ครั้งแรก กับการไปสัมภาษณ์วีซ่า อเมริกา
สวัสดีค่ะ วันนี้ก็จะมารีวิว การไปสัมภาษณ์วีซ่า อเมริกาครั้งแรกของตัวเองค่ะ 😊 หลายๆคนอาจจะเคยอ่านมาบ้างแล้วในพันทิป เราก็เป็นหนึ่งในนั้นค่ะ ลองมาดูประสบการณ์ของเราบ้างนะคะ สิ่งแรกที่เราจะต้องปฏิบัติก็คือ... 1. ตั้งสติ ก่อน เรารู้อยู่แล้วใช่ไหมค่ะ ว่าเราจะขอวีซ่าแบบไหน (แบบทำงาน แบบแลกเปลี่ยน แบบนักเรียน แบบท่องเที่ยว) ซึ่งเราไปแบบวีซ่าแลกเปลี่ยนค่ะ J1 นั่นเอง 2. สิ่งที่ต้องเตรียมคือ ข้อมูลเพื่อที่จะได้ตอบคำถามได้ค่ะ 3.เอกสารที่ต้องเตรียม คือ - ใบจองวันสัมภาษณ์วีซ่า - ใบยืนยัน ของ DS160 ที่มีบาร์โค๊ดและรูปถ่าย - DS 2019 แบบฟอร์มเอกสิทธิ์ในการยื่นขอวีซ่าJ1 - ใบเสร็จชำระเงินค่าธรรมเนียมวีซ่า - ทรานสคริปวุฒิปริญญาตรีฉบับภาษาอังกฤษ - หลักฐานการเปลี่ยนชื่อ-นามสกุล (ถ้ามี) - ใบรับรองการทำงาน (ถ้ามี) - รูปถ่ายวีซ่า - passport - สมุดบัญชีธนาคารตัวจริง อัพเดทสมุดอย่างน้อย 6 เดือนย้อนหลังหรือ bank statement - เอกสารอื่นทางเอเจนซี่เค้าจะจัดเตรียมให้เราค่ะ 4.การแต่งกายนั้นก็สำคัญเช่นกันค่ะ แต่งกายควรจะให้เกียรติกับสถานที่ด้วย แต่งกายให้สุภาพเหมือนไปสมัครงานอ่ะค่ะ (คนก่อนหน้าที่สัมภาษณ์ แต่งแนวแฟชั่นจ๋า แต่ไม่โป้นะคะ ไม่ผ่านค่ะ แต่อาจจะด้วยเรื่องการตอบคำถามด้วยก็ได้) 5.เรื่องเวลาเป็นสิ่งสำคัญค่ะ คือต้องมาก่อนล่วงหน้า (1-2 ชั่วโมง) อย่างนั้นสัมภาษณ์ 8.00 น. เราควรจะมาอย่างช้าที่สุดคือ 7.30น. แต่เราค่ะ นัดสัมภาษณ์ 8.00น. ไปเกือบเวลานัดค่ะ อีกไม่กี่นาทีก็ถึงเวลานัดแป๊ะ! ฮื้อๆเราอยากร้องไห้มาก ตื่นเช้าก็แล้วแต่รถมันติดจริงๆค่ะ (เซ็งการจราจรบ้านเราไปเลยค่ะ คาดการณ์อะไรไม่ได้ ฮ้าๆๆ) แต่เจ้าหน้าที่บอกว่าไม่เป็นไร สามารถช้าได้ไม่เกิน 15-30 นาทีค่ะ แต่ยังไงก็แล้วแต่ควรไปก่อนเวลาค่ะ 6.เอาอะไรไปบ้าง... เราเอาไปแค่แฟ้มใส่เอกสาร ปากกา เศษกระดาษ กระเป๋าสตางค์และโทรศัพท์เท่านั้นค่ะ เพราะไม่อยากเอาของไปฝากที่ตลาดเพราะกลัวหาย มันเสี่ยงเกินไป เอาไปแค่นี้พอเนาะ! มาถึงขั้นตอนการเข้าไปสัมภาษณ์วีซ่า... 1.พอเรามาถึงหน้าสถานฑูตแล้ว เค้าให้เราเข้าแถว เอกสารที่เตรียมคือ passport ใบนัด และใบอะไรก็ตามที่เค้าขอดู ให้เค้าดูไปค่ะ และให้บัตรคิวเราค่ะ 2.จากนั้นเค้าก็ให้เราเข้าไปด่านแรก ซึ่งเค้าจะเก็บบัตรคิวเรา แล้วบอกให้เราปิดมือถือเลย เปิดโหมดแอร์เพลนก็ไม่ได้ คือปิดสนิทเลย แล้วเค้าจะให้สายข้อมือเพื่อที่จะนำมาแลกโทรศัพท์ตอนขากลับ แล้วเอาสัมภาระของเราเข้าไปสแกน จากนั้นเราก็ไปสแกนร่างกาย แล้วเข้าไปข้างในได้เลย 3.ด่านที่สองที่เราจะเจอนั้น เค้าจะให้นั่งรอเรียกรอบเพื่อตรวจเอกสารเพื่อแยกใส่แฟ้มหรือถ้าเราไม่มั่นใจว่าใช่รอบสัมภาษณ์เรารึเปล่าก็ให้เดินไปถามได้ ระหว่างที่นั่งรอนี้ ถ้าเค้าเปิดวิดีโอหรือให้หนังสือเล่มเล็กๆสีขาว (ของเราวีซ่า J1) ให้เรานั่งอ่าน เผื่อเค้าจะถามค่ะ เราโดนด้วยนะ ฮ้าๆๆ 4.พอเค้าตรวจเอกสารด่านแรก เค้าจะแยกเอกสารให้พร้อมทั้ง หมายเลข ems ไว้เพื่อสามารถตรวจว่า เค้าส่งเอกสารและpassport ถึงไหนแล้ว (ในกรณีที่เราผ่านการสอบสัมภาษณ์ ) 5.พอเราอ่านเสร็จ จดเลข ems เสร็จ แล้วคิดว่า พร้อมไปสอบสัมภาษณ์แล้ว ก็เดินเปิดประตูเข้าด่านที่สองได้เลยค่ะ... เข้าไปแล้วก็ไปเข้าคิว ช่อง 14 หรือ 15 เค้าจะถามคำถามเล็กน้อยๆ เช่นไปไหน ไปทำอะไร (สองช่องนี้เป็นเจ้าหน้าที่คนไทยค่ะ อันนี้ไม่แน่ใจว่าคนไทยจะประจำอยู่ถาวรเลยรึเปล่านะคะ) และเค้าจะให้เราสแกนลายนิ้วมือค่ะ 6.พอเสร็จจากช่องนี้แล้ว ก็เข้าคิวไปช่องที่ 10 เค้าก็ดูเอกสารเหมือนเดิมแต่เจ้าหน้าที่จะเป็นฝรั่งค่ะ ถ้าหากใครภาษาไม่คล่องเค้าจะพูดไทยกับเราค่ะ แต่ของเราเค้าพูดภาษาอังกฤษเพื่อทดสอบภาษาของเราว่า พอไปวัดไปวาได้ไหม.. และมีสแกนลายมือ ง่ายๆก็คือทำตามที่เค้าสั่งค่ะ (คือตอนที่เราไปเราตื่นเต้นมากค่ะ แล้วก็เจ้าหน้าที่หล่อด้วย ฟังผิดแต่ก็แก้สถานการณ์ไปได้ค่ะ ฮ้าๆๆ) 7.มาถึงด่านหินของเราค่ะ ด่านสัมภาษณ์ของเรานั่นเอง ระหว่างรอต่อคิวนั้น ก็แอบสังเกตวิธีการพูด สังเกตคนสัมภาษณ์ คนไหนดูใจดี คนไหนพูดเร็ว อะไรก็ว่าไปค่ะ ฮ้าๆ และแล้วก็ถึงคิวเราแล้ว ตื่นเต้นมาก (แต่ต้องทำตัวมั่นใจ กล้าตอบเค้า ฮ้าๆ แอ๊บหนักมากแต่ที่จริง ทั้งกลัวทั้งเสียว) ***คำถามที่เราเจอค่ะ - ไปทำอะไร - ไปที่ไหน - ทำไมถึงอยากไป - เด็กกี่คน อายุเท่าไร - ไปแล้ว กลับมาจะทำอะไร - แล้วเค้าก็โชว์เล่มเล็กๆสีขาว ถามเราว่าได้รึยัง เราก็ตอบได้แล้วค่ะ แล้วเค้าก็ถามเราว่า ถ้ามีปัญหาเราจะทำยังไง (คือเราตื่นเต้นค่ะอ่านอะไรก็ไม่เข้าหัวเลย พอได้คำถามเกี่ยวกับเล่มนี้แล้ว บอกได้ 3 คำค่ะ chip hi law!!! จำได้แต่โทร 911 เลยตอบเค้าไปแค่โทร 911) แล้วเค้าก็ตอบเราว่า โอเคฉันจะส่งเอกสารพาสปอร์ตให้เธอภายในอาทิตย์นี้นะ เราก็อึ้งๆค่ะ เอ๋อๆ แล้วบอกขอบคุณ (คิดในใจว่า ผ่านใช่ป่ะว่ะ เฮ้ยมันต้องใช่ดิ เค้าเอาพาสปอร์ตเราไปนิ มันต้องผ่าน) 8.พอผ่านแล้วก็กลับบ้านได้ค่ะ ดีใจสุดๆ ฮ้าๆๆ ก่อนกลับก็ต้องแลกโทรศัพท์คืนก่อน ก็ต่อคิวเอาสายคล้องแขนแลกกับมือถือเรา จากนั้นก็กลับบ้านโลดดดด!! #ในการสัมภาษณ์พูดยังไงก็ได้ เพื่อให้เค้ามั่นใจได้ว่าเราจะกลับประเทศไทยแน่นอน ไม่อยู่ประเทศเธอนานหรอกน่า! มีจุดมุ่งหมายที่ชัดเจน.. #แล้วถ้าเค้ายื่นพาสปอร์ตเราคืน (แสดงว่าเราไม่ผ่านการสัมภาษณ์) ตื้อค่ะ ตื้อเท่านั้น อย่าพึ่งรีบกลับค่ะ ค่าสัมภาษณ์เกือบ 6000 เลยนะคะ อย่าไปยอมดันพาสปอร์ตเรากลับแล้วถามเค้าว่า มีคำถามจะถามอะไรเราอีกมั้ยค่ะ คำถามอื่นๆอะไรก็ว่าไปค่ะ (อันนี้พี่เอเจนซี่เค้าแนะนำมานะคะ ฮ้าๆ) #บรรยายได้ยาวไปไหน ลองๆอ่านดูนะคะ เผื่อจะได้ลดความตื่นเต้นลงไปบ้าง เผื่อเป็นแนวทางว่าเราจะต้องทำอะไรบ้างเป็นขั้นตอน ถ้าเขียนผิดพลาดประการใดต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ.. :) My first blog :)
Create Date : 20 มีนาคม 2560 |
Last Update : 20 มีนาคม 2560 0:14:00 น. |
|
2 comments
|
Counter : 1408 Pageviews. |
|
|
เข้ามาอ่านบล็อกกาสำภาษณ์วีซ่าค่ะ
นทึกการโหวต Blog ในวันนี้
ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
สมาชิกหมายเลข 1683477 Literature Blog ดู Blog