จะดีไม๊ .. ถ้าเราจะฝึกดนตรีสายตะวันตกสักชิ้นในตอนอายุ 30 ปี
มาบ่นละกัน เพราะมันน่าอึดอัดนะสำหรับการไปแจมแล้ว แบบว่าเรารู้โน๊ต เราฟังออก เราไปได้ แต่เครื่องมือของเรามันไปด้วยไม่ได้เต็มที่ เดี๋ยว! Stop เลย ผมว่าต้องมีคนหาว่าผมคิดว่า "คิดมากน่า" ก็แหม.. ในอดีตก็เคยมีโอกาสได้ฝึกดนตรีตะวันตกกับเขาเหมือนกัน แต่ไม่สำเร็จเพราะเรียนจบ ม. ต้นซะก่อน เลยไม่รู้ว่า เมื่อในขณะนี้วิญญาณแห่งการดนตรีถูกปลุกชีพขึ้นอีกรอบ จะมีโรงเรียนดนตรีที่ไหน หรือผู้ที่มีจิตรศรัทธาที่จะสอนเครื่องดนตรีตะวันตกให้กับผมสักชิ้น "แต่คงไม่ใช่ Violin" เพราะหุ่นของตัวเอง น่าจะได้แค่วิโอล่า หรือเริ่มที่เชลโล่ไปเลยจะดีกว่าจะลองหาข้อมูล แล้วอีก 2 ปี เจอกันแน่ เหอ เหอ เหอ "ก็คงราว ๆ อายุ 32-33 ปี คงไปเล่นแบบ วงเยื่อไม้ ได้แน่ ๆ "ผู้ให้การพร่ำ: เจ้าของสวนหน้าบ้าน
Dizi หรือขลุ่ยผิว จอม Solo แห่งป่าดงไพร (ตอน 1)
แนะนำเครื่องดนตรีอีกชนิดที่คนไทย คุ้นแต่ไม่เคยกันนัก เครื่องดนตรีชนิดนี้ถือว่ามีอายุยืนยาวมากเกือบจะที่สุดเลยก็ว่าได้ เพราะมีวิวัฒนาการมาจากการ "เป่าใบไม้" เคยลองไม๊ครับ นำใบไม้มาแล้วเป่าลมให้เป็นลักษณะรวมศูนย์กลาง ปล่อยไปที่ใบไม้โดยมีมือเราจับให้ตึง จะเกิดเสียงหวีดหวิว การเป่าใบไม้นี่ก็สามารถเป่าเป็นเพลงได้เลยนะ จะ บอก ให้ แต่ผมไม่ถึงขั้นนั้นหรอกครับ ต้องไปเกิดใหม่ก่อนน้อขลุ่ยผิวของจีน หรือภาษากลางเรียกว่า Dizi (ภาษาพินอิน) อ่านทับเสียงอักษรเสียงจีนกลางน่ะครับ มี่คนไทยเราคุ้นหน้าคุ้นตา ก็จะเป็นแบบชนิดที่มีรูสำหรับผิวด้านข้าง เวลาผิวจะมีท่วงท่าที่สง่ามาก แต่จะให้ผิวออกเสียงมานั้น ไม่ง่ายร๊อก จะบอกให้ขลุ่ยผิวในปัจจุบันมีหลายคีย์ครับ อย่างที่เคยกล่าวว่าดนตรีจีนมีวิวัฒนาการตลอดเวลา ทันต่อโลกตะวันตกเพียงแต่อายุเหมือนบ้าหอบฟางในบางครั้ง อย่าง Dizi ก็เช่นกัน มีหลายกลยุทธครับ ดังนี้1. ขลุ่ยผิวชนิดที่สามารถปรับคีย์ หรือปรับระดับเสียงให้มีความตรงกับเครื่องดนตรีหลักชิ้นอื่น ขลุ่ยแบบนี้แยกส่วนได้ครับ การปรับเสียงก็คือการเลื่อนเข้า-ออกเล็ก ๆ น้อย ๆ เป็นการปรับจูน ซึ่งทำได้สูงสุดคือแปลงเสียงให้สูงขึ้นครึ่ง/หนึ่งเสียง หรือลดลง ครึ่ง/หนึ่งคีย์ ขึ้นอยู่กับความยาวของรอยต่อนั้น และเพื่อความสวยงามก็จะเอาทองเหลืองมาหุ้ม เท่ห์ระเบิดเลย2. Dizi Set หรือขลุ่ยผิวแบบยกเซ็ท ครับ ข้อ 2 นี้คือรับมือได้ทุกรูปแบบ ต้องใช้ทักษะชั้นสูงเลยทีเดียว เพราะจะมีขลุ่ยให้เลือกหลากหลายคีย์มาก มาไม้ได้ ฉันเล่นได้หมด ไม่มืออาชีพ ก็ไม่จำเป็นต้องหามานะครับ เพราะราคาก็ไม่ธรรมดาเหมือนกัน อันว่าขลุ่ยผิวนี้มีการปรับจูนเสียงในตัวอย่างน่าทึ่ง เพราะขลุ่ยผิวได้ถูกพัฒนาให้หลากหลาย และแบบทั่ว ๆ ไปก็จะมีรูสำหรับติดเยื่อไผ่ นี่แหละครับ จุดสำคัญจุดที่สอง เราต้องเลือกที่จะติดเยื่อไผ่ให้ถูกกาลเทศะด้วย ถ้าไปเล่นเพลงหวาน ๆ เศร้า ๆ ก็ควรติดให้เสียงออกทุ้มหน่อย โหยหวล เศร้า และน่าขนลุก แต่ถ้าเป็นงานกงเต็ก อาจจะปรับให้มีเสียงที่แหลมคม เพื่อให้เกิดความพริ้วไหวของเสียง วังเวงอีกเหมือนกัน แต่ก็จะลื่นหูกว่าไม่เศร้านัก แต่ถ้าเป็นการเล่นงิ้วละก็ ต้องใช้วิธีการติดเยื่อแบบว่า ทั้งหนัก ทั้งแหลม... ออกตัวก่อนว่า ผมค้นคว้าจากการสอดรู้สอดเห็น และจากคำแนะนำบรรดาผู้ที่อัจฉริยะกว่าผมทุกท่านรวมไปถึงลุงสมศักดิ์ที่ผมรู้จักด้วยนะครับ ติดต่อลุงสมศักดิ์ได้จะขอนำเรื่องของแกมาเผยแพร่ และจะบอกให้ว่าในไทยก็มีขลุ่ยผิวอยู่หลายกลุ่มนะ ไม่ใช่ว่าไม่มี แต่อะไรที่เราไม่สนใจ ก็จะไม่ได้พานพบ หรือพานพบแต่ก็ไม่ได้สนใจ จึงเลยผ่านไปอย่างน่าเสียดาย เพราะที่เมืองจีน การจะเล่นดนตรีแต่ละอย่าง ไม่อิสระแบบเรานัก (ตอนนี้ก็ผ่อนคลายลงเยอะแล้ว)เหล่าซือที่สอนกู่เจิ้งเล่าให้ผมฟังว่า "อยู่เมืองจีนลำบากมาก ๆ นะ" ก็คงเหมือนรุ่นก๋งของผมที่เล่าผ่านมาว่า "ลำบากนาา อยู่เมืองไทยพระเจ้าอยู่หัว ต้องทำงานถวายชีวิต" แล้วก๋งผมก็ลาโลกไปอย่างสมเกียรติจริง ๆ ด้วย (โม้อีกแล้ว)เอาละ ๆ ผมคงต้องเตรียมตัวอะไรบางอย่าง อีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้าจะต้องเดินทางไปรับแขกพิเศษ (คนนำทาง) สู่สวนหน้าบ้านที่ผมจะไปลุยในวันนี้ (คาดว่าคงกระเด็นออกมาหน้าบ้านแน่นอน) เนื่องจาก... สมาชิกเยอะครับ แบ่งปันกันไป เรามันคอดนตรีเหมือนกันไว้เรามาต่อกันเรื่องของ Dizi ยังไม่จบนะบอกก่อน
ผู้ชนะสิบทิศ เล่นด้วยเอ้อหู ก็ดูจะไง ๆ อยู่นะ
กำลังจะผ่านไปอีกหนึ่งวันสำหรับวันที่เป็นวันเสาร์ ยืดยาดไม๊ ไม่หรอกครับ สายน้ำจากภาคเหนือไหลบ่าลงมาเรื่อย ๆ ไม่ยืดยาดแน่เตรียมตัวกันให้ดีเถิดพระคุณท่าน เราขอเตือนครับปรับแต่งซอเอ้อหูใหม่ด้วยฟองน้ำรองรับ 2 ชิ้น ทำให้เสียงทุ้มลงจนเริ่มกังวลว่า "มันจะกลายเป็นเสียซอปี๊บ" ไปซะ เดี๋ยวผมต้องลอง test ด้วยการอัดเสียงเป็น wma ตามที่เพื่อนใหม่ผมบอก.. คงจะได้ฟังกันละครับ งานนี้ เ้อ้อหูีที่ถูกปีศาจหมูบรรเลง จะจับใจ๋โจ๋จุ๋ยไม๊ เดี๋ยวได้ยินกันในค่ำคืนนี้พี่ทูนหัว (ไม่ใช่พ่ออ่ะ) ก็โทรมาบอกให้รีบทำ resume เข้า 30 กำลังจะมาเยือน ถ้ายังทำตัวเป็นเหมือนเมฆยักษ์ลอยไปลอยมาด้วยอารมณ์ที่เพื่อนใหม่ผมเขาบอกอีกว่า นี่แหละอารมณ์ศิลปิน ก็มีหวังจะไม่เข้าท่าซะแล้ว..ว่าแต่... พรุ่งนี้ .. ถนนพัฒนาการ อยู่ตรงไหนหว่า หนังสือแผนที่ของผม "คู่มือท่องเที่ยวโดยรถยนต์ มันเก็บแผนที่กรุงเทพฯ ไม่ครบ อะจ๋ายยย ทำไงอ่ะ ขอให้แม่เจ้าจงบันดาลให้ลูกได้แผนที่ไฮเทคในคืนนี้ด้วยเถิดดดดด
ก่อนนอนคืนนี้ ... ฉานน จะสี เอ้อหู
เหนื่อยมาก วันนี้กับระยะทางอันแสนไกล พรุ่งนี้ก็อีกเช่นกัน แต่เมื่อมันจบลงก็คือการได้พักผ่อน แม้ว่าในรถจะมีอะไรต่อมิอะไรช่วยให้ผ่อนคลายก็ตามที ยังหาที่เกาะเอว (L) ไม่ได้เพราะยังไม่ได้โทรหาเจ่กที่ช่ลบุรี เฮ่อ ไม่อยากนั่งสี เพราะมันยืนได้ก็อยากจะยืน สัปดาห์นี้ยังมีความลังเลใจว่าจะไปแจมด้วยดีไม๊ เพราะรู้สึกตัวเองไม่พร้อม ปัญหาเกิดจากเวลา ก็ไม่เชิงนัก เพราะ ณ ตอนนี้ ผมก็สถิตย์ยังฝั่งธนฯ เป็นอันเรียบร้อย ที่สำคัญคือ ยังมะมีโน๊ตจริง ๆ จัง ๆ กับเขา เฮ่อ Autum Leave อะไรเทือกนี้ก็ต้องลองฟังให้ชินหู ... บ่นไปงั้น... สียันป้ายอยู่แล้ว... เราคงได้พบกันนะครับ ชาวแจ๊สตะวันตก
ฟังด้วยหู VS ฟังผ่านระบบเสียงด้วยหู?
หลังจากเมื่อคืนได้หาที่เงียบสงัดและลองใช้ Iaudio อัดเสียง เอาแบบหรูหน่อยก็เลยเป็น *.mp3 ผลออกมาน่าทึ่ง และก็เริ่มเข้าใจแล้วว่าทำไมเพื่อนถึงบอกว่าเสียงหวานไพเราะในขณะที่ตัวเองยังว่า "เล่นเท่าไร ๆ ก็ไม่เห็นจะไพเราะขึ้นมาได้" มันมีความแตกต่างกันครับในฐานะผู้บรรเลงสรุปจากการวิเคราะห์ได้ดังนี้:1. เสียงเอ้อหู ถ้าปรับแต่งให้อยู่ใน scale ระดับเสียงกลาง ฟังเสียงจริงด้วยหู จะหวานพอใช้2. ถ้าปรับแต่งให้สูงขึ้นไปอีกเสียงจะแหลมขึ้น คมขึ้น และความกลมของเสียงน้อยลง ถ้าฟังสด3. ถ้าปรับให้เสียงลงต่ำมากกว่าปกติ เสียงที่ต่ำ ๆ จะเยือกเย็นและกลายเป็นคางคกร้องได้ถ้าออกแรงมากเกินแต่ทุกอย่าง พอนำมาผ่านกระบวนการทางเทคโนฯ กลายเป็น MP3 หรือเสียงลงเทป cd น่าประหลาดที่ผมฟังแล้วทึ่งคือ ทุกระดับเสียงของเอ้อหู มีความกลมของเสียง และเล่นเพลงแนวสนุก ๆ ได้ น่าจะออกโซนวิโอล่ามากกว่า เดี๋ยวจะโทรหาเจ่กที่เมืองชลฯ ที่แกมีอุปกรณ์เกาะเอว อาทิตย์นี้ ผมจะยืน Solo ด้วย ไม่ยอมนั่งแน่นอน (ดูแววว่าจะต้องนั่งเพราะตัวเกาะนี่มีที่เซี้ยงไฮ้ และปักกิ่ง ฮ่องกง สิงคโปร์ และหังโจว)ถ้าว่างเย็น ๆ จะเข้ามาอีกเน้อ