ในทุกๆวันที่ฉันยังหายใจ (บทก่อนจบ)
เราขับรถพ้นจากบ้านโอ๋ กำลังจะถึงถนนใหญ่ ตอนนี้ก็ดึกมากแล้ว ถนนค่อนข้างโล่งมาก ถนนแถบนั้นค่อนข้างเล็กและเป็นเลนรถสวนกัน แค่นานๆจะมีรถขับสวนมาซักคัน ขับรถอยู่ก็คิดถึงเรื่องงาน meeting ที่จะไปฉลองกันต่อที่ต่างจังหวัด พี่ชัยเป็นตัวตั้งตัวตีอีกตามเคย แบบว่าอยากชวนโอ๋ไปเที่ยวต่างจังหวัดแบบไม่น่าเกลียด ตัวเรายังคงต้องตัดสินใจว่าจะไปหรือไม่ไป ที่ต้องไปนั่งทนกับเรื่องราวต่างๆที่มันจะเกิดขึ้น ที่พอจะนึกออกได้ แค่คิดความเศร้าก็เข้ามาแล้ว ถ้าไม่ไปคงไม่มีโอกาสป้องกันอะไร และคงไม่มีแม้โอกาสที่จะบอกกับโอ๋ว่าเราคิดยังไงกับเธอ ตอนนี้เราเริ่มทำใจแล้วหละว่าเราคงมีสิทธิ์แค่บอกเธอว่า เราคิดยังไงกับเธอแม้มันจะช้าเกินไป หรือจะเป็นคำพูดที่ไร้ประโยชน์เราก็อยากบอกโอ๋อยู่ดี คิดอยู่เพลินๆ หมาเจ้ากรรมดันมาข้ามถนนตัดหน้ารถ ด้วยความตกใจ เราเหยียบเบรกเต็มที ล้อรถสีกับถนนเอี๊ยด หักหลบสุดตัว จริงๆตอนที่เรียนขับรถครูที่สอนเคยบอกว่าถ้าเกิดเหตุการณ์อย่างหนีให้ขับชนหมาไปเลย แต่ทำใจไม่ได้เลยกับเรื่องแบบนี้ เคยเห็นมากับตัวเองหมาข้างถนนแม่ลูกคู่หนึ่งข้ามถนน ตัวแม่หมาข้ามพ้น แต่ตัวลูกข้ามไม่ทันโดนรถชนและอีกหลายคันที่วิ่งตามทับอีก เราอยู่ในถนนฝั่งตรงข้ามเห็นแม่หมาพยายามจะพาลูกหมาข้ามถนนกลับมาให้ได้แม้จะเป็นศพที่แบนติดถนนแล้ว มันยังคงพยายามเรียก และจะวิ่งกลับลงไปในถนน เราว่าถ้าอยู่สภาพนั้นอีกไม่นานแม่หมาต้องโดนรถชนแน่นอน เราตัวสินใจกลับรถไปช่วยมัน แต่จุดกลับรถอยู่ไกลมาก เรากลับมาไม่ทัน แม่หมาตัวนั้นโดนรถชนตายไปจริงๆ เราคิดว่าทำไมคนเราถึงใจร้ายได้ขนาดนี้ เพื่อตัวเองทั้งนั้นมีสิทธิ์อะไรไปเอาชีวิตคนอื่น เราคงได้แต่เก็บแม่ลูกคู่นั้นกลับมาจากไว้ข้างทาง เพื่อไม่ให้โดนทับเละไปกว่านี้ สัญญากับตัวเองว่าจะไม่ขับรถทับหมาเด็ดขาด แม้จะเป็นหมาข้างถนน แต่นั่นคือชีวิตมัน ถ้ามันเลือกได้มันก็อยากเป็นหมาที่มีคนเลี้ยง นอนในบ้านที่อบอุ่น และได้กินของดีๆ แต่เมื่อมันคือหมาข้างถนนแล้ว มันก็น่าสงสารพอแล้ว พอหลบหมาพ้นมีรถกระบะคันหนึ่ง พุ่งออกจากซอยมา ด้วยถนนที่โล่งคงไมทันดูว่ามีรถเราสวนมาชนเข้าให้เต็มๆครับนั่นคือสิ่งสุดท้ายที่ผมจำได้ ในคืนนั้น หลังจากเสียงดังโครมใหญ่ สำหรับเรามันคือความเงียบสนิท เราไม่รับรู้ และไม่รู้สึกตัวเลย
******************************************************* เรามารู้สึกตัวอีกครั้งที่โรงพยาบาล หลังจากสลบไป 3 วัน ฟื้นขึ้นมาได้สิ่งที่เห็นคือแม่ที่คอยดูแลอยู่ โดยมีโอ๋คอยช่วยอยู่ ไม่น่าเชื่อว่าโอ๋จะอยู่ด้วยเพราะเธอน่าจะไปงาน meeting แล้ว ยังอยู่ที่โรงพบยาบาลอีก น่าแปลกใจ แต่เราไม่ทันได้ถามอะไร และยังขับตัวไม่ได้ด้วย เนื่องจากกระดูกหักหลายที่ทั้งแขน และขา รวมถึงซี่โครงอีก โชคดีที่ไม่ตายแต่สงสัยคงพิการแน่งานนี้ เรายังพูดไม่ได้น่าจะเป็นฤทธิ์ของยาชา พอลืมตาขึ้นมาได้ แม่ดีใจมากถึงขั้นร้องไห้ออกมา โอ๋ก็มีท่าทางดีใจกุมมือที่ใส่เฝือกไว้แม่น ได้แต่พูดว่า เอกรู้สึกตัวแล้ว เห็นเราไหม จำเราได้หรือเปล่า เราไม่ทันได้ตอบอะไรแล้วหลับไป จนสายๆของวันนั้น พยาบาลเอายาเข้ามาให้เราเริ่มขยับตัวได้นิดหน่อย รู้สึกเจ็บทั้งตัวไปหมด ไม่เห็นแม่เห็นแต่โอ๋ที่ฟลุบหลับที่โซฟา พยาบาลบอกให้เราทานยาโดยพยาบาลจะป้อนเอง เธอเราให้ฟังว่าแฟนเราอยู่เฝ้าเรามา 3 วันแล้ว เมื่อคืนคงไม่ได้นอน เพราะตั้งแต่เราฟื้นมาก็นั่งเฝ้าข้างเตียงมาตลอดคืน เราได้ยินอย่างนั้นทั้งแสนใจดีใจ และสะเทือนใจในเวลาเดียวกัน โอ๋เป็นแฟนเราง่ะ ดูแลเรามาตลอด 3 วันนี้ด้วย แต่สะเทือนใจที่มันคงเป็นได้แค่ช่วงนี้หลังจากเราฟื้นทุกอย่างก็คงเหมือนเดิม เราให้พยาบาลปรับเตียงขึ้น เพื่อแอบดูเธอหลับด้วยความอ่อนเพลีย ช่วงเวลาเลยเที่ยงแล้ว โอ๋รู้สึกตัวตื่นขึ้นมาด้วยความตกใจ แล้ยิ่งตกใจซ้ำไปอีกว่าเราฟื้นขึ้นมานั่งดูเธอหลับ เอกฟื้นแล้วหรือ เป็นไงบ้าง เจ็บแผลไหม แล้วขับรถยังไงไปชนเขา หิวหรือเปล่า และอีกหลายๆคำถามที่ถามมาตอบไม่ทันได้แต่ยิ้มอย่างเดียว โอ๋เห็นเราไม่ตอบเลยถามมาอีกว่า นี่เอกยังยังจำโอ๋ได้หรือเปล่า เราได้ไอเดียเลยว่า ถ้าจะให้เวลานี้ยาวนานขึ้นต้องทำยังไง เรายังคงไม่ตอบได้แต่ยิ้ม เอกจำโอ๋ไม่ได้จริงๆด้วย เราแกล้งถามไปว่า เอกเป็นใครหรือ โอ๋มีท่าทางตกใจมาก เอกจำตัวเองไม่ได้ด้วยหรือ อย่าทำอย่างนี้กับเรานะ โอ๋เริ่มร้องไห้ออกมา ชักเป็นเรื่องใหญ่แล้วสิงานนี้ โอ๋ออกไปตามพยาบาล ว่าเรารู้สึกตัวแล้ว พยาบาลเลยบอกว่าเรารู้สึกตัวตั้งแต่ช่วงสายๆแล้ว ไม่ยอมนอนเอาแต่นั่งมองน้องที่หลับอยู่ พยาบาลยังเราต่อว่า บอกว่าน้องเฝ้าไข้ทั้งคืนคนไข้ยิ้มใหญ่เลย โอ๋เลยเราให้พยาบาลฟังว่าเรามีอาการความจำเสื่อม พยาบาลบอกว่าอาจจะเป็นฤทธิ์ยา อาการทางสมองต้องให้คุณหมอตรวจอีกครั้ง โอ๋กลับเข้ามาในห้อง ด้วยใบหน้าที่ปนทุกข์อย่างบอกไม่ถูก เราเห็นท่าไม่ดีเราเลยเรียก โอ๋ใช่ไหม โอ๋ดีใจและยิ้มออก เอกจำเราได้ใช่ไหม เราก็ได้ตอบไปว่า ใช่ ก็โอ๋เป็นน้องเราไง เราชื่อเอก โอ๋ทำหน้างงๆ ก่อนตอบมาว่า ไม่ใช่ เราเป็นเพื่อนเธอมหาลัย เอกกับโอ๋เป็นลูกคนเดียวไม่มีพี่น้อง เราแกล้งต่อ มหาลัยอะไรง่ะ เราจำไม่ได้ง่ะ เราปวดหัว โอ๋แสดงอาการ กลุ้มใจใหญ่ โทรไปบอกแม่ว่าเรารู้สึกตัวแล้ว แต่ยังจำอะไรไม่ค่อยได้ แม่บอกว่าจะเข้ามาหาเราอีกที ช่วงเย็นๆ จะมาพร้อมกับพ่อ โอ๋บอกให้เรานอนพักผ่อนก่อน ไม่ต้องคิดอะไรมาก โอ๋จะอยู่ดูแลทั้งวันเลย ช่างเป็นเวลาแสนสุขอะไรขนาดนี้
ขอบคุณทุกคำติชมเรื่องของเราจะจบแล้วนะ มาทนอ่านกันหน่อยนะครับ
โปรดติดต่ามบทสรุปของเรื่องราว

Create Date : 25 เมษายน 2550 | | |
Last Update : 25 เมษายน 2550 16:45:57 น. |
Counter : 403 Pageviews. |
| |
|
|
|