|
| 1 | 2 |
3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 |
10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 |
17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 |
24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 |
31 | |
|
|
|
|
|
|
|
ครบรอบ 8 ปีแล้วที่มาอยู่ที่นี่ (ลอกเลียนจากกระทู้ของคุณดอส)
พอดีเห็นกระทู้ของคุณดอสเล่าเกี่ยวกับประสบการณ์ชีวิตฉลองครบรอบ 6 ปีตั้งแต่มาอยู่ที่นี่ ก็เลยทำให้คิดถึง my journey ของตัวเองตั้งแต่ย้ายมาอยู่ที่นี่เลยอยากแชร์กับผู้อ่าน
แรก ๆ ที่มารู้สึกอยู่ตลอดเวลาว่าตัวเองตัดสินใจผิดที่ย้ายมาอยู่ที่นี่ แต่พอดีตัวเองเป็นคนที่เมื่อเดินหน้าแล้วจะพยายามไม่เดินถอยหลัง ก็เลยตัดสินใจเดินหน้าต่อไป
เริ่มต้นไม่ค่อยสวยนัก เคยทำงานออฟฟิสอยู่ดี ๆ ต้องมาทำสวนบ้าง ทำความสะอาดบ้านบ้าง พยายามหางานออฟฟิสทำก็ไม่ค่อยจะได้เพราะภาษายังไม่ค่อยดีนัก
อยู่มาสองปีไปสมัครเรียนต่อ graduate diploma ทางด้านบัญชี เรียนสองปีจบมาก็ยังหางานประจำทำไม่ค่อยได้ เดินเตะฝุ่นหางานประมาณ 2-3 เดือนหลังจากจบมาก็ได้งานแรกเป็น temp ทำเกี่ยวกับบัญชี สมัครผ่าน agency ทำได้ 2 อาทิตย์ก็หมดสัญญา ว่างไปอีกประมาณ 2 อาทิตย์ก็ได้งานถัดมาในเมือง ทำอยู่ประมาณ 5 อาทิตย์ได้ก็สัญญาหมดอีก ก็ว่างอีกแต่ก็ว่างไม่นานเพราะ agency ส่งงานมาให้เรื่อย ๆ ระหว่างนั้นก็ยังคงพยายามหางานประจำแต่ก็ด้วยอายุที่มากขึ้นแต่ประสบการณ์ทางด้านบัญชียังน้อยก็เลยหาไม่ค่อยได้ ก็ทำ temp อยู่ได้เกือบสองปี (จริง ๆ ก็เริ่มชอบงาน temp แล้วหล่ะเพราะรู้สึกมันอิสระดี) ก็มาได้งานประจำที่หน่วยงานของ state government แห่งหนึ่งในเมือง ตอนนี้ทำมาได้ปีครึ่งแล้วค่ะ
ตอนไปเริ่มงานที่นี่ก็เริ่มจาก temp เนี่ยแหล่ะ ทำได้ 3 เดือนก็พอดีเค้ารับสมัครงานในแผนกที่ทำอยู่ก็เลยลองดู ปรากฏว่า...........
ไม่ได้ เหตุผล ถึงแม้เราจะมีประสบการณ์ตรงตำแหน่งที่ทำอยู่แล้วก็จริง แต่คนที่ได้เค้าประสบการณ์เลอเลิศกว่าค่ะ แต่เค้าก็ยังพูดปลอบใจนะคะว่า เรามาที่สอง ถ้าไม่มี she คนนั้น เราก็ได้ไปแล้น ก็ไม่เป็นไร ทำใจแล้วแหล่ะ คือชินแล้ว อาทิตย์ถัดมาเค้ามาเรียกเราไปคุย เราก็อื๋ม..... what's going on เค้าก็เริ่มต้นด้วยการถามเราว่ายังสนใจงานนั้นอยู่เป่า เราก็ในใจก็ เออ สนแล้วจะให้เป่า ปากก็ตอบว่าสนค่ะ เฮียก็บอกคนที่ได้เราสละสิทธิ์เพราะตอนที่เธอไปลาออกจากบริษัทที่เธอทำอยู่ เค้าไม่ให้แถมเสนอเงินเพิ่มให้ เธอก็เลยสละสิทธิ์ไป เราก็ bingo ลาภลอย ตอนรับแทบไม่ทัน
ทีนี้ก็มาเรื่องเงินเดือน เฮียก็ถามเราว่าจะเรียกเท่าไหร่ ต้องขออธิบายนิดนึงค่ะ รัฐบาลที่นี่ก็เหมือนรัฐบาลไทยในด้านการจ่ายเงินเดือนคือให้เป็นระดับไป อย่างของเรา grade 3 range เงินเดือนตอนนั้นประมาณ 48000 - 57000 เราคิดเองว่าถ้าเราได้ประมาณ 48000 นี่ก็หรูแล้ว ไม่ได้คิดเรียกอะไรมากมายเพราะเจียมตน รู้ตัวดีว่าได้แค่ไหน ก็ตอบเค้าไปว่า
"I accept what ever level that you think it suit my performance".
เค้าก็ โอเค เค้าพอมีไอเดียแล้วแหล่ะว่าเงินเดือนเราควรจะแค่ไหน
สองวันถัดมาได้รับเอกสารสัญญาว่าจ้างงานพร้อมกับจดหมายที่พูดถึงรายละเอียดก็การว่าจ้าง ปรากฏว่าเงินเดือนที่เค้าเสนอให้ 50+++ ค่ะ แทบไม่เชื่อสายตา ต้องดูใหม่ให้แน่ใจ กลัวดูผิด รู้สึกว่าเรานี่ก็โอเคเหมือนกันนะเนี่ย
เมื่อเร็ว ๆ นี้ทาง department เค้ามีประเมินผล หัวหน้าเราบอกว่า เรา qualified ที่จะได้เลื่อนขั้นไประดับถัดไป ซึ่งแน่นอนว่านั่นก็หมายถึงเงินเดือนเราเพิ่มขึ้นด้วย
บ่อยครั้งที่รู้สึกภูมิใจกับตัวเองเหมือนกัน ต้องขอออกตัวก่อนนะคะว่าตัวเองไม่ได้เป็นคนเก่งเลิศเลออะไร คิดว่ามาจากความขยัน ไม่ยอมแพ้ อย่างที่ฝรั่งเค้ามีสำนวนว่า "don't take NO as an answer"
ขอฝากกับทุกคนที่กำลังเดินอยู่บนเส้นทางเดียวกัน คุณท้อได้ แท้ได้ แต่อย่าให้นาน ลุกขึ้นมาเผชิญหน้ากับมันใหม่ อย่ารอให้โอกาสวิ่งเข้าหาคุณ คุณต้องเป็นฝ่ายวิ่งเข้าหาโอกาสนะคะ
Create Date : 18 สิงหาคม 2551 |
|
2 comments |
Last Update : 18 สิงหาคม 2551 18:08:14 น. |
Counter : 2607 Pageviews. |
|
 |
|
|
| |
โดย: ดอส 3 กันยายน 2551 7:35:02 น. |
|
|
|
|
|
|
|
Location :
กรุงเทพ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]

|
Hi all, I live in Melbourne, am a PR here living here for 6 years already. I'm pretty lonely and need a lot of friends to talk to. Anybody at all is welcome to be my friends. Cheers.
|
|
|
|
| |
|
|
โอกาสขึ้นอยู่กับการแสวงหานะคะ และดีใจกับ จขบ ที่ได้รับโอกาสดี ๆ นั้นด้วยค่ะ