มกราคม 2558

 
 
 
 
1
2
3
31
 
All Blog
White Pearl Metropolis : บุษยานคร part 2.2.13/1,000


ศิลาลอย ๑



“  เชิญตรัสเล่าสุบินที่ ๑๓ เถิด มหาบพิตร  ”

“  ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ หม่อมฉันได้เห็น
ศิลาแท่งทึบใหญ่
ขนาดเรือนยอดลอยน้ำเหมือนดังเรือ
อะไรเป็นผลแห่งสุบินนี้ พระเจ้าข้า ? ”

“  มหาบพิตร ผลแห่งสุบินแม้นี้
ก็จักมีในกาลเช่นนั้นเหมือนกัน ด้วยว่า
ในครั้งนั้น

พระราชาผู้ไม่ตั้งอยู่ในธรรมทั้งหลาย
จักพระราชทานยศแก่คนไม่มีสกุล

พวกนั้นจักเป็นใหญ่
พวกมีสกุลจักตกยาก

ใครๆ จักไม่ทำความเคารพ
ในพวกมีสกุลนั้น

จักกระทำความเคารพ
ในพวกที่เป็นใหญ่ฝ่ายเดียว

ถ้อยคำของกุลบุตรผู้ฉลาดในการวินิจฉัย
ผู้หนักแน่น เช่นกับศิลาทึบ
จักไม่หยั่งลงดำรงมั่น
ในที่เฉพาะพระพักตร์ของพระราชา
หรือในที่ประชุมอำมาตย์ หรือในโรงศาล
เมื่อพวกนั้นกำลังกล่าว
พวกนอกนี้จักคอยเยาะเย้ยว่า พวกนี้พูดทำไม


แม้ในที่ประชุมภิกษุ พวกภิกษุ
ก็จักไม่เห็นภิกษุผู้มีศีลเป็นที่รัก
ผู้ควรทำความเคารพว่า เป็นสำคัญ
ในฐานะต่างๆ ดังกล่าวมาแล้ว

ทั้งถ้อยคำของภิกษุผู้มีศีลเป็นที่รักเหล่านั้น
ก็จักไม่หนักแน่นมั่นคง
จักเป็นเหมือนเวลาเป็นที่เลื่อนลอย
แห่งศิลาทั้งหลายฉะนั้น.

ภัย แม้มีสุบินนี้เป็นเหตุ ก็ยังไม่มีแก่มหาบพิตร  ”


......................



๑๓. ศิลาลอยน้ำ


สิบสามฝัน เห็นศิลา นั้นลอยน้ำ
ประหลาด ล้ำหลากใจ ที่ในฝัน
พระทรงญาณ บรรหาร ให้เห็นพลัน
ภายหน้านั้น ผู้มีศักดิ์ จะรักพาล
จะยกย่อง หมู่ทรชาติ อันต่ำช้า
เป็นเอกอัคร เสนา ในสถาน
ให้ยศศักดิ์ สืบสาย เป็นนายการ
ได้ท่วงที พวกพาล สำราญใจ


.........................



๑๓. ศิลาลอย

( คนพูดความจริงคนจะไม่ฟัง
พระผู้มีศีล ไม่ได้รับการเคารพเชื่อถือ )

ความจริงอันหนักแน่น
แต่กลับถูกมองว่าเลื่อนลอย



สุบินเห็นก้อนศิลาแท่งทึบสูงท่วมหัว
ใหญ่เท่าบ้านเท่าเรือนลอยอยู่บนผิวน้ำ
เหมือนเรือสำเภา

พระพุทธองค์ทรงโปรดให้คำทำนายว่า
ในอนาคตข้างหน้าโน้น
จักมีเหตุเภทภัยต่อบรรดานักปราชญ์
ราชบัณฑิตและพระอริยะสงฆ์
ผู้ประพฤติดีปฏิบัติชอบ

จะถูกเหล่าทรชนคนโง่เขลาเบาปัญญา
มียศถาบรรดาศักดิ์และบริวารอันเป็นพาล
ใช้อำนาจบาตรใหญ่ขึ้นข่มขู่
ใช้วาจาอันเป็นเท็จใส่ร้ายป้ายสี
เพื่อให้คนในสังคมเข้าใจผิด
ดูถูกดูแคลน เหยียบย่ำให้ตกต่ำลงไป

ในสมัยที่คนไร้ศีลธรรม
พวกกลุ่มคนชั่วจะรวมตัวกันกลั่นแกล้งคนดี
ทั้งนี้ก็เพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว
และของพวกพ้อง

ดังนั้นผู้ที่มีอุดมการณ์
มาขัดผลประโยชน์ของเขา
ก็จะถูกจัดให้ออกไป

คนดีที่รักบ้านรักเมือง
มีความหวังดีต่อประเทศชาติ ต่อแผ่นดิน
จึงถูกกลั่นแกล้งอยู่ตลอดเวลา

ต่อไปถ้อยคำของคนชั่ว
ไม่มีศีล ไม่มีธรรม  จะมั่นคง

ส่วนถ้อยคำของคนดีมีศีลธรรม
จะอับเฉา

เหมือนก้อนหินอันหนักแน่น
แต่กลับลอยน้ำได้ฉะนั้น

อนาคตต่อไปในภายภาคหน้าโน้น
คนดี มีความรู้ดี มีสติปัญญาดี
มีความรอบรู้ มีความฉลาด มีความสามารถ
มีทั้งพระและฆราวาส
จะไม่ได้รับความยกย่องเชิดชูในสังคม

จะถูกขัดขวาง
จากกลุ่มคนพาลสันดานชั่วอยู่ตลอดเวลา

ถ้าเป็นฆราวาส ก็ไม่มีโอกาสได้ทำงาน
ในการบริหารประเทศชาติบ้านเมือง

คนมีความรู้ความสามารถ
มีความซื่อสัตย์สุจริต
ไม่มีโอกาสได้รับเลือกตั้ง
เข้ามาในสภาสันนิบาต

หรือได้รับเลือกเข้ามาแล้ว
ก็ไม่มีโอกาสได้ทำงาน
เพื่อประเทศชาติอย่างเต็มที่

จะมีกลุ่มทุจริตคิดมิชอบ
เพื่อหวังผลประโยชน์ต่าง ๆ
เบียดสีให้ตกเก้าอี้ไป

ในสายตาของกลุ่มมิจฉาชีพเหล่านี้
จะมองเห็นคนดี ๆ ว่า
เป็นตัวกาลกิณีของเขา
ไม่ยอมที่จะให้เข้าไปรู้เห็น
ในความทุจริตคิดมิชอบของตน

คนดี ๆ จึงไม่มีในสังคมนี้เลย

ถ้าเป็นนักบวช ก็เป็นในลักษณะนี้เช่นกัน

ท่านองค์ใดมีใจบริสุทธิ์ผุดผ่อง
ในพระธรรมวินัย มีความรู้ดี
ปฏิบัติชอบต่อมรรคผลนิพพาน
ท่านเหล่านั้นจะไม่มีใครให้ความสนใจ
ไม่อยากเข้าใกล้ ไม่อยากฟังธรรม

จะมองเห็นว่า เป็นพระคร่ำครึล้าสมัย
ไม่เกิดศรัทธา
ไม่อยู่ในสายตาของเขาแต่อย่างใด

เพราะใจไม่มีความเคารพเชื่อถือ
ในท่านเหล่านั้น

แม้แต่จะแบ่งปันปัจจัยทั้งสี่
ที่มีอยู่อย่างเหลือเฟือ ก็ไม่เต็มใจ
ถึงจะถวายให้ ก็นิดหน่อยพอเป็นพิธีเท่านั้น
ท่านเหล่านี้จึงมีชีวิตอยู่ด้วยความลำบาก

ใครก็ไม่อยากบวชเป็นพระในลักษณะนี้
ในที่สุด พระดี ๆ มีคุณธรรม
ก็จะค่อยหมดไป ๆ
ในศาสนาของเราตถาคต

เรื่องเหล่านี้ จะเกิดมีในภายภาคหน้าโน้น

ต่อไปคำพูด
ของคนที่ไม่ควรจะได้รับความเชื่อถือ
กลับจะได้รับความเชื่อถือ
โดยเปรียบถ้อยคำ
ของคนที่ไม่น่าเชื่อว่ามีน้ำหนัก
เหมือนกับผลน้ำเต้า
ซึ่งปกติจะลอยน้ำ
แต่เมื่อคนเชื่อว่า
คำพูดเหล่านั้นมีน้ำหนัก หรือหนักแน่น

จึงเปรียบคำพูดนั้นว่ามีน้ำหนัก
ราวกับน้ำเต้าที่จมน้ำได้

ถ้อยคำของคนที่ควรได้รับการเชื่อถือ
ซึ่งหนักแน่น
มีน้ำหนักเปรียบประดุจแท่งศิลา

กลับไม่ได้รับความเชื่อถือ
หรือกลายเป็นถ้อยคำ
ที่ไม่มีน้ำหนักเหมือนเรือที่ลอยได้

ข้อนี้ตรงกันข้ามกับข้อที่แล้ว คือ
คนหันไปเชื่อคำพูดคนที่ไม่ควรเชื่อ
แต่คนที่ควรเชื่อกลับไม่เชื่อ
เหมือนสิ่งที่ควรลอยกลับจม
สิ่งที่ควรจมกลับลอย



.........................








ศิลาลอยน้ำ


สิบสามฝัน เห็นศิลาน้อย  นั้นลอยน้ำ
ประหลาดล้ำ หลากใจ ที่ในฝัน
พระทรงญาณ บรรหาร ให้เห็นพลัน
ภายหน้านั้น ผู้มีศักดิ์ จะรักพาล

จะยกย่อง หมู่ทรชาติ อันต่ำช้า
เป็นเอกอัคร  เสนา  ในสถาน
ให้ยศศักดิ์  สืบสาย เป็นนายการ
ได้ท่วงที พวกพาล สำราญใจ


.........................


>>>    To Be Continue   >>>



Create Date : 20 มกราคม 2558
Last Update : 20 มกราคม 2558 19:03:03 น.
Counter : 1254 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

ไส้เดือนอเวจี
Location :
นนทบุรี  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]



เมื่อเราไม่มีเวลาเพียงพอที่จะไปเรียนรู้ประสบการณ์ทุกอย่าง
ได้ด้วยตนเอง

ก็จงมีเวลารับรู้ถึงประสบการณ์ของคนอื่น

เพราะเราคงมีเวลาไม่มากพอที่จะประสบมันด้วยตนเอง
แม้ใช้เวลาทั้งชีวิตก็ตาม