OLYOH

การตั่งค่ากล้องของคุณ ต้องคำนึงถึงสิ่งใดบ้าง ?


การถ่ายภาพด้วยกล้อง Digital SLR นั้น จะช่วยให้คุณสร้างสรรค์งานที่มีความหลากหลายได้มากขึ้น แต่ แน่นอน นั่นหมายถึง คุณต้องสละเวลาที่จะเรียนรู้กับคำสั่งต่างๆของกล้องที่คุณใช้ มันอาจจะทำให้คุณรูสึกหงุดหงิด รำคาญ อยู่บ้างกับความไม่คุ้นเคย แต่ เชื่อเถอะ ทันที่ที่คุณใช้มันคล่อง มันจะเป็นเสมือนดวงตา ที่คุณจะใช้ถ่ายทอดบรรยากาศ ความรู้สึกออกมาได้ในแบบของคุณ และนี้จะสิ่งที่คุณควรศึกษา ก่อนที่จะพากล้องตัวเก่งของคุณออกไปผจนภัย

DSLR SETUP MENUเรียนรู้ที่จะ :: ควบคุมคุณภาพของภาพถ่าย
เมื่อพูดถึงรูปแบบไฟล์ คุณควรถ่ายภาพด้วยไฟล์ RAW แทนที่จะเป้น JPEG ข้อมูลที่ได้เพิ่มมากขึ้นซึ่งสามารถบันทุกไว้ในรูปแบบของไฟล์ RAW นั้น จะไม่มีการบีบอัดข้อมูล ซึ่งจะช่วยให้คุณมีความยืดหยุ่นในการปรับแต่งภาพมากขึ้น หากจะเทียบกับไฟล์ชนิดอื่นๆ จนคุณเองต้องตกใจ
พยายามใช้ค่าความไวแสง (ISO) ที่ต่ำที่สุดเท่าที่จะทำได้ คือ พยายามให้อยู่ระหว่าง ISO100-ISO400 เพื่อหลีกเลี่ยง Noise ซึ่งมักเกิดขึ้นเสมอ ในกล้อง Digital ซึ่ง Noise นี่ก็เหมือนกับเกรนในภาพถ่ายนั่นเอง
ส่วนค่า White balance นั้นคุณสามารถปรับทิ้งไว้ที่ AUTO ในช่วงแรกที่เพิ่งเริ่มเรียนรู้การถ่ายภาพ แต่หากมีการพัฒนาต่อไปในอนาคต คุณสามารถเรียนรู้ได้ว่า แสงแบบได คุณควรปรับค่า White balance แบบใด จึงค่อยเลือกที่จะใช้ระบบ White balance ที่เฉพาะเจาะจงนะครับ



เรียนรู้ที่จะ :: เข้าใจถึงการควบคุมหลักๆของกล้อง
รูรับแสง (Aperture)และความเร้วชัตเตอร์ (Shutter Speed) มีความสำคัญเป็นอย่างมาก การผสมผสานอย่างสอดคล้องของสองค่านี้ จะส่งผลโดยตรงกับลักษณะของภาพถ่ายที่ได้ออกมา เนื่องจาก ทั้งสองค่า เป็นตัวควบคุมปริมาณของแสงที่ผ่านเข้ามาในกระบอกเลนส์ ตรงเข้าสู่เซ็นเซอร์ประมวลผลของกล้อง
รูรับแสง (Aperture) ทำหน้าที่ควบคุมระยะชัดลึกของภาพ โดยการกำหนดปริมาณพื้นที่ในภาพที่จะมีความคมชัด เช่นถ้าคุณต้องการให้ตัวแบบชัดแต่ฉากหลังนุ่มนวลหรือเบลอ คุณจำเป็นต้องใช้ค่า รู้รับแสงที่กว้าง เช่น F2.8 เป็นต้น
ความเร็วชัตเตอร์ (Shutter Speed) จะเป็นตัวกำหนด ให้ตัวแบบของคุณ หยุดนิ่ง หรือมีลักษณะเคลื่อนใหวเบลอ อย่างได้ก็ได้ตามที่คุณต้องการ ยิ่งความเร็วชัตเตอร์ต่ำ ตัวแบบของคุณก็จะยิ่งมีความเบลอเพิ่มขึ้น ในทางกลับกัน ยิ่งความเร็วชัตเตอร์สูง ตัวแบบของคุณก็จะถูกจับให้หยุดนิ่ง สนิดได้เลยทีเดียว
เรียนรู้ที่จะ :: เลือกโหมด AF และโหมด Drive คือทางเลือกที่ฉลาด
เพื่อที่จะทำให้ภาพของคุณมีความคมชัด สูงที่สุด กล้อง DSLR จึงมีโหมดการโฟกัสที่หลากหลาย โหมดโฟกัสหลักสองโหมดได้แก่ แบบ Single สำหรับตัวแบบที่อยู่นิ่ง และโหมด Servo สำหรับตัวแบบที่เคลื่อนใหว กล้องส่วนใหญ่ จะสามารถเลือกจุดโฟกัสได้แบบเมน่วลเพื่อที่คุณจะสามารถจัดภาพให้มีจุดโฟกัสแบบที่ไม่ได้อยู่บริเวณกลางภาพได้อย่างสะดวกมากขึ้น
โหมด (Drive mode) จะช่วยให้คุณกำหนดว่าจะบันทึกภาพทีละภาพทุกครั้งที่คุณกดชัตเตอร์ หรือคุณต้องการให้กล้องบันทึกภาพต่อเนื่องตามบใดที่คุณยังกดปุ่มชัตเตอร์อยู่ หรือคุณอาจเลือกให้กล้องนับเวลาถอยหลังก่อนแล้วจึงบันทึกภาพ ตามเวลาที่คุณกำหนด ก็สุดแล้วแต่โอกาส ซึ่งก็เป้นทางเลือกที่ดีเลยทีเดียว สำหรับนักเดินทางที่ไปคนเดียวแล้วอยากมีภาพตัวเองไว้ติดฝาบ้านนะครับ อิอิ
เรื่องหลักๆที่ผมคิดออก และต้องคิดเสมอก่อนที่จะนำกล้องออกเดินทางไปตะลอนถ่ายรูปที่ใหนๆก็ตาม ก็คงมีเบื้องต้นเท่านี้ก่อน แต่จริงๆมันมีรายละเอียดอีกมากมาย ที่นำมากล่าวนี่เป็นเพียงส่วนหลักๆ ให้ท่านได้เตรียมที่จะเรียนรู้ ส่วนรายละเอียดปลีกย่อย เมื่อท่านเริ่มถ่ายภาพ ท่านจะเริ่มทราบเองว่า อะไร คือสิ่งที่ต้องคำนึงขั้นตอนต่อไป เช่น เรื่องการวัดแสง การปรับไวท์บาลานซ์ เป็นต้นครับผม วันนี้ง่วงละ เดี๋ยวไปนอนก่อนดีก่า อิอิ ฝันดีราตรีสวัสครับทุกท่าน




 

Create Date : 27 ตุลาคม 2554    
Last Update : 19 มกราคม 2556 16:23:55 น.
Counter : 765 Pageviews.  

กล้อง เลือกอย่างไร จึงจะเหมาะสม?

เลื้อกกล้องอย่างไรเคยมีคำถาม อยากได้กล้องซํกตัว จะเลือกยังงัยดีครับ?
ผมตอบแบบไม่ลังเล สวนกลับไปในทันที ... "เอาที่ชอบ ที่ชอบเถอะ"

อาจเป็นคำตอบที่ดูไม่แยแสใส่ใจกับผู้ถามเท่าที่ควรนัก แต่ลึกๆในหัวใจ ผมมั่นใจว่ามันคือคำตอบที่เป็นจริงที่สุด ^^
ทำไม่ผมจึงคิดและตอบไปเช่นนั้นนะหรอครับ ก็โดยพื้นฐานส่วนตัวแล้ว การที่เราได้ทำในสิ่งที่เราชอบ เรามักจะทำด้วยความใส่ใจและตั้งใจ แน่นอน ผลงานมันย่อมออกมาดีในระดับหนึ่ง คุณคิดเหมือนหรือแตกต่างจากผมยังงัยบ้างครับ อิอิ
คราวนี้เรามาพิจราณาถึงคำว่า "ชอบ" ของผมในที่นี้หน่อยครับ ว่ามันมีรายละเอียดอะไร อย่างไรบ้าง ผมมักจะแนะนำใน 4 เรื่องหลักดังนี้นะครับ
"ราคา" "ฟังชั่นการทำงาน" "ภาพที่ได้จากกล้อง" "ความถนัดมือ"

ทำไมต้อง "ราคา"
ยอมรับเถอะครับ ว่าทุกความต้องการของเรา บางทีมันก็ถูกจำกัดด้วยคำว่า "งบประมาณ" เพราะฉะนั้น สิ่งแรกที่คุณต้องสำรวจตัวเอง ก่อนจะมีคำถามว่า อยากได้กล้องตัวใหน รุ่นใหน ยี่ห้ออะไรดี "มันสำคัญตรงที่คุณมี งบประมาณเท่าไร" ยืดหยุ่นได้มากน้อยแค่ใหน เพราะการที่คุณแบกคำถามนี้ ไปถามใครซักคน คนที่ถูกถาม เค้าไม่สามารถรู้ได้เลย ว่าคุณมีความต้องการแค่ใหน อย่างไร มันจะทำให้ตัวคุณเองนั่นละครับ ที่จะได้รับคำแนะนำที่ไม่เหมาะสมกับความต้องการที่แท้จริง ถ้ามีงบน้อย ก็บอกเค้าไปว่างบน้อย เท่านั้นเท่านี้ เค้าจะได้บอกได้ว่า เหมาะสมที่สุดของคุณ มันควรจะเป้นไปในทิศทางใหน ไม่ต้องอายครับ ท่องไว้เลยว่า "อายครูไม่รู้วิชา อายภรรยา ไม่มีบุตร" อิอิ หวังว่าเพื่อนๆน้องๆคงพอจะมองภาพออกนะครับ กับคำอธิบายในส่วนนี้

ทำไมต้อง "ฟังชั่นการทำงาน"
สำคัญครับ หลังจาำที่ผู้แนะนำเค้ารับรู้รับทราบถึง งบประมาณและความยืดหยุ่นของคุณ ทีนี้ละ เค้าจะมองออกว่า คุณควรถือกล้องแบบใหน ประเภทใหน ที่เหมาะสมและครอบคลุมกับเจตนาอยากจะมีกกล้องของคุณ ทั้งในตอนนี้ และอนาคตต่อไป อันนี้สำคัญนะครับผมมักให้ความสำคัญกับตรงนี้มากๆ เพราะมันเปรียบเสมือนการลงทุน อุตส่าห์มีคนไว้วางใจ มาขอคำปรึกษา ต้องเน้นหน่อย เดี๋ยวไม่ถูกใจ พวกจะเคืองเอา ต้องอ่านให้ขาด อะไรทำนองนั้น 555+ เว้นแต่คุณไปถามผิดคน อันนี้ก็ตัวใครตัวมัน นะจ๊ะ

ทำไมต้อง "คุณภาพของภาพที่ได้"
สิ่งนึงที่เป็นกฏิกาทางการตลาดของกล้องถ่ายภาพ คือการแข่งขันกันในเรื่องของ "เทคโนโลยี" ที่นำมาใช้กับกล้องของตัวเอง ซึ่งส่งผลให้ภาพที่ได้ออกมาจากกล้องแต่ละค่ายนั้น มีความแตกต่างกัน ไม่ว่าจะด้วยเรื่องของโทนสี ความละเอียด ความคมชัด ฯลฯ นี่ละ คือสิ่งที่ต้องวัดกันที่รสนิยมส่วนบุคคลโดยแท้ แต่ละคน "รสนิยม" ไม่เหมือนกัน บางคนชอบภาพที่สีสรรค์ดูจัดจ้านหน่อยเพราะดูแล้วมันสดใสเจ็บจี๊ดได้ใจดีจัง แต่บางคนกลับรู้สึกว่ามันดูหลอกลวงไม่เป็นธรรมชาติ

ทำไมต้อง "ถนัดมือ"
ถนัดมือ ชอบ กดนู่น ปรับนี้ เหมาะมือดีจัง น้ำหนักกำลังดี สะพายแล้วไม่เมื่อย เคลื่อนไหวสะดวก .... ถ้าคุณมีกล้องที่ให้ความรู้สึกแบบนี้อยู๋ในมือ ผมเชื่อเหลือเกินว่า การถ่ายภาพเป็นเรื่องที่มีความสุขแน่นอนครับ

นี่ก็เป็นหลักคิด ในการให้คำแนะนำ สำหรับผู้ที่กำลังอยากมีกล้องส่วนตัว แต่มีคำถามอยู่ในใจว่า จะซื้อกล้องอะไร แบบใหนดี ... หวังว่าเมื่อท่านอ่านแล้ว ท่านคงพอจะเข้าใจถึงวิธีคิด วิธีพิจรณาในระดับนึงเนอะ

ผมมีข้อคิด สั้นๆ ให้ท่านพิจรณาประกอบก่อนตัดสินใจอยู่นิดนึงคือ
"ภาพที่ดี มันไม่ได้มาจากกล้องที่แพง เสมอไป" อิอิ
เดี๋ยวไว้ว่างๆ เราค่อยเข้ามาเหลาประโยคนี้ให้ฟังกันในเวลาต่อไปนะคร้าบ
ตอนนี้ผมขอกลับไปทำงานก่อน อิอิ





 

Create Date : 03 ตุลาคม 2554    
Last Update : 19 มกราคม 2556 16:40:31 น.
Counter : 540 Pageviews.  

เริ่มต้นอย่างไร ถ้าคิดจะเริ่มถ่ายภาพ

สวัสดีครับเพื่อนพี่ๆน้องๆในโลกออนไลน์แห่งนี้ บทความนี้ถือเป็นบทความแรกที่ผมจะเขียน เริ่มต้นด้วยการเขียนเรื่องที่ผมคิดว่าผมมีความชอบมากที่สุด
นั่นคือเรื่องของการถ่ายภาพ ^^

ก่อนที่จะกล่าวถึงหลักการ ทฤษฎีมากมายในศาสตรของการถ่ายภาพ

ผม ขอกล่าวถึงภาพรวมของการทำให้ได้มาซึ่งภาพถ่ายก่อนเป็นลำดับแรกในบทความนี้ก็ แล้วกันนะครับ เนื่องจากที่ผ่านมา ผมสังเกตุเห็นว่า เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ที่สนใจ มีความชอบ ในเรื่องของการถ่ายภาพ แต่ยังไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไร (ซึ่งรวมถึงตัวผมด้วยในอดีต) ผมจึงขอแนะนำจากประสบการณ์ส่วนตัวดังนี้เลยนะครับว่าควรจะเริ่มต้นจากตรงใหน อย่างไร

1.หากล้องเป็นของตัวเองซะ ... ห้ามยืม!!!

ทันที่ที่คิดและ ตัดสินใจว่า อยากจะเป็นนักถ่ายภาพ ผมก็แนะนำว่า ควรจะหาเรื่องไม้เครื่องมือเป็นของตัวเองซะ (ถ้าไม่ลำบากมากเกินไป) ศึกษาถึงความต้องการของตัวเองว่าต้องการภาพถ่ายระดับใหน เพื่อที่จะได้หาเครื่องมือที่สอดคร้องเหมาะสม สามารถตอบสนองถึงความต้องการนั้นๆได้ อย่ายืม!!! จากประสบการณ์ของตัวผมและเพื่อนๆ ส่วนใหญ่มักจะมีกล้องตัวแรกเป็นกล้องเล็กๆไม่ใหญ่มาก (เพราะคิดว่า แค่นี้ก็พอ ไม่พอค่อยซื้อใหม่) ซึ่งมาถึงตรงนี้แล้ว ผมรู้สึกว่า มันเป็นการสูญเสียที่ยิ่งใหญ่พอสมควร ทำไมผมจึงคิดแบบนั้น .... กล้องตัวแรกที่ผมซื้อมาเป็นกล้อง Digital SLR ผมใช้เวลาอยู่กับมันร่วม 5 ปี ใช้ทำงาน ต่างๆนาๆ ผมก็ถือว่ามันตอบสนองการใช้งานของผมได้ในระดับที่ดีเลยทีเดียว ซึ่งนับว่ายังโชคดี ที่ผมกล้าที่จะซื้อกล้องในระดับนั่นเป็นตัวแรก ถ้าหากวันนั้น ผมเสียดายตัง และคิดว่า มันแค่กล้องตัวแรก ไม่ต้องอะไรมากก็ได้ ผมคงต้องเสียตังซื้อกล้องตัวใหม่อีกในที่สุด ที่สำคัญ มันไม่เคยจบแค่กล้อง อิอิ ถ้าอยากได้ภาพในลักษณะพิเศษ ก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องซื้ออุปกรณ์เสิรมนู่นนี่นั่นตามมาในที่สุด ซึ่งนำมาซึ่งค่าใช้จ่าย ที่เป็นเงินจำนวนที่จัดว่า เยอะพอสมควรนะครับ สำกหรับราคาของอุปกรณ์เหล่านี้ ซึ่งยังไม่นับรวมถึงเรื่อง ความถนัดมือ ความชำนาญ และความคุ้นเคยกับอุปกรณ์ จากที่ผมกล่าวมา คงพอทำให้จินตนาการและมองภาพรวมออก ว่าผมกำลังหมายถึงอะไรนะครับ ที่เหลือ พิจรณาเอาเองครับ

2.ไม่ต้องไปเสียเวลากับทฤษฎีให้มันมากเกินไป

ผมเห็น เพื่อนๆน้องๆหลายๆคนที่เริ่มต้นถ่ายภาพมักจะมีคำถามเรื่องการวัดแสง เรื่องการหาWB ขุดคุ้ยเอาทฤษฎีต่างๆนาๆที่ท่องมาจากตำรา ออกมาเป็นฉากๆๆๆๆ ผมฟังแล้วบางทีก็ปวดหัว มันช่างเยอแยะยั้ยเยี้ยไปหมด เพราะส่วนตัวแล้ว ไม่ค่อยได้อ่านเรื่องเหล่านี้เท่าไรนักครับ เป็นคนที่อ่านแล้วไม่ค่อยเข้าใจเลยต้องอาศัย มาทดลองเองซะมากกว่า ใครจะมาถามผมว่า ไอ่นุ่นต้องทำยังงัย ไอ่นี้ต้องทำยังงัย ผมทำได้นะแต่ให้บรรยายออกมาเป็นคำพูดเลิศหรูเนี่ย ไม่สามารถจริงๆ อิอิ "อย่าเสียเวลาไปท่องจำหลักการให้มันมากเกินไปกว่า การลงมือทำลอง ลงมือถ่าย แล้วใช้การสังเกตุ ว่าสิ่งที่ทำลงไปนั่น มันเกิดอะไรขึ้นกับภาพที่เราได้ออกมา ทฤษฎีให้เน้นเพียงแค่หลักการทำงานของการถ่ายภาพเท่านั้นก็เพียงพอที่จะสร้าง สรรค์ภาพถ่ายชั้นยอดออกมาสู่สายตาชาวโลกได้แล้ว" ทฤษฎี เอาไว้ท่องเวลาว่างเพื่อเสริมสร้างความเข้าใจให้มันชัดเจนมากยิ่งๆขึ้น เริ่มต้น ยังไม่ต้องไปกังวลกับมัน เอาเวลาไปศึกษาการใช้งานอุปกรณ์ของคุณให้คล่อง ทำความเข้าใจกับหลักการทำงานของมัน และศึกษาหลักการของการถ่ายภาพให้แม่นๆๆๆๆ แค่นี้พอแล้ว มันจะทำให้คุณถ่ายภาพได้สนุกกว่ากันเยอะถ้าไม่เอาตัวเองไปอยู่ในกรอบมากเกิน ไป อิอิ

3.ดูภาพถ่าย เยอะๆ

ตรงนี้ผมเน้นเลย ดูเยอะ ได้เยอะ ดูเยอะ คิดตามเยอะๆ มองมุมกล้องเยอะๆ
ดูมันให้หมด ขอให้เป็นภาพถ่าย ดูมันเข้าไป ....
ผู้อ่าน คงมีคำถามว่า จะไปดูภาพถ่ายของคนอื่นทำมัย ?

ผมตอบง่ายๆครับ คือ ดูเพื่อ เปิดตา เปิดใจ สำหรับมือใหม่ สามารถดูเป็นไกด์ในการถ่ายภาพได้เลย
วิธีดูภาพถ่ายของผม ถ้าผมมองภาพถ่ายที่มันทำให้ผมรู้สึกว่า ภาพนี้ "สวย" สิ่งแรกที่ผมดู คือผมจะดู "มุมกล้อง" ดูยังงัย ... ดูเลย ว่าช่างภาพเค้าต้องเซ็ตกล้องอยู่ระดับใหน ยังงัย คิดตามไปจนนึกได้ว่า
ถ้าจะได้ภาพแบบนี้ออกมา ตากล้องต้องยืนท่าใหนถือกล้องยังงัยกันเลยทีเดียว
ส่วนเรื่องแสง เรื่องสี ... ค่อยๆตามมาทีหลัง อิอิ
วันนี้โม้ซะเพลิน เดี่ยวผมขอตัวกลับไปนั่งทำงานก่อนนะคร้าบ เดี๋ยวจ้าวนายจะดุเอา 555+ 




 

Create Date : 27 กันยายน 2554    
Last Update : 28 ตุลาคม 2554 0:26:09 น.
Counter : 457 Pageviews.  


OLYOH
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




WWW.DesignOHO.COM
รับทำเว็บไซต์, สิ่งพิมพ์เพื่อการประชาสัมพันธ์ทุกชนิด
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add OLYOH's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.