ที่สุดของความทุกข์








//img14.imageshack.us/img14/4787/725365557b1879fa06b9e2d.gif











แม้คนที่ปฏิบัติกิจถึงขั้นพระอรหันต์ พระผู้มีพระภาคก็ตรัสว่



"ถึงที่สุดแห่งทุกข์"



ยังไม่เรียกความสุขอยู่นั่นเอง



เรียกว่า....ปฏิบัติจนจิตหลุดพ้นจากความทุกข์.....ท่านตรัสว่า


"ถึงที่สุดของความทุกข์....พอถึงตรงนั้นแล้ว ทุกข์มันก็'ดับ'ไปเลย

ที่สุดอยู่ตรงนั้น ไม่เรียกว่าเป็น'ความสุข'


เพราะความสุขนั้นมันเป็นของ

ปรุงแต่ง ไม่มันคงอะไร


แฉ่บางครั้งต้องการให้ชาวบ้านเข้าใจ จึงใช้ภาษาว่า'สุข'บ้าง


เช่นตรัสว่า....'พระนิพพานเป็นสุขอย่างยิ่ง' ก็เพื่อให้ชาวบ้านที่ติด


ในความสุขเข้าใจในคำว่าสุขนี้ จะได้รู้ว่านิพพานนั่นมันเป็นสุขอย่างยิ่ง

ไม่ใช่สุขอย่างธรรมดาๆที่เรามีเราเป็นอยู่สุข เพราะการได้เงิน


ได้ข้าวของ ได้ลาภ ได้ยศ...อย่างนี้ชาวบ้านรู้ว่าเป็นความสุข แต่นั่น


มันไม่ใช่สุขชั้นยอด พระองค์ต้องการให้คนเข้าใจว่า.....


"พระนิพพานนั้น"


เป็นสุขชั้นยอด คือความดับทุกข์ได้...พูดอย่างนั้นก็เพื่อให้เข้าใจความหมาย


อันเป็นความสุขอีกแบบหนึ่ง แต่ที่แท้ก็คือ....


'ถึงที่สุดของการดับทุกข์'


นั่นเอง



"ทุกข์นี้เป็นสิ่งธรรมดาที่มีอยู่แก่คนทุกคน"


แต่ว่าทุกข์มันก็มี'เหตุ'


ไม่มีเหตุก็เกิดขึ้นไม่ได้ พระองค์จึงได้สอนเรื้องเหตุของความทุกข์


ให้เราเข้าใจต่อไป แล้วก็สอนว่า...


ทุกข์นี้ เป็นเรื่องดับได้


แล้วสอนต่อไปอีกว่า


จะดับทุกข์ได้โดยวิธีใด


เท่ากับสอนให้เรารู้ว่า เรามีโรค... แล้วก็สอนให้รู้ว่า


โรคมันเกิดจากอะไร...แล้วก็สอนให้รู้ว่าโรคนี้มันรักษาได้...รักษาได้โดยวิธีใด...


บอกไว้แจ่มแจ้งชัดเจน...ตั้งแต่เบื้องต้น..ท่ามกลาง..ที่สุด เป็นคำสอนที่สมบูรณ์


เพื่อความดับทุกข์ดับร้อนของชาวโลกโดยแท้......."ถ้าเรานำหลักเหล่านี้มาใช้


ในชีวิตประจำวัน เราก็จะพ้นไปได้...จากความทุกข์ความเดือดร้อนได้"


.....................................................................................



...หลวงพ่อปัญญานันทภิกขุ...








Arriya_Ann
























 

Create Date : 06 กรกฎาคม 2552    
Last Update : 15 กันยายน 2552 6:27:28 น.
Counter : 333 Pageviews.  

วิธีแก้ไขสำหรับผู้ที่มีบุตรยาก






























คู่สามีภรรยาที่อยากมีบุตรยาก ให้เตรียมร่างกายให้พร้อม

ดูแลสุขภาพให้ดีแล้วไปปรึกษาแพทย์เพื่อหาสาเหตุให้เจอ

เมื่อเจอสาเหตุ ที่ทำให้มีบุตรยากแล้ว เช่น

ถ้าเป็นเพราะผู้ชายมีเชื้ออสุจิไม่แข็งแรงหรือเป็นหมัน


ถ้าเป็นเพราะผู้หญิงที่ไข่ไม่สมบูรณ์


ถ้าสมบูรณ์ดีทั้งสองฝ่าย แต่แพทย์หาสาเหตุไม่เจอ



เมื่อทราบสาเหตุที่แท้แล้ว ก็อุทิศให้แก่นายเวรที่ทำให้มีลูกยาก โดยอธิฐานว่า



“ขออำนาจพุทธ ธรรม สงฆ์ จงบันดาลบุญข้า ให้นายเวรที่ทำให้อสุจิไม่แข้งแรง/ไข่ไม่สมบูรณ์” หรือ

“ขออำนาจพุทธ ธรรม สงฆ์ จงบันดาลบุญข้าให้นายเวรที่ทำให้ข้ามีลูกยาก”


และต้องขอโทษนายเวรที่เกี่ยวข้องกับการมีลูกยากความจริงใจ


เพราะเรามีส่วนทำให้เขาเจ็บปวดเกี่ยวกับเรื่องนี้มาก่อนแล้วในคราวหนึ่งของการเกิดยาวนานนี้



วิธีนี้ให้อธิฐานอยู่บ่อยๆ


เมื่อทำได้ตามขั้นตอนนี้แล้วก็ให้อธิฐานต่อไปนี้ว่า



“ขออำนาจพุทธ ธรรม สงฆ์ จงบันดาลความคิดข้าให้ถึงเทพทั้งหลายที่เป็นญาติข้าและที่มีความเกี่ยวข้องกับข้า




ข้ามีชื่อว่า.........บัดนี้ ข้าต้องการมีลูก เทพใดต้องการที่จะมาเกิดกับข้าหรือเทพใดจะช่วยหาเทพมาเกิดเป็นลูกข้า ข้าจะอุทิศบุญให้ท่าน"



ตรงประกาศหาเทพที่จะมาเกิดนี้ ให้อธิษฐานวันละหลายๆ ครั้ง


และสลับด้วยการอุทิศบุญให้พวกเทพที่จะมาเกิดและเทพที่จะทำงานช่วยเราในเรื่องการมีลูกนี้โดยคิดว่า






"ขออำนาจพุทธ ธรรม สงฆ์ จงบันดาลบุญข้าให้เทพที่ช่วยข้าในเรื่องนี้จะมาเกิดกับข้า”



ที่สำคัญเรื่องเครื่องรางของขลังทั้งหมดต้องสละออกไปให้หมดรวมทั้งพระพุทธรูปด้วย


วิธีแก้ไขของผู้ที่เคยทำแท้ง


สำหรับหญิงบางคนที่มีปัญหาในครอบครัว-หน้าที่การงาน-หรือความเจ็บป่วยที่ไม่ทราบสาเหตู มีความยุ่งยากในชีวิตอยู่



ในเรื่องนี้ส่วนหนึ่งอาจมีสาเหตุมาจากนายเวรที่เกิดจากการทำแท้งของตัวเองหรือ

จากการที่ตัวเองได้เกี่ยวข้องกับการทำแท้งมาก็ได้ ให้แก้ไขตามนี้

1. อุทิศบุญให้แก่เด็กที่ตายเพราะการทำแท้งโดยตรง(และอุทิศบุญให้แก่เด็กที่แม่แท้งโดยไม่ตั้งใจด้วย)

พร้อมกับขอโทษและสารภาพ ความผิดนั้นด้วยความจริงใจอย่างที่สุด

คำอธิษฐาน “ขออำนาจพุทธ ธรรม สงฆ์ จงบันดาลบุญข้าให้ลูกที่ข้าทำแท้งไป” มากๆบ่อยๆ

2. อุทิศบุญให้แก่ชาวทิพย์ที่ไม่พอใจในการกระทำที่เป็นบาปนี้และขอโทษต่อพวกเขาด้วยชาวทิพย์ว่านี้ คือ


2.1 ญาติทิพย์ของเด็กที่จะมาเกิด


2.2 ญาติทิพย์ของตัวผู้ที่ทำแท้งนั้น


2.3 ชาวทิพย์ที่รักษาพระสาสนาที่เห็นเราปฏิญาณตนต่อพุทธ ธรรม สงฆ์ แต่เราก็ได้ทำผิดต่อคำสอนของพระพุทธเจ้า




คำอธิษฐานคือ “ขออำนาจพุทธ ธรรม สงฆ์ จงดลบันดาลบุญข้าให้......”



3. พ่อของเด็กที่ได้ทำแท้งไป (ผู้ที่แต่งงานแล้ว) ถ้ายังไม่ทราบเรื่องก็ต้องแจ้งให้ทราบและขอโทษต่อพ่อของเด็กนั้นด้วย

4. ผู้ทำแท้งจากการตั้งครรภ์โดยไม่ถูกต้อง (ผู้ที่ยังไม่แต่งงาน) ต้องแจ้งเรื่องพ่อ-แม่ทราบ และขอขมาท่านด้วย

เพระถ้าไม่สารภาพตามความเป็นจริงแล้ว การทำการแก้ไขเพื่อผ่อนทาหนักให้เป็นเบาจะเป็นไปไม่ได้เลย

5. ห้ามทำบาปกรรรมแบบนี้อีกเด็ดขาด ใครเคยทำแท้งแล้วอย่าทำอีก

ใครยังไม่เคยทำก็อย่าไปทำ ข้อนี้รวมไปถึงผู้ที่เคยมีส่วนพาคนอื่นไปทำแท้งนรก

สำหรับหญิงทำแท้ง เล่ม 42 หน้า 178 พวกหญิงผู้รีดลูกย่อมก้าวล่วงลำธารนรกอันคมแข็ง

ที่ก้าวล่วงได้แสนยาก ดุจคมมีดโกนแล้วตกไปแม่น้ำเวตรณีที่ไปได้ยาก

ต้นงิ้วทั้งหลายล้วนแต่เป็นเหล็กมีหนาม 16 องคุลีมีกิ่งห้อยย้อยปกคลุมแม่น้ำเวตรณีที่ไปได้ยากทั้ง 2 ฟาก

สัตว์นรกเหล่านั้น มีตัวสูงโยชน์หนึ่งถุกไฟที่เกิดเองแผดเผา มีเปลวรุ่งเรืองอยุ่ดุจกองไฟตั้งอยู่ที่ไกล ฉะนั้น




ที่มา : คู่มืออุทิศบุญที่ได้ผล โดย พระอาจารย์เกษม อาจิณณสีโล



kannika



















<




 

Create Date : 04 กรกฎาคม 2552    
Last Update : 5 กันยายน 2552 22:51:05 น.
Counter : 287 Pageviews.  

ชาติที่แล้วเราไปผูกมัดใครไว้บ้างหรือปล่าว


















//img14.imageshack.us/img14/4787/725365557b1879fa06b9e2d.gif



//img14.imageshack.us/img14/4787/725365557b1879fa06b9e2d.gif





ชาติที่แล้วเราไปผูกมัดใครไว้บ้างก็ไม่รู้ด้วยคำสัญญา


เช่น เราจะรักกันทุกชาติไป


โดยหารู้ไม่ว่ากรรมของแต่ละคนไม่เหมือนกัน


ชาติภพใหม่ก็เลยแตกต่างกันไป


แต่คำมั่นที่สาบานยังอยู่


อาจจะเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้คุณยังเป็นโสดจนทุกวันนี้


ลองสวดมนต์บทนี้ดูอาจจะดีขึ้นนะ คำขอขมาและอธิษฐานจิต


อธิษฐานหน้าพระพุทธรูป หรือสวดก่อนนอนก็ได้( นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ 3 จบ )


สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะเม ภันเต อุกาสะ ทะวารัตตะเยนะ กะตัง


สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะเม ภันเต อุกาสะ ขะมามิ ภันเต'หากข้าพเจ้า จงใจหรือประมาทพลาดพลั้ง ล่วงเกิน บิดา-มารดา


ครูบาอาจารย์ พระพุทธ พระธรรม พระอรหันต์ทุกพระองค์ พระอริยสงฆ์เจ้า


ตลอดจนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย รวมถึงผู้มีพระคุณ


และท่านเจ้ากรรมนายเวร จะด้วย กาย วาจา ใจ ก็ดี


ขอได้โปรดอโหสิกรรมแก่ข้าพเจ้าด้วย หากข้าพเจ้ามีเจ้าของในตัวติดตามมา


ขออนุญาติมีคู่ มีครอบครัวได้เหมือนคนปกติทั่วไป ขอถอนคำอธิษฐาน


คำสาบานที่จะติดตามคู่ในอดีต


ขอให้ต่างฝ่ายต่างเป็นอิสระต่อกัน


ข้าพเจ้าจะประพฤติตนในทางที่ถูก ที่ชอบ ที่ควร


ขอบุญบารมี ในอดีตกาลที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน


จงส่งผลให้ข้าพเจ้าและครอบครัว


ตลอดจนบริวารที่เกี่ยวข้อง จงเจริญด้วย อายุ วรรณะ สุขะ พละ


ลาภ ยศ สุข สรรเสริญ สติ ปัญญา ปฏิภาณ ธนสารสมบัติ อุปสรรคใดๆ


โรคภัยใดๆ ขอให้มลายสิ้นไป ขอให้ข้าพเจ้ามีความสว่างทั้งทางโลก


ทางธรรมตั้งแต่บัดนี้ตราบเข้าสู่พระนิพพานเทอญ


หากมีผู้ใดเคยสร้างเวรสร้างกรรมกับข้าพเจ้า


ไม่ว่าจะชาติใดภพใดก็ตาม ข้าพเจ้ายินดีอโหสิกรรมให้


ขอถอนความพยาบาท ความอาฆาต และคำสาปแช่งในทุกชาติทุกภพ


ขอให้ข้าพเจ้าพ้นจากคำสาปแช่งของปวงชนของเจ้ากรรมนายเวร'คนเราเกิดมาหลายภพหลายชาติ


แต่ละคนมีเจ้ากรรมนายเวรที่แตกต่างกัน


การสวดขอขมาเพื่อลดและปลดหนี้กรรมให้น้อยลง


( คาถา บทนี้ เป็นคาถาที่ใช้สำหรับขอขมาพระรัตนตรัย


และใช้เพื่อถอนคำสาปแช่ง ในอดีตชาติ ที่ติดตามมา


เพราะเราไม่รู้ว่าเคยได้ ล่วงเกินปรามาสใครไปบ้างก็ไม่รู้ ไม่เว้นแม้กระทั้ง


พระพุทธองค์ พระอรหันต์ พ่อ แม่ เป็นต้น


เพราะบางคนทำการใดๆ มักมีอุปสรรค หรือมักมีคนไม่ชอบหน้า



ขอผู้ได้รับใบคำขอขมาและอธิษฐานจิตนี้


กรุณาส่งให้ผู้อื่นต่อเพื่อสร้างผลบุญบารมีต่อไป



สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) พรหมรังษี



ตั้งนะโม ๓ จบ ชินะปัญชะระ ปะริตตังมัง รักขะตุ สัพพะทา หรือ


วิญญาณสัมปันโน อิติปิโส ภะคะวา นะโมพุทธายะ ๙ จบ


(ขอพระอนันตชินเจ้าในบัญชรแวดวงกงล้อม พระโมรปริตรและพระขันธปริตร อรหันต์เจ้า


จงคุ้มครองรักษาข้าพเจ้าให้พ้นจากภยันตรายสรรพสิ่งทั้งปวง ตลอดเวลาทุกเมื่อ)


















//img14.imageshack.us/img14/4787/725365557b1879fa06b9e2d.gif

















 

Create Date : 03 กรกฎาคม 2552    
Last Update : 5 กันยายน 2552 22:44:58 น.
Counter : 255 Pageviews.  

ปลอบใจตัวเอง.....สุ้ๆต่อไปนะ




"









คนเราต้องเคยผิดพลาดกันทั้งนั้น..

ว่ามั้ยค่ะ ว่าสิ่งที่ผิดพลาด บางครั้งก้อดูยิ่งใหญ่

แต่ถ้าเราผ่านมันไปได้เมื่อไหร่

เราจะรู้สึกว่าตัวเราเองต่างหากที่"ยิ่งใหญ่"

บางเวลาที่หลับตาลงยามค่ำคืน

เราจะรู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงของท้องฟ้า

จากสว่างใส เป็น มืดมิด บางวันอาจมีฝนตก

วิกฤตน้ำท่วมเกิดจากอะไร ถ้าไม่ใช่เพราะฝนที่มาจากฟ้า

ฟ้าที่แปรปรวน และพายุฝนที่โถมกระหน่ำไร้ความปรานี





ซึ่งยากที่จะมีใครเข้าใจสาเหตุของมัน

ชีวิตคนที่กำลังแปรปรวน และหาทางออกของปัญหาที่คิดว่า

ใหญ่ที่สุดในชีวิตของตัวเองนั้น ก็ไม่ต่างอะไรไปจากท้องฟ้า และพายุฝน

ความทรมาณที่สุด เกิดขึ้นยามที่พายุกำลังเกิดและกำลังเป็นไป

ในขณะเดียวกัน สิ่งที่ทรมาณที่สุดของปัญหาชีวิต

คือช่วงที่มันกำลังเกิดขึ้น

และเรากำลังประสบกับมัน

หากแต่หลังจากฟ้าสงบ

ท้องฟ้าก็ย่อมแจ่มใสไร้ที่ติ และช่างสดชื่น

ถ้าเรารู้สึกถึงสิ่งเล็กๆบางมุม

เราก็จะมีความสุขไปกับบรรยากาศในวินาทีนั้น

ถ้าเราใส่ใจชีวิตของตนเอง และยอมรับในสิ่งที่เกิดขึ้น

สิ่งที่แตกต่างกับพายุฝนนั้น

คือการกระทำ เรามิบังอาจสั่งฟ้า

และเราก็ไม่อาจควบคุมสภาวะของท้องฟ้า

ให้เป็นไปแต่เราสามารถควบคุมชีวิต

และเหตุการณ์ต่างๆของเราได้

"ด้วยตัวเราเอง"

ซึ่งถ้าเรารู้จักที่จะยอมรับในผลของการกระทำของตนเอง

เราก็จะมีความสุขกับสิ่งเล็กๆในบางมุม

ถึงแม้จะเปรียบเสมือน

ยืนอยู่กลางบรรยากาศน้ำท่วม แล้วมองขึ้น

ไปบนท้องฟ้าที่สว่างสดใส

และดวงอาทิตย์ที่ตอบกลับมาเป็นนัยๆว่า

สู้ต่อไปนะ...

เมื่อเราทำได้ เราจะเป็นผู้ยิ่งใหญ่อยู่เหนือปัญหา

และมีความสุขที่สุด เป็นการชดเชยให้ตัวเองอย่างล้ำค่า

ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เราก็จะสามารถรับมันได้ทั้งหมด สุดยอดด!!จิงมะ





กรรณิกา

03-07-08




 

Create Date : 05 กรกฎาคม 2551    
Last Update : 15 กันยายน 2552 6:29:42 น.
Counter : 255 Pageviews.  

ถึงใครคนนั้น




"






ฉันเคยรอคอย...




การเดินทางมาถึงของคน ๆ หนึ่งด้วยหัวใจที่มีหวัง





คนที่ฉันไม่เคยแม้แต่จะเห็นหน้า...






ไม่เคยได้พูดจา..






คนที่ได้แต่เพียงคิด..






และจินตนาการถึงความมีอยู่จริงของตัวตนคนนั้น






คนที่ซักวันหนึ่งจะทำให้การรอคอยของฉันได้สิ้นสุดลง








ใครหลายคนเดินทางเข้ามาในชีวิตฉัน...








เพียงเพื่อจะจบลงที่คำว่าการจากลา






ฉันจึงเพียรรอคอยการเดินทาง...






ของคนที่จะไม่ทำให้ฉันต้องเสียใจ






...ที่หวังเอาไว้คงมีซักวันหนึ่ง...







ก ร ร ณิ ก า

2 7 - 0 6 - 0 8


1  2  3  4  5  6  

: Users Online




Arriya_Ann
Location :
Goslar Germany

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]































































Friends' blogs
[Add Arriya_Ann's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.