มกราคม 2558

 
 
 
 
1
2
3
31
 
All Blog
White Pearl Metropolis : บุษยานคร part 2.2.1/1,000




มาเริ่มกันที่ สุบินนิมิตข้อแรกกันเลย


เป็นเรื่องเดียวกันหมด
คือเกี่ยวกับ  สุบินนิมิตข้อ 1
แต่มีหลายสำนวนการแต่ง
นำมาจากหลายแหล่งนะคะ
แล้วแต่ความชอบเลยค่ะ


.......................



๑. โคอุสุภราชทั้งหลาย


แล้วตรัสว่า

“  ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ
หม่อมฉันเห็นสุบินข้อ ๑ อย่างนี้ก่อนว่า  ...
โคผู้ สีเหมือน ดอกอัญชัน ๔ ตัว
ต่างคิดว่าจักชนกัน
พากันวิ่งมาสู่ท้องพระลานหลวง
จากทิศทั้ง ๔

เมื่อมหาชนประชุมกันคิดว่า
พวกเราจักดูโคชนกัน
ต่างแสดงท่าทางจะชนกัน
บรรลือเสียงคำรามลั่นแล้วไม่ชนกัน
ต่างถอยออกไป

หม่อมฉันเห็นสุบินนี้เป็นปฐม
อะไรเป็นผลของสุบินนี้ พระเจ้าข้า ? ”

“  มหาบพิตร ผลของสุบินข้อนี้
จักไม่มีในชั่วรัชกาลของมหาบพิตร
ในชั่วศาสนาของตถาคต
แต่ในอนาคต เมื่อโลกหมุนไป  ถึงจุดเสื่อม

ในรัชกาลของพระราชาผู้กำพร้า
ผู้มิได้ครองราชย์โดยธรรม
และในกาลของหมู่มนุษย์ผู้ไม่ตั้งอยู่ในธรรม

เมื่อกุศลธรรมลดน้อยถอยลง
อกุศลธรรมหนาแน่นขึ้น
ในกาลที่โลกเสื่อม
ฝนจักแล้ง และตีนเมฆจักขาด
ข้าวกล้าจักแห้ง ทุพภิกขภัยจักเกิด
เมฆทั้งหลายตั้งขึ้นจากทิศทั้ง ๔
เหมือนจะย้อยเม็ด

พอพวกผู้หญิงรีบเก็บข้าวเปลือกเป็นต้น
ที่เอาออกผึ่งแดดไว้เข้าภายในร่ม
เพราะกลัวจะเปียก

เมื่อพวกผู้ชายต่างถือจอบถือตะกร้าพากันออกไป
เพื่อจะก่อคันกั้นน้ำ

ก็ตั้งเค้าจะตก
ครางกระหึ่ม ฟ้าแลบ แล้วก็ไม่ตกเลย
ลอยหายไป
เหมือนโคตั้งท่าจะชนกันแล้วไม่ชนกันฉะนั้น

นี้เป็นผลของสุบินนั้น

แต่ไม่มีอันตรายไรๆ แก่มหาบพิตร
เพราะเรื่องนั้นเป็นปัจจัย

มหาบพิตรเห็นสุบินนี้ ปรารภอนาคต
ฝ่ายพวกพราหมณ์อาศัยการเลี้ยงชีวิตของตน
จึงทำนายดังนี้  ”


.............................


๑.  โคสี่ตัว

หนึ่งฝันว่า โคทั้งสี่ มีกำลัง
แล่นมาทั้ง สี่ทิศ นิมิตเห็น
จะชนกัน แล้วหัน ห่างกระเด็น
ต่างหลีกลี้ หนีเร้น ไปหายตัว
โปรดอภิปราย ทายว่า ฤดูฝน
เมฆหมอกบน มืดมิด ทุกทิศสลัว
ดั่งจะปราย สายพิรุณ ขุ่นเขียวมัว
พายุพัด กลัดกลั้ว ละลายไป
จะลำบาก ยากใจ แก่ไพร่พล
ด้วยฟ้าฝน ไม่ตกมา ในนาไร่
ทั้งต้นข้าว เต้าแตง เหี่ยวแห้งไป
อีกผลไม้ ม่วงปราง จะบางเบา
เกิดข้าวยาก หมากแพง ทุกแหล่งหล้า
ฝูงประชา แค้นคับ ลงอับเฉา
ด้วยมนตรี มีโมหา ปัญญาเยาว์
ลำเอียงเอา อามิส ไม่คิดธรรม์


......................................


สุบินนิมิตข้อที่ 1 : ภัยธรรมชาติ
๑. โคอุสุภราช ( เกิดทุกขภัยทุกทิศทาง )

สุบินเห็นโคอุสุภราช ( วัวตัวผู้ )
สีดำ ๔ ตัว วิ่งมาจากทั้ง ๔ ทิศ
ด้วยลักษณาการเกรี้ยวกราด
คำรามเข้าใส่กันเสียงดีราวฟ้าจะถล่ม
ทำอาการเหมือนจะชนกันแต่แล้วก็ไม่ชน
กลับหนีจากกันไปคนละทิศละทาง


พระพุทธเจ้าทรงโปรดให้คำทำนายว่า

ในอนาคตกาลข้างหน้าโน้น
จะมีภัยธรรมชาติเกิดขึ้น

คือฟ้าฝนจะไม่ตกต้องตามฤดูกาล
มีเพียงเมฆตั้งเค้าให้เห็นลอยมาทั้ง ๔ ทิศ
ราวกับว่าฝนจะตกลงมาอย่างหนัก
แต่แล้วเมฆกลับกระจายลอยหายไป
ไม่มีฝนตกลงมาในพื้นปฐพีเลย

เมื่อถึงยุคสมัยที่คนไร้ศีลธรรม
คนก็จะเต็มไปด้วยความละโมบ โลภมาก
แล้วทำลายธรรมชาติ ทำลายโลก
เมื่อโลกขาดความสมดุล
หมุนไปถึงจุดที่เสื่อมลง
มนุษย์ไม่ตั้งอยู่ในศีลในธรรม
ฝนฟ้าจักแล้ง ทุพภิกขภัยจักเกิดขึ้น
คล้ายเมฆตั้งเค้าจะมีฝน  มีเสียงคำรามกระหึ่ม
แต่แล้วก็ไม่ตก  กลับเลยหายไป
เหมือนโคตั้งท่าจะชนกัน แต่ไม่ชนกันฉะนั้น

ปรากฏการณ์ที่ควรจะเป็นไปตามธรรมชาติ
กลับไม่เป็นไปตามนั้น
ฝนฟ้าไม่ตกต้องตามฤดูกาล
อากาศร้อนอบอ้าว แผ่นดินแห้งแล้งแตกระแหง
ต้นไม้ใบหญ้า พากันแห้งเหี่ยวเฉาตาย
ทำให้เกิดความอดอยากยากแค้นกันไปทั่ว

ภัยพิบัติอันวิปริตผิดธรรมชาตินี้
รวมไปถึงมหันตภัยทางธรรมชาติอีกหลายอย่าง
เช่นคลื่นลมวิปริต   ดินถล่ม   ไฟป่าลุกไหม้
ท้องทะเลปั้นป่วน   เกิดคลื่นยักษ์ถาโถม
น้ำหลากไหลท่วมไปทั่ว
มีเมฆดำตั้งขึ้นในทิศทั้ง ๔
เสียงฟ้าลั่นอยู่ครืนๆ ทำทีเหมือนฝนจะตก
แต่ก็มิตก ทำให้เกิดการเสียหายแก่พืชผล
เกิดข้าวยากหมากแพงในประเทศ


**  ถ้านำเอาพุทธพยากรณ์
มาเปรียบเทียบกับดวงดาวในวิชาโหราศาสตร์
     " โคอุสุภราชสีดำทั้ง  ๔  ตัว  ”
สีดำ ก็คือ ดาวเสาร์ ซึ่งหมายถึง
ความทุกข์ยากแห้งแล้ง
ส่วนโคอุสุภราช หมายถึง เมฆฝน
เพราะเป็นสัตว์สวรรค์บนท้องฟ้า
คล้ายเมฆดำอันหมายถึง โคดำ นั่นเอง







หนึ่งฝันว่า โคทั้งสี่  มีกำลัง
แล่นมาทั้ง  สี่ทิศ  นิมิตเห็น
จะชนกัน แล้วหัน ห่างกระเด็น
ต่างหลีกลี้ หนีเร้น ไปหายตัว

โปรดอภิปราย ทายว่า ฤดูฝน
เมฆหมอกบน มืดมิด ทุกทิศสลัว
ดั่งจะปราย สายพิรุณ ขุ่นเขียวมัว
พายุพัด กลัดกลั้ว ละลายไป

จะลำบาก ยากใจ แก่ไพร่พล
ด้วยฟ้าฝน ไม่ตกมา ในนาไร่
ทั้งต้นข้าว เต้าแตง เหี่ยวแห้งไป
อีกผลไม้ ม่วงปราง จะบางเบา

เกิดข้าวยาก หมากแพง ทุกแหล่งหล้า
ฝูงประชา แค้นคับ ลงอับเฉา
ด้วยมนตรี มีโมหา ปัญญาเบา
ลำเอียงเอา อามิส ไม่คิดธรรม์


................................


>>>   To Be Continue    >>>



Create Date : 08 มกราคม 2558
Last Update : 21 มกราคม 2558 9:47:18 น.
Counter : 919 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

ไส้เดือนอเวจี
Location :
นนทบุรี  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]



เมื่อเราไม่มีเวลาเพียงพอที่จะไปเรียนรู้ประสบการณ์ทุกอย่าง
ได้ด้วยตนเอง

ก็จงมีเวลารับรู้ถึงประสบการณ์ของคนอื่น

เพราะเราคงมีเวลาไม่มากพอที่จะประสบมันด้วยตนเอง
แม้ใช้เวลาทั้งชีวิตก็ตาม