Group Blog
 
 
มกราคม 2554
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
23 มกราคม 2554
 
All Blogs
 
สิ่งที่นักลงทุนควรทำ


สิ่งที่นักลงทุนควรทำ (โดย อ.เทพ รุ่งธนาภิรมย์)


การลงทุนในตลาดหุ้นมีความเสี่ยงแต่ก็มีโอกาสทำให้คนร่ำรวยถ้ารู้จักหลักการและมีวินัยที่ดี จากประสบการณ์ที่ได้ผ่านร้อนผ่านหนาวอย่างโชกโชนและตื่นเต้นในตลาดหุ้นจนสามารถอยู่ในถ้ำเสือได้อย่างปลอดภัยด้วยกลยุทธหุ้นห่านทองคำ ผมขออนุญาตรวบรวมข้อคิดบางประการ ที่คิดว่าน่าจะมีประโยชน์ต่อท่านนักลงทุนเพื่อนำไปพิจารณาดูทั้งหมด 10 ข้อ ดังนี้

1. ศึกษาเทคนิคการลงทุนที่ถูกต้อง
2. ไม่พึ่งข้อมูลวงใน (Inside Information)
3. เลือกหุ้นที่มีคุณภาพจากข้อมูลที่เปิดเผย
4. รู้จักการประเมินมูลค่าหุ้น
5. ต้องใจเย็นในการซื้อขายหุ้น
6. ติดตามการดำเนินงานของบริษัท
7. ลดต้นทุนเมื่อมีโอกาส สะสมหุ้นด้วยต้นทุนที่ต่ำลง
8. ให้หุ้นทำงานหาเงิน
9. ใช้หลักเศรษฐกิจพอเพียง
10. สอนคนอื่นให้มีความรู้อย่างถูกต้อง



1. ศึกษาเทคนิคการลงทุนที่ถูกต้องการซื้อหุ้นโดยเชื่อคนอื่นบอกว่ามันจะขึ้นไปอีกเป็นความเสี่ยงมากทีเดียว ถ้ารักจะลงทุนด้วยตนเอง ต้องรีบทำความเข้าใจเกี่ยวกับการสร้างมูลค่า การอ่านงบการเงินให้เป็นต้องพยายามดูโหงวเฮ้งของ CEO ให้ออก ต้องเข้าใจว่าการลงทุนจริงๆแล้วไม่ใช่การเล่นหุ้นจนสุดท้ายเห็นได้ด้วยตนเองว่าตลาดหุ้นนั้นมิใช่เป็นบ่อนการพนันแต่เป็นสถานที่ ที่นักลงทุนจะสามารถเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ได้ในระยะยาว

2. ไม่จำตัองพึ่งข้อมูลวงใน Inside Information)การจะได้ผลตอบแทนดีๆจากตลาดหุ้นต้องได้มาอย่างถูกวิธีและเที่ยงธรรม ไม่จำเป็นต้องเอาเปรียบคนอื่นด้วยการรู้ข้อมูลวงในเลยดีไม่ดีถูกหลอกเองจะช้ำใจเสียเปล่าๆความจริงแล้ว ข้อมูลเกี่ยวกับหุ้นของบริษัทจดทะเบียนที่สามารถเปิดเผยต่อคนทั่วไปมีอยู่มากมายเพียงพอที่นักลงทุนจะนำไปใช้ศึกษา วิเคราะห์ และตัดสินใจได้อย่างสบาย ทำแบบนี้แล้วจะรู้สึกดีที่เราเป็นคน fair ต่อสังคม

3. เลือกหุ้นที่มีคุณภาพจากข้อมูลที่เปิดเผยพอมีเทคนิคดีแล้ว ต่อมาคือการ เลือกหุ้นที่มีคุณภาพดีๆ หุ้นที่มีคุณภาพคือหุ้นที่มี CEO ดีๆ เก่งๆ ทำผลงานออกมา สวย มีกำไร มีเงินสด มีการขยายงาน หนี้สินมีไม่มาก สามารถจ่ายปันผลได้ด้วยยิ่งดี ทำอย่างนี้ไม่ต้องไปสนใจว่าตลาดหุ้นจะขึ้นจะลง เพราะเราซื้อหุ้นไม่ใช่ซื้อทั้งตลาดหุ้น

4. รู้จักการประเมินมูลค่าหุ้นเมื่อเลือกหุ้นที่มีคุณภาพดีแล้ว ยังไม่ต้อง รีบร้อนเข้าไปซื้อลงทุน ใจเย็นๆ ก่อน ทำการประเมินหามูลค่าหุ้นออกมาดู จะทำแบบไหนก็ได้ ผมใช้วิธีผลตอบแทนจากเงินปันผล dividend yield) เป็นหลัก บางทีผมก็ใช้วิธี P/E บ้าง แล้วแต่โอกาส

5. ต้องใจเย็นในการซื้อขายหุ้น เมื่อเลือกหุ้นที่มีคุณภาพดีและทำการประเมินมูลค่าหุ้นแล้ว ก็ไม่ต้องรีบร้อนซื้อ

ให้นำมูลค่าไปเทียบกับราคาก่อนถ้าราคาต่ำกว่ามูลค่ามากก็ซื้อเยอะได้ ถ้าต่ำกว่าไม่มากอาจจะลงทุนซื้อบ้าง

เพราะถ้าหุ้นอ่อนตัวลงจะได้ซื้อมาถั่วเฉลี่ยต้นทุนได้ ขณะเดียวกันถ้าราคาหุ้นขึ้น ก็ไม่ต้องเสียดาย ค่อยๆทยอยขาย จะมากจะน้อยแล้วแต่ศิลปของแต่ละคน ขายแล้วก็มีเงินสดมากขึ้น ต้นทุนหุ้นในมือก็ลดลง ถ้าราคาเกิดอ่อนตัวลงก็สามารถมีเงินไปซื้อกลับมาได้อย่างสดวกโยธิน ทำอย่างนี้ได้จะได้ไม่ต้องตื่นเต้นตกใจไปกับการแกว่งขึ้นแกว่งลงของราคาหุ้นเลย

6. ติดตามผลการดำเนินงานซื้อหุ้นแล้วต้องติดตามผลการดำเนินงานอย่างน้อยทุกๆไตรมาส เพราะบริษัทจะต้องเปิดเผยผลการประกอบการให้นักลงทุนทราบ และถ้ามีโอกาสควรไปประชุมผู้ถือหุ้นอย่างน้อยปีละครั้ง เพื่อจะได้ทำการประเมินว่า ผลงานที่CEOทำออกมาดีอย่างที่คาดไว้หรือดีกว่า จะได้ถือเก็บด้วยความมั่นใจ แต่ถ้าผลงานออกมาด้อยกว่าที่คาดบ่อยๆ ก็จะต้องทบทวนว่ายังจะถือต่อหรือทำการโละทิ้ง

7. ลดต้นทุนเมื่อมีโอกาส สะสมหุ้นด้วยต้นทุนที่ต่ำลงเรื่องการลดต้นทุน cost reduction) เป็นเรื่องที่นักลงทุนโดยทั่วไปยังไม่ค่อยคุ้นเคย เพราะส่วนใหญ่ได้ยินได้ฟังมาเกี่ยวกับเรื่องการทำกำไรจากการขายหุ้น capital gain) จากคนอื่นเวลาคนอื่นเกิดขาดทุน capital loss) มักจะอุบเงียบ ก็เลยเข้าใจกันว่า กิจกรรมของตลาดหุ้นคือการเข้ามาเพื่อซื้อหุ้นถูก ขายหุ้นแพงและไม่สนใจจะเก็บรักษาหุ้นไว้เลย แม้ว่าบางทีเป็นหุ้นคุณภาพดีมากพอมีกำไรมากก็ขายหมดเกลี้ยง พอขายหมดก็เหมือนผ่าท้องห่านจะไปเอาห่านที่ไหนมาออกไข่ทองคำซึ่งก็คือเงินปันผล ดังนั้นจึงต้องตั้งท่าทีใหม่ เวลาเข้ามาในตลาดหุ้นต้องเล็งที่จะสะสมหุ้นด้วยต้นทุนที่ต่ำที่สุด ด้วยการหาโอกาสลดต้นทุนเมื่อภาวะตลาดอำนวยให้

8. ให้หุ้นทำงานหาเงินนักลงทุนจะต้องไม่ลืมว่า วัตถุประสงค์สุดท้ายคือการไม่ต้องเอาตัวเองไปทำงานหาเงิน เพื่อจะได้มีอิสรภาพของตัวเองอย่างแท้จริง การที่จะทำอย่างนี้ได้ต้องมีทรัพย์สินที่ก่อให้เกิดรายได้เข้ามาอย่างสม่ำเสมอจนมากพอกับค่าใช้จ่าย หุ้นปันผล คือทางเลือกหนึ่งที่จะทำให้ความฝันกลายเป็นความจริงได้
การจะบรรลุจุดหมายนี้ นักลงทุนต้องจำใส่ใจไว้ว่าการได้กำไรจากการค้าหุ้นเป็นเรื่องรอง การมีหุ้นปันผลดีๆ มากๆด้วยต้นทุนต่ำๆคือคำตอบเพราะหุ้นเหล่านี้จะคอยทำงานให้เจ้าของอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย

9. ใช้หลักเศรษฐกิจพอเพียงจากการได้ได้ศึกษาปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงผมเห็นว่าเป็นแนวทางที่ง่าย เรียบตรง ชัดเจน เพราะการลงทุนที่ดีต้องเริ่มจากรู้จักการพอประมาณ ไม่ทำอะไรเกินกำลังต้องมีเหตุผล ด้วยการรอบรู้และเข้าใจถึงแนวทางการลงทุนอย่างถูกวิธีและต้องมีภูมิคุ้มกันด้วยการลดต้นทุนเสมอเมื่อมีโอกาส ทำให้อยู่ได้ในถ้ำเสือโดยไม่สะทกสะท้านต่อการผันผวนทางราคาหุ้น การมีคุณธรรมซึ่งหมายถึงการไม่เอาเปรียบคนอื่นด้วยการใช้ข้อมูลวงในด้วยการปั่นหุ้นที่สำคัญ คือ เป็นคนใช้ชีวิตเป็น ไม่ตระหนี่มาก และก็ไม่จำเป็นต้องอวดความร่ำรวย อะไรที่สมควรก็ทำตามแต่กรณี ทำให้ชีวิตการนักลงทุนมีความสุข

10. สอนคนอื่นให้มีความรู้อย่างถูกต้องหลักการต่างๆดังกล่าวมาทั้ง 9 ข้อ ถ้านักลงทุนทำได้ เชื่อว่าจะกลายเป็นนักลงทุนมีคุณภาพ สามารถคอยเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ จากตลาดหุ้นอย่างเป็นกอบเป็นกำอย่างถูกวิธี ที่ดีกว่านั้นคือ ควรต้องพยายามหาโอกาสช่วยเหลือหรือสอนคนอื่นที่มีความต้องการให้ดีขึ้นตาม เป็นเรื่องแปลกมากคือเมื่อเรายิ่งทำการสอน ยิ่งให้วิทยาทานมาก กลับรู้สึกว่าเราได้ รับความรู้สึกสบายอย่างไม่รู้จักจบสิ้น และบางทีหุ้นแจ๋วๆ บางตัวก็ได้มาจากคนที่เราไปสอนก็มี น่าลองดูครับ

เทพ รุ่งธนาภิรมย์บทความจาก M&W พฤษจิกายน 2007




Create Date : 23 มกราคม 2554
Last Update : 23 มกราคม 2554 14:45:10 น. 2 comments
Counter : 226 Pageviews.

 
thx u ka


โดย: Junenaka1 วันที่: 23 มกราคม 2554 เวลา:15:33:08 น.  

 
ขอบคุณมากครับ


โดย: lgmang IP: 182.52.37.92 วันที่: 17 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:11:46:54 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

คลองมะเดื่อ
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




>

Free Testcode











update blog ล่าสุด1.ที่จอดรถบ้าน (Home care) 2.วิธีชงชาให้อร่อย(Cooking tips) 3.เปลี่ยนชีวิตด้วยวิถีแห่งโดราเอม่อน(Good learning, Good life) 4.10health tips( Health tips) 5.✿ เคล็ดลับ : เก็บดอกกุหลาบให้อยู่นานวัน ✿ (ความรู้ทั่วไป) 7. Suchi (Cooking)

Friends' blogs
[Add คลองมะเดื่อ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.