---ขะ ขะ ขะ ขีดๆ เขียนๆ มาช่วยกัน เรียน เขียนๆขีดๆ ---
 
^^ Howto ALWAYS PINK + review + ทำผม ^^

หวานกันซะให้พอกับ always pink

สวัสดีค่ะ เพื่อนๆ พี่ๆ ทุกๆคนหายหน้าจากโต๊ะเครื่องแป้งไปนานมาก
เกือบ ครึ่งปีอีกแล้ว TT ตอนนี้งานวิจัยเริ่มคลี่คลาย เลยมีเวลามาแต่งหน้าทำรีวิว บ้าง

ไม่รู้ยังจำกันได้รึเปล่าเพราะเราหายไปนานจริงๆ 55+
กลับมาคราวนี้เลยมีผลิตภัณธ์ ใหม่ๆ มารีวิวพร้อม ฮาวทู พร้อมทำผม
(มาคราวเดียว มาหลายอย่างเลย ^w^ )
แต่ก็ต้องขอเกริ่นก่อนว่ามีปนๆ กันทั้งแบบ
CR คือซื้อมาเอง จ่ายเอง รีวิวเอง
กับ SR ซึ่งจะเขียนกำกับ ระหว่างขั้นตอนไว้นะคะ
เพื่อความเข้าใจตรงกันค่ะ

ขอบคุณมากค่ะ

เริ่มจาก
ข้อมูลรักษาสิวก่อนละกัน
ช่วงก่อนเรา มีปัญหาเรื่องผิวมากคือ แพ้ paula's choice TT

สิวเห่อพร้อมกัน จนเราทนไม่ไหวซึ่งทั้งนี้เราพยายามทนไปซัก 3-4 เดือน
พ่อเรา เห็นหน้าแล้วบอกว่า เดี๋ยวป๊าพาไปหาหมอสิวนะ TT
ป๊าถึงขั้นทนไม่ได้อ่ะค่ะ เราเลยตัดสินใจไปที่คลินิคแห่งเดิม
[CR] SVJ clinic
เรามุ่งตรงไปที่คลินิคแห่งเดิม ซึ่งเน้นยิง Smooth beam V-beam เพื่อ
ลดการอักเสบของสิว และลดรอยแดง โดยทั้งนี้เราเหมาคอร์สทำ
ทั่วหน้า Smooth beam Vbeam แบบเหมา รวมเป็นคอร์ส
คือ จากเดิม ครั้งละ 3000 เป็น 5 ครั้ง 14,000 บาทถ้วน 
แต่ทั้งนี้ เนื่องจากสิวต้องใช้เวลา
ช่วงแรก ที่เราเหมาคอร์ส หมอจะพยายามนัดเรามาเจอค่อนข้างบ่อย
เหมือนอาทิตย์ละครั้ง ซึ่ง พอจบคอร์สก็ยังไม่ได้ผลที่ดีเท่าที่ควรจะเป็น

ซึ่งอันนี้เราไม่โทษหมอ ซะทีเดียวแต่ก็ด้วยนิสัยเราด้วยแหละค่ะ
ที่ไปลองเครื่องสำอางค์ใหม่บ้าง ลืมกินยาบ้าง

เพราะการรักษาสิวต้องใช้ "เวลา" อย่าใจร้อน

หมอห้ามเรา แต่งหน้าทั้งนั้น แต่โชคดีที่ช่วงที่ผ่านมาเรานั่งทำวิจัยอยู่ที่บ้าน
เลี่ยงการแต่งหน้า
หลังจากนั้นเรายิงเลเซอร์อีกประมาณ 3 ครั้ง (คราวนี้เราไม่ซื้อเป็นคอร์ส
เพราะคิดว่าไม่น่าจะทำถึงจำนวนครั้งเท่านั้นอีกแล้ว ) พยายามเก็บพวกรอยสิว

หลังจากรอผมที่สระเสร็จใหม่ๆ แห้งได้ประมาณ 80 เปอร์เซนต์
ขยี้ wax ให้ทั่วมือแล้วมาสางกับผม นะคะ

แบ่งผมออกเป็น สอง ส่วนซ้ายขวา
แบ่งตามจำนวนโรลที่ มี
เราแบ่งข้างละ 3
จัดการม้วนลอนเลยค่ะ พยายามม้วนลอนให้สุดปลายผมนะคะ
ถ้าเหลือตรงปลาย จะได้ลอนที่ไม่สวยค่ะ

ทำตามรูปเลยค่ะส่วน หน้าม้า ใช้โรลขนช่วยพยุงไว้ จะได้หน้าม้าโค้ง คาวาอี้(เหรออออ) พองๆ มี volume ค่ะ



หลังจากม้วนผมเสร็จแล้ว
[CR] ครีมกันแดด provamed  ตัวควบคุมความมันของ 2ndksin รองพื้น lanna3 ของ 2ndskin

อย่างที่บอกค่ะเรามีปัญหาสิวค่อนข้างเยอะ
เราเลยเลือกใช้เครื่องสำอางค์ที่เป็น mmu

เริ่มจากลงกันแดด ตัวนี้เนื้อครีมจะเป็นมูสสีเนื้อ คล้ายซิลิโคนเบส
เกลี่ยง่าย SPF สูง
หน้าไม่มันหลังทา ขาวกว่าหน้าเล็กน้อย
ราคาถูก
ให้ไป 8/10 นะคะเป็นกันแดดที่คุ้มราคามากเพราะไม่แพง เราซื้อที่ศิริราช ประมาณ 150 บาท ถูกมากกกกกกกก

mmu ให้ไปที่ 9/10 ค่ะคือเราชอบนะคะ ที่เนื้อเป็นผงเบลนด์ได้เรื่อยๆ แต่ช่วงนี้สีผิวเราเปลี่ยน และเราชอบที่ออกเหลืองกว่านี้นิดนึงคือถ้าใช้เยอะๆ ตอนนี้
หน้าเราจะขาวไม่เท่า
 มันเลยเป็นเหตุุให้เราเจอคู่แท้ แป้งพัฟผสมรองพื้นราคาย่อมเยาด้านล่างตามมา


ที่หักจาก ตัว mmu ไป 1 คะแนนเพราะต้องมีตัวแปรงคาบูกิ ไว้วนด้วย
บางทีพกไม่ค่อยสะดวกอ่ะค่ะ TT

วนหน้ากันให้เห็นจะๆ ด้านซ้ายขวา
ซ้าย เบลนด์รองพื้น mmu แล้ว หมีแพนด้าหายวับ 55+

และมาถึงแป้งงงงงง งตัวที่เราต้องการนำเสนออออออออออออออ
แป้งปริศนา ที่เหลืองได้ใจ
เนียนได้โล่ห์
คุมมันได้ทั้งวัน
ปาดทีเดียวกริบ (สำหรับหน้าหนาวที่เชียงใหม่นะคะ ตอนแรกแป้งตัวนี้พอทน
สภาพอากาศนอกห้องแอร์ของกทม ช่วงก่อนได้อยู่ แต่ตอนนี้ต้องปาดอีกซัก
1 ทีถึงจะอยู่ทั้งวันค่ะ )

อะไร มันจะเยี่ยมเช่น นี้ ๆ ๆ ๆ ๆ
[CR] แป้ง meilinda ฝาน้ำเงิน
เป็นแป้งที่หาซื้อได้ค่อนข้างยาก - ยากมาก
เราไปเจอที่ตรงกาดหลวงเชียงใหม่ 55+
ชื่อร้านบุญชู ป้าแกเชียร์มากหลงซื้อตามแกไป
เท่านั้นแหละ หลงเลย
โดยส่วนตัวชอบกว่า cezanne ตลับชมพูนะคะ (เพราะอันเดอร์โทนตัวนั้นว่าเหลือง แต่นี้เหลืองกว่า )

ฮัดช่าห์ !!!  ปาดลงท้องแขน 1 ที สีกลืนแทบแยกไม่ออก
แต่เนียนอ่ะชอบ
ถามถึงคะแนน จะมีเหลือเหรอคะ
ให้ 10 ก็ให้ได้ ถ้าหัก ก็คงหักไป .5 ตรงหาซื้อยากเนี่ยแหละ



หลังจากลงหน้าเสร็จแล้ว หน้าเนียนกริบแต่สีเท่ากันหมด
การจะสร้างให้หน้ามีมิติ เราก็สร้างจาก เฉดดิ้งและไฮไลท์เนี่ยแหละค่ะ

นี่เลย ใช้อุปกรณ์สองตัว
คะแนน คือ เป็น เฉดดิ้ง สองตัวเท่าที่มีและใช้่แล้วชอบ
ทาง่าย กว่า MTI เยอะ ถึงเยอะมากเพระาเฉดตัวนั้นเป็นเนื้อครีม

มีตัว aloha ของ etude
ตัวนีี้ช อบตัวเฉดดิ้งที่เป็นสีน้ำตาลมากเพราะสีออกมาพอดี ปัดมาก ปัดน้อย
บางทีดูไม่เว่อร์ เกินไป แต่ตัวไฮไลท์ที่เป็นมุก เราก็ชอบนะคะ
แต่ด้วย ความที่หน้าเรามัน เราชอบมุกแต่ไม่ชอบ กลิตเตอร์อ่ะ TT
มันทำให้ดูย่อง ได้ง่ายขึ้นถ้าปัดเยอะ

และ ตัวไฮไลท์จมูกของ cezanne
เหมาะกับการทำเฉดดิ้งจมูกมากกว่าตัว aloha เฉดสีค่อนข้างอ่อนกว่า
ทำให้บางทีการไล้ดั้ง ไม่เป็นสันมากเกินไปดูธรรมชาติ
ตัว hilight ถ้าให้เทียบมี glitter น้อยกว่า แต่ขาว บางทีไล้ไปแล้ว
ต้องเอาแปรงที่มีแป้ง มาปัดทับๆอีกที เพื่อเกลี่ยให้เนียนขึ้น

ถ้าจะถามว่าเฉดดิ้งยังไง ไฮไลท์ยังไง
เฉดดิ้ง คือเอาเป็นพูดง่ายๆเลยคือ
ถ้าเราอยากให้ตรงไหนลดลง ให้ทาเฉดดิ้งค่ะ
เช่นมีแก้ม ก็พยายามไล้ให้ปรับมาเป็นรูปไข่
มีโหนกแก้ม ก็ไล้ให้โหนกแก้ม ดูน้อยลง

ไฮไลท์คือสิ่งที่เราต้องการให้เด่น เด้ง ออกมาจากหน้า
ทำให้หน้าดู มีมิติง่ายขึ้น
สำหรับ เราเราจะเน้นที่ช่วงจมูก คาง และ ตรงโหนกตา
ค่ะ


สำหรับการเขียนคิ้ว
เราชอบใช้แปรงแบบปลายตัด มากกว่าแบบ ดินสอเขียนคิิ้วโดยตรงเพราะ
1. เราไม่ชินค่ะ TT เราใช้แบบนี้มาแต่แรกพอลองมาเปลี่ยนดูแล้ว บางทีเขียนคิ้ว
เราเขียนเข้มไปหนักไป กลับมาใช้แบบเดิม

 แปรงปลายตัดตัวนี้เราได้มา 10 บาทตลาดนัด 55+
แต่ใช้ดีเว่อร์

เวลาเราเขียนคิ้วเราจะใช้พาเลท KMA ตัวดึกดำบรรพ์ในกรุของเรา TT
ใช้ไม่หมดซักที มาผสมกันสองสีค่ะ ตามที่วงไว้เลยจ้ะ

เอาจริงๆ การเขียนคิ้ว ก็มีหลักการง่ายๆ คือ ตรงส่วนหัว อย่าตกกว่าหางตา
แต่ทั้งนี้ รูปคิ้วที่เป๊ะบางทีก็ไม่เข้ากับหน้าเรา
สำหรับเราก็เน้น รูปแบบที่ชอบนะคะ คือ ค่อนข้างหนาและสีเข้ม

เราใช้วิธีใช้สีเข้มมากำหนดโครงก่อน
แล้วค่อยใช้สีอ่อนมาถม
โดยสีเข้มสังเกตนะคะเราจะเขียนเป็นเฉพาะส่วนด้านบน เพื่อกำหนดโครงหน้าให้
ชัดยิ่งขึ้น
แต่สีอ่อน ใช้ถม ไม่งั้นคิ้วจะเข้มเป็นชินจังเอาค่า ^^

ถ้าอยากให้หน้าดูซอฟต์ลงกว่านี้ใช้มาสคาร่าปัดคิ้วปัดเพิ่มสีก็จะดูซอฟต์ลง
หน้าดูหวานขึ้นค่ะ

มาถึงขั้นตอนการแต่งตากันบ้าง
เวลาเราแต่งหน้าออกไปไหนกลางแจ้ง
หรือว่า ต้องการให้สีอายชาโดว์ ชัดขึ้น
เราจะใช้ตัว eye primer รองพื้นเปลือกตาก่อนค่ะ

แล้วใช้แป้งเด็กทาตรงบริเวณใต้ตา
เพราะเวลาที่เรา ลงสีเข้ม บางทีเศษผง อายชาโดว์ที่สีเข้ม
จะหล่นลงมาใต้ตา ทำให้เราเป็นแพนด้า 555+
การรองแป้งเด็กใต้ตา จะทำให้เราปัดพวกเศษผงสีเข้มนี่ออกได้ง่ายขึ้นค่ะ

จากนั้นก็มาถึง palette ตัวหลักของเรา
Maybelline PK1
[SR]
ตัวนี้ได้มาจากทาง maybelline นะคะของเพิ่งมาถึงวันนี้
จับปาดทันที หลังจากทดลองแล้ว
สีสวยค่ะ  แต่ด้วยความที่เนื้อสี ของอายชาโดว์ชุดนี้
จะมีกลิตเตอร์และกากเพชร อยู่ค่อนข้างเยอะ
ถ้าอยากให้ตัวกากเพชร ติด
แนะนำให้ตอน ทาอายชาโดว์ เราใช้นิ้วค่ะ

นิ้วเนี่ยแหละเป็นแปรงที่ไว้ทาอายชาโดว์กลิตเตอร์ที่ดีที่สุด และติดง่ายที่สุด
อายชาโดว์ตัวนี้
เนื้อสีชัด และค่อนข้างแข็ง ค่ะ
คือต้องปาดย้ำหลายๆ ทีหน่อย
กลิตเตอร์อยู่ไม่ค่อยทน เพราะเนื้อเกล็ดค่อนข้้างใหญ่
แต่การจับสี คู่สีใน ตลับสวยมากกกก

สำหรับ อายชาโดว์เราใช้สีตาม chart สี graphic นี้เลยค่ะ

สำหรับสีทองที่เพิ่มขึ้นมาเราใช้ half break ของ Urban decay มาแปะตรงหัวตาเพิ่มค่ะ ^^

จากนั้นเราใช้ตัวอายไลเนอร์เมจิก ของ meilinda อีกเช่นกัน
ตัวนี้ [CR] ค่ะ  เป็นอายไลเนอร์เมจิกที่สีค่อนข้างเข้ม
แต่เข้มน้อยกว่า maybelline hypersharp liner

ตรงหัวแปรง จะแข็งกว่า maybelline
แต่ราคาประมาณ 1 ใน 3 เท่า
หลังจากใช้ hypersharp หมดเราลองซื้อตัวนี้มาค่ะ
ค่อนข้างเวิร์คนะคะ
แต่ทั้งนี้ ถ้าหนังตามันเว่อร์ บางทีก็จะแพนด้า บ้างตามประสาอายไลเนอร์
แบบพู่กันค่ะ
ถ้าใครหนังตาไม่มัน ตัวนี้ก็ใช้ดีค่ะราคา 90 กว่าบาท ในตลาดขายส่งเครื่องสำอางค์ค่ะ

หลังจากเขียนอินเนอร์เสร็จแล้ว เราใช้ตัวอายชาโดว์สีน้ำตาลใน palette pk ของ
maybelline มาเบลนด์ทับตัวอายไลเนอร์ให้ขอบดูฟุ้งขึ้นค่ะ
และเขียนตรงส่วนขอบตาล่างให้หางตาดูตกๆ ตาจะดูโตขึ้นมากว่า 30เปอร์เซนต์ คอนเฟิร์ม ^^




จากนั้น ดัดขนตา ทั้งแบบปกติ และแบบไฟฟ้า ปัดขนตาบนล่างเพื่อเน้นให้
ขนตางอน และ ดวงตาดูกลมโตมากขึ้น
อันนี้เราใช้ mascara [SR] ตัวอ้วนแดงของ maybelline ค่ะ
ตัวนี้สำหรับเรา เคลือบขนตาให้ดูหนามากขึ้น
ดูเรียงเส้น แต่ขนตาตกถ้าเวลา ผ่านไปค่ะ
 หักคะแนนก็ตรง ขนตาตก เนี่ยแหละ TT

มาถึงตัวแก้ม
 sleek  สีชมพู๊ ชมพูของเรา ตัวนี้ชื่อสี pixie pink ค่ะ
เป็นบรัชที่อยู่ในเรท ราคาครึ่งพัน (แล้วแต่ร้านที่รับหิ้ว)
ซึ่งเนื้อสี ชัดเจน และติดทน
สีชมพูนมๆ หลังทา
แม้สีในตลับจะเข้ม แต่ปัดแล้วให้ลุกส์ใสๆ

เป็นตัวเลือกที่ถือว่าเวิร์คมาก ถ้าต้องการเฉดสีที่ใกล้เคียงกับ
แบรนด์ดัง ในราคาที่ต่ำกว่าครึ่ง

เท่านี้ก็เป็นอันเสร็จ ครบองค์ประชุมของขั้นตอนการแต่งหน้าแล้ว
(พิมพ์สดไป โพสต์ไป เหนื่อยเหมือนกันบางทีหมดมุกมาซะอย่างนั้น)

ลืมบอกไป sleek เป็นแบบ [CR] นะคะ


มาถึงขั้นตอนลุ้นระทึกแกะลอนผมกันเถอะ ^^ 
หลังจากถอดตัวม้วน ถ้าดึงผม ผมจะเด้งดึ๋งเหมือนสปริงเลยค่ะ 55+

หลังจากสางผมเล็กน้อย ผม ยังคงอยู่ลอนถ้าอยากให้เป็นลอนคลื่น
ให้ใช้มือค่อยๆจัดให้ผมแผ่ออก

แต่ถ้าอยากให้ดูยุ่งให้ก้มหัว แล้วใช้มือสาง รับรองเซอร์ได้ใจค่ะ


รูปตามธรรมเนียม before after 55+

อาจจะเป็นความรู้สึกของเราคนเดียวนะคะ แต่โดยส่วนตัวเราว่าเราแต่งตาเข้มแล้วเราเลยไม่ทาปากเพิ่มอ่ะจ้ะ



แบบซูมลูกเล่นของตาค่ะ
ขอบคุณที่ติดตามชมนะคะ





Create Date : 22 มีนาคม 2555
Last Update : 22 มีนาคม 2555 12:30:26 น. 0 comments
Counter : 5618 Pageviews.  
 
Name
* blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Opinion
*ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet

ขีดเขียนถาปัด
 
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]





ถ้ายังรัก - Crescendo

[Add ขีดเขียนถาปัด's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com