The Hitchhiker's Guide to the Galaxy: Douglas Adams - โบกยานไปเที่ยวกันเถอะ!
The Hitchhiker's Guide to the Galaxy
The Hitchhiker's Guide to the Galaxy - ตีพิมพ์ครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 1979 The Restaurant at the End of the Universe - ตีพิมพ์ครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 1980 Life, the Universe and Everything - ตีพิมพ์ครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 1982 So Long, and Thanks for All the Fish - ตีพิมพ์ครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 1984 Mostly Harmless - ตีพิมพ์ครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 1992 And Another Thing... - ตีพิมพ์ครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 2009
ชื่อ: The Hitchhikers Guide to the Galaxy (คู่มือท่องกาแล็คซี่ฉบับนักโบก) ผู้แต่ง: Douglas Adams (ผู้แปล: แทนไท ประเสริฐกุล) Series: The Hitchhikers Guide to the Galaxy Genre: Science Fiction, Comedy (ตีพิมพ์ครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 1979)
นายอาร์เธอร์ เด็นท์ ตื่นขึ้นมาในเช้าวันหนึ่งและพบว่าบ้านของเขากำลังจะถูกทุบทำลายเนื่องจากอยู่บนเส้นทางการก่อสร้างทางด่วน อาร์เธอร์โมโหมากและไม่ยอมให้เจ้าหน้าทุบตึกดำเนินการตามแผนงาน เจ้าหน้าที่แจ้งว่าได้ติดประกาศโครงการนี้ไว้ที่สำนักงานท้องถิ่นตั้งนานแล้วและสำนักงานก็เปิดโอกาสให้ทักท้วงหรือยื่นเรื่องร้องเรียนหากไม่พอใจ จะมาโวยวายตอนนี้ก็สายเกินไป อาเธอร์จึงเดินทางไปที่สำนักงานท้องถิ่นและพบว่ามีประกาศติดไว้จริง แต่มันถูกติดไว้ที่ก้นลิ้นชักของตู้เอกสารที่ล็อกกุญแจ ในห้องใต้ดินที่ไม่มีบันไดลงไปและมีป้ายติดอยู่หน้าประตูว่า โปรดระวังเสือดาว! ด้วยความจนใจ อาเธอร์จึงตัดสินใจนอนบนโคลนตมขวางทางเข้าบ้านของตัวเองไว้เพื่อกีดขวางการทำงานของเจ้าหน้าที่
ขณะนั้น นายฟอร์ด พรีเฟ็ค ได้เดินผ่านมา นายฟอร์ดเป็นเพื่อนสนิทกับอาเธอร์และเขาไม่ได้เป็นคน จริงๆแล้วเขามาจากดาวเคราะห์เล็กๆดวงหนึ่งใกล้ๆกับดาวบีเทลจูสและเป็นหนึ่งในนักวิจัยภาคสนามของคัมภีร์ท่องอวกาศนามว่า The Hitchhikers Guide to the Galaxy เขาเดินทางมาที่ดาวเคราะห์โลกตั้งแต่ 15 ปีก่อนและตั้งชื่อตัวเองว่าฟอร์ด พรีเฟ็ค ตามชื่อรถยนต์รุ่นที่โหลที่สุดในอังกฤษในขณะนั้นเนื่องจากเข้าใจผิดคิดว่ามันเป็นชื่อโหลๆของคนเพื่อความกลมกลืน ที่เขาอยู่บนดาวเคราะห์โลกมา 15 ปีนี่ไม่ใช่เพราะเขาชื่นชอบอะไรมันหนักหนาหรอกนะ แต่เป็นเพราะเขาไม่รู้จะออกไปยังไง ฟอร์ดใช้วิธีโบก (hitchhike) ยานอวกาศมาลงที่ดาวโลกนี่และเขาก็ต้องโบกยานอวกาศออกไป ปัญหาอยู่ที่มันแทบจะไม่มียานอวกาศเดินทางมาในบริเวณที่แสนจะด้อยพัฒนาและน่าเบื่อหน่ายของกาแลกซีทางช้างเผือกอย่างระบบสุริยะนี้เลยน่ะสิ
อาเธอร์รำพึงเรื่องที่กำลังเกิดขึ้นกับตัวเขาและบ้านของเขาให้ฟอร์ดฟัง แต่ฟอร์ดรู้ว่าการที่บ้านของอาเธอร์กำลังจะถูกทำลาย โครงการสร้างทางด่วน การแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีกตอนบ่ายนี้ หรือเรื่องอะไรก็ตามที่ดูเหมือนว่าจะสลักสำคัญที่กำลังเกิดขึ้นบนดาวเคราะห์โลกใบนี้จริงๆแล้วไม่มีความหมายอะไรเลยสักนิด เพราะในเวลาอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า ดาวเคราะห์โลกทั้งใบนี้กำลังจะถูกทำลาย
ฟอร์ดลากอาเธอร์ไปจากตรงนั้นและเข้าไปใบผับท้องถิ่นแห่งหนึ่ง เขาพยายามจะอธิบายให้อาเธอร์ฟังว่าวันนี้คือวันโลกาวินาศ แต่อาเธอร์ก็ไม่เข้าใจ จนกระทั่งในอีกไม่กี่นาทีต่อมา ยานอวกาศยักษ์กลุ่มใหญ่เคลื่อนที่เข้ามาปกคลุมน่านฟ้าของโลกและประกาศผ่านเครื่องมือสื่อสารทุกชนิดบนโลกว่า ในแผนพัฒนาอวกาศท้องถิ่นฉบับนี้ คณะกรรมการวางแผนพัฒนาอวกาศประจำกาแล็กซีมีความจำเป็นจะต้องสร้างทางด่วนอวกาศไฮเปอร์สเปซตัดผ่านระบบสุริยะนี้ และดาวเคราะห์โลกก็เป็นหนึ่งในดาวที่ถึงกำหนดจะต้องถูกทำลายทิ้งในวันนี้ และพวกเขามาเพื่อทำลายมันนั่นเอง
เมื่อชาวโลกเริ่มประท้วง เจ้าหน้าที่ก็มีน้ำเสียงงุนงนขณะประกาศว่า พวกเขาได้ติดประกาศแผนผังโครงการและกำหนดเวลาการทำลายล้างไว้ที่แผนกวางแผนพัฒนาอวกาศระดับท้องถิ่นในระบบดาวอัลฟาเซ็นทูรี่ตั้งแต่เมื่อ 50 ปีก่อนแล้ววัดตามเวลาโลก และทางแผนกก็เปิดโอกาสให้ทักท้วงหรือยื่นเรื่องร้องเรียนอย่างเป็นทางการมาตั้งนาน จะมาโวยวายตอนนี้ก็สายเกินไปแล้ว
ก่อนที่โลกจะถูกทำลายล้างด้วยลำแสงมฤตยู ฟอร์ดได้คว้าตัวอาเธอร์พาเขาโบกยานอวกาศลำหนึ่ง (ที่มาทำลายล้างโลกนั่นแหละ) หนีไป และการผจญภัยอันสุดแสนจะติ๊งต๊องเหลือเชื่อของสองคู่หูนักโบกแห่งกาแลกซีก็เริ่มขึ้น
นิยายไซไฟสุดแสนจะตลกโปกฮาที่เรียกได้ว่าเป็น A must ของนักอ่านนิยายไซไฟทุกคนเรื่องนี้ได้รับความนิยมในวงการไซไฟตลอดระยะเวลา 35 ปีที่ผ่านมา โดยก่อนหน้าที่จะถูกตีพิมพ์เป็นหนังสือ The Hitchhikers Guide to the Galaxy เป็นซีรีส์ตลกบนวิทยุกระจายเสียง BBC Radio 4 ออกอากาศตั้งแต่ปี 1978 และเป็นต้นกำเนิดของวลีทีเด็ดในกลุ่ม geek คือ Dont panic ซึ่งแน่นอนว่าต้องมาพร้อมกับผ้าเช็ดตัวที่นับได้ว่าเป็นไอเท็มที่สำคัญที่สุดที่นักโบกแห่งกาแลกซีจะมีในครอบครอง ทำไมน่ะเหรอ? ของแบบนี้ต้องไปหาคำตอบกันเอาเองค่ะ
DNA มาจาก Douglas Noel Adams (ชื่อผู้แต่ง) ส่วน N47° 16 E11° 23 เป็นพิกัดในเมือง Innsbruck, Austria ซึ่งเป็นจุดที่ Douglas Adams ได้ไอเดียการจัดรายการวิทยุ The Hitchhikers Guide to the Galaxy เป็นครั้งแรก
สำหรับเรา หนังสือเล่มนี้อ่านได้เพลินๆ บางมุขก็ตลกจริง โดยเฉพาะส่วนที่เสียดสีสังคม (อย่างเรื่องติดประกาศเวนคืนที่ดินนั่น) แต่บางมุขก็ฝืดๆ และบางมุขเราก็ไม่เก็ตเอาเลย (ตลกฝรั่ง) พูดตรงๆคือไม่เข้าใจว่าอะไรทำให้มันดังขนาดนั้น ( ) นิยายชุดนี้มีทั้งหมด 5 เล่มที่เขียนโดย Douglas Adams สำหรับเล่มที่ 6 And Another Thing
เขียนโดย Eoin Colfer ในปี 2009 (ผู้แต่ง Artemis Fowl)
The Hitchhikers Guide to the Galaxy ถูกนำไป adapt เยอะมาก ไม่ว่าจะเป็น stage shows, live radio, LP album (แผ่นไวนิล), comic books (DC Comics ร่วมกับ Byron Press Visual Publications ตีพิมพ์ในปี 1993), interactive fiction and video games (เป็น text-based adventure game), television series (ฉายบนช่อง BBC 2 ต้นปี 1981) และถูกสร้างเป็นภาพยนตร์ในปี 2005 ค่ะ
สำหรับภาษาไทยมีแปลแล้ว 2 เล่ม (เท่าที่เราเห็นนะ ถ้าผิดรบกวนแจ้งและขออภัยด้วยค่ะ ) นอกจาก คู่มือท่องกาแล็คซี่ฉบับนักโบก แล้ว ก็มี ภัตตาคารสุดปลายทางจักรวาล ซึ่งเป็นเล่ม 2 ค่ะ
Create Date : 16 ตุลาคม 2558 |
Last Update : 16 ตุลาคม 2558 10:56:02 น. |
|
2 comments
|
Counter : 2715 Pageviews. |
|
|