|
|
|
|
|
|
วันนี้มีเพลงมาฟากครับ
พอดีฟังเพลงนี้แล้วคิดถึงแฟน เลยเอาเนื้อเพลงมาฝากครับ
เพลง วอนฟ้าห่มดาว วอนสาวห่มใจ ศิลปิน หนูมิเตอร์
มีความรักจริงใจมาให้ จากคนบ้านไกล...อย่าได้ตัดรอน เอาดวงใจไว้เคียงข้างหมอน เมื่อยามหลับนอน...วอนน้องพี่ห่วงใย
จำคืนวันนั้นได้ไหมเล่า เคยมีสองเรา...นั่งอิงผิงไฟ เรายังคงรักกันสดใส ถึงตัวอยู่ไกลหัวใจไม่ห่างกัน
วอนฟ้าที่ห่มดาว วอนสาวอย่าได้เปลี่ยนใจ พี่นี้ยังห่วงใย หวั่นใจชายใดเกี่ยวพัน
วันเวลาแม้ฟ้าเปลี่ยนสี ไม่ทำให้ใจของพี่เปลี่ยนผัน คำวาจาสัญญาคงมั่น ซื่อตรงต่อกันรักมั่นเพียงเธอ รอจนรอถึงวันร่วมสร้าง คอยวันร่วมทางเคียงข้างเสมอ ใจดวงเดียวรักจริงแต่เธอ ไม่ยอมให้เผลอ..เผลอใจแบ่งปัน
วอนฟ้าที่ห่มดาว วอนสาวอย่าได้เปลี่ยนใจ พี่นี้ยังห่วงใย...หวั่นใจชายใดเกี่ยวพัน
วอนฟ้าที่ห่มดาว วอนสาวอย่าได้เปลี่ยนใจ พี่นี้ยังห่วงใย หวั่นใจชายใดเกี่ยวพัน คิดถึงจนเพ้อฝัน คอยวันให้สาวห่มใจ เก็บรักในอกไว้ อุ่นใจพี่ชายยามกลับมา...
ลองไปหาฟังดูน่ะครับ แล้วจะชอบ
Create Date : 11 เมษายน 2550 | | |
Last Update : 11 เมษายน 2550 12:11:47 น. |
Counter : 401 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
เข้าสู่วัยมัธยม
กลับมาอีกแล้วครับ ก่อนอื่นตั้งจิตนึกถึงพ่อถึงแม่ก่อน เอาล่ะมาว่ากันต่อ หลังจากที่ได้โควต้าได้เรียนที่รร.บางปะกอกวิทยาคม รร.นี้ก็ถือเป็นจุดเปลี่ยนนึงของชีวิต ได้เพื่อนที่ดีที่สุดในชีวิตก็จากที่นี่ ผมเลือกเรียนคณิต-อังกฤษ แต่ด้วยความขี้เกียจเพราะที่นี่เราได้เพื่อนที่ดีก็เลยสนุกจนไม่สนใจเรียนเท่าไหร่ พอเริ่มเรียนที่นี่ชีวิตก็ต้องเริ่มเปลี่ยนแปลง
เช้าขึ้นตื่นประมาณตี 4ครึ่ง รีบขึ้นมาหุงข้าวล้างจานรอไว้ เสร็จแล้วก็ลงไปซักผ้า หลังจากซักผ้าเสร็จก็จะไปเรียกน้องๆ ให้ตื่นขึ้นมาอาบน้ำกินข้าว เพื่อที่จะได้พายเรือออกไปพร้อมกัน แล้วผมก็จะเดินไปส่งน้อง ๆ ก่อนไปโรงเรียน ก่อนจะขึ้นรถไปโรงเรียน ตอนไปเรียนที่นี่ แม่ให้เงินวันล่ะ 15 บาทเอง ปี 2532 จะว่าเยอะก็เยอะ เมื่อเทียบกับ 3 บาทที่ได้ตอนเรียน ป.5-6
15 บาท จะแบ่งเป็นค่ารถ ไปกลับ 6 บาท ค่าข้าวกลางวัน กับข้าว 2 อย่าง 7 บาท น้ำ 2 บาท หมดพอดี สำหรับ 15 บาท ฮ่าๆๆๆ แต่ก็ไม่ได้เดือดร้อนอะไร เพราะพอช่วงหลังก็ได้ทุน ก็เอาเงินทุนที่ได้มาให้พ่อแม่ ส่วนเราก็ทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด รับผิดชอบส่วนที่เราต้องทำ ไว้ผมจะมาเล่าใหม่น่ะ ช่วงนี้ผมอาจจะเขียนน้อยหน่อยน่ะครับ งานมันเยอะ
Create Date : 08 กุมภาพันธ์ 2550 | | |
Last Update : 8 กุมภาพันธ์ 2550 13:04:48 น. |
Counter : 184 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
อยู่ในวัยของการเรียนประถม
ขอไว้อาลัย และลำลึกถึงพระคุณพ่อ และแม่ ต้องขอออกตัวว่าที่แห่งนี้ มิได้สร้างขึ้นเพื่อความสวยงาม มันสร้างขึ้นและเขียนขึ้นจากความรักในครอบครัวของผม ที่ประกอบด้วยพ่อผู้ล่วงลับ และแม่ผู้ลาจาก และน้องที่น่ารักของผม
ถ้ามีคนมาอ่าน แล้วได้กำลังใจจากที่นี่ก็ถือได้ว่ามันยังมีประโยชน์อยู่บ้าน จากคราวก่อนที่ผมเล่าถึงเรื่องที่เริ่มเข้าเรียน ด้วยความที่ผมเป็นคนที่มีความจำดี(ไม่ได้หมายความว่าผมเรียนเก่งน่ะ55555+) ผมได้ที่หนึ่งมาตลอดครับ อ้อลืมบอกไปผมเข้าเรียนหนังสือที่ ร.ร.ราษฎร์บูรณะ เผื่อมีคนเคยเรียนที่เดียวกับผม ดังนั้นผมเรียนที่นี่จึงได้ทุนตลอด แต่ก็ไม่มากมายอะไร ครั้งล่ะ 300 บาทเอง ตอนนั้น 300 คงเยอะสำหรับเรา แต่สำหรับครอบครัวแล้วได้ค่าน้ำมัน ประมาณ 40 ลิตรสำหรับการทำสวน อย่างที่บอกครอบครัวของเราต้องล้มลุก คลุกคลานและเป็นหนี้สิน ถึงสองครั้ง สองครา
ครั้งแรกปี 26 ตอนนั้นจำได้ว่าน้ำเยอะมากแล้วสวนกำลังจะจม พ่อต้องปลุกให้เราตื่นมาช่วยโกยเลนตั้งคันเพื่อกันน้ำเข้าสวน โดยพ่อจะเอาบุ้งกี๋มุดน้ำลงไปตักเลน แล้วส่งขึ้นมาให้แม่ ส่วนตัวผมเองก็คอยกางกระสอบเพื่อรับเลน พอเต็มก็ผูกปากถุงนำมาเรียง ๆ กัน ส่วนอีกด้านนึงก็ติดเครื่องดูดน้ำออกจากสวน หลังจากโกยเลนเสร็จเราก็ต้องไปเดินดูรอบสวนว่ามีตรงไหนที่รั่วหรือไม่ ถ้ามีก็ต้องอุดทันที แต่ในที่สุดถึวันที่น้ำขึ้นสูงสุดเราก็มิอาจต้านทานไว้ได้
เพราะน้ำที่เยอะและเพิ่มสูงขึ้น พร้อมกับที่ทุกสวนต่างพร้อมใจวิดน้ำออกจากสวนท้ายที่สุดแล้ว บางมดก็จมน้ำ วันที่สวนล่มภาพยังติดตา พ่อนั่งมองเหม่อทอดสายตาออกไปในสวนที่มีแต่ต้นส้มจมน้ำ ส่วนแม่ก็ได้แต่นั่งร้องไห้ มันเป็นความสูญเสีย็ไม่ปาน ผมเข้าใจชีวิตคำว่าเกษตรกร ทำไมทไท่ไหร่ไม่รวยสักทีได้ดี ทำไมถึงทำแล้วมีแต่หนี้ หลังจากที่สวนล่มครั้งนั้น ทำให้ครอบครัวเรามีหนี้สิน หลายหมื่นบาท ซึ่งต้องบอกว่ามันมากสำหรับคนทำไร่ทำสวน ถามว่าผมรู้สึกอย่างไร ในตอนนั้นซึ่งอายุแค่ 6 ขวบคงต้องบอกว่าไม่เข้าใจ แต่รู้สึกสงสารที่เห็นแม่ร้องไห้
แต่ในความสูญเสียความเป็นผู้นำของครอบครัวสำคัญที่สุด ซึ่งพ่อก็ได้แสดงมันออกมา พ่อทำทุกอย่างที่ทำได้แล้วได้เงิน เพื่อนำเงินมาใช้จ่ายในครอบครัว และเพื่อทำสวนใหม่อีกครั้ง ผ่านครั้งนั้นมาได้ ปี 28 ก็เป็นอีกครั้งที่วังวนเดิม ๆ ก็กลับมาอีก ทุกอย่างเหมือนเดิมแม่ได้แต่บ่นว่าทำไมครอบครัวเราเหนื่อยถึงขนาดนี้ทำไม่ถึงไม่ไสบายกับเขาเสียที ไม่โกงใครกิน ไม่ขอใครกิน แต่ก็ยังไม่มีกิน พ่อไม่พูดไม่ตอบ คำตอบที่พ่อให้คือ ออกไปยกยอ ลงเบ็ดธงหาปลามาไว้กินในครอบครัว และขาย แต่อย่างน้อยในยามที่ครอบครัวลำบากมากเราก็ยังมีโชคเล็ก ๆ วันนึงขณะที่เรา ผมกับพ่อนั่งทำปลาที่ได้มาจากการยกยอ พ่อก็เหลือบไปเห็นถุงพลาสติก ลอยติดอยู่ที่ตลิ่งพ่อก็เก็บมาดูปรากฎว่าในนั้นมีเงิน อยู่เกือบสองพันบาท พ่อและแม่ดีใจมาก เพราะมันทำให้ครอบครัวเราดีขึ้นพอสมควร
ส่วนตัวผมเองก็ทำหน้าที่ของตัวเองในหน้าที่ของลูกและพี่ชายในขณะที่การเรียนก็ยังไม่ตก เพราผมตั้งใจไว้ว่าการเรียนจะช่วยยกระดับครอบครัวผมได้ และผมก็ทำได้ดังที่ตั้งใจการเรียนที่ดีของผมทำให้ตอนนั้นผมได้โควต้านักเรียนของโรงเรียนบางปะกอกวิทยาคม ในการเรียน ม.ต้น ขอบคุณความรักและความอ่อนโยนที่แม่มอบให้อยู่ในตัวผม ขอบคุณพ่อที่ให้ความเข้มแข็งและสิ่งที่ลูกผู้ชายต้องมี ขอบคุณที่ได้เกิดเป็นลูกของพ่อกับแม่ครับ
Create Date : 02 กุมภาพันธ์ 2550 | | |
Last Update : 2 กุมภาพันธ์ 2550 14:36:35 น. |
Counter : 193 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|