ฝันให้ไกล แล้วไปให้ถึงฝัน

ไอ้บ้า Episode I - V

ไอ้บ้าภาค 1

ณ.โรงพยาบาลบ้าแห่งหนึ่งมีคนบ้าเป็นจำนวนมาก
ทำให้มีเนื้อที่ไม่เพียงพอแก่การอยู่อาศัยของผู้ป่วย
ทางโรงพยาบาลจึงได้จัด ให้มีการทดสอบผู้ป่วยที่เป็นบ้า

โดยทำการสูบน้ำออกจากสระว่ายน้ำจนแห้งเหือด
แล้วจึงปล่อยผู้ป่วยให้ลงไปเล่นน้ำในสระว่ายน้ำ
โดยมีอุบายอยู่ว่าถ้าผู้ป่วยคนใดไม่ลงไปเล่นน้ำในสระว่ายน้ำ
ก็แสดงว่าผู้ป่วยคนนั้นหายจากอาการบ้า
(เพราะสระว่าย น้ำถูกสูบน้ำออกจนแห้ง)

จากนั้นทางโรงพยาบาลก็จะส่งตัวผู้ที่หาย
จากอาการบ้ากลับบ้าน จะได้มีพื้นที่ในโรง พยาบาล มากขึ้น
หลังจากที่ปล่อยคนบ้าให้ไปเล่นน้ำ
คนบ้าทุกคนต่างก็ลงเป็นเล่นน้ำในสระอย่างสนุก
แต่ทว่ามีผู้ป่วยรายหนึ่งนั่งอยู่ริมสระและไม่ลง
ไปเล่นน้ำกะเพื่อนๆ ผู้ป่วยคนนั้นชื่อนายหิด

หมอ : อ้าว! นายหิดทำไม่ไม่ลงไปเล่นน้ำกะเพื่อนหล่ะ

นายหิด : หมอจะบ้ารึป่าว

หมอ : ถ้าอย่างนั้น แสดงว่าเธอก็หายแล้ว
เดี๋ยวหมอจะส่งตัวเธอกลับบ้าน

นายหิด : ก็ได้ครับ แต่ก่อนจะส่งผมกลับบ้าน
หมอช่วยสอนผมว่ายน้ำก่อนซิครับ
ผมจะได้ลงไปเล่นน้ำกะเพื่อนได้

หมอ : !?!?...

******************************************************

ไอ้บ้าภาค 2

ณ โรงพยาบาลบ้าเดิมที่นายหิดอยู่
วันหนึ่งเมื่อกลางดึกได้มีเสียงเอะอะโวยวายเกิดขึ้น.....

มีผู้ป่วยรายหนึ่งกระโดดลงไปที่ท่อน้ำทิ้ง เพื่อที่จะฆ่าตัวตาย
แต่นายหิดคนเดิมได้กระโดดตามลง
ไปและช่วยชีวิตผู้ป่วยรายนั้นขึ้นมาจนได้
คืนนั้นนายหิดจึงได้รับมอบหมายให้ เฝ้าดูแลผู้ป่วยคนนั้น

และตอนเช้า
หมอได้เรียกตัวนายหิดไปคุยเนื่องจากเห็นว่านายหิด
น่าจะหายจากอาการบ้าแล้ว

หมอ : เมื่อวานเธอช่วยชีวิตคนเอาไว้หมอว่าเธอน่าจะหายดีแล้ว
เดี๋ยวหมอจะโทรศัพท์เรียกญาติเธอมา รับกลับบ้าน

นายหิด : ดีครับ ผมชอบช่วยเหลือผู้อื่นอยู่แล้ว

แต่ก็ได้มีเสียงโหวกเหวกโวยวายเกิดขึ้นอีก
นางพยาบาลผู้หนึ่งวิ่งเข้ามาในห้อง
ที่หมอและนายหิดกำลัง สนทนาอยู่

นางพยาบาล : แย่แล้วค่ะ! คนไข้ที่คิดจะกระโดดท่อน้ำฆ่าตัวตาย
เมื่อวานผูกคอตายอยู่ในห้องค่ะ

หมอ : อะไรน่ะ!........ นายหิดนี่เธอดูแลเค้ายังไงเนี่ย
ปล่อยให้เค้าฆ่าตัวตายได้ยังไง

นายหิด : อ้าว! ก้อผมเห็นเค้าตัวเปียก
ก็เลยเอาขึ้นไปตากไว้จะได้แห้ง

หมอ : !?!??...

******************************************************

ไอ้บ้าภาค 3

ณ โรงพยาบาลบ้าเดิมที่นายหิดอยู่
วันนี้หมอก็ได้ทำการทดสอบผู้ป่วยอีกแล้วครับท่าน
พอดีทางโรงพยาบาลได้ขุดบ่อน้ำเล็กๆ
เพื่อตกแต่งสถานที่บริเวณโรงพยาบาลให้สวยงามขึ้น
หมอทดสอบโดยการให้ผู้ป่วยออกความคิดว่าจะใช้
บ่อน้ำเล็กๆ นี้ทำอะไรดี

หมอ เริ่มถามผู้ป่วยทีละคน
ผู้ป่วยคนแรกตอบว่าเอาไว้เป็นท่าเทียบเรือครับ
ผู้ป่วยคนที่สองตอบว่าเอาไว้แข่งว่ายน้ำกีฬาโอลิมปิค
ผู้ป่วยคนที่สามตอบเอาไว้เล่นบานาน่าโบ๊ทครับ
ถามไปหลายคนมากแต่ก็ไม่มีใครตอบได้อย่างมีเหตุผลเลย
จนถึงคนสุดท้าย หลาย คนคง ทราบ เค้าคือนายหิดนี่เอง
คำตอบของเค้าทำให้หมอประหลาดใจอย่างมาก.....

หมอ : บ่อน้ำเล็กนี่ เธอคิดว่าน่าจะใช้ทำอะไรได้

นายหิด : เลี้ยงปลาครับหมอ

หมอ : เธอเป็นคนเดียวเลยนะ ที่ตอบได้มีเหตุผล
เธอหายแล้วหล่ะ พรุ่งนี้จะโทรให้ญาติเธอมารับ

หมอ : เอ่อ.... ว่าแต่ว่า เธอจะเลี้ยงปลาอะไรหล่ะ

นายหิด : ปลาวาฬ.....

หมอ : ?!!?!

******************************************************

ไอ้บ้าภาค 4

อยู่มาวันนึงทางโรงพยาบาลบ้า
ได้ให้คนไข้ที่อาการดีขึ้นมากๆแบบเริ่มจะหายบ้า
สามารถลากลับ ไปเยี่ยมญาติได้หนึ่งวัน
ทำให้ คนบ้าที่มีอาการดีขึ้นทั้งหลายรวมทั้งนายหิด
ต่างก็ดีใจที่จะได้กลับบ้าน แต่ว่า ถ้าเราจะตามไปดู
พฤติกรรมฮาๆ ของคนไข้ทุกราย ก็คงไม่ไหว

ดังนั้นขอตามไปดูนายหิด คนเดียว
ขณะที่นายหิดกำลังจะถึงบ้าน เขากำลังข้ามถนน
แต่นายหิดไม่ทันได้มองดูรถเลย
เพราะความรีบร้อนที่อยากจะกลับบ้านไวไว ได้มีรถเบนซ์
E-กลม ขับมาด้วยความเร็วสูง ชนเข้าที่
นายหิดอย่างจัง และรถก็ได้เสียหลักไปชนกะเสาไฟฟ้า
รถคันนั้นมีคนนั่งมา 2 คน

คนหนึ่งเป็นนักวิทยาศาสตร์ อีกคนเป็นนักปรัชญา
แต่ทว่าทั้ง 3 คนรวมนายหิดด้วยอาการสาหัส
ยมฑูตจึงมารับตัวไป

แต่เมื่อ ไปถึงยังนรก ท่านยมบาลบอกว่าเจ้า 3 คนมี
สิทธิ์ที่จะรอดหรือตายเพียงแต่ว่าเจ้าต้องทายคำถามข้า
แล้วคำถามนั้นถ้าข้าตอบไม่ได้ เจ้าก็จะรอด
แต่ถ้าข้าตอบได้ เจ้าก็ต้องตายอยู่ในนรกนี่แหละ

นักวิทยาศาสตร์เป็นคนถามคนแรกก็ถามเกี่ยวกะ สมการ
สารเคมีที่สลับซับซ้อน แต่ท่านยมก็ตอบได้
ไอ้นี่ตาย.......

คนที่สองนักปรัชญาได้ถามเกี่ยวกะปรัชญาของขงจื๊อ
ที่เข้าใจย๊ากยาก แต่ท่านยมก็ตอบได้
ไอ้นี่ตาย...... 555555

ในที่สุดก็มาถึงคนสุดท้านนายหิดไอ้บ้าแห่งศรีธัญญา

ยมบาล : คนที่มากะเจ้าตายหมดแล้ว และข้าดูประวัติเจ้าแล้ว
ข้าว่าเจ้าไม่รอดแน่ๆๆ ตายเลยดีกว่ามั้ง

นายหิด : เดี๋ยวก่อน! ไหนๆข้าก็ต้องตายอยู่แล้ว
ขอถามหน่อยละกัน แต่ก่อนอื่นข้าขอเก้าอี้ที่มีรู
เก้ารูมาให้ ข้านั่งได้มั้ย

ยมบาล : ได้...

หลังจากที่นายหิดนั่งเก้าอี้ที่มีรูถึงเก้ารู
นายหิดก็ตดออกมาอย่างจังงงงง...... ปู้ด ป้าด ปี๊ด......
ส่งกลิ่นเหม็นไปทั่วนรก ทำให้ยมฑูตหลายท่าน
อ๊วกแตก อ๊วกแตน กันเป็นแถว

ยมบาล : เจ้าคนบ้า เจ้าทำแสบมาก รีบทายมาเลย
อย่างเจ้านี้ต้องเอาให้หนัก

นายหิด : ท่านยม ท่านรู้มั้ยข้านั่งอยู่บนเก้าอี้เก้ารูเนียะ
แล้วตดของข้าออกมาจากรูไหน

ยมบาล : รูที่ 1

นายหิด : ผิด

ยมบาล : ข้ารู้แล้วรูที่ 5 แน่เลย

นายหิด : ผิด

ยมบาล : ถ้างั้นข้ายอมแล้ว ไหนบอกมาสิ
ตดของเจ้าออกมาจากรูไหน

นายหิด : รูตูด...........

ยมบาล : ?!!?!

ผลสุดท้ายยมบาลก็เลยต้องส่งวิญญาณของนายหิดกลับไปมีชีวิต

******************************************************

ไอ้บ้าภาค 5

ความเดิมตอนที่แล้วที่นายหิดอยู่ในนรก และรอดชีวิตมาได้
ทำให้ท่านยมทึ่งในความบ้าที่สามารถ เอาตัวรอดได้
เลยเชิญนายหิดไปทานอาหารด้วยกันที่ภัตตาคารนรก
ซึ่งเป็นภัตตาคารที่หรูที่สุดในนรก ขนาดท่านยมเอง
ยังมีโอกาสน้อยครั้งที่จะได้มาทานอาหารที่นี่

เพราะราคาแพงมากๆ
ท่านยมได้สั่ง”กุ้งมังกรเผาไฟนรก”
ซึ่งเป็นอาหารที่ดีที่สุดของภัตตาคาร
จากนั้นสักครู่บ๋อยนรกก็ได้นำ
”กุ้งมังกรเผาไฟนรก” มาเสิร์ฟ
แต่ทว่ากุ้งมังกรที่นำมาเสิร์ฟ
มีอยู่ 2 ตัวตัวหนึ่งมีขนาดใหญ่มาก
แต่อีกตัวขนาดมันช่างเล็กเหลือเกิน ไซต์พอๆ
กะกุ้งกุลาดำ แล้วจะทำไงดีเนียะ
ท่านยมก็เลยพูดว่า...

ท่านยม : เชิญเลย เชิญเลย.....

นายหิดได้ยินอย่างนั้น ก็ใส่เลยไม่รีรอ
คว้ากุ้งมังกรตัวใหญ่ไปทันที
ท่านยมอดไม่ได้ กับความไร้มารยาท
ของนายหิด ท่านยมจึงพูดขึ้นว่า

ท่านยม : เจ้านี่! ช่างไร้มารยาทซะจริงๆ
ท่าทางจะต้องสอนมารยาทก่อนกลับโลกมนุษย์

นายหิด : อ้าว! ท่านยม ทำไม่มาว่าข้าอย่างนั้นหล่ะ
แล้วถ้าเป็นท่าน ท่านจะทำยังไง

ท่านยม : ข้าก็ต้องคว้ากุ้งตัวเล็กกว่าไปก่อนอยู่แล้ว

นายหิด : อ้าวถ้าอย่างนั้นแล้วท่านจะบ่นทำไม.....

ท่านยม : เอ่อหว่ะ !?!!??

******************************************************




 

Create Date : 28 สิงหาคม 2550   
Last Update : 28 สิงหาคม 2550 10:02:04 น.   
Counter : 304 Pageviews.  

!!!!! โรคติดต่อร้ายแรงมาก โปรดระวัง

โ ร ค ท รั พ ย์ จ า ง (Moneyphilia)

โรคทรัพย์จาง มีศัพท์ทางวิชาการว่า MONEYHPILIA
เป็นคำสมาสระหว่างคำว่า MONEY
และ PHILIA มีลักษณะคล้ายกับโรค
HEMOPHILIA ซึ่งโรค HEMOPHILIA
ผู้ป่วยจะมีอาการเลือดไหลไม่หยุด
และโรคชนิดนี้มิได้ติดต่อทางพันธุกรรม
แต่ MONEYPHILIA เป็นโรคที่เงินไหลออกจากกระเป๋าไม่หยุด
จนเกิดทรัพย์จางได้

โรคนี้มิได้ติดต่อทางพันธุกรรมเช่นกัน
แต่ติดต่อกันเฉพาะกลุ่มบุคคลที่มีรายได้น้อยถึงปานกลาง
ซึ่งไม่สามารถจัดสรรรายได้ให้ได้สัดส่วนกับรายจ่าย
ว่ากันง่าย ๆ ก็คือรายจ่ายมากกว่ารายได้นั่นเอง
ในทุกวันนี้โรคดังกล่าวได้เริ่มระบาดในหมู่คนไทยที่มีรายได้น้อย
ถึงรายได้ปานกลางมาสองสามปีแล้ว
ทำให้ส่งผลกระทบต่อขวัญและกำลังใจในการดำเนินชีวิต
ตลอดจนบั่นทอนความเจริญก้าวหน้า
ในหน้าที่การงาน บั่นทอนสุขภาพ
บั่นทอนชีวิตครอบครัวและสังคมโดยรวม
ดังนั้น เราจึงควรศึกษารายละเอียดของโรคนี้
เพื่อหาวิธีหลีกเลี่ยงหรือป้องกันแต่เนิน ๆ

ระยะฟักตัวของโรค (INCUBATION PERIOD)
เชื้อจะเริ่มฟักตัวประมาณวันที่ 15 ของเดือน แต่ก็ไม่แน่ทุกคนไป
เพราะบางคนเชื้ออาจจะเริ่มฟักตัวได้ตั้งแต่วันที่ 5 ของเดือนก็มี
และบางรายอาการรุนแรงจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ของเดือนทีเดียว
อาการจะปรากฏเร็วหรือช้า รุนแรงหรือไม่รุนแรง
ขึ้นอยู่กับชนิดของเชื้อ และชนิดรายได้ของแต่ละบุคคล
ซึ่งแบ่งตามพฤติกรรมในการจับจ่ายใช้สอยของผู้ป่วย
อีกทั้งขึ้นอยู่กับลักษณะของโรคแทรกซ้อนที่มือด้วย
ว่าเป็นโรคมือเติบหรือไม่
หากเป็นโรคมือเติบด้วย จะยิ่งทำให้การรักษา
หรือป้องกันเป็นไปได้ยาก และระยะฟักตัวของโรคก็จะรวดเร็ว
อีกทั้งอาการก็จะยิ่งรุนแรงมากขึ้น

อาการ (SYMPTOM)
ผู้ป่วยจะเริ่มมีอาการเหม่อลอย
ไม่สบตาผู้อื่นโดยเฉพาะเจ้าหนี้
เหงื่อซึมออกตลอดเวลา หงุดหงิด
สูญเสียความเชื่อมั่น ไร้สมาธิในการทำงาน
เบื่ออาหาร หิวแต่ทานไม่ลง เพราะอาหารน้อย
คุณภาพต่ำ เนื่องจากด้อยกำลังซื้อ รสชาติไม่ถูกปาก
ผู้ป่วยบางรายมีอาการรุนแรงถึงกับทำอัตวินิบาตกรรม
บางรายมีอาการผวาเมื่อถูกเรียกชื่อ
พวกที่มีอาการรุนแรงบางจำพวก
จะทำการประชดชีวิตโดยการเดินมาทำงาน
แทนการโดยสารรถประจำทาง หรือแท๊กซี่
หรือพยายามขึ้นรถโดยสารที่มีคนแน่นมาก ๆ
เพื่อหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับกระเป๋ารถเมล์
หรือเพื่อที่จะได้หลบหลีกระหว่างบันไดหน้ากับบันไดหลัง
สลับไปมาได้รวดเร็วและทันท่วงที
อีกทั้งเพื่อพยายามให้ได้รับอากาศที่ปลอดโปร่ง
จะได้กินลมเพื่อลดอาการหน้ามืด

การป้องกัน (PROTECTION)
ไม่ควรนำเด็กหรือสัตว์เลี้ยงเข้าใกล้ เมื่อผู้ป่วยมีอาการหงุดหงิด
มิฉะนั้นจะได้รับอันตรายจากผู้ป่วยได้
ไม่ควรนำของมีค่าเข้าใกล้ในระยะสายตาและมือเอื้อมถึง

การรักษา (TREATMENT)
ยังไม่มียาชนิดใดที่จะบำบัดโรคนี้ได้โดยตรงในปัจจุบัน
แต่สามารถรักษาได้ตามอาการที่ปรากฏ
เช่น ผู้ป่วยมีอาการปวดศีรษะ (เป็นกันโดยมาก)
ก็ควรใช้ยาลดไข้ 1-2 เม็ด ทุก 4 ชั่วโมง
ได้แก่ยา PARACETAMAL ไม่ควรใช้กับผู้ป่วยที่เป็นโรคกระเพาะ
ถ้าผู้ป่วยมีอาการหงุดหงิด กระสับกระส่าย นอนไม่หลับ
ควรใช้ยาคลายประสาท ตามที่แพทย์แนะนำ ห้ามใช้เกินขนาด
เพราะจะเกิดอันตรายต่อผู้ป่วยได้ (ห้ามใช้ STRICNIN โดยเด็ดขาด)
ควรให้ผู้ป่วยได้ออกกำลังกาย พักผ่อน ในที่ลับตาคน
อย่าพาผู้ป่วยออกนอกบ้าน เพราะอาจเผชิญหน้ากับเจ้าหนี้ได้
การกระทำเช่นนี้นอกจากจะไม่ทำให้ผู้ป่วยมีอาการดีขึ้นแล้ว
กลับจะมีอาการทรุดหนักลงเรื่อย ๆ อาการดูน่าเป็นห่วงอยู่ไม่น้อย
แต่อาการของผู้ป่วยจะกระเตื้อง
ตื่นเต้นได้อีกครั้งก็ถึงตอนปลายเดือนนั้น ๆ
แต่บางรายก็ไม่ดีขึ้น กลับทรุดหนักลงไปอีก
เนื่องจากการอักเสบของดอกเบี้ย
ไม่ควรนำผู้ป่วยไปรักษายังโรงพยาบาลเอกชน
เพราะอาจจะทำให้เกิดอาการช็อคได้
เมื่อเห็นใบแจ้งหนี้ ทางที่ดีควรนำไปรักษายังสถานธนานุเคราะห์,
สถานธนานุบาล โดยให้ผู้ป่วยนำของที่มีค่าติดตัวไปด้วย
ซึ่งเป็นการรักษาอย่างปัจจุบันทันด่วน
และตรงตามอาการของโรคมากที่สุด โดยหมอหลงจู๊
จะให้ผู้ป่วยบอกประวัติ โดยซักอาการอย่างละเอียด
เพื่อให้แน่ใจว่าไม่ใช่ของที่หยิบฉวยของผู้อื่นมาโดยเจ้าของไม่ยินยอม
ต่อจากนั้นก็จะทำการตรวจรักษา ตีค่า ต่อรอง และเขียนใบสั่งยา
โดยต้องมีการยืนยันด้วยบัตรประจำตัวประชาชนของผู้ป่วย
แล้วหมอหลงจู๊จะให้วัคซีน
โดยนำนิ้วหัวแม่มือของผู้ป่วยแปะลงบนวัคซีนสีดำ
และกดลงบนใบสั่งยาให้ปรากฏรอยเป็นที่แน่ชัด
และสามารถยืนยันเป็นหลักฐานได้
จากนั้นผู้ป่วยจะมีอาการดีขึ้นทันตาเห็น
แต่ทั้งนี้และทั้งนั้นอาการจะดีขึ้นได้กี่วัน
ขึ้นอยู่กันของมีค่าที่นำติดตัวไป
โรคนี้จะสามารถรักษาให้หายขาดและไม่เกิดกับผู้ป่วยได้อีก
ถ้าสามารถจัดสรรรายได้ในแต่ละเดือนให้เพียงพอ ควบคุมรายจ่าย
ควรให้มีรายจ่ายต่อรายได้อย่างน้อยในอัตรา 1:1
แต่ต้องใช้ระยะเวลาพอสมควร
แต่เป็นทางเดียวที่จะรักษาให้หายขาดได้
ปัจจุบันยังไม่มีวัคซีนป้องกัน จึงต้องรักษาตามอาการข้างต้น
และอาจจะใช้ยาแผนโบราณจำพวกวงแชร์ เท้าแชร์ รักษาร่วมก็ได้
แต่ต้องระวังผลข้างเคียงที่อาจะเกิดขึ้นได้ เช่น
ลูกแชร์เบี้ยว เท้าแชร์หาย โรคมือเติบ
จนทำให้ไม่สามารถรักษาสัดส่วน
รายได้ต่อรายจ่ายที่ 1:1 ได้ จะส่งผลในทางลบมากยิ่งขึ้น
แต่ถ้าหากใช้ได้ถูกต้อง เช่น
เป็นเท้าแชร์เอง ก็ต้องตามลูกแชร์ให้ได้ครบ
ถ้าเป็นลูกแชร์ก็ต้องตามเท้าแชร์ให้ได้ทุกงวด
และพยายามอย่าให้ถูกหมดนวดจับ จนติดโรคมือเติบ เป็นต้น

ตอนนี้เราก็เป็นโรคนี้อยู่ รักษาไม่หายด้วยจิ




 

Create Date : 27 สิงหาคม 2550   
Last Update : 27 สิงหาคม 2550 11:04:50 น.   
Counter : 1328 Pageviews.  

ชีวิตวัยเรียน...

เช้าสายบ่ายบ่นร้อน หลับก่อน
ดึกดื่นไม่ยอมนอน อ่านอ้าง
บริดจ์ดัมมี่กูสอน เองเพื่อน
มึงช่วยกูสอบบ้าง ผ่านได้ ฤานา

ตื่นเช้าชวนสาวเจ้า ออกวิ่ง
เอียงอกออกแอบอิง อวบอิ่ม
ปากบอกว่ารักจริง หวังแต่ง
มัวมั่วหลงจิ้มลิ้ม ค่อยได้เข้าเรียน

เข้า L(lecture)ดูสาวเจ้า เซ็กซี่
Lecture กูบ่มี Rox ได้
ลายมือไม่ค่อยดี ไก่เขี่ย
จดไปไป่ได้ใช้ เมื่อยมือเปลืองเปล่า

เริ่มแรกเรียน Text เข้า Phycho
Penthouse Playboy Show ส่วนสัด
การ์ตูนวาสงกองโต สอดไส้
อยู่กลาง Text Take จัดซ่อนไว้เข้าเรียน

เรียนไปชักเหนื่อยแล้ว กูโดด
Major Central โลดสุขล้ำ
เรื่องเรียนว่าแม่งโคตร แสนเบื่อ
กลับมาบอกเพลียซ้ำ ค่ำแล้ว กูนอน

ซ้อมไว้จะแข่งแล้ว เดือนหน้า
สอบก็ใกล้เข้ามา พรุ่งนี้
เป็นยอดนักกีฬา ขยันฝึก
บอกนี้เรื่องศักดิ์ศรี เรื่องสอบชั่งมัน

เชลซีบุกถึงถิ่น แมนยู
ปืนใหญ่บานส์ลีย์ดู อยู่ได้
ลีดส์ปะทะลิเวิอร์พูล แต้มต่อ
เก้า-สิบควบครึ่งไซร้ พรุ่งนี้ สอบแฮ

อวดอ้างฤทธิ์เองอ้า กูเก่ง
ตัวกูนี้ตัวเต็ง A ช๊วน
เรื่องเรียนเอ็งบอกเซ็ง (ป๊อก) เด้งก่อน
ครูบอกกูกับก๊วน เล่นช๊วน F ชัวร์

สอบเสร็จบอกพ่อข้า เศรษฐี
หลานปู่กูมั่งมี แสนสุข
เปิดเทอมว่างทุกที เฮ้อ!หน่าย
เม--ษาต้องทนทุกข์ F นี้แก้นาน

พ่อขายควายส่งเจ้า เล่าเรียน
เจ้าบ่เคยพากเพียร แดกเหล้า
เจ้าทำตัวเสื่อมเสียเกียรติ ตระกูล
ลูกชั่วมัวหลงเหล้า เจ้าโง่กว่าควาย




 

Create Date : 23 สิงหาคม 2550   
Last Update : 23 สิงหาคม 2550 16:11:38 น.   
Counter : 374 Pageviews.  

แซนวิช

เรื่องนี้เกิดขึ้นกับครอบครัวที่แสนจะอบอุ่นครอบครัวหนึ่ง
ครอบครัวนี้มีลูกอยู่ 2 คน คนโตเป็นผู้ชาย
คนน้องเป็นผู้หญิง ตัวพี่ชายนี่เก๋าสุดๆ
เจ้าชู้จีบหญิงเป็นว่าเล่น เห็นเป็นแต่เพียงดอกไม้ริมทาง
ส่วนน้องสาวก็เป็นสาวน้อยหน้ารักร่าเริงแจ่มใสดั่งดอกมะลิแรกแย้ม

พี่น้องคู่นี้นอนอยู่ห้องเดียวกัน
เตียงนอนเป็นเตียงสองชั้นพี่ชายให้น้องตัวเองนอนเตียงล่าง
เพราะเป็นห่วงน้องสาวกลัวว่าจะนอนดีดดิ้นตกเตียงลงมานอนแอ้งแม้งเสียสวยเปล่าๆ

เรื่องนี้มันเกิดขึ้นเพราะวันหนึ่งพี่ชายหว่านล้อมให้แฟนสาวสวย
ลาวเซ็ก (อยู่ภาคอีสานเว้ยทำไมลาวจะเซ็กเหมือนหมวยบ้างไม่ได้วะ)
ยอมให้ตนเผ็ดจศึกได้สำเร็จ

แต่โอ้!
โชคชะตาช่างกลั่นแกล้งไม่มีสถานที่รองรับทั้งๆ
ที่อารมณ์รักบรรเจิดเริ่มสุกงอม แล้วจึงจำใจจำ
ยอมต้องใช้ห้องนอนของตนเป็นสังเวียนอารมณ์
แต่น้องสาวเจ้าปัญหาก็นอนอยู่ในห้องด้วยนี่สิ!
ไม่เป็นไรเพราะความใคร่ไม่เข้าใครออกใคร
ทันใดนั้นตัวพี่ชายก็ปิ้งไอเดียเรื่องเตียงนอน
ไม่มีปัญหาเพราะตัวนอนอยู่เตียงบน

แต่เรื่องท่าทางนี่สิช่างน่าหนักใจ
ก็เลยตกลงกับ แฟนสาวเป็นรหัสสัญญานรักว่า
ถ้าตนบอกมะเขือเทศต้องพลิกขวา
แตงกวาต้องพลิกซ้ายหอมใหญ่ต้องนอนแบ (ท่าเดียวกับนอนหงาย )
หมูแฮมต้องคว่ำหน้าเมื่อซักซ้อมท่องจำกันดีแล้ว

ทั้งสองก็ค่อยๆ ย่องและป่ายปีนขึ้นสู่สังเวียนระเริง
ในขณะที่ส่งสัญญานรักอย่างเมามัน
มะเขือเทศ แตงกวา หอมใหญ่ หมูแฮม หมูแฮม อยู่นั้น!

น้องสาวคนสวยซึ่งตื่นนานแล้วและได้ยินเสียงอย่างว่า
ก็ตะโกนถามพี่ชายไปว่า
“ทำอะไรอยู่น่ะ “
พี่ชายอ้ำอึ้งอยู่หนึ่งอึดใจตอบกลัวไปว่า
“ อ๋อ ทำแซนวิช “

“ใกล้เสร็จยังล่ะ “

เนี่องจากอารมณ์ค้างอยู่ พี่ชายจึงตอบกลับไปห่วนๆว่า
“ ทำไม นอนไปเลยไป “

น้องสาวจึงตอบไปกลับไปด้วยน้ำเสียงรำคาญพอกันว่า

“โอ๊ย! จะนอนได้ไงเนี่ยมายองเนสนองเต็มหน้าหมดแล้ว "




 

Create Date : 23 สิงหาคม 2550   
Last Update : 23 สิงหาคม 2550 16:08:22 น.   
Counter : 851 Pageviews.  

เออ....นามสกุลฉัน


วันหนึ่งแกมีความจำเป็นต้องไปทำงานในประเทศสหรัฐอเมริกา
แกจึงไปยื่นเรื่องขอวีซ่าที่สถานทูตเมื่อเจ้าหน้าที่เห็นนามสกุลของเธอจึงแจ้งว่า
นามสกุลของเธอไม่สุภาพและคงไม่เหมาะ ถ้าจะนำนามสกุลนี้ไปใช้ในสหรัฐฯ
เมื่อเธอทราบความหมายของนามสกุลเธอเป็นภาษาอังกฤษ
เธอก็อายจนหน้าแดง และแจ้งว่าจะไปเปลี่ยนให้เรียบร้อย
และจะรีบกลับมายื่นเรื่องต่อเจ้าหน้าที่อีกครั้ง
หลังจากออกจากสถานฑูต เธอก็รีบตรงไปยังอำเภอทันที
พร้อมทั้งแจ้งความประสงค์พร้อมทั้งเหตุผลต่อนายอำเภอ

" ท่านนายอำเภอค่ะ ดิฉันต้องขอเปลี่ยนนาม สกุลค่ะ
เพราะต้องไปทำงานที่อเมริกาและเจ้าหน้าที่สถานฑูตบอกดิฉันว่า
นามสกุลไม่สุภาพค่ะ ท่านนายอำเภอช่วยดิฉันด้วยนะค่ะ
ดิฉันก็ไม่ค่อยจะรู้ภาษาอังกฤษด้วย "


เมื่อนายอำเภอได้รับฟังและเห็นนามสกุลของเธอแล้วก็หัวเราะ
แล้วบอกว่าไม่เป็นไรครับคุณผู้หญิง
เขาต้องการให้สุภาพกว่านี้ใช่มั๊ย เดี๋ยวผมจะจัดการให้
สร็จแล้วนายอำเภอก็จัดการเปลี่ยนนามสกุลให้เธอเป็นที่เรียบร้อย และบอกกับเธอว่า

"คราวนี้ไม่น่ามีปัญหาแล้วนะผมเปลี่ยนเป็นแบบสุภาพให้แล้ว"

นางสาว อำแดง ดีใจมาก
วันรุ่งขึ้นเธอรีบไปยื่นขอวีซ่าใหม่ พร้อมกับความมั่นใจว่าสุภาพแน่

"เธอขอยื่นวีซ่าในชื่อของ นางสาว อำแดง ฟักมีพลีส "




 

Create Date : 22 สิงหาคม 2550   
Last Update : 22 สิงหาคม 2550 13:17:16 น.   
Counter : 312 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  

*BoM*
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




[Add *BoM*'s blog to your web]