|
ชาวลับแลสุดเจ๋ง พัฒนาทุเรียนสายพันธุ์ใหม่ กินง่ายไร้หนาม
ชาวลับแลสุดเจ๋ง พัฒนาทุเรียนสายพันธุ์ใหม่ กินง่ายไร้หนาม เชื่อเพิ่มมูลค่าช่วยชาวไร่(คลิป) ตามที่ได้มีสมาชิกผู้ใช้เฟซบุ๊กในชื่อ Seri Suksa ได้โพสต์ภาพและคลิป พร้อมระบุข้อความว่า “ทุเรียนไร้หนาม นวัตกรรมทางการเกษตร ที่สร้างสรรค์ทุเรียนคุณภาพจากเมืองลับแล ปี 2562 รับรองได้ชิมแน่นอนครับ” หลังจากนั้นชาวเน็ตต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็นว่าอยากลองชิมทุเรียนไร้หนาม รวมทั้งสอบถามและชื่นชมเกษตรกรที่มีการพัฒนาจนสามารถปลูกทุเรียนไร้หนามได้ โดยมีการแชร์ต่อออกไปกว่า 15,000 ครั้งโดยผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปพบกับเจ้าของเฟซบุ๊กดังกล่าวคือ คุณเสรี สุกสา อายุ 45 ปี เกษตรกรชาวสวนผลไม้ ต.ฝายหลวง อ.ลับแล จ.อุตรดิตถ์ ซึ่งได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ครอบครัวมีสวนผลไม้อยู่ประมาณ 50 ไร่ ส่วนใหญ่ปลูกต้นทุเรียนอยู่ประมาณ 600 – 700 ต้น ชีวิตเรียกว่าโตมากับต้นทุเรียน และปัจจุบันหลายพื้นที่ในประเทศไทยต่างก็หันมาปลูกต้นทุเรียนกันเป็นจำนวนมากคลิกเพื่อชมภาพและอ่านต่อ....ขอบคุณของแต่งบล็อก...ญามี่ / Rainfall in August / ชมพร / เรือนเรไร / oranuch_sri / goffymew
Create Date : 17 มิถุนายน 2562 | | |
Last Update : 17 มิถุนายน 2562 4:10:17 น. |
Counter : 1754 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
❉หลุมพี❉
หลุมพี (ชื่อวิทยาศาสตร์: Eleiodoxa conferta (Griff.) Burr. ) เป็นปาล์มชนิดหนึ่ง พวกปาล์มลำต้นสั้นแตกหน่อเป็นกอใหญ่ออกดอกผลแล้วตายไป ขึ้นในที่ลุ่มน้ำขังและป่าพรุ ออกดอกตั้งแต่เดือนมิถุนายน - กันยายน ออกผลตั้งแต่ดือนพฤศจิกายน - มีนาคม ตั้งแต่เริ่มออกช่อดอกจนถึงผลสุก ใช้ระยะเวลา ประมาณ 18 - 20 เดือน
หลุมพี เป็นพืชที่มีความสัมพันธ กับระบบนิเวศ ในป่าพรุอย่างเหนียวแน่น โดยสภาพทางธรรมชาติเป็นไม้ชั้นล่างในป่าพรุขึ้นได้และเจริญเติบโตได้ดีในที่มีร่มเงา และต้องมีน้ำขังตลอดปี ลักษณะของต้นหลุมพีออกเป็นกอใหญ่ แต่ละต้นออกผล แต่ละต้นออกผลครั้งเดียวแล้วตาย ต้นอื่นซึ่งเป็นหน่อในกอเดียวกัน จะออกผลหมุนเวียน กันต่อไป ทำให้พื้นที่ยึดครองของหลุมพี ขยายกว้างขึ้นตลอด สามารถเก็บความชื้นและน้ำไว้ได้ ซึ่งเอื้อต่อการดำรงชีวิต ของพืชและสัตว์ชนิดอื่นๆในป่าพรุ ที่ผูกพันเป็น ห่วงโซ่อาหาร เกิดผลดี ต่อระบบนิเวศและสิ่งแวดล้อมโดยรวม อันเป็นปัจจัยหลักในการ ดำรงชีวิตของชุมชนรอบป่าพรุ
ใบ ประกอบรูปขนนก ออกเวียนสลับ ยาว300 - 500 ซม. กว้าง 100 - 200 ซม. ก้านใบและกาบใบมีหนามยาวแหลม เรียงเป็นแผง มีใบย่อยมาก ใบย่อยเรียวยาว ปลายแหลม เรียงเป็นระเบียบสองข้างก้านช่อใบ ดอก เล็กสีแดง ออกเป็นช่อแยกแขนงที่ปลายลำ ยาว 50 -100 ซม. มีกาบหุ้มช่อหลายกาบ ผล รูปไข่กลับ ปลายตัด กว้าง ยาวประมาณ 2.5 ซม. เปลือกเป็นเกล็ดเล็กๆ เรียงเกยซับกัน มีรสเปรี้ยว นิยมนำมาดอง ขอบคุณภาพและบทความ วิกิพีเดีย
Create Date : 31 พฤษภาคม 2561 | | |
Last Update : 31 พฤษภาคม 2561 16:56:10 น. |
Counter : 1377 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
มากไปด้วยสรรพคุณ ย่านาง สมุนไพรอัสจรรย์
ย่านาง ใบย่านาง ภาษาอังกฤษ เราจะใช้คำว่า Bai-ya-nang (ตรงตัว) ย่านาง ชื่อวิทยาศาสตร์ คือ Tiliacora triandra (Colebr.) Diels จัดอยู่วงศ์บอระเพ็ด (Menispermaceae) เช่นเดียวกันกับบอระเพ็ด โคคลาน สบู่เลือด และว่านสบู่เลือด โดยภาคกลางบ้านเราจะเรียกย่านางว่า เถาย่านาง เพราะมีลักษณะของต้นเป็นเถาไม้เลื้อย เกี่ยวพันกับไม้อื่น และจัดได้ว่าเป็นสมุนไพรไทยที่กำลังได้รับความนิยมมาก ใบย่านาง สรรพคุณนั้นมีหลากหลาย เพราะเป็นสมุนไพรเย็น มีคลอโรฟิลล์สดจากธรรมชาติ และยังมีวิตามินที่จำเป็นต่อร่างกายอีกมากมาย เช่น วิตามินเอ วิตามินบี1 วิตามินบี2 วิตามินบี3 วิตามินซี ธาตุแคลเซียม ธาตุฟอสฟอรัส ธาตุเหล็ก เบ ต้าแคโรทีน ในปริมาณค่อนข้างสูง โดยเป็นสมุนไพรที่ใครหลายๆคนต่างก็คุ้นเคยกันดี เพราะนิยมนำมาเป็นเครื่องปรุงรสช่วยเพิ่มความกลมกล่อมของอาหาร เช่น แกงหน่อไม้ ซุปหน่อไม้ แกงเลียง แกงหวาน เป็นต้น
สรรพคุณใบย่านาง
- ใบย่านาง ในตำราสมุนไพรจัดว่าเป็นยาอายุวัฒนะ
- มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระจำนวนมาก จึงช่วยลดและชะลอการเกิดริ้วและความแก่ชราอย่างได้ผล
- ช่วยเสริมสร้างภูมิต้านโรคในร่างกายให้แข็งแรง
- ช่วยเพิ่มความสดชื่นให้กับร่างกาย
- ช่วยฟื้นฟูเซลล์ต่างๆในร่างกาย
- ช่วยในการปรับสมดุลของร่างกาย
- เป็นสมุนไพรที่ช่วยในการลดความอ้วนได้อย่างเห็นผลและปลอดภัย
- ช่วยในการเผาผลาญไขมันและนำไปใช้เป็นพลังงาน
- ช่วยป้องกันและลดอัตราการเกิดโรคมะเร็งชนิดต่างๆ
- เป็นสมุนไพรที่มีฤทธิ์เย็นเหมาะสำหรับผู้ที่เป็นมะเร็งอย่างมาก
- หากดื่มน้ำใบย่านางเป็นประจำ ก้อนมะเร็งจะฝ่อและเล็กลง
- ช่วยรักษาโรคความดันโลหิตสูง
- ช่วยป้องกันการเกิดโรคหัวใจ
- ช่วยในการบำรุงรักษาตับ และไต
- ช่วยรักษาและบำบัดอาการอัมพฤกษ์
- ช่วยแก้อาการอ่อนล้า อ่อนเพลียของร่างกาย แม่นอนพักก็ไม่หาย
- ช่วยรักษาอาการเกร็ง ชัก หรือเป็นตะคริวบ่อยๆ
- ช่วยแก้อาการเจ็บเหมือนมีไฟช็อตหรือมีเข็มแทงหรือมีอาการร้อนเหมือนไฟ
- ช่วยป้องกันไม่ให้เส้นเลือดฝอยในร่างกายแตกใต้ผิวหนังได้ง่าย
- ช่วยรักษาอาการตกกระที่ผิวเป็นจ้ำๆสีน้ำตาลตามร่างกาย
- ช่วยรักษาเนื้องอก
- ช่วยรักษาอาการวิงเวียนศีรษะ หน้ามืด เป็นลม คลื่นไส้ อาเจียนได้
- ช่วยป้องกันโรคภูมิแพ้ ไอจาม มีน้ำมูกและเสมหะ
- รากแห้งใช้ในการแก้ไข้ทุกชนิด และลดความร้อนในร่างกาย
- รากของย่านางสามารถแก้ไข้ได้ทุกชนิด ทั้ง ไข้พิษ ไข้หัด ไข้เหนือ ไข้ผิดสำแดง เป็นต้น
- เถาย่านางมีส่วนช่วยในการลดความร้อนและแก้พิษตานซาง
- มีส่วนช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อมาลาเรีย
- ช่วยรักษาอาการร้อนแต่ไม่มีเหงื่อ
- ช่วยรักษาอาการของโรคเบาหวาน ช่วยให้ระดับน้ำตาลในเลือดลดลง
- มีส่วนช่วยช่วยอาการปวดตึง ปวดตามกล้ามเนื้อ ปวดชาบริเวณต่างๆ
- ช่วยรักษาโรคภูมิแพ้
- รากของย่านางช่วยแก้อาการเบื่อเมา
- ช่วยแก้อาการเหงือกอักเสบอย่างรุนแรงและเรื้อรัง
- ช่วยแก้อาการง่วงนอนหลังการรับประทานอาหาร
- ช่วยแก้อาการเลือดกำเดาไหล
- ช่วยในการบำรุงสายตาและรักษาโรคเกี่ยวกับตา เช่น ตาแดง ตาแห้ง ตามัว แสบตา ปวดตา ตาลาย เป็นต้น
- ช่วยรักษาอาการปากคอแห้ง ริมฝีปากแตกหรือลอกเป็นขุย
- ช่วยแก้ปัญหาเรื่องเสมหะเหนียวข้น ขาวขุ่น มีสีเหลืองหรือเขียว หรืออาการเสมหะพันคอ
- ช่วยบำบัดอาการของโรคไซนัสอักเสบ
- ช่วยลดอาการนอนกรน
- ช่วยแก้อาการเจ็บปลายลิ้น
- ช่วยป้องกันและบำบัดรักษาโรคหัวใจ
- ช่วยป้องกันและรักษาโรคหอบหืด
- ช่วยรักษาโรคตับอักเสบ
- ช่วยรักษาอาการท้องเสีย เพราะช่วยฆ่าเชื้อโรคที่เป็นต้นเหตุได้
- ช่วยบรรเทาอาการอาการปวดท้องอย่างเฉียบพลัน
- ช่วยแก้อาการท้องผูก ลดอาการแสบท้อง
- ช่วยรักษาโรคกระเพาะอาหาร ลำไส้อักเสบ
- ช่วยลดอาการหดเกร็งตามลำไส้
- ช่วยรักษาอาการกรดไหลย้อน
- ช่วยรักษาไทรอยด์เป็นพิษ
- ช่วยรักษาโรคนิ่วในไต นิ่วในกระเพาะปัสสาวะ นิ่วในถุงน้ำดี
- ช่วยรักษาอาการปัสสาวะแสบขัด ออกร้อนในทางเดินปัสสาวะ
- ช่วยแก้อาการปัสสาวะมีสีเข้ม ปัสสาวะบ่อย หรือมีอาการปัสสาวะออกมาเป็นเลือด
- ช่วยรักษาอาการมดลูกโต อาการปวดมดลูก ตกเลือดได้
- ช่วยบำบัดรักษาโรคต่อมลูกหมากโต
- ช่วยป้องกันโรคไส้เลื่อน
- ช่วยในการรักษาโรคเริม งูสวัด
- ช่วยป้องกันการเกิดโรคริดสีดวงทวาร
- ช่วยรักษาอาการตกขาว
- ช่วยป้องกันการเกิดโรคเกาต์
- ช่วยแก้พิษจากแมลงสัตว์กัดต่อย
- ช่วยรักษาอาการผิวหนังมีความผิดปกติคล้ายรอยไหม้
- น้ำย่านางเมื่อนำมาผสมกับดินสอพองหรือปูนเคี้ยวหมากผสมจนเหลว สามารถนำมาทา สิว ฝ้า ตุ่มคัน ตุ่มใส ผื่นคัน พอกฝีหนองได้อีกด้วย
- ช่วยป้องกันและรักษาอาการส้นเท้าแตก เจ็บส้นเท้า
- ช่วยรักษาอาการเล็บมือเล็บเท้าผุ โดยรักษาอาการเล็บมือเล็บเท้าขวางสั้น ผุ ฉีกง่าย หรือในเล็บมีสีน้ำตาลดำคล้ำ อาการอักเสบที่โคนเล็บ
- สำหรับประโยชน์ของใบย่านางด้านอื่นๆ เช่น การนำแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ ยกตัวอย่าง ใบย่านางแคปซูล สบู่ใบย่านาง แชมพูใบย่านาง เครื่องดื่มสมุนไพร เป็นต้น
- *แชมพูสระผมจากใบย่านาง ช่วยให้ผมดกำ ชะลอการเกิดผมหงอก จบแล้วสรรพคุณของใบย่านาง
*วิธีทำน้ำใบย่านาง
อย่าง แรกคือการเตรียมส่วนประกอบ คือ ใบย่านาง 10-20 ใบ (ตามความเข้มข้นที่ต้องการ) / ใบเตย 3 ใบ / บัวบก 1 กำมือ / หญ้าปักกิ่ง 3-5 ต้น / ใบอ่อนเบญจรงค์ 1 กำมือ / ใบเสลดพังพอน 1 กำมือ / ว่านกาบหอย 5 ใบ (จะใช้หลายอย่างรวมกันก็ได้หรือจะแค่ใบย่านางอย่างเดียวก็ได้ตามแต่สะดวก) นำใบสมุนไพรต่างๆ ที่เตรียมมาตัดให้เป็นชิ้นเล็ก นำใบไปโขลกหรือนำไปปั่นด้วยเครื่องปั่นให้ละเอียดจนเป็นน้ำ (ปั่นประมาณ 30 วินาที เพื่อคงคุณค่าของสมุนไพรให้มากที่สุด) เสร็จแล้วนำมากรองผ่านผ้าขาวบางหรือกระชอนอีกที เสร็จแล้วน้ำย่านาง
* คำแนะนำ
สำหรับ บางคนที่รู้สึกว่ากินยาก เหม็นเขียว กินแล้วรู้ไม่สบายก็สามารถนำน้ำย่านางไปต้มให้เดือดแล้วนำมาดื่มหรือจะผสม กับน้ำสมุนไพรชนิดอื่นๆก็ได้ เช่น ขิง ตะไคร้ ขมิ้น หรือจะผสม กับน้ำมะพร้าว น้ำมะนาว น้ำตาลหรือแม้แต่น้ำเฮลล์บลูบอยก็ได้เช่นกัน ควรดื่มน้ำย่านางสดๆ ก่อนอาหารหรือตอนท่องว่าง โดยประมาณครึ่งแก้ว 3 ครั้งต่อวัน ควรดื่มแต่พอดี หากดื่มแล้วรู้สึกแพ้ ผะอืดผะอม ก็ควรลดความเข้มข้นของสมุนไพรที่ใส่ลงไปให้น้อยลงอีกจนเหมาะสมกับเรา เมื่อทำเสร็จแล้วควรดื่มทันที เพราะถ้าทิ้งไว้นานเกินไปจะเกิดกลิ่นเหม็นเปรี้ยวได้ แต่สามารถนำมาแช่ตู้เย็นได้และควรดื่มภายใน 3 วัน การ พึ่งแต่สมุนไพรอย่างเดียวอาจจะไม่ใช่คำตอบในการแก้ไขปัญหาสุขภาพ ดังนั้นควรทำอย่างอื่นเสริมไปด้วยจะช่วยให้มีประสิทธิภาพในการรักษามากยิ่ง ขึ้น
แหล่งอ้างอิง : หมอเขียว ใจเพชร กล้าจน เครดิต https://goo.gl/bYqX7W @ของแต่งบล็อก ญามี่ @ของแต่งบล็อก ชมพร
Create Date : 03 พฤษภาคม 2561 | | |
Last Update : 3 พฤษภาคม 2561 6:25:17 น. |
Counter : 454 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
❋❖หนำเลี้ยบ ลดไขมันในเส้นเลือด!!!
❋❖หนำเลี้ยบ ลดไขมันในเส้นเลือด!!!
หนำเลี้ยบ มีถิ่นกำเนิดในประเทศจีน มีสรรพคุณทางยาหลายอย่าง มีวิตามินมากมาย ช่วยชะลอความชรา บำรุงผิวพรรณ ป้องกันโรคหวัด ช่วยลดไขมันในเส้นเลือด
หนำเลี้ยบเป็นพืชในตระกูลมะกอก เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง ผลเป็นช่ออยู่เป็นพวงลักษณะรูปทรงกระสวย หัวท้ายแหลม ผิวเปลือกบาง ผิวเปลือกนอกเรียบ ผลอ่อนมีสีเขียว
ผลสุกจะเปลี่ยนเป็นสีม่วงดำ ภายในผลมีเมล็ดแข็งอยู่ มีถิ่นกำเนิดในประเทศจีน
มีคุณประโยชน์และสรรพคุณทางยาหลายอย่าง และนิยมนำมาประกอบอาหารเมนูต่าง ๆ หลายรายการ มีวิตามินมากมาย ช่วยชะลอความชรา บำรุงผิวพรรณ แก้เลือดออกตามไรฟัน ป้องกันโรคหวัด แก้ไข้ บำรุงกระดูก บำรุงฟัน ช่วยระบบขับถ่ายให้ดีขึ้น แก้ท้องเสีย ช่วยลดไขมันในเส้นเลือด และช่วยลดคอเลสเตอรอล เป็นต้น
Create Date : 15 เมษายน 2561 | | |
Last Update : 15 เมษายน 2561 0:49:11 น. |
Counter : 828 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
❀บ๊วยจัดเป็นผลไม้ที่มีสรรพคุณหลายอย่าง
ประโยชน์ของบ๊วย บ๊วยจัดเป็นผลไม้ที่มีสรรพคุณหลายอย่าง และเป็นที่รู้จักกันดีในการนำเอาผลไปใช้ประโยชน์ เช่น การนำไปทำเป็นน้ำบ๊วย เพื่อ 1. ช่วยในการเพิ่มกำลัง บรรเทาอาการอ่อนเพลีย 2. ช่วยในการเสริมสร้างระบบการย่อยอาหาร 3. ช่วยลดมลพิษและอาหารที่เป็นพิษที่ร่ายกายและยังช่วยลดกรดในกระเพาะอาหาร 4. ช่วยแก้เหงือกอักเส บที่เป็นปัญหาของกลิ่นปาก 5. แก้อาการเมาค้าง ไม่ว่าจะเกิดจากการดื่มสุรา หรือจากการเดินทาง เช่น เมารถ เมาเรือ เมาเครื่องบิน ช่วยแก้อาการคลื่นไส้อาเจียน และอาหารไม่ย่อย 6. ช่วยปรับสมดุลในกระเพาะอาหารให้มีความมั่งคงแข็งแรง 7. ช่วยแก้อาการแพ้ท้อง 8. ช่วยลดอาการกระหายน้ำ ลดการเสียเหงื่อในร่ายกาย โดยส่วนใหญ่นำไปแปรรูปเป็นบ๊วยแช่อิ่ม, บ๊วยดอง, บ๊วยเค็ม หรือใช้ทำอาหารเช่น น้ำจิ้มบ๊วย, ซอสบ๊วย, ปลานึ่งบ๊วย เป็นต้น ♥❤ ขอบคุณ วิกิพีเดีย ✿"บ๊วย" ผลไม้บรรเทาอาการอ่อนเพลีย ป้องกันลมแดด!!! อากาศร้อน ๆ เช่นนี้ มารู้จักผลไม้เมืองหนาวที่มีแหล่งกำเนิดในประเทศจีน ในประเทศไทยมีการเพาะปลูกกันมากทางภาคเหนือ เช่น จังหวัดเชียงราย เป็นผลไม้ที่ช่วยเพิ่มกำลัง ... https://winne.ws/n22824
บ๊วยเป็นผลไม้เมืองหนาวที่มีแหล่งกำเนิดในประเทศจีน ต่อมาได้แพร่กระจายไปหลายประเทศ เช่น ประเทศญี่ปุ่น ไทย ลาว เมียนมา เวียดนาม ไต้หวัน ในประเทศไทยมีการเพาะปลูกกันมากในปัจจุบันทางภาคเหนือ เช่น จังหวัดเชียงราย โดยสายพันธุ์ที่นิยมเพาะปลูกกันได้แก่ พันธุ์เชียงราย พันธุ์ปิงติง พันธุ์เจียนโถ พันธุ์บารมี 1 หรือ พันธุ์ขุนวาง 1 พันธุ์บารมี 2 หรือ พันธุ์ขุนวาง 2 เป็นผลไม้ที่ช่วยเพิ่มกำลัง บรรเทาอาการอ่อนเพลีย ช่วยป้องกันเป็นลมแดด สำหรับผู้ที่ทำงานหรือออกกำลังกายกลางแจ้ง เนื่องจากมีโซเดียมอยู่มาก จึงช่วยเติมเกลือแร่ให้กับร่างกาย เป็นต้น. ** บทความ : เดลินิวส์ **
บ๊วย (อังกฤษ: Chinese plum, Japanese apricot; ชื่อวิทยาศาสตร์: Prunus mume) เป็นผลไม้ที่อยู่ในสกุล Prunus มีถิ่นกำเนิดในประเทศจีน และพบในไต้หวัน, ญี่ปุ่น, เกาหลี, เวียดนาม และลาว ในประเทศไทยนิยมปลูกบริเวณภาคเหนือของไทย เช่น ดอยอ่างขาง ในโครงการหลวง โดยนำพันธุ์มาจากไต้หวันและญี่ปุ่น ใบขนาดเล็ก สีเขียวอมเทา ขอบใบหยักฟันเลื่อย ดอกมีกลิ่นหอม สีขาวหรือชมพู ผลเล็ก ทรงกลม เมื่ออ่อน ผลสีเขียว เมื่อสุกสีเหลิอง เนื้อนิ่ม รสเปรี้ยวอมหวาน เมล็ดแข็ง ♦ ขอบคุณวิกิพีเดีย ♦ *
ภาพผลบ๊วย "วิกิพีเดีย
ดอกบ๊วย"ภาพวิกิพีเดีย"
Create Date : 23 มีนาคม 2561 | | |
Last Update : 23 มีนาคม 2561 1:25:42 น. |
Counter : 573 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
| |
|
|
|
|
- ❀จันทร์ ๑๒ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๑✼ภาพหมู่พระธรรมยาตราที่วัดสองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี
- ❀ภาพ ณ วัดโบสถ์(บน) บางคูเวียง อ.บางกรวย จ.นนทบุรี
- ❀ชมภาพ วัดโบสถ์(บน) ,วัดไผ่หูช้าง ,วัดนครอินทร์ ,วัดคลองขวาง จังหวัด นครปฐม - นนทบุรี
- ❃วันที่๒๒มีนาร่วมพัฒนาชุมชน วัดบ่อทอง ,วัดตาก้อง ,วัดรางกำหยาด ,วัดบัวแก้วเกษร ,วัดบ่อทอง จ.นครปฐม
- ✿ภาพชุดชุมชนร่วมพัฒนา วัดบัวแก้วเกษร ,วัดนาราภิรมย์ ,วัดบ่อทอง จ.นครปฐม, ๒๓ มีนาคม ๒๕๖๑
- BlogGang.com
|
|
|
|