ทริปเที่ยวเอง.... 17 days in Switzerland2014

 Day8 :    12 April 2014

ZURICH LAKE  &  Zurich        

-----------------------------------------------------------------------

วันนี้อากาศดี ท้องฟ้าแจ่มใส อุณหภูมิ 14องศา (เมืองไทยวันนี้ 38องศา) เราวางแผนไปล่องเรือในทะเลสาบซูริคกันครับ

กว่าจะซักผ้าเสร็จ ออกจากบ้านก็เกือบๆ11โมงเช้าแล้ว

นั่งรถไฟ S18 จากบ้าน สถานี Spital Zollikerberg ไปลงสวนสาธารณะ Stadelhofen เดินเล่นไปริมทะเลสาบข้างหน้า

น้องกองทัพอยากเล่นของเล่น  มีของเล่นอยู่ที่สวนหน้าทะเลสาบเปิดเสาร์อาทิตย์ วันนี้เรามาสวนสนุกยังไม่เปิด เดินเล่นกันก่อนนะ

สวนสนุกยังไม่เปิด ข้ามถนนไปที่ท่าเรือกันดีกว่าครับ

Zurich เมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เมืองซูริกเป็นเมืองหลวงของรัฐซูริก (Kanton Zurich) รัฐที่ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ โดยอยู่บริเวณตอนเหนือของเทือกเขาแอลป์ นอกจากนี้ยังมีทะเลสาบซูริกซึ่งบริเวณเกือบทั้งหมดอยู่ภายในรัฐ

Burkliplatz/Lakeside Promenade

เป็นท่าเรือทะเลสาบซูริค มีเรือสำหรับล่องรอบทะเลสาบซูริคไว้บริการ

แผนหลักๆวันนี้ เราจะล่องเรือใน Zurich Lake  ที่ท่าเรือมีตารางเรือออก เรือจะออกทุกชั่วโมง มีตารางการเดินเรือรอบเล็ก รอบใหญ่

เราเลือกไปรอบ 12.10น เดินทางรอบเล็กใช้เวลา1ชั่วโมงครึ่ง  การเดินทางฟรีโดยบัตรSWISS PASS

มาแต่เช้าคนยังไม่เยอะไม่แน่นลำเรือเหมือนรอบบ่ายๆหรือช่วงเย็น

เดินเล่น นั่งเล่นรอเวลาเรืออก มีห้องน้ำฟรีให้เข้าด้วยครับ

ทะเลสาบซูริคซึ่งเป็นทะเลสาบหลักยาว 28 กม. กว้าง 4 กม. ได้เวลาท่องทะเลสาบแสนสวย ชมวิวเทือกเขาแอลป์กันได้เเล้ว วันนี้อากาศหนาวหมอกลง ไม่เห็นยอดเขาน้ำแข็ง ในวันอากาศดีจะมองเห็นยอดเขาน้ำแข็งจากสะพานในเมืองซูริค สวยงามมากๆ

เราขึ้นไปชั้นบน เพื่อมองวิวสวยๆมุมกว้าง ข้างบนมีทั้งส่วนห้องกระจกและห้องเปิดโล่ง เลือกนั่งได้ตามความชอบ มีเครื่องดื่ม กาแฟ อาหารไว้บริการ

อากาศหนาวลมแรง แต่แสนสุขใจ

เรือพาเราออกจากฝั่ง รอบนี้ยังถือว่าเช้า นักท่องเที่ยวยังไม่เยอะ นั่งกันสบายๆค่ะ

เรือพาเราผ่านโรงงานช็อคโกแลตชื่อดัง  มีท่าน้ำให้เรือหยุดแวะตลอดทาง เผื่อนักท่องเที่ยวสนใจลงเดินเที่ยว แต่เราขอนั่งเรือชมวิว ไปกันเรื่อยๆแล้วกัน

โรงงานช็อคโกแลตชื่อดัง ตึกยาวๆริมน้ำ Springli & Lindt

เรือพาเราลงทางใต้ของทะเลสาบ Zurich Lake ผ่านบ้านเรือนสวยๆริมน้ำ

ถ่ายweddingริมน้ำ

ศาลาริมน้ำฉลุลายสีขาว เห็นแล้วนึกถึงบ้านโคโลเนียลขนมปังขิงของเรา

สวนแบบอังกฤษสวยๆอีกแล้ว เก็บภาพๆ

นั่งมองวิวบ้านเรือนริมน้ำก็มีความสุขที่สุดแล้ว

ศาลาริมน้ำเข้ากันกับบ้านสวย

ท่าน้ำแต่ละเมืองจะมีธงสวยๆติดอยู่ทุกท่าน้ำ

เด็กๆเล่นอะไรกันริมทะเลสาบ

ร้านอาหารเก๋ๆริมน้ำมีให้เห็นเป็นระยะ

งานศิลปะเก๋ๆตามสวนสาธารณะ พบเห็นได้ทั่วไปทุกๆเมืองในสวิส

เรือพาเราล่องทะเลสาบซูริคจนครบเกือบหนึ่งชั่วโมงครึ่ง ได้เวลาเทียบท่ากลับท่าเรือที่เก่าแล้ว

หลังใช้เวลาล่องเรือใน Zurich Lake จบสิ้นใช้เวลาไป1ชั่วโมงครึ่ง กำลังดีเพราะเราจะเดินเที่ยวในเมืองกันต่อค่ะ

แวะซื้อเสบียงอาหารเที่ยงที่ท่าเรือ ร้านPeter Greuter Bistro&Grill  (ราคาอาหารและของที่ระลึกที่นี่แอบแพงกว่าที่อื่น  ) 

   อาหารยอดนิยมที่สวิส Bratwurst บรัทวูสท์ ไส้กรอกรมควัน ไส้กรอกชิ้นละ 6.7CHF (x37บาท) เจ้านี้ไม่มีขนมปังให้ด้วยเหมือนเจ้าที่ขายที่ Zurich HB   Postcardใบละ1.2CHFราคามาตรฐานทั่วไป ที่นี่ขาย1.5CHF อาจเพราะอยู่ท่าเรือเลยขายแพงได้ค่ะ

ข้ามจากท่าเรือไปสวนสาธารณะที่มีสวนสนุกเล็กๆกันเลยฮับ น้องกองทัพอยากไปเต็มที แต่ก่อนอื่นจัดการอาหารมื้อเที่ยงกันก่อน

สั่งเคบับอาหารตุรกี (Kebup) ชิ้นละ9CHF 

Kebupเป็นอาหารตุรกีแสนอร่อยได้มาลองที่สวิส เป็นเมนูแนะนำต้องลอง หน้าตารสชาตคล้ายทวิสเตอร์ของKFCบ้านเรา แต่ความอร่อยห่างกันร้อยปีแสงฮ่าๆ เคบับสูตรเดิมจะเป็นแผ่นแป้ง ฝานหมูจากที่ปรุงเป็นเจ้าแท่งใหญ่ๆตามรูป ใส่ผัก ใส่น้ำซอสเหมือนน้ำสลัดราดๆชุ่มๆ ความอร่อยขึ้นกับแต่ละสูตร ปกติจะขายชิ้นใหญ่แบ่งกันกินได้สบายๆค่ะคนเดียวไม่หมดแน่นอน

เคบับเจ้านี้ ไม่อร่อยเนื้อแห้งเกินไป เจ้าอร่อยขั้นเทพต้องที่ชั้นใต้ดินสถานีรถไฟกลาง Zurich HB ชิ้นใหญ่ยักษ์เนื้อชุ่มฉ่ำอร่อยมากก

ลองต่อไปอาหารง่ายๆ  Hotdog 5.5CHF

โรตีช็อคและวนิลลาให้แทนไท กองทัพ ชิ้นละ7CHF (ค่าเงินสวิสฟรังค์x37 บาท)ไม่ได้เก็บภาพเดินไปซื้อกะคุณพ่อเดินกลับมาหาแม่เด็กๆหม่ำเกลี้ยง

โรตีลูกวันนี้หม่ำที่สวิส ชิ้นละ 259บาท อืมมม

ร้านนี้เล็งไว้น่ากินมากก Raclette แต่สุดท้ายลืมกลับมาหม่ำ

วันนี้แทนไท กองทัพได้เล่นของเล่นสมใจ ที่นี่เป็นที่ออกร้านคล้ายๆตลาดนัดและมีของเล่นให้เล่น มียิงปืน ตกเบ็ด ประมาณนั้น  ที่สวิสไม่ค่อยเจอสวนสนุกมากนัก ใครมีที่เที่ยวเด็กๆจำพวกสวนสนุกแนะนำได้ค่ะ (ไปเจออีกที่ที่Jeneva)

ตามแทนไท กองทัพไปเล่นกันได้แล้วฮับ

ลังเลจะเล่นอารายดีนะ

ไม่แน่ใจนั่งดูคนอื่นเล่น มีพี่ทหารผิวสีคนหนึ่งก่อนหน้านี้ยิงปืนกวาดตุ๊กตาให้ลูกเกือบหมดร้านทึ่งสุดๆเลยตามมาดูพี่แกเล่นอันนี้ ฮ่าๆ

สวนทิวลิปสวยๆ

มุมเครื่องดื่มเล็กๆ

ยิงปืน คนละ 5CHF (10นัด)

ได้เล่นของเล่นสบายใจแล้วครับ

ต่อไป ตกเป็ด คนละ5CHF ตกได้คนละ8ตัว เอ้าลองดู

ได้ของเล่นไปฝากน้องสแตนลี่ย์คนละตัว เล่นคนละสองอย่างหมดไป20CHF ครับ (740บาท) โอวว พระเจ้าเล่นที่เมืองไทย 80บาท

ได้เวลาอำลาสวนสนุกแล้ว เราจะไปเดินเที่ยวในเขตเมืองเก่าซูริค

Zurich ... เราเดินจากบริเวณ Zurich lake ผ่านสะพานไปอีกด้านจะเข้าเข้าสู่บริเวณริมแม่น้ำลิมมัท Limmmat River  เป็นแม่น้ำที่แบ่งซูริคออกเป็นฟากเมืองใหม่และเมืองเก่า

ด้านหลังเราเป็นโบสถ์ที่มีชื่อของเมือง

(ซ้าย)โบสถ์ฟรอมุนสเตอร์ (Fraumunster abbey)

เป็นโบสถ์ที่มีชื่อเสียงในเรื่องของสถาปัตยกรรมแบบฉบับโรมาเนสก์ และภาพเขียนบนผนังปูนโดย Paul Bodmer รวมไปถึงหน้าต่างกระจกสีขนาดใหญ่ที่มีความงดงาม มาก ออกแบบโดยศิลปิล ชื่อ Marc Chagall โดยหน้าต่างสีทั้งหมดได้รับการติดตั้งในปี 1970

(ขวา)โบสถ์เซนต์ปีเตอร์ (St. Peter Church) ตั้งอยู่ในเขตเมืองเก่าซูริก โดยโบสถ์ตั้งอยู่บริเวณเนินเขาลินเดนฮอฟ (Lindenhof hill) เนินเขาที่ตั้งอยู่ในเขตศูนย์กลางประวัติศาสตร์ของเมืองซูริก โดยด้านบนสุดของโบสถ์เซนต์ปีเตอร์นั้นเป้นที่ตั้งของหน้าปัดนาฬิกาที่ติดอันดับหน้าปัดนาฬิกาที่ใหญ่ที่สุดในโลกหน้าปัดนาฬิกาของโบสถ์มีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 8.7 เมตร

เป็นโบสถ์ที่เก่าแก่ที่สุดในซูริค รูปแบบสถาปัตยกรรมอันเด่นชัดของโบสถ์แห่งนี้คือศิลปะแบบโกธิค และการประดับประดาตกแต่งภายในตั้งแต่ หน้าประตูโบสถ์จนถึงแท่นบูชาจะหนักไปทางศิลปะแบบบารอคซึ่งเป็นรูปแบบที่นิยมกันในศตวรรษที่ 17

วันนี้อากาศดีแดดร้อน ผู้คนออกมาพักผ่อนริมแม่น้ำเต็มไปหมด  เราเดินเล่นเลียบแม่น้ำLimmat ไปเรื่อยๆ

ความสุขของแทนไท กองทัพ ครั้งหนึ่ง ณ สวิตเซอร์แลนด์

Ulrich Zwingli Monument

ในสวิตเซอร์แลนด์ได้มีการปฏิรูปศาสนาโดย อุลริค ชวิงลี (Ulrich Zwingli) ชาวเยอรมัน 

โบสถ์กรอสมุนเตอร์ (Grossmunste Church)

โบสถ์สไตล์โรมาเนสก์ (Romanesque-style)ในเมืองซูริกเป็นหนึ่งในสามโบสถ์ใหญ่ของเมืองซูริก ตั้งอยู่บริเวณริมฝั่งแม่น้ำลิมมัต (Limmat River)ฟากเมืองใหม่ (ภาพนี้มองจากอีกฝั่ง ตอนนี้เราอยู่หน้าโบสถ์สองยอดนั่นล่ะ)

จุดชมวิวหน้าโบสถ์ Grossmunste Church

เก็บภาพหน้าต่างสวยเก๋หน้าโบสถ์

ประตูทางเข้าGrossmunste Church สวย หนาและหนักมากก

ด้านในถ่ายภาพไม่ได้ ใช้เวลาไม่นานออกมาเพื่อไปต่อค่ะ

เดินเล่นถนนสายหน้าโบสถ์มีร้านอาหาร ร้านขายของตลอดทาง เจอร้านอาหารไทยขอดูเมนูสักแป๊บ

บรรยากาศอีสเตอร์ของฤดูใบไม้ผลิมีอยู่ทั่วไป

ร้านขายฟองดู อาหารที่ต้องลองเมื่อมาสวิส

ป้ายเก๋ๆของร้านอาหาร

นั่งพักขา (ร้านใครก็ไม่รู้) ขอนั่งแป๊บ ชมตึกสวยงาม บรรยากาศชาวเมือง

ชอบเก็บภาพตึกสวย หัวเสารูปทรงต่างๆ

เดินผ่านไปอีกฝั่งแม่น้ำเป็นเขตเมืองเก่า

Old Town เมืองเก่าที่มีประวัติเก่าแก่มามากกว่า 2000 ปี จะเห็นความความทันสมัยและความเก่าแก่สามารถเดินไปพร้อม ๆ กันได้อย่างสวยงาม
    เมืองเก่าจะรายล้อมไปด้วย ร้านค้า ทั้งงานฝีมือ, ร้านแบรนด์เนม ทั้งในถนนใหญ่ ๆ และตรอกเล็ก ๆ

Limmat River

โบสถ์กรอสมุนเตอร์ (Grossmunste Church) ในวันฟ้าใสในฤดูใบไม้ผลิ

เดินเล่นดูบ้านเมือง วันนี้เราอยู่ในซูริค เมืองที่ผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมโบราณและความทันสมัย เคยได้รับการจัดลำดับเมืองที่มีคุณภาพชีวิตดีที่สุดในโลกมาแล้ว

น้ำพุประเทศนี้ดื่มได้ สะอาดปลอดภัย เรามีขวดน้ำในเป้ไว้เติมตลอดที่เดินเที่ยว

หัวเสาสัญลักษณ์เมืองซูริค

กิลด์ เฮ้าส์ (Guild houses) กลุ่มอาคารที่เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่ตั้งอยู่ตามแนวแม่น้ำลิมมัต ถูกก่อตั้งขึ้นในปี 1336 ส่วนใหญ่เป็นอาคาร ร้านค้า ร้านอาหาร ที่ยังคงได้รับการอนุรักษ์เอาไว้จนถึงปัจจุบัน ซึ่งกลุ่มอาคารเหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นอาคารที่มีชื่อเสียง และมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ของเมืองซูริก

สิ่งที่น่าสนใจในแต่ละเมืองคือ บ่อน้ำพุที่มีหัวน้ำพุสวยๆรูปทรงสวยงาม สะอาดสามารถดื่มได้

บรรยากาศอีสเตอร์ มีกระต่าย ไข่ไก่ เป็นสัญลักษณ์การเริ่มต้นของชีวิตและฤดูใบไม้ผลิ

แทนไท กองทัพ อึดมากกับการเดินเที่ยวทุกวัน ขอพักแป๊บฮับ นั่งบนหินที่เอาไว้ผูกเชือกสุนัขและเป็นที่หมาฉี่ด้วยรึป่าวไม่แน่ใจ

โบสถ์ฟรอมุนสเตอร์ (Fraumunster abbey)

โบสถ์ที่มีชื่อเสียงของเมืองซูริก ถูกก่อตั้งขึ้นในปี 853 โดยกษัตริย์เยอรมันหลุยส์ เป็นสำนักแม่ชีที่มีกลุ่มหญิงสาวชนชั้นสูงจากทางตอนใต้ของเยอรมันอาศัยอยู่ กษัตริย์หลายพระองค์ให้การอุปถัมภ์และสิทธิการใช้ที่นี่เป็นโรงกษาปณ์ในซูริคจนกระทั่งศตวรรษที่ 13 หลังจากนั้นมีการปฏิรูปสิทธิการครอบครองโบสถ์และสำนักแม่ชีให้เป็นของเมืองซูริค

โบสถ์ Fraumunster หรือ Church of Our Lady เป็นโบสถ์ที่สวยงามด้วยกระจกสี (Stain Glass) สร้างขึ้นโดย Emperor Ludwig (Louis) เป็นการสร้างให้กับธิดานาม Hildegard ตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 9 และถูกตกแต่งให้สวยงามด้วยกระจกสีในปี 1970 โดยศิลปินชาวรัสเซียนาม Marc Chagall ที่นี่เริ่มเปิดให้เข้าชม 10.00 น. เข้าชมฟรี แต่ห้ามถ่ายรูปโดยเด็ดขาด หากต้องการรูปด้านในจะมี postcard ขายให้เก็บเป็นที่ระลึก

กิลด์ เฮ้าส์ (Guild houses) กลุ่มอาคารที่ตั้งอยู่ตามแนวแม่น้ำลิมมัต ถูกก่อตั้งขึ้นในปี 1336

เดินมาถึงที่นี่ไม่รู้ตัว เด็กๆเริ่มหมดแรง การเที่ยวของเรา เดินๆๆชมเมือง

ถนนบานโฮฟซตราสเซอ (Bahnhofstrasse) เป็นถนนอันลือชื่อที่มีความยาวประมาณ 1.4 ก.ม. เป็นถนนที่เป็นที่รู้จักในระดับนานาชาติว่าเป็นถนนช้อปปิ้งที่มีราคาแพงที่สุดแห่งหนึง่ของโลก โดยตลอดสองข้างทางล้วนแล้วแต่เป้นที่ตั้งของห้างสรรพสินค้า ร้านค้าอัญมณี ร้านเครื่องประดับ ร้านนาฬิกาและโรงแรมระดับหรู

ป้ายห้ามสุนัขเข้าน่ารักดี ที่สวิสเป็นเมืองแห่งคนรักสุนัข จะพบเห็นสุนัขออกมาเดินเล่นกับเจ้าของทั่วไปแม้บนรถไฟหรือรถราง เห็นเป็นเรื่องปกติ

ช็อคโกแลตอีสเตอร์ อยากเจอต้องมาเที่ยวเดือนเมษา

แค่เดินดูร้านก็เพลินแล้วครับ

เดินมานานเพิ่งเจอร้านสำหรับเด็กๆ ร้านขายของเล่น Franz Carl Weber

ร้านของเล่นใหญ่มีหลายชั้น เพิ่งเห็นค่ะส่วนมากจะเป็นร้านชอปปิ้งสำหรับผู้ใหญ่มากกว่า

ได้เวลานั่งรถรางกลับแล้ว เรารอรถรางสาย 11

ขาไปเดินเที่ยว ขากลับนั่งรถราง หมดแรง ขาลาก ผ่านทะเลสาบซูริค อากาศดีคนออกมาพักผ่อนกันเต็มไปหมด

19.07 น ต่อรถไฟสาย S18 ที่สวนสาธารณะ Stadelhofen กลับบ้าน

19.33  ลงสถานีถัดจากSpitalไปอีก1สถานี  วันนี้เราวางแผน dinner ที่ร้าน Rosengarden วันนี้มีเวลา เราจะมากินพิซซ่า และฟองดูช็อคโกแลตค่ะ

วางแผนการกินอาหารสวิสเก็บไปทีละอย่างสองอย่างครับ

วันนี้ สั่งพิซซ่า Pizza Hawaii ถาดนี้ 21.5 CHF (797บาท) พิซซ่าอบในเตาแบบสวิสแท้ แป้งบางกรอบ ทีนี่ไม่มีให้สั่งชนิดแป้งเหมือนเมืองไทย มีแป้งบางกรอบอย่างเดียว

ฟองดูช็อคโกแลต Schoggi fondue 2set = 29 CHF ( 1,073บาท)

หน้าตาดูดีของ Schoggi fondue มีไอศครีมวานิลลาโปะมา1ก้อน

ตั้งหม้อช็อคโกแลตรสชาติเข้มข้นมาก ประมาณdark chocolate เอาผลไม้ มาจุ่มๆ  ฟองดูช็อคโกแลตสวิสเข้มข้นมาก

มื้อนี้อร่อยสุดๆ ถูกใจแทนไท กองทัพ

20.30 เดินเล่นกลับบ้าน ฟ้ายังสว่าง เดินกลับแค่ระยะห่าง1สถานีรถไฟ

ร่องรอยงานศิลเปรอะของเด็กๆชาวเมือง ที่นี่จะมีช็อล์คให่เด็กๆขีดเขียนเล่นตามถนน

ผ่านสวนกระต่ายอีสเตอร์ที่หนึ่งในดวงใจแม่ ไม่รู้บ้านไหนใครมาตกแต่งไว้ แบบนี้สไตล์แม่แวนด้าชัดๆ เป็นที่โปรดที่สุดอีกแห่งในทริปสวิสครั้งนี้

สวนกระต่าย ต้นแอปเปิ้ลกำลังออกดอกสีขาวสวย

ป้ายระวังแมว สังเกตุแมวการ์ฟิลด์เจ้าถิ่นทุกที่จะตัวอวบอ้วนทั้งนั้น ที่นี่มีเจ้าถิ่นก็ตัวนี้ล่ะ

บ้านเรือนเงียบสงบ ตามทางมีดอกไม้ออกดอกสวยๆ เป็นประเทศที่น่าอยู่จริงๆ

เดินผ่านทางหลังรพ.Spital Zollikerberg ดอกไม้สวย เสียงนกร้อง อากาศเย็น เป็นรพ.ที่ดูมีความสุขจริงๆ

เกือบถึงบ้านแล้ว สัญลักษณ์กบกระโดด ตอนแรกงงๆ เป็นป้ายให้ระวังกบกระโดดขึ้นเกาะกระจกหน้ารถโดยเฉพาะช่วงกลางคืน แปลกดีเหมือนกัน

21.24น .ถึงบ้าน (ตรงกับ ตี2.24น เมืองไทย) วันนี้แทน ทัพนั่งดูบอลต่อ นอนตี1สวิส ตรงกับ6โมงเช้าเมืองไทยพอดี ราตรีสวัสดิ์ครับ พรุ่งนี้เราจะไปชายขอบอิตาลีกันแต่เช้า

---------------------------------------------------------------------------------------------------