Bloggang.com : 108 off the Grid

ว่า จู่ๆ เดิน เข้า มา สู่ หน ทาง นี้ ได้อย่างไร

จาก ปกติ ที่ ต้อง การ มีชีวิต แบบ ชาว โลก ทั่วไป

กิน เดิน นอน เล่น เที่ยว ทำงาน ครอบครัว เพื่อนฝูง ตามวัฎจักร ของชีวิต

ไม่ได้ ตามหา นิยาม ของ ความ หมาย อะไร มาก มาก

ทำบุญ เพื่อเป็นสิริมงคล

ทำ ดี เพราะ ทำแล้ว สบายใจ

เข้าวัด ทำบุญ ชวนเพื่อน หรือ พาครอบครัวเข้าไป หนึ่ง ก็ตามความเชื่อศรัทธาในพระพุทธศาสนา

ตามที่เราได้ เจริญเติบโต มา ใน ครอบครัวชาวพุทธ

บางอย่างก็มีความสงสัย บ้าง แต่ก็ถูกปลูกฝัง มาตั้งแต่เกิด

ชีวิต วน เวียน อยู่กับ บ้าน และ วัด

ตาและยาย พาเข้าวัดตั้งแต่เด็ก ไปนั่งสมาธิกับกลุ่มคนแก่

มีเราเป็นเด็กแค่คนเดียวจริงๆ ที่ไปนั่งสมาธิ สวดมนต์ ทุกเย็นของวันพระวันศีล

ก็จำความได้ แบบนั้น ตลอดมา

ก่อนจะ นอน ตา ก็จะให้ นั่งสมาธิสวดมนต์ วันละ 5 นาที

พอตาเสีย ก็ไม่ได้ ปฎิบัติดั่งเช่นเดิม เพราะไป รับรู้ว่า ถ้านั่งๆอยู่ จะมีผี มาวนเวียนมาขอส่วนบุญ

ก็เกิดความกลัว อีกทั้ง ทุกครั้ง จะทำพร้อมกับตา ความอุ่นใจเหล่านั้น ก็หายไป

ก็แล้วก็เลิกทำไปในที่สุด เหลือ อยู่แค่ไหว้พระสวดมนต์

พอโต ขึ้นมา ก็นานๆครั้งถึงจะไหว้พระสวดมนต์ กราบพระแล้วก็นอน

ห่างการปฎิบัติอย่างนี้ นานมาก

แล้วต่อมาหลายปีก่อน เนื่องจากเป็นคน ชอบอ่าน โน่นนี่ นั่น แล้วก็มัก หา คำตอบ

มาคลายความสงสัย ของชีวิตอยู่เรื่อยๆ ก็เริ่มเรียนรู้

แล้วพยายามกำหนดให้ ตัวเองมีสติรู้สึกอยู่กับปัจจุบัน

เพราะเริ่มรู้สึกว่า ตัวเองฟุ้งซ่าน ไม่มีสมาธิ จดจ่อกับสิ่งที่ทำ

ก็เลย เริ่ม มา ตั้งสติ ให้ รู้ปัจจุบันขณะ ที่ทำกิจกรรมต่างๆในชีวิตประจำวัน

ก็สนุกกับการตามรู้ ถึงสิ่งที่เราเผลอแว๊ปคิด เมื่อเรากำลังทำสิ่งๆหนึ่งอยู่

ตามดู ตามรู้ ดึงสติกลับมาอยู่กับปัจจุบัน

ทีนี้ ก็เริ่มรู้สึกเป็นสุข เพราะ สงบกับสมาธิที่เกิดขึ้นในขณะนั้น

นับจากนั้น ก็ ติดกับ ทำแบบนี้ โดยอัตโนมัติเป็นต้นมา