนรับเข้าสู่จังหวัดกระบี่ พักทานเข้ากลางวันที่ Big C

  • 13:42 เดินทางถึงสระมรกต ฟ้าครึ้ม ๆ แต่ฝนก็ไม่ตก พวกเราไม่รอช้าเพราะจากปากทางที่ชำระค่าธรรมเนียมต้องเดินเข้าไปอีก 800 เมตร ขนมและของกินนำเข้าไปไม่ได้ สำหรับน้ำดื่มนำเข้าไปได้

  • หลังเดินเท้ามา 800 เมตร ถึงแล้วสระมรกต เหมือนสระว่ายน้ำกลางป่า สวยงามไปอีกแบบ

  • ในน้ำที่ไหลมาจากภูเขา มาลงที่สระมรกตมีแร่ธาตุบางอย่าง เพราะหินและดินบริเวณนั้นมีคราบตะกอนสีเหลือง เกาะเต็มไปหมด

  • ออกจากสระมรกต ขับรถตามเส้นทางเดิม จะพบทางแยกไปน้ำตกร้อน ลักษณะเป็นเหมือนน้ำตกทั่ว ๆ ไป แต่น้ำที่ไหลออกมาจะเป็นน้ำร้อน เราสองคนไม่ได้มีแผนจะลงเล่นน้ำอยู่แล้ว จึงนั่งแช่เท้าแทนเพื่อคลายความเมื่อยล้าจากการเดินทาง ขณะจะออกจากน้ำตกร้อนฝนเริ่มตกปรอย ๆ นับเป็นโชคของเราที่เที่ยวเสร็จแล้วฝนจึงตก





  • เดินทางมาถึงอ่าวนาง เริ่มเย็นแล้วที่พักก็ยังไม่มี เราจึงเริ่มขับรถ Survey ตั้งแต่อ่าวนางไปจนถึงหาดนพรัตน์ มาได้ที่พักที่ โรงแรมอ่าวนางวิลเลจรีสอร์ท อยู่ตรงข้ามกับธนาคารกรุงเทพฯ มีที่จอดรถภายในโรงแรม ไม่ต้องจอดริมถนน ราคาที่พักเพียง 600 บาทเท่านั้น ที่พักสะอาด ถ้ามาอ่าวนางแนะนำพักที่นี่เลยครับ ผมไม่ได้เป็นนายหน้าแต่เห็นว่าคุ้มกับเงินที่ต้องจ่ายไป


##### จบการ Review วันที่ 24 ตุลาคม 2551 #####



Create Date : 28 ตุลาคม 2551
Last Update : 7 พฤศจิกายน 2551 15:45:42 น. 1 comments
Counter : 1538 Pageviews.

 
เดือนสิงหาคม ปี 55 นี้ผมวางแผนว่าจะไปเที่ยว กุ้ยหลิน เมืองไทย ที่สุราษฎร์ธานี ...เห็นของพี่แล้วยิ่งอยากไปมากๆๆ ครับ


โดย: khundenkrup วันที่: 27 พฤษภาคม 2555 เวลา:6:46:19 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Bullish Signal
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add Bullish Signal's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.