รักแห่งสยาม - ฟิคเด็ก10

“กริ๊งงงงงงง.........”เสียงกริ่งดังบอกเวลาพักเที่ยง
โต้งกับมิวเก็บหนังสือไว้ใต้โต๊ะ แล้วเดินออกมาพร้อมกับเพื่อนคนอื่นๆ
“วันนี้จะกินอะไรกันดีละโต้ง” มิวถาม ขณะที่กำลังเดินคู่กับโต้งอยู่
“อะไรก็ได้หมดแหละ กินทุกร้านแล้วนี่ ในโรงเรียนนี้มีของกินไม่กี่ร้านเองโต้งบอก
“นั้น ไปกินก๊วยเตี๋ยวดีกว่าวันนี้“มิวชวนโต้ง
หลังจากที่ทั้งสองตกลงกันเสร็จ จึงพากันเดินไปที่โรงอาหาร….


ขณะที่โต้งกับมิวกำลังจะเดินไปสั่งอาหาร ทั้งสองต้องเดินผ่านโต๊ะเด็กหัวโจก ประจำโรงเรียน ซึ่งชอบแกล้งมิวอยู่เสมอ
“ว่าไงจ๊ะมิว“ หนึ่งในนั้นทัก แล้วลุกขึ้นมาบีบนมของมิว
“เฮ๊ย!!....“มิวอุทานด้วยความตกใจแล้วผลักมือของเด็กคนนั้นออกไป
โต้งซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ ทนกับภาพที่เห็นไม่ไหว จึงพลักเด็กคนนั้นล้มลง
“มึง มึงไม่เข็ดใช่มั้ยฮะ ไอ้โต้ง มึงโดน“ เด็กคนนั้นลุกพร้อมกับเด็กในกลุ่มที่เหลือ วิ่งมาสมทบ
หนึ่ง ต่อ ห้า.......
ตุ๊บ ตั๊บ ตุ๊บ ตั๊บ เสียงฝีเท้า และหมัดกระหน่ำลงไปที่โต้ง ในขณะเดียวกันมิวก็โดนด้วย....

หลังจากที่กลุ่มเด็กเกเรพวกนั้นเดินไป โต้งพยายามดันตัวเองลุกขึ้น มิวซึ่งนั่งงงกับลูกหลงเป็นหมัดที่โดนต่อยเข้าที่ตาขวาก็ลุกขึ้นมาพยุงโต้ง
“โต้ง เป็นไงบ้าง ไหวมั้ย“ มิวพูดแล้วพยุงโต้งลุกขึ้นมานั่งที่โต๊ะ
“ไหวน่า แค่นี้เอง“
“เป็นไงละ เป็นแบบนี้ทุกที นายไม่ต้องช่วยเราหรอก มันก็ได้แค่แกล้งแค่นั้นแหละ“
“ไม่ช่วยได้ไง นายยอมให้มันแกล้งนายหรอ“ โต้งพูดเสียงดัง ส่วนมิวได้แต่เงียบ หลังจากที่โต้งถาม
“แล้ววันนี้จะเอาไงเนี่ย จะบอกน้านีย์ว่ายังไง ฟุตบอล หรือ ซอร์ฟบอล“ มิวถาม
“ซอร์ฟบอล ละกัน“ โต้งบอกมิว
“ซอร์ฟบอล มีรอยเท้าเต็มเลยเนี่ยนะ“
“เอาน่า ปะ ไปซื้อของกินดีกว่า“ โต้งบอกมิวแล้วฉุดมิวลุกขึ้น...

............................................................................................................................................................


หลังจากกลับมาจากโรงเรียน
“เจ้าโต้ง มิว ไปทำอะไรกันมาฮะ ตาบวม ปากแตก แบบนี้น่ะ ไปต่อยกับใครเขามา“ สุนีย์ตกใจ เมื่อเห็นหน้าของโต้งกับมิว
“เอ่อ....“โต้งอึกอักที่จะตอบ
“พอดีเราไปเล่นซอร์ฟบอลกันนะครับน้านีย์ แล้วก็“ มิวนึกคำที่จะพูดต่อ
“แล้วยังไงต่อ“ สุนีย์ถาม
“ล้มครับ..... ใช่..ล้ม ผมกับมิวสะดุดขากันเองล้มครับ“มิวตอบแบบติดๆขัดๆ
“ล้ม!!ตาเขียว ปากแตกเลยหรอมิว“สุนีย์อุทาน
“ครับ“โต้งบอก
“นั้น จะล้มอีกทีมั้ยเจ้ามิว เจ้าโต้ง“กรซึ่งนั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่ พูดแทรกขึ้นมา แล้วหันมายิ้มกับสุนีย์
สุนีย์ยิ้ม แล้วส่ายหัว
“ไป ไปอาบน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้าเลยทั้งคู่ แล้วเดี๋ยวโต้งมาหาแม่ มิวด้วยมาหาน้าด้วยนะ“
“ครับ“มิวตอบ แล้วเดินกลับไปเข้าบ้านของตัวเอง


หลังจากที่โต้งอาบน้ำเสร็จ จึงเดินลงมา ซึ่งตอนนี้มิวได้นั่งรออยู่กับสุนีย์ที่โซฟาแล้ว
“มาเร็ว โต้ง มิวมารอนานแล้ว“สุนีย์บอก
“แม่จะทำอะไรหรอ“ โต้งถาม
“รอตรงนี้แหละ เดี๋ยวแม่มา“ สุนีย์บอกกับโต้ง แล้วลุกขึ้นเดินไปหยิบกล่องสีแดงมาวางบนโต๊ะ
“มา ทั้งสองคนนั่งใกล้ๆกัน เดี๋ยวจะทำแผลให้“ สุนีย์บอก
“แสบมั้ยครับ น้านีย์“ มิวถาม
“แสบ...แต่แสบน้อยกว่าที่โดนต่อยนิดนึง“ สุนีย์พูด
สุนีย์เริ่มทำแผลให้ทั้งสองคน โต้งกับมิวได้แต่นั่งร้อง เพราะความแสบของยาที่สุนีย์ทำแผลให้ จนกระทั่ง.....
“เอาล่ะ เสร็จแล้ว เฮ้อ!!ร้องกันซะ“ สุนีย์พูด พลางเก็บยาลงกระเป๋า
“ขอบคุณครับ“ทั้งสองคนพูดพร้อมกัน
“อืม....แล้วอย่าไปมีเรื่องกันอีกละ“สุนีย์บอก โต้งกับมิวได้แต่นั่งยิ้ม
“นั้น เดี๋ยวเราเข้าบ้านก่อนนะโต้ง“ มิวพูดแล้วลุกขึ้นกำลังจะเดินออกไป
“เดี๋ยวเราไปส่ง“ โต้งบอก

โต้งเดินมาส่งมิวที่หน้าบ้านของมิว และกำลังจะเดินกลับ
“ขอบคุณนะโต้ง“มิวตะโกนไล่หลังมา
โต้งหันกลับมาแล้วถาม
“ขอบคุณไรอะมิว“โต้งถามแล้วทำหน้างงๆ
“ก็วันนี้ไง นายต้องเจ็บเพราะช่วยเราแท้ๆ“
“ไม่เป็นไรหรอกน่า แค่นี้เอง“ โต้งบอกแล้วเดินเข้ามาหามิว
“แล้วนายอะ เจ็บมั้ย รู้สึกไงบ้างละที่ตาขวาอะ เขียวเชียว“ โต้งทำท่าเป็นห่วง
“ก็เจ็บนะ แต่ตอนนี้มองไม่ค่อยเห็นน่ะ“ มิวบอก
“นั้น เดี๋ยวเราทำให้ รับรองหายแน่ๆ“ โต้งพูดแล้วยกมือขึ้นมาใช้นิ้วโป้งลูบบริเวณที่ตาขวาของมิว ด้วยความแผ่วเบา
“หายเร็วๆนะ เพี้ยง!!“ โต้งเป่าใส่หน้ามิว
“เอ๊ย….โต้งเล่นเป็นเด็กไปได้“ มิวพูดแล้วขำ
“เอ๊า..ไม่เชื่ออีก“
“ก็ไม่เชื่ออะดิ“
“นั้น เอางี้ ถ้ามิวไม่เชื่อ มิวทำให้เราสิ รับรองเราหายแน่ๆ“
“มั่วแล้วโต้ง“
“จริง จริ๊ง“โต้งทำเสียงสูง
“มาเราลองมั่ง“มิวบอก แล้วยกมือขึ้นใช้นิ้วลูบตรงริมฝีปากของโต้งด้วยความอ่อนโยน
“แบบนี้ใช่ปะ“มิวถาม
“อื้ม“โต้งบอก
“แต่เราไม่เป่านะ“
“ก็ได้...สำหรับมิวเราอนุโลม“
มิวลูบบริเวณแผลที่มุมปากของโต้ง แล้วพูด
“หายเร็วๆนะโต้ง เราขอให้นายหายเร็วๆนะ“ มิวบอก ขณะเดียวกันโต้งจึงยกมือขึ้นมาลูบตาของมิวเช่นกัน
“เราก็ขอให้นายหายเร็วๆนะมิว“
“อืม....แต่เราว่าพอดีกว่า โต้งมือหนัก เราชักจะเจ็บแล้วสิ““
“อ้าว โทษทีเจ็บหรอมิว นั้น...เรากลับนะค่ำแล้ว“
“อื้ม....โต้ง มิวเรียกโต้งอีกครั้ง“
“อะไรหรอมิว“โต้งถาม
“คือ.....เราไม่รู้ว่าเราพูดคำนี้ครั้งที่เท่าไรแล้ว แต่ก็อยากจะพูดอีกนะ ขอบคุณนะ...โต้ง“
โต้งไม่ได้พูดอะไร แต่พยักหน้ารับแล้วยิ้มให้ พร้อมหันหลังเดินเข้าบ้านไป
“ขอบคุณนะ....โต้ง.........“มิวพูดอีกครั้ง




 

Create Date : 20 กุมภาพันธ์ 2552    
Last Update : 20 กุมภาพันธ์ 2552 21:42:23 น.
Counter : 699 Pageviews.  

รักแห่งสยาม - ฟิคเด็ก9

“น้อง น้องสองคนน่ะ ขึ้นมั้ยครับ รถจะออกแล้วนะ” กระเป๋ารถเมล์ตะโกนถามโต้งกับมิว
“ครับ ขึ้นครับ” โต้งบอก แล้วดึงมือของมิวขึ้นรถ โต้งและมิวเดินไปนั่งตรงกลางๆซึ่งมีที่ว่างอยู่
วันนี้ทั้งสองคนกลับบ้านเอง เพราะสุนีย์ยังไปทำงานกับกรที่ต่างจังหวัด จึงมารับโต้งกับมิวไม่ได้
“อากาศตอนเย็นๆนี่สบายจังนะโต้ง” มิวบอก
“อื้ม เราชอบมากเลยแหละ ลมเย็นดี แต่นั่งทีไรหลับทุกที” โต้งพูดแล้วหัวเราะ
“จริงดิ แล้วแบบนี้เคยนั่งเลยป้ายมั้ยเนี่ย” มิวถาม
“ก็มีบ้างแต่จะเลือกหลับตอนที่นั่งไปกับพี่แตงอะ จะได้มีคนปลุก”
“แต่เราไม่ปลุกนะ”
“จริงดิ” โต้งพูดน้ำเสียงแบบเดียวกับที่มิวพูด
“ล้อเล่นน่า ถ้าโต้งหลับจริง เดี๋ยวถึงแล้วเราก็ปลุกเองแหละ”
ทั้งสองคนนั่งมองสองข้างทางและคุยกันไปเรื่อยๆ และแล้ว....เมือมิวหันกลับมามองโต้ง
โต้ง....หลับซะแล้ว
“เฮ้อ.....โต้งนะโต้ง” มิวพูดแล้วส่ายหัวแต่ก็อดขำไม่ได้
รถเมล์ขับไปเรื่อยๆ แต่ด้วยสภาพของรถเมล์ที่ไม่ค่อยจะใหม่บวกกับถนนที่ขรุขระบ้าง
ทำให้รถสั่นตลอดเวลา
ด้วยความสั่นของรถ หัวของโต้งจึงค่อยๆไหลมาอยู่บนไหล่ของมิว....
มิวดันกลับ.....
แล้วหัวโต้งก็ไหลกลับมา.....
มิวดันกลับอีกรอบ.....
หัวโต้งเริ่มไหลเข้ามาอีก.....
“เออ.....ช่างเหอะ ขี้เกียจดันและ” มิวนึก
ด้วยความที่มิวขี้เกียจดันหัวโต้งกลับโต้งจึงนอนบนไหล่มิวตลอดทาง....จนถึงป้ายที่จะต้องลง
“โต้งตื่น ตื่นได้แล้ว” มิวสะกิดโต้ง
“ถึงแล้วหรอ” โต้งพูดแล้วขยี้ตา
ทั้งสองคนเดินลงจากรถเมล์ มายืนอยู่ตรงซอยหน้าบ้าน
“มันน่ามั้ยเนี่ยนอนแล้วยังเอาหัวเอียงมาตรงไหล่เราอีก”
“เฮ้ย....จริงหรอ เราไม่เห็นรู้เรื่องเลย” โต้งทำหน้าสงสัย
“จริงดิ เนี่ยไงหลักฐาน” มิวชี้ให้ดูคราบน้ำลายตรงไหล่
“ตายละ” โต้งอุทาน
“ซักให้ด้วยนะ คนอะไรนอนน้ำลายยืด” มิวพูดปนหัวเราะ
“อะนะ ปะเข้าบ้านเถอะ” โต้งบอกแล้วเอื้อมมือไปกอดคอมิว โต้งกับมิวเดินไปเรื่อยๆ
“อากาศเริ่มหนาวแฮะ” โต้งพูด
“อืม พรุ่งนี้ต้องเตรียมเสื้อกันหนาวแล้วสิเนี่ย.
“อากาศหนาวแบบนี้ นั้น....คืนนี้เราขอนอนกอดมิวอีกคืนได้ปะ” โต้งพูดแล้วทำท่าเขินๆ
“ก็เราบอกแล้วว่า แค่คืนเดียวไง คืนนี้ทนหนาวไปเหอะ” มิวบอก
“หูย....มิวอะ ใจดำ” โต้งพูดแล้วทำหน้าน่าสงสาร
มิวหันไปทางโต้ง เห็นหน้าของโต้งแล้วก็อดสงสารไม่ได้ มิวคิดว่าถึงยังไงการที่โต้งได้กอดกับมิว มิวเองก็หายหนาวเหมือนกัน มิวจึงตอบไปว่า
“ก็ได้ แต่ไม่ใช่เพราะไรหรอกนะ สงสารอะ ดูหน้าดิจ๋อยเชียว”
“สัญญานะ ว่าจะให้กอด...”
“อืม..สัญญา” มิวบอก
“ไม่เชื่อ เอานิ้วก้อยมา” โต้งพูดแล้วยกนิ้วก้อยข้างซ้ายขึ้นมากะดิกๆตรงหน้ามิว
“เอาไปทำไมอะ นิ้วก้อยอะ” มิวทำท่าสงสัย
“สัญญาไง เอามาเกี่ยวกัน”
“อะนะโต้ง เล่นเป็นเด็กนะ” มิวบอกพร้อมส่ายหัว....แต่ก็ยกนิ้วก้อยขึ้นมา และเกี่ยวเข้ากับนิ้วก้อยของโต้ง
ทั้งสองคนเดินกอดคอกันจนถึงบ้าน โดยมืออีกข้างยังคงเกี่ยวก้อยกันไว้ เพราะโต้งไม่ยอมปล่อย

สัญญานิ้วก้อย ได้เริ่มขึ้นแล้ว...........
.........................................................................................

ครื้น!! เสียงฟ้าร้อง…..
“สงสัยฝนจะตกแฮะมิว” โต้งถาม
“อืมว่างั้นแหละ หนาวแล้วฝนยังจะตกอีก” มิวพูดขณะนั่งทำการบ้าน
“อืม นั้นเราไปอาบน้ำก่อนดีกว่า เดี๋ยวจะหนาวกว่านี้” โต้งพูดแล้วเดินเข้าห้องน้ำ
“มิว....”โต้งตะโกนเรียก
“อะไรหรอโต้ง” มิวถาม
“น้ำไม่ไหลอะ สบู่เข้าตา”
“เอาผ้าเช็ดดิโต้ง”
“ไม่ได้เอาเข้ามา เราลืม เร็วมิวเราแสบตา”
“เฮ้ย....”มิวอุทาน แล้วลุกขึ้นไปเคาะประตูห้องน้ำ
“โต้ง เป็นไงมั่งโต้ง” มิวตะโกนถามโต้ง
“แสบตาอะ แสบๆๆ ทำไงดีๆๆ”
“เปิดประตูดิ เร็วๆเราจะส่งผ้าให้”
“ไม่เอาอะ อาย”
“มัวอายอยู่อีก....เร็วเปิดประตู”
“อย่าแอบดูนะ ยื่นผ้ามาอย่างเดียว”
“เออน่า.....มัวห่วงเรื่องไร้สาระอยู่อีก”
.......
แกร๊ก.... โต้งเปิดประตูแง้มออก และยื่นมือออกมา มิวกำลังจะส่งผ้าขนหนูให้
แต่!!ประตูที่โต้งแง้มไว้ดันค่อยๆเปิดกว้าง โต้งรีบคว้าลูกบิดแต่คว้าไว้ไม่ทัน
มิว.....จึงเห็น เอ่อ...เห็น....หมดเลย..........
“เฮ้ย......”ทั้งสอองอุทานออกมาพร้อมกัน โต้งรีบปิดประตูด้วยความอาย แต่มิวกลับยืนขำ
.......................................................................................................................................
หลังจากที่โต้งเช็ดหน้าเสร็จและเดินออกมา

“จบกันเลยมิว.....เห็นหมด”
“ฮ่าฮ่า......”มิวหัวเราะออกมาเสียงดัง
“หัวเราะไรอะ เราอายนะมิว”
“ตลกหน้าโต้งอะ อายซะหน้าแดงเลย”
“อะนะ ห้ามไปบอกใครละว่าเห็นเราโป๊อะ”
“ไม่บอกหรอกน่า”
“เออ....แล้วมิวจะอาบน้ำยังไงน้ำไม่ไหล”
“อืม....เดี๋ยวเราลงไปอาบข้างล่างก็ได้ บางทีน้ำอาจจะไม่แรงอะ ข้างบนเลยไม่ไหล”
“นั้นอาบเสร็จแล้วรีบขึ้นมาละกัน เราเริ่มจะง่วงแล้ว”
“โอเค...”มิวพูดแล้วหยิบผ้าขนหนูเดินลงไปข้างล่าง
............................................................................................................................................
หลังจากที่มิวอาบน้ำเสร็จ ทั้งคู่จึงเตรียมตัวเข้านอน....
ฝนที่ตั้งเค้ามานานก็เริ่มตก อากาศเริ่มหนาว ลมพัดผ้าม่านที่หน้าต่างปลิว....
“หนาวจังนะมิว..”โต้งบอก
“อืม”
“ที่สัญญากันไว้อะ....จำได้มั้ย”
“ได้ดิ....แต่คืนนี้ คืนสุดท้ายนะโต้ง”
“แล้วตอนนี้..กอดได้รึยังละ หนาวจะตายแล้วนะ”
“ตามใจ”
หลังจากมิวพูด โต้งก็กระเถิบตัวไปใกล้และยกมือไปกอดที่เอวของมิว นี่เป็นการกอดมิวครั้งที่สองของโต้ง หลังจากที่ได้กอดไปแล้วเมื่อคืนนี้
“ฮู้....อุ่นขึ้นเยอะเลยนะมิว มิวอะอุ่นปะ”โต้งถามแหล้วยิ้มอย่างดีใจที่ได้กอดมิวแก้หนาว
“ก็อุ่นนะ.....”
“ถ้าหน้าหนาวเราขอกอดมิวทุกคืนเลยได้ปะ”
...........ไม่มีเสียงตอบรับจากมิว
“สงสัย หลับแล้วแหงๆ” โต้งนึกแล้วหัวเราะเบาๆ
“ฝันดีนะมิว เรากอดมิวแล้วอุ่น...จนหายหนาวไปเลย”

..........................................................................................




 

Create Date : 20 กุมภาพันธ์ 2552    
Last Update : 20 กุมภาพันธ์ 2552 21:41:56 น.
Counter : 563 Pageviews.  

รักแห่งสยาม - ฟิคเด็ก8

“อาม่า มิวกลับมาแล้ว”
“เป็นไงบ้างลูก วันนี้เรียนเป็นยังไงบ้าง” อาม่าพูดพร้อมกับเอื้อมไปหยิบกระเป๋าที่มิวถืออยู่
“ไปลูก ไปอาบน้ำแล้วเดี๋ยวลงมากินข้าวกันนะ”
“ครับ” มิวพูดแล้วเดินขึ้นไปข้างบน
............................................................................................................................................

ที่โต๊ะกินข้าวหลังจากที่มิวอาบน้ำเสร็จ..

“อร่อยมั้ยลูก อาม่าทำเองกับมือเลยนะ” อาม่าถามมิว
“อร่อยครับ อาม่า”
“นั้นกินเยอะๆนะ” อาม่าบอกพร้อมกับยิ้มให้มิว
ขณะที่กำลังกินข้าวกันอยู่ สุนีย์ก็เดินเข้ามาด้วยอาการรีบร้อน
“อาม่าคะ สวัสดีคะ คือว่าวันนี้หนูขอฝากโต้งให้นอนกับมิวด้วยได้มั้ยคะ พอดีว่าแตงไปทัศนศึกษา อีก2วันกว่าจะกลับ แล้วพอดีหนูกับกร ต้องไปทำงานที่ต่างจังหวัดน่ะค่ะ รบกวนอาม่าด้วยนะคะ”
“ได้จ้ะ พาโต้งมาเลย ได้มากินข้าวพร้อมกับมิว” อาม่าบอกแล้วยิ้มให้
สุนีย์เดินออกไปสักพักก็กลับมาพร้อมกับโต้งและกระเป๋าเสื้อผ้าของโต้ง
“ขอบคุณมากนะคะ อาม่า หนูต้องรีบไปน่ะค่ะ เดี๋ยวไม่ทันขึ้นเครื่อง”
“เดินทางปลอดภัยนะ โชคดีจ้ะ” อาม่าอวยพรให้สุนีย์
“ขอบคุณคะ” สุนีย์พูดพร้อมยกมือไหว้แล้วเดินออกไป
“โต้งเข้ามาสิลูก มากินข้าวพร้อมกัน” อาม่าเรียกโต้งที่ยืนอยู่หน้าประตู
..........................................................................................................................................
หลังจากกินข้าวเสร็จ ทั้งสองวิ่งขึ้นไปข้างบนบ้าน โต้งวางกระเป๋าและเปิดหยิบเสื้อผ้าขึ้นมา เพื่อจะเปลี่ยนหลังอาบน้ำ
“เอาแล้ว แม่นะแม่” โต้งอุทาน
“อะไรหรอโต้ง” มิวถาม
“ก็แม่เรานะสิ หยิบเสื้อผ้าผิดอะมิว ดูดิหยิบของพี่แตงมา ลายดอกเชียว ใครจะใส่ได้ละเนี่ย” โต้งบอก
“อืม นั้นเอาของเราใส่ได้มั้ยละ น่าจะใส่ได้นะตัวเท่ากัน” มิวบอก
“ได้ นั้นเดี๋ยวเราอาบน้ำก่อนนะมิว” โต้งบอกกับมิวแล้วหยิบผ้าขนหนูเดินเข้าไปในห้องน้ำ
.......................
“สบายจังเลย” โต้งพูดหลังจากอาบน้ำเสร็จ
.สบายสิ น้ำบ้านเราเย็นจะตาย” มิวหันมาบอกกับโต้งขณะที่นอนเล่นลูกแก้วที่โต้งให้มา
“อะนะ พูดอย่างกับว่า น้ำบ้านตัวเองนี่เย็นบ้านเดียวนั้นแหละ”
“อะแน่นอน” มิวหันมายักคิ้วใส่โต้ง
“อ๋อหรอ” โต้งพูดแล้วหยิบหมอนขึ้นมาตีมิว ด้วยความที่มิวจับลูกแก้วไม่เต็มมือ ทำให้หมอนปัดไปโดนลูกแก้วตกพื้น
เพล้ง!!!
“โต้ง แตกหมดเลย” มิวพูดแล้วรีบลุกไปดูลูกแก้วซึ่งตอนนี้แตกกระจายอยู่เต็มพื้น
“มิว เราขอโทษ เราไม่ได้ตั้งใจ” โต้งบอกมิว
“อืม ไม่เป็นไรหรอก นั้นเดี๋ยวเราเอาไม้กวาดกับผ้าขึ้นมาเช็ดน้ำก่อนนะ” มิวบอกแล้วเดินลงไปข้างล่าง
โต้งรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มิวคงเสียใจ เพราะโต้งเห็นสีหน้าของมิวไม่ค่อยดีเท่าไร
มิวเดินกลับขึ้นมาพร้อมกับผ้าและไม้กวาดและเริ่มเก็บเศษแก้วที่แตกอยู่ใส่ถังขยะ
“มิว เป็นไรรึปล่าว เงียบไปเลยนะ” โต้งถามมิวพร้อมกับนั่งลงมาเพื่อช่วยเก็บ
“ก็เสียใจนิดหน่อยนะ ของรักของเรานี่นา และอีกอย่างโต้งก็เป็นคนซื้อให้เราด้วย” มิวบอกขณะที่เก็บเศษแก้ว
“นั้นเดี๋ยวเราซื้อให้ใหม่นะ โอเคปะ” โต้งหันไปบอกมิว
“ไม่ต้องหรอก เปลืองเงินปล่าวๆ”
“เอาน่า โอเคนะ” โต้งเซ้าซี้
“อืม ก็ได้” มิวบอก

หลังจากเก็บเศษแก้วเสร็จ ทั้งสองก็เตรียมตัวเข้านอน
“โต้งนอนฝั่งไหนละ” มิวถาม
“ฝั่งไหนก็ได้” โต้งตอบ
“นั้นโต้งนอนซ้ายละกัน เรานอนทางขวา”
“อืม...”
...........................................
“มิว นอนยังอะ โต้งถามแล้วชะโงกหน้าไปมองมิว”
“เกือบแล้วแหละ มีไรอะโต้ง” มิวถาม
“คือว่า เราหนาวอะ ผ้าห่มนายบ๊าง บาง”
“แล้วจะให้เราทำไงละ”
“ขอกอดหน่อยดิ ได้ปะละ”
“เกี่ยวไรกะเราละ”
“ก็ได้ปะละ”
“แต่เราเป็นผู้ชายเหมือนกันจะมากอดกันได้ไงละโต้ง น่าเกลียด” มิวหันมามองแล้วเบะปากใส่
“เพื่อนกันนะ แหม...แค่นี้เอง ก็หนาวอะ” โต้งบอก
“นั้น.....”มิวคิด
“ก็ได้ แต่แค่วันนี้วันเดียวนะ วันพรุ่งนี้ทนหนาวไปละกัน” มิวพูดแล้วหันหลังกลับไป
โต้งเอื้อมแขนไปกอดมิว..
“อุ่นกว่าผ้าห่มอีกแฮะ” โต้งบอก
“อืม แต่แค่วันนี้นะ อย่าลืม”
“ได้ แต่อุ่นจริงๆนะมิว ถ้าเราหนาวนี่ เราจะแอบกอดมิว หึหึ” โต้งพูดแล้วหัวเราะเบาๆ
“นอนได้แล้วโต้ง เดี๋ยวตื่นสายนะ” มิวบอกโต้ง
“อืม.......มิว”
“ไรหรอโต้ง”
“ขอบคุณนะ สำหรับความอุ่นในคืนนี้ “
“อืม.....เราก็อุ่นเหมือนกันแหละโต้ง ราตรีสวัสดิ์นะ”
“ฝันดีนะมิว............”
....................................................................................

“โต้งๆ ตื่นได้แล้วสายแล้วนะ” มิวเอามือไปแตะไหล่ของโต้ง
“เช้าแล้วหรอเนี่ย” โต้งพูด แล้วลุกขึ้นมาบิดขี้เกียจ
“เช้าแล้ว ไปอาบน้ำเถอะ เดี๋ยววันนี้ไปสยามกัน”
“ไปทำไมอะมิว” โต้งทำหน้าสงสัย
“ก็ไปซื้อของที่นายทำแตกไง เราจะเอาวันนี้เลย”
“โห อะไรจะขนาดนั้นอะมิว จะเอาวันนี้เลยหรอ”
“ก็นายบอกเองนี่นา ว่าจะซื้อให้ ไปเลยโต้งลุกได้แล้ว” มิวบอกแล้วดึงแขนโต้งขึ้นมาจากเตียง

หลังจากทั้งสองแต่งตัวเสร็จและเดินลงมาข้างล่าง อาม่าซึ่งกำลังรดน้ำต้นไม่อยู่หน้าบ้านก็เดินเข้ามา
“จะไปไหนกันละ ทั้งสองคนนะ”อาม่าถาม
“ไปสยามครับ อาม่า”มิวตอบ
“แล้วกลับกันตอนไหน อย่ากลับเย็นนะ”
“ครับอาม่า สวัสดีครับ” ทั้งสองยกมือไหว้อาม่าแล้วเดินออกไป
................................................................................................................................................
ที่สยาม......

“มิวอันนี้ไง สวยดีนะ” โต้งชี้ลูกแก้วซึ่งวางอยู่บนชั้นที่อยู่ในร้านขายของแห่งหนึ่ง
“ไม่เอาอะ ไม่เห็นสวยเลย แล้วมันก็แพงเกินไปด้วย” มิวบอกกับโต้งแล้วเดินนำออกไป
“มิวรอด้วย.....”
ทั้งสองดินหาร้านขายของ ที่เป็นกิฟท์ชอพ แต่ก็ไม่มีร้านไหนที่มีลูกแก้วที่ถูกใจมิวเลย
จนกระทั่ง......
“นี่ไงโต้ง อันนี้แหละ สวยด้วยแล้วก็ไม่แพงด้วยนะ” มิวชี้ไปที่ลูกแก้วใสที่มีน้ำอยู่เต็ม
“นั้น มิวเดินเข้าไปเลย” โต้งบอก
...................................................................................................................................................
หลังจากที่ทั้งคู่ซื้อลูกแก้วเสร็จและเดินออกมา โต้งจึงถามมิวว่า
“มิว.....ทำไมถึงได้ชอบอันนี้หละ เราว่าไม่ค่อยจะสวยเท่าไรเลย”
“เราว่ามันไม่สวยแต่ว่ามันก็น่ารักดีและมีคำที่มีความหมายอยู่ในนั้นด้วยนะ”
“อะไรอะ เราไม่ทันเห็น” โต้งทำท่างง
“ก็คำว่า TOGETHER ไงละโต้ง”
“อ๋อ......อืมความหมายดีจริงๆด้วย”
“ได้ของและ กลับบ้านกันเถอะโต้ง”
“อื้ม..............”




 

Create Date : 20 กุมภาพันธ์ 2552    
Last Update : 20 กุมภาพันธ์ 2552 21:40:20 น.
Counter : 341 Pageviews.  

รักแห่งสยาม - ฟิคเด็ก7

“นักเรียนทุกคน เดินเข้าชั้นเรียนอย่างเป็นระเบียบนะคะ” เสียงอาจารย์ประกาศผ่านไมค์บอกให้นักรียนเข้าชั้นเรียน ดังขึ้น นักเรียนทุกคนเริ่มเดินเป็นแถวไปเรื่อยๆ

มิวเริ่มเดินไปจนถึงห้องและเดินตรงไปยังโต๊ะของตัวเอง วันนี้มิวรู้สึกว่านักเรียนในห้องจะเยอะผิดปกติ สักพักจึงมีคุณครูเดินเข้ามา
“นักเรียนคะ วันนี้นักเรียนห้องข้างๆจะมาเรียนกับเราด้วย พอดีว่าคุณครูเค้าไม่ว่างน่ะคะ ยังไงก็ฝากเพื่อนๆด้วยนะ อ้อ....อีกอย่าง วันนี้คุณครูจะมาแนะนำคุณครูคนใหม่นะ ครูเขาจะมาสอนแทนครูหนึ่งวัน รอเดี๋ยว...ครูไปเรียกมาก่อน” คุณครูเดินไปหน้าห้องแล้วเดินกลับเข้ามาพร้อมกับคุณครูอีกคน
“แนะนำตัวเลยคะ ครู” คุณครูที่ปรึกษาบอก
“สวัสดีนักเรียนทุกคนนะครับ ครูชื่อ ชูเกียรติ นะครับ เรียกชื่อเล่นก็ได้ ครูชื่อมะเดี่ยวนะ ก็ไม่มีไรมากนะครับ..ก็อยากให้ตั้งใจเรียนละกันนะ” คุณครูมะเดี่ยวพูดแบบเขินๆ
“เอาละ รู้จักกันแล้วนะ ...เด็กๆที่มาจากอีกห้องนึงก็นั่งรวมกับเพื่อนๆไปนะ เดี๋ยวคุณครูต้องไปก่อน ฝากคุณครูเดี่ยวด้วยละกันนะคะ ขอบคุณคะ” คุณครูที่ปรึกษาบอกแล้วเดินออกไป
เด็กนักเรียนที่มาจากอีกห้องเดินไปที่ห้องเพื่อยกโต๊ะกับเก้าอี้มานั่ง ขณะที่มิวกำลังขยับโต๊ะเพื่อให้เพื่อนๆนั่ง ก็มีเสียงเด็กผู้ชายคนหนึ่งพูดว่า
“ขอนั่งด้วยคนนะ.....”
มิวหันกลับไปมองยังที่มาของเสียง
“อ้าว.....โต้ง” มิวงงที่เห็นโต้งมายืนตรงหน้า
“เดี๋ยวแป๊บนึง...ขยับโต๊ะให้” มิวบอก หลัวจากที่มิวขยับเสร็จ โต้งจึงเอาโต๊ะมาต่อ แล้วนั่งลง
“เอาละครับ นักเรียนทุกคน พร้อมรึยังครับ เดี๋ยวคุณครูจะถามชื่อทีละคนนะ ครูมะเดี่ยวบอกกับนักเรียนแล้วเริ่มถามทีละคน”
“เอาล่ะ ครูรู้จักทุกคนแล้วนะ...วันนี้ ครูย์ยังไม่สอนอะไรนะ แต่....ครูอยากให้ทุกคนเขียนเรียงความเกี่ยวกับสถานที่ที่อยากจะไป แล้วเอามาอ่านให้เพื่อนฟังหน้าห้องนะ ครูอยากจะรู้ว่าใครอยากจะไปไหน ครูให้เวลาหนึ่งชั่วโมงนะ “ครูมะเดี่ยวบอกกับนักเรียนแล้วเดินไปนั่งที่โต๊ะคุณครู

หนึ่งชั่วโมงผ่านไป.....
“เสร็จกันทุกคนนะ เดี๋ยวครูจะลองเลือกชื่อคนที่จะออกมาอ่านให้เพื่อนฟังหน้าห้อง อืม......คนไหนชื่อ วัยวิทย์ ออกมาอ่านให้เพื่อนฟังหน้าห้องเร็ว”
มิวลุกขึ้น “ผมเองครับ” ผมขานรับ แล้วเดินออกไปหน้าชั้นเรียน แล้วเริ่มอ่านเรียงความที่ตังเองแต่งขึ้น
“สวัสดีครับ ผม วัยวิทย์ วันนี้ผมจะมาอ่านเรียงความเกี่ยวสถานที่ที่ผมอยากไปครับ สถานที่ที่ผมอยากจะไปคือทะเลครับ ผมอยากจะไปทะเลเพราะทะเลสวยดี น้ำทะเลสีฟ้าครามตัดกับท้องฟ้า แสงแดดที่ส่องลงมาทำให้น้ำทะเลดูสวยยิ่งขึ้น หาดทรายขาวๆ เนื้อละเอียด ความเย็นจากลมที่พัดผ่านมา เสียงคลื่นที่ซัดเข้ามา มีความร่มรื่นจากต้นมะพร้าวที่ขึ้นอยู่ริมหาด ผมคงจะมีความสุขมากหากผมได้ไปเที่ยวทะเล ผมหวังว่าสักวันผมคงได้ไปครับ...ขอบคุณครับ”
“อ่า.....จบแล้ว ปรบมือให้เพื่อนหน่อยครับ”
มิวยิ้มแล้วเดินกลับเข้าไปนั่งที่โต๊ะ
“กริ๊งงงงงง...............”เสียงกริ่งบอกเวลาหมดชั่วโมงในคาบนี้
“พักสิบนาทีนะ แล้วเดี๋ยวครูจะเรียกคนต่อไปมาอ่านต่อ” ครูมะเดี่ยวบอกกับนักเรียน


“อยากไปทะเลหรอ” โต้งถามมิว
“อื้ม.....อยากไปมากเลย” แต่ไม่เคยไปหรอกนะ
“นั้น.......เสาร์นี้ไปเที่ยวทะเลกันมั้ยล่ะ”
“หา.......อะไรนะ”
“ก็ไปเที่ยวทะเลไง......ไปมั้ย เดี๋ยวชวนพี่แตงไปด้วย”
“แล้วไม่ชวนพ่อกับแม่นายไปด้วยหรอ”
“ไม่อ่ะ......พ่อกับแม่ทำงาน มิวก็ไปขออาม่าละกันนะ แล้วยังไงก็มาบอกเราด้วย”
“อื้ม....”ได้มิวบอกแล้วยิ้มให้โต้ง



ที่บ้านมิวตอนเย็น
“อาม่า......มิวขอไปเที่ยวทะเลกับโต้งได้มั้ยอ่ะ”
“เพื่อนจะไปกันยังไง” อาม่าถาม
“รถไฟ....”มิวตอบ
“ไปกันกี่คนล่ะ”
“สามคนอ่ะ”
“แล้วไปกันเอง...มันจะดีหรอ”
“น่านะ อาม่านะมิวขอไปนะ นะ นะ”
“ก็ได้.....เดี๋ยวม่าไม่ให้ไป เพื่อนก็จะมาโกรธม่าอีก”อาม่าบอกกับมิว มิวดีใจมากจึงเข้าไปกอดอ่ามา
“ขอบคุณครับ มิวรักม่าที่สุดในโลกเลย”
“ม่าก็เหมือนกัน” อ่ามาพูดแล้วลูบหัวมิว
หลังจากที่อาม่าอนุญาตแล้ว มิวจึงรีบวิ่งไปบอกกับโต้งที่บ้าน

“โต้ง โต้ง” มิวตะโกนเรียกโต้ง
โต้งเดินออกมาจากในบ้าน
“ไรหรอมิว”โต้งถาม
“อาม่าให้ไปแล้ว ดีใจมากเลย”
“เฮ้ย.....จริงดิ”
ขณะที่ทั้งสองกำลังดีใจที่จะไปทะเลกันอยู่พี่แตงก็เดินเข้ามาพอดี
“ดีใจอะไรกันยะ” แตงถาม
“ก็มิวไปขออาม่าไปทะเล แล้วอาม่าให้ไปอ่ะ”มิวบอก
“ทะเล.......ไปด้วย ไปด้วย ไปด้วย” แตงพูดเสียงดัง
“ก็จะชวนพี่แตงไปอยู่แล้วแหละ” โต้งบอก
“จ้า....นั้นเตรียมตัวกันยังอ่ะ แล้วขอพ่อกะแม่ยัง” แตงถาม
“ยังอ่”ะ โต้งบอก
“อ้าว.......ไม่เป็นไร เดี๋ยวพี่ขอเอง” แตงบอกกับโต้ง หลังจากนั้นทั้งสามคนจึงนั่งรอกรณ์กับสุนีย์จนกระทั่งทั้งสองกลับมา


“ปึ้ก!!”เสียงประตูรถปิด
“มาแล้ว มาแล้ว” แตงพูด
กรณ์กับสุนีย์เดินหิ้วของเข้ามาในบ้าน
“เด็กๆมาช่วยกันหิ้วของหน่อยเร็ว” สุนีย์พูด ทั้งสามคนจึงลุกมาช่วยหิ้วของ หลังจากเอาของเก็บแตงจึงเดินไปหากรณ์
“พ่อคะ คือว่า....”แตงอ้ำอึ้ง
“อะไรละลูก” กรณ์ถาม
“คือว่า......พวกหนูจะขอไปเที่ยวทะเลกันน่ะค่ะ ”
“พ่อว่าลองไปถามแม่ดูสิ พ่อยังไงก็ได้” กรณ์พูด แตงจึงวิ่งไปหาแม่
“แม่.....หนูขอไปเที่ยวทะเลได้มั้ยคะ” แตงพูดแล้วทำท่าหงอยๆ
สุนีย์มองหน้า
“ไปกันยังไง”
“รถไฟค่ะ” แตงเริ่มกลัวสุนีย์
“ไปวันไหน แล้วกลับกันตอนไหน”
“ก็ไปวันพรุ่งนี้แล้วก็กลับเย็นๆน่ะค่ะ” แต่งเริ่มกลัวสุนีย์มากขึ้น
“แล้วบอกพ่อเค้ารึยังละ”
“บอกแล้วค่ะ แต่พ่อบอกให้มาถามแม่”
สุนีย์มองไปทางกรณ์แล้วส่ายหัว กรณ์ซึ่งเห็นสุนีย์มองมาจึงแกล้งยิ้มกลับไป สุนีย์จึงเดินไปหากรณ์
“คุณนี่ ถ้าลูกไปแล้วไปเกิดอะไรเข้าจะว่ายังไงละคุณ” สุนีย์พูด
“เอาน่าคุณ ลูกมันก็โตโตกันแล้ว ไม่เป็นไรหรอกน่าคุณ” กรณ์บอก
สุนีย์เดินไปหาแตง
“แตง......ดูแลโต้งกับมิวดีๆล่ะ” สุนีย์บอกกับแตง เมื่อแตงได้ยินก็ดีใจมาก จึงเข้าไปกอดสุนีย์
“ขอบคุณค่ะแม่..........”
“เที่ยวดีๆนะลูกนะ” สุนีย์บอก
มิวซึ่งเห็นเหตุการณ์ก็อดยิ้มไม่ได้ เพราะเหตุการณ์แบบนี้พึงเกิดกับเขาเมื่อสักพักนี้เอง

หลังจากที่แตงขอไปเที่ยวกับสุนีย์ได้ ทั้งสามคนจึงวางแผนกันว่าจะไปกันยังไง เตรียมของอะไรไปบ้าง
“นายสองคนไปเตรียมเสื้อผ้าใส่ให้พอนะ ต้องลงเล่นน้ำทะเลด้วย แล้วก็ส่วนของกินอ่ะ เดี๋ยวพี่ซื้อเอง โอเคนะ
พรุ่งนี้เจอกันหน้าบ้านละกัน เจ็ดโมงห้ามสาย ใครสายอดไปนะเว้ย” แตงบอก
“ครับผ้ม....”โต้งกับมิวพูดพร้อมกัน



วันต่อมา
มิวตื่นแต่เช้า อาบน้ำแต่งตัว แล้วหยิบกระเป๋าสัมภาระที่เตรียมไว้ตั้งแต่เมื่อคืน เดินลงมา มิวค่อยๆปิดประตูบ้าน แล้วเดินออกมาเพื่อจะไปหาโต้งกับแตงที่บ้าน มิวเห็นแตงยืนอยู่หน้าบ้านแล้ว แต่ยังไม่เห็นโต้ง
“พี่แตง.....โต้งยังไม่เสร็จหรอ”
“ไม่รู้มัน.....จะไปรึป่าวเนี่ย” แตงบ่น
“มาแล้ว มาแล้ว” โต้งตะโกนบอก
“เร็วๆเลยไอ้ตูดหมา เดี๋ยวสาย” แตงพูด
หลังจากที่ทั้งสามตรวจดูสิ่งของครบแล้วจึงเริ่มออกเดินทางเพื่อไปสถานีรถไฟ


ที่สถานีรถไฟ
“ถึงแล้ว...............แล้วรู้ยังจะไปทะเลอะไรอ่ะ” แตงบอกแล้วทำหน้างงๆ
“อ้าว.....ลืมไปเลย ไม่ได้วางแผนกันเลยว่าจะไปทะเลอะไร” โต้งบอก
“เอางี้.......ไปหัวหิน จบ” แตงพูด
“รอนี่ เดี๋ยวไปซื้อตั๋วก่อน แตงบอกโต้งกับมิว หลังจากที่แตงซื้อตั๋วเสร็จทั้งสามคนจึงขึ้นรถไฟ
ตื่นเต้นจังเลยพี่แตง” มิวบอก
“ตื่นเต้นไรเจ้ามิว ไม่เคยนั่งรถไฟรึไง”
“อื้ม.....ไม่เคยนั่งรถไฟ แล้วก็ไม่เคยไปทะเลด้วย”
“โห....จริงดิ ไม่ได้แล้วนะ เดี๋ยวถ้าไปถึงนะ ฉันจะจับแกโยนทะเลเลยเจ้ามิว”
ทั้งสามพูดคุย แล้วหัวเราะกันอย่างสนุกสนาน


รถไฟเริ่มออก.......มิวเริ่มตื่นเต้น เขานั่งมองออกไปยังหน้าต่าง มิวสังเกตุเห็นว่ายิ่งรถไฟวิ่งออกจากตัวเมืองมากเท่าไร ตึกที่รายล้อมอยู่ค่อยๆลดน้อยลงๆ จนในที่สุดก็เหลือแต่ธรรมชาติ มิวเปิดหน้าต่างรถไฟ ลมที่พัดผ่านมา ทำให้รู้สึกเย็นสบาย ต่นไม้สองข้างทาง ทำให้รู้สึกสดชื่น ท้องฟ้าที่ตัดกับทุ่งหญ้า เมื่อมองแล้วทำให้รู้สึกสบายตา มิวไม่เคยรู้สึกสดชื่นแบบนี้มาก่อน อาจเพราะเขาอยู่ในเมือง ที่มีแต่มลพิษ เสียงรถ กลิ่นควัน มันจึงทำให้มิวรู้สึกแตกต่าง เมื่อมิวหันกลับมาเพื่อจะคุยกับแตงและโต้ง ทั้งสองก็ผลอยหลับไปเสียแล้ว....



“พี่แตง โต้ง ใกล้ถึงแล้ว” มิวเอามือไปเข่ยาตัวของทั้งสองคน โต้งกับแตงงัวเงียตื่นขึ้นมา
“ใกล้ถึงแล้วหรอ” พี่แตงพูดแบบงงๆ
“อื้ม....จะถึงแล้ว”
“แล้วรู้ได้ไง....ไม่เคยมาไม่ใช่หรอ” แตงถาม
“ก็เห็นทะเลอ่ะ”
“อื้มๆๆ เตรียมตัวลงได้แล้ว” แตงบอก
ในที่สุดรถไฟก็จอดที่สถานีหัวหิน ทั้งสามก้าวลงมาจากรถไฟ
“ไปหาซื้ออะไรกินกันก่อนป่าว” แตงถามโต้งกับมิว
“ไปสิ หิวแล้ว” โต้งบอก
ทั้งสามคนเริ่มเดินหาร้านอาหารจนได้ร้านที่พอใจ หลังจากนั้นจึงเริ่มลงมือกิน

“เอิ๊ก......”เสียงโต้งเรอ
“ไอ้โต้ง.......ไอ้บ้า น่าเกลียดจริงๆ เรอเสียงดัง” แตงพูดแล้วทำปากเบะๆ
“จะให้เรอทางตูดเรอะไง” โต้งบอกแบบติดตลก
“อี๋.....ไอตูดหมา” แตงพูดแล้วทำหน้าขยะแขยง
เมื่อทั้งสามคนกินข้าวเสร็จจึงรีบวิ่งไปที่ทะเล ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากร้านอาหารมากนัก
“ทะเลลลลลลลล......”แตงตะโกนลากเสียงยาว
โต้งจับมือมิววิ่งลงทะเล
“มาเร็วมิว สนุกดีนะ” โต้งบอกกับมิว
“อ้าว ไอ้สองตัวนี่ไม่รอฉันเลยนะ รอด้วยยยย....”แตงตะโกน
ทั้งสามคนเล่นน้ำทะเลกันอย่างสนุกสนาน แตงวักน้ำทะเลใส่โต้งกับมิว
“โห....เล่นงี้หรอ ได้ ได้” โต้งพูดแล้ววักน้ำใส่แตงบ้าง มิวก็ช่วยโต้งอีกแรง
“พอก่อนไปนั่งพักที่หาดแป๊บนึง” แตงบอกแล้วค่อยๆเดินขึ้นหาด
โต้งกับมิวยังคงเล่นน้ำกันอยู่
“สนุกมั้ยมิว” โต้งถาม
“สนุกดี แต่มันเค็มจัง เข้าตาก็แสบด้วย”
“ก็ทะเลนี่นา....”โต้งพูด

เวลาผ่านไปเรื่อยๆ แต่ทั้งสองคนก็ยังสนุกกับการเล่นน้ำอยู่ จนกระทั่ง
“โต้ง มิว ขึ้นได้แล้ว บ่ายแล้ว” แตงตะโกนเรียก
โต้งกับมิวได้ยินแตงเรียกจึงเดินขึ้นมา
“ไปอาบน้ำไป ดูสิ เล่นกันจนดำหมดเลย” แตงบอก
โต้งกับมิวเดินไปเปิดกระเป๋าหยิบผ้าขนหนู และชุดใหม่ เพื่อไปอาบน้ำที่ห้องน้ำริมหาด
หลังจากที่อาบน้ำเสร็จ แตงก็ชวนโต้งกับมิวเดินซื้อของ
“พี่แตงเดี๋ยวโต้งมานะ จะซื้อของฝากอ่ะ” โต้งบอก
“แล้วทำไมไม่เดินไปพร้อมกันอ่ะ” แตงถาม
“เอาน่า เดี๋ยวมาละกัน มิวอยู่กับพี่แตงนะ เดี๋ยวเรามา” โต้งบอกแล้วเดินออกไป
“อะไรของมัน.....ปล่อยมัน ไปมิว ไปหาไรกินกันดีกว่า” แตงพูด

แตงกับมิวเดินซื้อของกินมานั่งกินกันที่ริมหาด
“เดี๋ยวสักพักก็กลับแล้วนะมิว” แตงบอกกับมิว
“ครับพี่แตง”
ขณะที่แตงกับมิวนั่งเล่นกันริมหาดโต้งก็กลับมาพอดี
“ไปไหนมาเจ้าโต้ง” แตงถาม
“ซื้อของไง”
“ของอะไร.....ไหนดูหน่อย”
“ไม่เอา....ห้ามดูนะ”
“โธ่........ไม่ดูก็ได้ ชิ” แตงแหย่
“เอ้อ.....ทั้งสองคนเตรียมตัวกลับกันได้แล้ว จะเย็นแล้ว เดี๋ยวถึงบ้านมืด” แตงบอกโต้งกับมิว ทั้งสามคนเก็บของเพื่อเตรียมตัวกลับ
มิวหันหลังมามองทะเลอีกครั้ง ก่อนที่เขาจะกลับ เขาพยายามจดจำทุกอย่างเกี่ยวกับที่นี่ เพื่อหวังว่าสักวัน.....เขาจะกลับมา

“ไป.....เริ่มออกเดินทางได้ กลับสู่บ้านอันเป็นที่รัก” แตงพูด ทั้งสามคนเดินไปที่สถานีเพื่อซื้อตั๋วรถไฟ หลังจากได้ตั๋วแล้วพวกเขาจึงนั่งรอรถไฟ

รถไฟเทียบชานชาลาแล้ว.....ทั้งสามคนก้าวขึ้นรถไฟ มิวยังคงหันหลังกลับมามองอีกครั้ง

เมื่อรถไฟออก......แตง โต้ง มิว ก็ผลอยหลับไปด้วยความเพลียจากการเล่นน้ำทะเล
แตงมาสะดุ้งตื่นอีกครั้งตอนที่เจ้าหน้าที่สถานีประกาศ แตงจึงปลุกโต้งกับมิว
“เฮ้ย......ตื่นๆๆๆ ถึงแล้ว”
ทั้งสองคนงัวเงีย แล้วค่อยๆลุกขึ้นหยิบกระเป๋าสะพายแล้วเดินตามกันลงไป



ที่หน้าบ้านมิว
“มิวฝันดีนะ พี่เข้าบ้านก่อน ง่วงมากเลย” แตงบอกกับมิวแล้วเดินเข้าบ้านไป
“ฝันดีครับพี่แตง” มิวบอก
“ฝันดีนะมิว.....แล้วพรุ่งนี้เจอกัน” โต้งบอกมิว
“อื้ม.....เหมือนกันนะโต้งฝันดี” มิวพูดเสร็จแล้วกำลังจะเดินเข้าบ้าน
“เดี๋ยวๆๆมิว” โต้งเรียกมิว
“มีไรหรอโต้ง”
“อืม......คือว่า”
“ไรหรอ...มิวถามย้ำ”
“อ่ะนี่...........เราให้ “โต้งพูดพร้อมยื่นถุงกระดาษให้
“อะไรอ่ะ” มิวรับมาแล้วทำหน้างงๆ
“เอาน่าลองเปิดดู”
มิวลองเปิดดูในถงกระดาษ เขาเห็นแก้วใสๆกลมๆ จึงหยิบขึ้นมาดู
มันเป็นลูกแก้วกลมๆข้างในมีรูปทะเล ต้นมะพร้าว เปลือกหอย เมื่อพลิกไปมาจะมีกากเพชรระยิบระยับ
“สวยจังเลย...โต้ง”
“เราซื้อมาให้ เห็นว่าชอบทะเลมากนี่”
“แพงมั้ยอ่ะ”
“ไม่หรอก ชอบมั้ยอ่ะ”
“ชอบมากเลยหล่ะ”
“อื้ม.....ดีใจที่มิวชอบนะ”
“ขอบคุณนะ”
“ไม่เป็นไรหรอก........เราไปและ ฝันดีนะมิว” โต้งบอกมิวแล้วเดินไปที่บ้านกำลังจะเปิดประตู
“โต้ง.......” มิวตะโกน

“ขอบคุณนะ......ขอบคุณโต้งมากๆนะ”

โต้งพยักหน้าแล้วยิ้มให้ก่อนที่จะเดินเข้าบ้านไป...........


มิวเดินเข้าบ้านแล้วค่อยๆปิดประตู เมื่อมิวเดินไปถึงห้องเขาค่อยๆล้มตัวลงนอน และมองลูกแก้วที่โต้งให้มา
“สวยจัง....”มิวคิดในใจ เขานอนมองอยู่อย่างนั้นจนค่อยๆหลับไป......


เช้าวันต่อมา

“ว่าไงเพื่อน สนุกมั้ยละ” อาม่าถามมิวซึ่งกำลังเดินลงมา
“สนุกมากเลยอาม่า ทะเลสวยมากๆเลย” มิวตอบแล้วเดินมานั่งข้างๆอาม่า
“หิวข้าวรึยังล่ะเพื่อน ไปหาอะไรกินก่อนไป” อาม่าบอกกับมิว
มิวพยักหน้าแล้วลุกขึ้นเดินตรงไปยังห้องครัว

หลังจากที่มิวกินข้าวเสร็จเขาจึงออกมาเดินเล่นข้างนอกบ้าน พอดีกับที่โต้งกำลังเดินออกมา
“มิว....หลับสบายมั้ยเมื่อคืน” โต้งตะโกนถาม พร้อมกับเดินเข้ามาหามิว
“ก็ดีนะ สงสัยจะเพลียน่ะ เลยหลับไป ไม่รู้ว่าหลับไปตอนไหนเหมือนกัน”
“เราก็เหมือนกัน..นี่พี่แตงยังไม่ตื่นเลยนะเนี่ย” โต้งพูด
ผัวะ!!!....
“โอ้ย ใครตบหัวเนี่ย” โต้งพูดพร้อมเอามือลูบหัว
“พี่แกเอง ไอ้นี่เผานะ” แตงพูด
“มาตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย”
“ก็ตั้งแต่แกบอกว่าชั้นนอนยังไม่ตื่นนั่นแหละ”
มิวอดที่จะขำไม่ได้ที่โต้งโดนแตงตบหัว
“ขำไรมิว เจ็บนะเนี่ย” โต้งหันมามองค้อนใส่
“ขอโทษ แต่มันอดไม่ได้นี่นา” มิวพูดแล้วอมยิ้ม
“เอ้อนี่....ลืมไปเลย วันนี้แกทั้งสองคนว่างมั้ยเนี่ย” แตงถามโต้งกับมิว
“ก็ว่างครับพี่แตง...มีไรหรอ” มิวตอบกลับไป
“ก็ว่าจะชวนแกสองคนไปสยามหน่อยไปเป็นเพื่อนกัน พี่จะไปซื้อของ”
“ได้ครับ โต้งละไปมั้ย มิวหันไปถามโต้ง”
“ได้ แต่ต้องเลี้ยงไอติมนะ อยากกินมากเลย” โต้งบอก
“ไอ้นี่ ห่วงกินนะ โอเค ได้ๆ ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนไปทั้งสองคนเลย แล้วเจอกันที่เดิม”
ทั้งสามคนแยกย้ายไปเปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วจึงรวมตัวกันที่หน้าบ้านของโต้ง


ที่สยาม...
“คนเยอะจังพี่แตง” มิวบอกกับแตง
“อื้ม.....เดี๋ยวไปซื้อของก่อนแล้วค่อยไปกินไอติมกัน” แตงพูดแล้วเดินนำโต้งกับมิวไป ทั้งสองคนจึงเดินตามแตง
หลังจากที่แตงซื้อของเสร็จเรียบร้อยจึงพาโต้งกับมิวไปกินไอสครีม...
“อ่ะ....โต้ง มิว จะกินอะไร สั่งเลย” แตงบอก
“ขอ วานิลลา ซันเดย์ ละกัน แล้วมิวอ่ะ” โต้งพูด
“เอาเหมือนกันดีกว่า ไม่รู้จะกินอะไร”
“นั้น...กินถ้วยเดียวกันแต่สั่งถ้วยใหญ่เลยมั้ยล่ะ”
“ก็ได้” มิวตอบ
“อื้ม ...นั้นพี่สั่งเลยนะ” แตงบอกแล้วหันไปสั่งไอสครีมกับพนักงานในร้าน
ไม่นาน...พนักงานก็นำไอสครีมมาเสิร์ฟ ทั้งสามจึงเริ่มลงมือกินไอสครีม
“พี่แตง.....วันนี้ไปดูหนังกันมั้ยอ่ะ” โต้งพูดขึ้นมา
“หนังเรื่องไร....ไม่เห็นมีไรน่าดูเลย” แตงพูดพร้อมขมวดคิ้ว
“อื้ม......คนเห็นผีมั้ย” โต้งเสอความคิด
“เออ.....น่าดู นั้นเดี๋ยวกินเสร็จไปดูกัน”
หลังจากที่กินไอสครีมเสร็จ แตงจึงเรียกพนักงานในร้านมาเก็บเงิน แล้วเดินออกจากร้านพร้อมโต้งกับมิวตรงไปยังโรงภาพยนตร์
“ทำไมคนมันเยอะจังเลย” โต้งพูด
“วันอาทิตย์นี่ยะ ไปเหอะซื้อตั๋วก่อน เอาแถวไหน” แตงหันมาถาม
“ขอแถวเอละกัน ได้มองเห็นชัดๆ” โต้งบอกกับแตง แตงจึงเดินไปซื้อตั๋ว
สักพักแตงก็กลับมา
“ได้และ เตรียมเข้าได้เลย จะซื้อป๊อปคอร์นมั้ย เอาน้ำด้วยป่าว” แตงถาม
“เอาๆๆๆ” โต้งบอก
แตงจึงเดินไปอีกรอบเพื่อซื้อป๊อปคอร์นและน้ำ
“เอาไป.....เร็วเขาเริ่มเข้ากันแล้ว” แตงเร่ง
ทั้งสามคนค่อยๆเดินเข้าไปในโรงภาพยนตร์แล้วมองหาที่นั่งของตัวเอง
“เจอแล้วพี่แตง สามตัวนี้แหละ” มิวบอกกับแตง ทั้งสามคนจึงนั่งลง
ต่อจากนั้นไม่นาน ไฟในโรงภาพยนตร์ค่อยๆดับลง เหลือเพียงแต่ความมืด มีหนังตัวอย่างหลายเรื่อง
แต่ทั้งสามคนใจจดใจจ่อกับการดูหนังเรื่อง คนเห็นผี มากกว่า
ในที่สุด......หนังก็เริ่ม
ทั้งสามคนนั่งดูกันอย่างเงียบๆ หลังจากนั้นก็เริ่มเขยิบใกล้กันมากขึ้น แตงถือป๊อปคอร์นไว้ในมือแน่น
มิวมองซ้ายมองขวา ที่นั่งต่อจากเขาไม่มีใครนั่ง ต่อมิวเริ่มเบียดโต้ง แตงก็เริ่มเบียดเหมือนกัน หนังยังคงฉายต่อไปเรื่อยๆจนกระทั้งถึงฉากที่ผีโผล่ออกมา..
“กรี๊ดดดดดดดดดดดดด............”แตงร้องสุดเสียง ป๊อปคอร์นที่อยู่ในมือหกกระจายเต็มไปหมด โต้งกับมิวซึ่งนั่งอยู่ข้างๆ บนหน้าของทั้งคู่เต็มไปด้วยป๊อปคอร์น ทั้งคู่หันมามองแตงด้วยสภาพป๊อปคอร์นเต็มตัว
“พี่แตง.....เป็นไรมากป่าวเนี่ย” โต้งกระซิบ
“ขอโทษ.....ก็มันกลัวอ่ะ” แตงตอบกลับ
โต้งกับมิวค่อยๆปัดป๊อปคอร์นที่อยู่บนตัว แล้วจึงหันไปดูหนังต่อ…
ไม่นาน.....หนังก็จบลง ในโรงภาพยนตร์เริ่มสว่างขึ้น ทั้งสามคนค่อยๆลุกและเดินออกจากโรงภาพยนตร์
“เฮ่อ....น่ากลัวมาก ป๊อปคอร์นช่วยชีวิตจริงๆ” แตงบ่น
“ใช่.....ช่วยชีวิตพี่นะ แต่ดูสภาพดิ” โต้งพูด
“ขอโทษ.......น่ะน่ะ ไปๆกลับบ้านกันดีกว่า จะค่ำแล้ว” แตงชวนโต้งกับมิวกลับบ้าน

ที่บ้านโต้ง
“แล้วเจอกันนะมิว” แตงบอกกับมิว
“ครับ”
“นั้น...เดี๋ยวเราเข้าบ้านก่อนนะ รีบนอน พรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้า” มิวบอกโต้ง
“อื้ม....เหมือนกัน เจอกันพรุ่งนี้นะมิว.
“อื้ม.. ไว้เจอกัน มิวบอกกับโต้ง” แล้วเดินเข้าบ้านไป
มิวรีบอาบน้ำ กำลังจะเข้านอน แต่หนังที่ดูเมื่อตอนกลางวันทำให้เกิดอาการหลอน มิวจึงไม่กล้าปิดไฟนอน เมื่อมองไปทางห้องของโต้งกับแตง ไฟในห้องของทั้งสองคนยังเปิดอยู่ แต่ปกติเวลานี้ทั้งคู่จะนอนและปิดไฟไปแล้ว
มิวพอจะคิดได้จึงยิ้มทั้งๆที่ยังกลัวอยู่
“สงสัยจะเป็นเหมือนกันแฮะ....”มิวคิด
ความกลัวกลับมาอีกครั้ง มิวรีบวิ่งขึ้นเตียงแล้วล้มตัวนอนพร้อมคลุมโปง จนถึงเช้า..........




 

Create Date : 20 กุมภาพันธ์ 2552    
Last Update : 20 กุมภาพันธ์ 2552 21:38:46 น.
Counter : 270 Pageviews.  

รักแห่งสยาม - ฟิคเด็ก5(สั้นๆ)

มิว มิว ตื่นได้แล้วนะ สายแล้ว” โต้งนั่งข้างๆมิวซึ่งกำลังหลับอย่างได้ที่
“อ้าว โต้ง ขึ้นมาได้ยังไงเนี่ย” มิวงัวเงียลุกขึ้นมานั่ง
“ก็ป้าอรเปิดประตูให้อ่ะ” โต้งบอก
“แล้ว.....ทำไมมาปลุกเรายั้นบนนี้เลยอ่ะ”
“ก็วันนี้ไม่มีใครอยู่อ่ะ.....ก็ที่บอกเมื่อคืนไง พ่อแม่กะพี่แตงไปต่างจังหวัดกันน่ะ”
“อืม.....นี่สงสัยว่าอาม่าก็คงจะไปแล้วเหมือนกันละสิ นั้นเดี๋ยวเราไปอาบน้ำแป๊บนึงละกัน” มิวบอกกับโต้งแล้วลุกจากที่นอนเดินตรงไปเข้าห้องน้ำ


“หิวข้าวจังไม่รู้ว่าป้าอรทำกับข้าวไว้รึปล่าว” มิวพูดขึ้นมาลอยๆ
“โต้งนายหิวยัง ลงไปหาอะไรกินกันดีกว่า” มิวชวนโต้ง
“เอาสิ เราก็เริ่มหิวแล้วเหมือนกัน”
ทั้งสองเดินลงมาข้างล่างแล้วตรงเข้าไปในห้องครัว มิวหยิบฝาชีขึ้น......มีแต่ความว่างเปล่า
“ฮึ้ย.....ไม่มีอะไรเลย” มิวอุทาน
“แล้วจะกินอะไรละเนี่ย” มิวพูดพร้อมเกาหัว
“เอางี้สิ.....ลองไปดูในตู้เย็น ว่ามีอะไรบ้าง ได้มาทำกินกัน” โต้งเสนอความคิด
“กินได้รึปล่าวถ้านายทำอ่ะ” มิวพูด
“ได้สิ....อย่าดูถูก โต้งซะอย่าง” มาเลยลองเปิดดู
มิวกับโต้งเดินไปที่ตู้เย็นเพื่อหาอะไรพอที่จะทำกินได้
“มีไข่.......อย่างเดียวเลย” มิวพูด
“มีไข่ก็ทำได้”โต้งพูดแล้วหยิบไข่ออกมาสองใบ
“จะกินไข่อะไรดีละ เดี๋ยวกุ๊กทำให้”
“อืม......เอาไข่เจียวแล้วกัน” มิวบอก
“นั้นไปตักข้าวรอไว้เลย.....ทอดเสร็จจะได้โปะข้าวเลย” โต้งบอก
“ได้ๆๆ” มิวบอกแล้วเดินไปตักข้าวใส่จานสองจานแล้วมาวางบนโต๊ะรอโต้งทอดไข่เสร็จ
โต้งเริ่มเต๊าะไข่ใส่ถ้วย ใส่นู่นใส่นี่ไปเรื่อยเปื่อย จากนั้นจึงเริ่มตีไข่
“เป็นไง แป๊บเดียวก็จะกินได้แล้ว”
.คร๊าบผม เก่งจริงๆ.....รีบๆตั้งน้ำมันสิ หิวจะตายอยู่แล้ว”
โต้งเริ่มตั้งกระทะใส่น้ำมัน จากนั้นลีลาพ่อครัวของโต้งก็เริ่มออก โต้งส่ายกระทะไปมา เพื่อจะให้มิวหัวเราะ แต่มันกลับตรงกันข้าม มิวนั่งเงียบ แล้วพูดขึ้นมา
“หิว.....จะ.....ตาย....อยู่.....แล้ว”
“ครับ ครับ เสร็จแล้วครับ” โต้งบอกพร้อมตักไข่ขึ้นมาให้สะเด็ดน้ำมัน จากนั้นก็ค่อยๆวางบนข้าวสวย
“หูย......น่ากินจัง ต้องลองชิมแล้วสิว่าจะอร่อยแค่ไหน” มิวบอก
“เดี๋ยวเก็บกระทะก่อนแล้วค่อยกินพร้อมกัน” โต้งบอกแล้วเดินไปเก็บข้าวของที่เขาทำเอาไว้ หลังจากนั้นจึงเดินมานั่ง เพื่อที่จะกินข้าวไข่เจียวกับมิว

“เดชะพระนาม พระบิดา และพระบุตร และพระจิต อาเมน.....พระสวามีเจ้าข้า โปรดอวรพรแก่ข้าพเจ้าและอาหารมื้อที่จะรับประทานนี้ เดชะพระนาม พระบิดา และพระบุตร และพระจิต อาเมน....”โต้งท่องบทสวดที่เขาต้องทำเป็นประจำ หลังจากนั้นจึงเริ่มลงมือกินข้าว
มิวเริ่มตักข้าวพร้อมไข่เจียวเข้าปาก....
“กร๊อบ........”เสียงแปลกๆดังขึ้นมาจากในปากของมิว แต่โต้งไม่ได้ยิน
มิวหยุดเคี้ยว แล้วพูดกับโต้ง
“โต้ง......ถามอะไรหน่อยสิ”
“อะไรหรอ.....จะถามว่าทำไมเราถึงทอดไข่ได้อร่อยขนาดนี้ใช่ม๊า...”
“ป่าว.....เราอยากจะถามว่า…..”มิวพูดแล้วก็หยุดชะงัก โต้งสงสัยจึงถามกลับไป
“ทำไมหรอ มีอะไรรึป่าว...”
“เราอยากจะถามว่า....การทอดไข่ให้อร่อยต้องใส่เปลือกไข่ด้วยหรอ”
“จริงหรอ....มีเปลือกไข่ด้วยหรอ”
“อืม.....กัดดังกร๊อบเลยละ”
“แล้วเอาไง.....จะให้ทอดใหม่มั้ยละ”
“ไม่ต้องหรอก....เรากินได้ แค่อยากจะรู้เท่านั้นเอง ว่าใส่เปลือกแล้วอร่อยรึไง” มิวพูดพร้อมพยายามจะกระเดือกข้าวลงคอ
“ทรมานเนอะ” โต้งแซว
“ไม่หรอก แต่ขอน้ำให้เราหน่อยได้มั้ย..”มิวพูดแบบตะกุกตะกักแล้วเริ่มไอ
“ได้ๆๆเป็นไรอ่ะมิว” ทำไมเป็นแบบนั้นละ

“เปลือกไข่ติดคอ เร็วๆไปเอาน้ำมา แค่กๆๆๆ.........”




 

Create Date : 20 กุมภาพันธ์ 2552    
Last Update : 20 กุมภาพันธ์ 2552 21:36:19 น.
Counter : 344 Pageviews.  

1  2  
 
 

nynatinlove
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]


ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




[Add nynatinlove's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com