ชีวิตคือความไม่แน่นอนแต่ในความไม่แน่นอนของชีวิตเรากลับพบความสวยงามของชีวิต
Group Blog
 
All Blogs
 
In Remembrance of King Bhumibhol Part 1 (ระลึกถึงในหลวงรัชกาลที่ ๙ ตอนที่ ๑)



วันพุธที่ ๑๒ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๙ มีกระแสข่าวลือเป็นระยะเกี่ยวกับอาการประชวรของในหลวงรัชกาลที่ ๙ สะท้อนออกมาด้วยดัชนีของหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ที่เทรูดแบบไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน...ก่อนจะมีการยืนยันข่าวและดัชนีหุ้นดีดตัวกลับมา  กระแสข่าวลือเกี่ยวกับอาการประชวรของพระองค์ยังคงโหมมาอย่างต่อเนื่อง....วงการสังคมโลกออนไลน์พยายามโยงเหตุการณ์ผิดปกติเข้ากับข่าวที่สำนักพระราชวังประกาศทางสื่อมวลชน เช่น พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา เลื่อนโปรแกรมภารกิจเดินทางกลับกรุงเทพฯ  สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯเสด็จเดินทางกลับประเทศไทย  รายงานพระอาการของสำนักพระราชวังไม่ใช่เหตุการณ์ล่าสุดแต่เป็นของเหตุการณ์ของเมื่อวาน  ทำให้คนส่วนมากตั้งข้อสงสัยต่อพระอาการประชวรที่ทรุดหนักของในหลวงรัชกาลที่ ๙ ต่างๆนานา เหตุการณ์ผ่านไปอีกหนึ่งคืนด้วยความกังวลในหัวใจของคนไทยต่อพระอาการประชวรของในหลวงรัชกาลที่ ๙

วันพฤหัสบดีที่ ๑๓ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๙ ผมไปทำงานที่มหาวิทยาลัยตามปกติ  วันนี้ตอนบ่ายมีนัดนิสิตปริญญาตรีที่ผมให้คำปรึกษาวิทยานิพนธ์มาพบเพื่อมารายงานนำเสนอความคืบหน้าของวิทยานิพนธ์   ในระหว่างที่ฟังพวกเขานำเสนอรายงานวิทยานิพนธ์มีข่าวลือแพร่มาทางโลกออนไลน์ว่าในหลวงรัชกาลที่ ๙ สวรรคตแล้ว  สำนักข่าวต่างประเทศเริ่มรายงานว่าในหลวงรัชกาลที่ ๙ เสด็จสวรรคตแล้วตอนบ่ายวันนี้  กลุ่มเพื่อนสมัยเรียนส่งข่าวมาทางไลน์แจ้งข่าวลือเรื่องนี้เช่นกันโดยอ้างที่มาของสำนักข่าวต่างประเทศที่รายงาน  แต่สำนักข่าวไทยยังคงปิดเงียบไม่มีการนำเสนอข้อเท็จจริงให้ประชาชนทราบ....ข่าวลือโหมเข้ามาอย่างหนักเกี่ยวกับการเสด็จสวรรคตของในหลวงรัชกาลที่ ๙  แต่ก็มีการเตือนสติให้ทุกคนฟังประกาศจากสำนักพระราชวังซึ่งเป็นแหล่งข่าวอย่างเป็นทางการ  มีข่าวที่รายงานความผิดปกติของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อทางสำนักพระราชวังยุติไม่ให้ประชาชนทั่วไปลงนามถวายพระพรตอนบ่าย และมีประกาศให้ทุกคนฟังข่าวที่นายกรัฐมนตรีที่จะออกแถลงการณ์ตอน ๑ ทุ่มคืนนี้

       ดูจากสถานการณ์และวิเคราะห์จากเหตุการณ์ผิดปกติที่เกิดขึ้นพอจะคาดเดาได้ว่าคงเกิดเหตุการณ์ไม่ค่อยดีขึ้นจริงๆ   ตอนเย็นฟังข่าวในวิทยุรถยนต์ ผู้สื่อยังคงรายงานลำดับเหตุการณ์ที่เป็นบวกต่อสถานการณ์อาการประชวรของในหลวงรัชกาลที่ ๙ ประชาชนจำนวนมากที่มาชุมนุมบริเวณลานสนามหญ้าอาคารเฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลศิริราช ยังคงสวดมนต์ให้ในหลวงและทุกคนยังเชื่อว่าพระองค์ยังคงอยู่กับคนไทย แต่ผู้สื่อข่าวก็ย้ำว่าให้รอฟังแถลงการณ์ของนายกรัฐมนตรีคืนนี้เวลา ๑๙:๐๐ น.

       มาที่โรงเรียนสอนภาษาซีพีเอสเฝ้าติดตามข่าวเกี่ยวกับในหลวงรัชกาลที่ ๙ อย่างใจจดใจจ่อ  ผู้สื่อข่าวของสำนักข่าวไทยพีบีเอสยังคงรายงานสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในเชิงบวกต่อพระอาการประชวรของในหลวงรัชกาลที่ ๙ จนเวลาผ่านไปจนใกล้เวลา ๑๙ นาฬิกา  ใหม่โทรศัพท์มาหาและพูดด้วยเสียงสะอื้นว่า

       "สิ่งที่ไม่อยากจะให้เกิดขึ้น...ในที่สุดมันก็เป็นจริง"  

      ได้ยินเสียงทีวีที่เปิดผ่านเสียงโทรศัพท์ในเวลาที่ต่างกันกับทีวีที่โรงเรียนเนื่องจากระบบทีวีที่โรงเรียนเป็นแบบ IPTV ที่สัญญาณผ่านระบบอินเทอร์เนํ็ต  นักข่าวของสถานี NBT รายงานข่าวการสวรรคตของในหลวงรัชกาลที่ ๙...

       อีกไม่นานก็ถึงเวลา ๑๙ น. ภาพที่ปรากฏบนจอทีวีที่โรงเรียนสอนภาษาซีพีเอสก็คือ


ตามมาด้วยผู้ประกาศข่าวชายในชุดดำของสำนักข่าว NBT ที่เป็นแม่ข่ายในการประกาศแถลงการณ์ของสำนักพระราชวังต่อการเสด็จสวรรคตของในหลวงรัชกาลที่ ๙




นักข่าวรายนี้อ่านประกาศแถลงการณ์ของสำนักพระราชวังด้วยการควบคุมอารมณ์ของน้ำเสียงที่ออกมา  ซึ่งทราบภายหลังว่าเขาก็กลั้นน้ำตาไว้ไม่ได้เช่นกันหลังจากอ่านประกาศแถลงการณ์นี้เสร็จลง

ใจความสำคัญของแถลงการณ์ของสำนักพระราชวังแจ้งให้ประชาชนทั่วไปทราบว่า

"พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลเดช เสด็จสวรรคตที่โรงพยาบาลศิริราช เมื่อเวลา ๑๕ นาฬิกา ๕๒ นาที ของวันพฤหัสบดีที่ ๑๓ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๕๙ สิริพระชนมายุ ๘๘ ปี ๑๐ เดือน ๘ วัน ซึ่งเป็นปีพรรษาที่ ๘๙ (หลายคนสับสนและแชร์ข้อมูลผิดๆกันต่อไปว่าทรงมีสิริพระชนมายุ ๘๙ พรรษาเพราะฟังจากแถลงการณ์ว่าปีพรรษาที่ ๘๙) ทรงครองสิริราชย์สมบัตินานที่สุดในโลกคือ ๗๐ ปี ๔ เดือน ๓ วัน"

หลังจากนั้นท่านนายกรัฐมนตรีได้อ่านแถลงการณ์ต่อการเสด๋็จสวรรคตของในหลวงรัชกาลที่ ๙ โดยใช้คำว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศแทนในหลวงรัชกาลที่ ๙ ซึ่งเป็นคำศัพท์ที่เหมาะสมแต่คนไทยไม่คุ้นเคยและฟังแล้วรู้สึกหดหู่    เพราะในสมัยในหลวงรัชกาลที่ ๘ เสด็จสวรรคต รัฐบาลสมัยนั้นก็ใช้คำนี้เรียกแทนเช่นกัน ภายหลังจากในหลวงพระองค์ก่อนเสด็จสวรรคต รัฐบาลต้องเรียกในหลวงที่สวรรคตว่า "พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ" และในหลวงองค์ที่ทรงครองราชย์สืบต่อมาว่าสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระองค์ใหม่ ซึ่งในแถลงการณ์ของท่านนายกรัฐมนตรีมีข้อความว่าขอสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระองค์ใหม่จงทรงพระเจริญ

รัฐบาลมีคำสั่งให้ลดธงชาติลงครึ่งเสา และให้ข้าราชการสวมชุดไว้ทุกข์เป็นเวลา ๑ ปี งดการแสดงมหรสพรื่นเริงเป็นเวลา ๑ เดือน



ความรู้สึกตอนนั้นผมรู้สึกหดหู่....เพื่อนกลุ่มต่างๆแชร์ข่าวการเสด็จสวรรคตของในหลวงรัชกาลที่ ๙ เหตุการณ์แบบนี้ไม่เคยเกิดขึ้นในเมืองไทยมานานแล้ว  ในหลวงรัชกาลที่ ๙ ทรงอยู่กับคนไทยมานานร่วม ๗๐ ปี แม้ว่าจะมีรายงานอาการพระประชวรที่สำนักพระราชวังแจ้งให้ประชาชนทั่วไปทราบเป็นระยะๆก็ตาม และคนไทยส่วนมากก็รู้ว่าพระอาการไม่ดีขึ้น ตรงข้ามทรุดหนักเป็นลำดับ แต่คนไทยจำนวนมากก็ยังทำใจยอมรับกับเหตุการณ์นี้ไม่ได้...

ผมเปลี่ยนรูปบนเฟซบุ๊คเป็นขาวดำ ภาพที่ใช้บนหน้าปกเป็นภาพที่ผมมีโอกาสเข้ารับพระราชทานปริญญาบัตรกับในหลวงรัชกาลที่ ๙...

ผมนึกถึงคำพูดที่ผมมีโอกาสเล่าให้เพื่อนชาวต่างชาติฟังสมัยเรียนหนังสือที่มหาวิทยาลัยเคโอที่ญี่ปุ่นฟังว่า

       "คนไทยมีโอกาสได้รับพระราชทานปริญญาบัตรจากในหลวง" 

 คำพูดของผมทำให้เพื่อนๆประหลาดใจ  พวกเขาไม่เคยรู้มาก่อนว่ากษัตริย์ไทยทรงเสด๋็จพระราชทานปริญญาบัตรให้ประชาชนทั่วไป  พวกเขาอิจฉาคนไทยที่มีโอกาสได้รับพระราชทานปริญญาบัตรจากในหลวง เป็นเกียรติของบัณฑิตอย่างสูงสุด และปริญญาบัตรที่ได้ถือเป็นของมงคลต่อชีวิตของบัณฑิตผู้มีโอกาสได้เข้ารับพระราชทานปริญญาบัตร

เพื่อนคนเบลเยียมพูดกับผมว่า

"ถึงแม้การที่ในหลวงของคุณทรงงานอย่างหนัก และเป็นภาระหนักของพระองค์ที่ต้องเสด็จมาพระราชทานปริญญาบัตรให้แก่เหล่าบัณฑิต แต่มันก็คุ้มค่า เพราะบัณฑิตเหล่านั้นที่ได้รับพระราชทานปริญญาบัตรแล้ว ก็จะนำความรู้นั้นไปพัฒนาประเทศต่อไป"

เป็นคำพูดที่ผมซาบซึ้งมาก  ตอนผมอยู่เมืองไทยผมไม่เคยตระหนักเรื่องนี้มาก่อน แต่พอผมได้ยินคำพูดของเพื่อนชาวเบลเยียมแล้วผมภูมิใจที่ได้เกิดเป็นคนไทยและมีโอกาสดีๆในชีวิตที่ครั้งหนึ่งได้เข้าใกล้ในหลวงรัชกาลที่ ๙ มากที่สุดตอนผมรับพระราชทานปริญญาบัตร 


วันนั้นผมเขียนข้อความลงเฟซบุ๊ค ในขณะที่เขียนไปผมกลั้นน้ำตาไม่อยู่ เพราะผมรู็สึอย่างนั้นจริงๆว่า

"ปริญญา่บัตรที่ผมได้รับจากพระองค์จะไม่สูญเปล่า ผมจะใช้ความรู้ความสามารถของผมสร้างคนรุ่นใหม่ให้พวกเขาเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศไทยต่อไป"









Create Date : 01 ตุลาคม 2560
Last Update : 2 ตุลาคม 2560 9:15:44 น. 1 comments
Counter : 925 Pageviews.

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณTui Laksi


 
ดีจ้า มาทักทายนะจ้ะ sinota ซิโนต้า Ulthera สลายไขมัน SculpSure เซลลูไลท์ ฝ้า กระ Derma Light เลเซอร์กำจัดขน กำจัดขนถาวร รูขุมขนกว้าง ทองคำ ไฮยาลูโรนิค Hyaluronic คีเลชั่น Chelation Hifu Pore Hair Removal Laser freckle dark spot cellulite SculpSure Ultherapy กำจัดไขมัน ร้อยไหม adenaa ลบรอยสักคิ้วด้วยเลเซอร์ ลบรอยสักคิ้ว Eyebrow Tattoo Removal เพ้นท์คิ้ว 3 มิติ สักคิ้วถาวร ให้ใจหายใจ สุขภาพ วิธีลดความอ้วน การดูแลสุขภาพ อาหารเพื่อสุขภาพ ออกกำลังกาย สุขภาพผู้หญิง สุขภาพผู้ชาย สุขภาพจิต โรคและการป้องกัน สมุนไพรไทย ขิง น้ำมันมะพร้าว ผู้หญิง ศัลยกรรม ความสวยความงาม แม่ตั้งครรภ์ สุขภาพแม่ตั้งครรภ์ พัฒนาการตั้งครรภ์ 40 สัปดาห์ อาหารสำหรับแม่ตั้งครรภ์ โรคขณะตั้งครรภ์ การคลอด หลังคลอด การออกกำลังกาย ทารกแรกเกิด สุขภาพทารกแรกเกิด ผิวทารกแรกเกิด การพัฒนาการของเด็กแรกเกิด การดูแลทารกแรกเกิด โรคและวัคซีนสำหรับเด็กแรกเกิด เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ อาหารสำหรับทารก เด็กโต สุขภาพเด็ก ผิวเด็ก การพัฒนาการเด็ก การดูแลเด็ก โรคและวัคซีนเด็ก อาหารสำหรับเด็ก การเล่นและการเรียนรู้ ครอบครัว ชีวิตครอบครัว ปัญหาภายในครอบครัว ความเชื่อ คนโบราณ


โดย: สมาชิกหมายเลข 4245812 วันที่: 30 พฤศจิกายน 2560 เวลา:15:10:43 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ชีวประภา
Location :
พิษณุโลก Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add ชีวประภา's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.