you shall be together even in the silent memory of God.
But let there be spaces in your togetherness,
And let the winds of the heavens dance between you.
|
|||
เรื่องเศร้าของ โกฮยอนจอง หรือมีซิล ชีวิตจริงยิ่งกว่านิยายของคำว่า "แม่" กับการรอคอยที่หาคำตอบไม่ได้.
//www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A9350668/A9350668.html
พอดีไปเจอเรื่องราวที่น่าสนใจของนางเอกดังที่กำลัง เป็นที่นิยมของหลายๆคน อย่างคุณ โกฮยอนจอง หรือที่คนรู้จักในชื่อของ มีซิล จากละครเรื่อง ซอนต็อก มหาราชินีสามแผ่นดิน ที่หลายๆคนชื่นชอบกัน เลยเก็บเนื้อหาดีๆเอามาแบ่งปันค่ะ สำหรับเรื่องราวชีวิตทางการแสดงของหญิงคนนี้ถือว่าเป็นนักแสดงนำหญิงเบอร์ ต้นๆที่หลายๆคนรู้จักและชื่นชม รวมทั้งด้านฝีมือก็ยังได้รับการการันตีจากหลากหลายสถาบันทั่วเกาหลี ตลอดระยะเวลาที่ละครหรือภาพยนตร์ได้ออกสู่สายตาประชาชน... เรื่องราว ด้านชีวิตคู่ ครอบครัว หรือชีวิตส่วนตัวของเธอนั้นเหมือนนิยายที่ถูกกำหนดขึ้นมาเพื่อทดสอบความแข็ง แกร่ง และความอดทนของผู้หญิงคนนึงในฐานะของ 'แม่' ที่ไม่ได้รับอนุญาตให้พบหน้าลูกตลอดชีวิตของคนเป็นแม่ กับคำพูดของ คุณโกฮยอนจองที่ทำให้หลายๆคนประทับใจในตัวเธอที่สื่อความรักเท่าที่ตัวเอง สามารถทำได้เพื่อลูก...เป็นหนึ่งคำพูดหรือแค่หนึ่งประโยคสั้นๆที่แม่จะสื่อ ถึงลูกๆที่ไม่สามารถเจอหน้าแม่ หรืออยู่ชื่นชมกับรางวัลสูงสุดในชีวิตของแม่ได้ คูณโกฮยอนนจอง กล่าวขณะได้รับรางวัล แดซัง สุดยอดนักแสดงแห่งปีจากเรื่อง อนต็อก มหาราชินีสามแผ่นดิน ของงานประกาศรางวัล MBC Drama Awards 2009 เมื่อวันที่ 30 ธันวาคมที่ผ่านมา...(เป็นช่วงสั้นๆที่ตัดมาและแปลออกมาเอง ผิดพลาดยังไงต้องขอโทษด้วยจริงๆค่ะ...) "ฉันรู้สึกเจ็บปวดมากจริงๆ ที่ได้รับบทบาทที่ต้องแสดงอารมณ์โกรธมากมายขนาดนั้น มันรู้สึกซีเรียสนะที่ฉันต้องเป็นมีซิล นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันได้เล่นละครย้อนยุค และฉันต้องขอบขอบคุณมากๆค่ะที่ทำให้ฉันได้รับรางวัลที่ยิ่งใหญ่นี้ และขอบคุณที่ทำให้ฉันมีโอกาสได้สวมชุดยืนอยู่ตรงนี้ ถ้าลูกๆของฉันกำลังดูอยู่ มันคงจะดีนะคะ..." ศิลปินไอดอลเกาหลี กับ "มิตรภาพ" ต่างค่าย ต่างวง...ทู้ชวนยิ้มบ้าง**~_~)
//www.pantip.com/cafe/chalermkrung/topic/C9315634/C9315634.html
ปีนี้สำหรับไอดอลเกาหลีแล้ว หลายๆวงเริ่มทยอยออกอัลบั้มใหม่คัมแบ๊คเวทีอีกครั้งเพื่อให้แฟนๆได้ชื่นใจ และได้กลับมาติดตามผลงานเพลงของพวกเขา หลังจากที่ในปีก่อนนั้นไอดอลรุ่นพี่หลายวงเริ่มออกตีตลาดญี่ปุ่น จีน หรืออเมริกา จนประสบความสำเร็จได้รับกำลังใจ กระแสตอบรับที่ดี รวมทั้งรางวัลการันตีมากมาย ช่วงครึ่งปีแรกไอดอลระดับบิ๊กของน้อง หลายๆคนได้คัมแบ๊คอีกครั้ง ทั้ง เรน ,ลีเฮียวริ ,wonder girls ,Super junior ,2PM ท่ามกลางอุปสรรคของธุรกิจการซื้อขายเพลงที่ร้อนขึ้น และอุปสรรคหนึ่งที่นักข่าวเรียกว่า "สมรภูมิไอดอล" กับการช่วงชิงการเป็นที่ 1 ในรายการเพลง K-chart ในแต่ละสัปดาห์ของรายการเพลง Mnet mcout-down,Music bank,Inkigayo เวที หลักเพียงสามรายการที่การันตีความนิยมของศิลปิน รางวัลที่ 1 จะถูกรวบรวมมาจากยอดขายอัลบั้ม เรตติ้งการชมโทรทัศน์ รวมทั้งผลโหวตของแฟนๆ ที่รวมเป็นผลคะแนนสูงสุดของแต่ละสัปดาห์... สิ่งต่างๆที่กล่าวมาแม้ พวกเขาจะได้รับรางวัลหรือได้แค่ชื่นชมมองดูกลุ่มอื่นๆรับรางวัล แต่ทุกๆครั้งที่มีการประกาศผลของรายการเพลง ศิลปินรุ่นพี่และรุ่นน้องที่เข้าร่วมในรายการเพลงจะขึ้นมาให้กำลังใจกันบน เวทีเสมอ...สำหรับรายการ Music bank รายการเพลงที่คนเกาหลีส่วนใหญ่ยกให้เป็นที่หนึ่งสำหรับชาร์ตเพลง เรนและลีเฮียวริจะขึ้นมายืนในทุกๆครั้งที่ตนเองมีชื่อเสนอเข้าชิง ทั้งๆที่ไม่รู้ว่าจะได้หรือไม่ก็ตาม ท่ามกลางไอดอลรุ่นน้องกว่าสิบวงที่ รายล้อม มีบางครั้งที่เรน ชนะ หรือลี เฮียวริชนะ ทั้งคู่จะเดินไปจับมือหรือกอดเพื่อให้กำลังใจกันและกันเสมอ รวมทั้งจะก้มรับความชื่นชมที่น้องๆปรบมือให้โดยไม่เร่งสำหรับการเตรียมตัว ร้องเพลงอังกอร์ สำหรับนักร้องเบอร์ใหญ่ในช่วงกระประกาศรางวัลไม่จำเป็นต้องออกมายืนดูผล คะแนนหรือยืนรอรับรางวัลพร้อมๆกับศิลปินรุ่นน้อง จนกว่าจะได้ยินการเรียกชื่อของตนเองจึงก้าวขึ้นมารับรางวัล มีอยู่ช่วง สัปดาห์ของการเข้าชิงรางวัลระหว่าง เรน 2PM และลีเฮียวริ ศิลปินกว่าสิบวงขึ้นมาให้กำลังใจและรวมฟังผลคะแนนร่วมกัน สัปดาห์นั้น 2PM ชนะไปสิ่งที่ประทับใจแฟนๆที่เข้าไปชมในวันนั้นคือ เรนที่ยืนมองผลคะแนนของตัวเองเมื่อไม่ได้ ก็เดินเข้าไปจับมือกับสมาชิกทุกๆคนในวง รวมทั้งลี เฮียวริที่ยิ้มและแสดงความยินดีกับ2PM ยืนฟังจนน้องๆทุกคนพูดเสร็จ เเละรายการตัดภาพมาที่เพลงอังกอร์ของ 2PM ภาพที่คนนอกจอไม่ได้เห็นแต่ชวนยิ้มอีกภาพสำหรับคนที่เข้าไปชมในสตูดิโอคือ เรน เดินเข้าไปข้างในพร้อมๆกับเต้นเพลงของ 2PM อย่างร่าเริง...*~_~ สำหรับศิลปินทุกๆคนที่ร่วมโชว์เพลงในแต่ละสัปดาห์ไม่มีใครอยากกลับบ้านไปมือ เปล่า เพราะทั้งเสื้อผ้าและการแสดงล้วนแต่ต้องเตรียมเพื่อโชว์สำหรับรายการโดย เฉพาะ ทุกคนอาจจะมีช่วงที่ผิดหวังที่พลาดรางวัลหรือไม่ได้รับชื่อเข้าชิง แต่สำหรับวงไอดอลกว่าสิบวงที่มาแสดงร่วมกันบนเวทีเดียวกัน พวกเขามาด้วยใจที่อยากจะโชว์เพลงของตนเอง ไร้ค่าย ไร้สังกัด พร้อมที่จะยืนดูผลโหวตของกลุ่มอื่นๆและปรบมือให้ความสำเร็จของผู้ชนะในวัน นั้น... ถ้าเรามองเข้าไปถึงมิตรภาพและกำลังใจที่ศิลปินมีให้แก่กัน มันสื่อถึงความสัมพันธ์ที่มีค่า และอบอุ่น มันมากกว่าการนั่งผิดหวังหรือหมดกำลังใจที่ศิลปินที่ตัวเองรักไปไม่ถึงเป้า ที่ตั้งไว้ หรืออนาคตที่คิดว่าควรจะได้รับกลับเสียไป เด็กทุกๆคนที่ก้าวมาเป็นไอดอลในทุกวันนี้ไม่มีใครที่ไม่ผ่านบททดสอบที่เรียก ว่า "ศิลปินฝึกหัด" trainee ที่พยายามตามฝันของตัวทิ้งช่วงความสุขในวัยรุ่น หรือแม้แต่ความอบอุ่นในครอบครัว เพื่อพาตัวเองเข้ามาอยู่ในโรงเรียนประจำ ที่มีชื่อแปลกๆบ้างก็ SM-JYP-YG Entertainment., สามค่ายยักษ์ใหญ่ที่บ่มเพาะเด็กที่มีพรสววรค์และฝันของการเป็นศิลปิน ทุกวันนี้ เรน ลีเฮียวริ Bigbang 2PM 2AM Wonder girls TVXQ Super junior SNSD Kara ที่คนรุ่นนี้รู้จักกันล้วนแต่เคยผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากมาด้วยกันทั้งนั้น บางคนเลือกที่จะไปตามทางของตัวเองปล่อยมือเพื่อนที่เดินมาพร้อมๆกัน แต่แยกไปเป็นเด็กฝึกหัดต่างค่ายทั้งๆที่เป็นเพื่อนรักกันแต่ต้องแยกค่าย หรือแม้แต่บางคนที่มีหลายๆค่ายเสนอเข้ามาเเต่เขากลับเลือกที่จะอยู่ในค่าย เล็กๆที่ไม่มีใครที่รู้จักเลย...เป็นไปไม่ได้ที่เด็กฝึกหัดทุกๆคนจะไปถึงฝัน ของตัวเอง ศิลปินเหล่านี้ล้วนแต่มีเพื่อนที่พลาดจากการเป็นเด็กฝึกหัดด้วยกันเพราะความ ท้อ และหมดหวัง ทำให้ทิ้งฝันไปกลางคัน ไม่สามารถต้านความยากลำบากในการฝึก หรือความคิดถึงคนเบื้องหลังที่สนับสนุนพวกเขา เรน ดาราเบอร์หนึ่งของเกาหลีเคยโดนคนที่เรียกว่าครู ตำหนิมาตลอดว่าเขาไม่สามารถเป็นอย่างอื่นได้นอกจากแดนเซอร์เล็กๆ โจควอน 2AM เป็นเด็กฝึกหัดมาตั้งแต่เด็กเรียนและนอนในที่ๆไม่มีความอบอุ่นของคนในครอบ ครัวมาตลอดเวลา 7 ปี พลาดการคัดเลือกเป็นศิลปินมานับกว่าสิบครั้ง เพื่อนสนิทอย่างซอนเย ลีดเดอร์ wonder girls ได้เดบิวต์ก่อนเขา และประสบความสำเร็จในครั้งแรกที่เพลงเดบิวต์เปิดตัว ในทุกๆครั้งที่โจควอนเห็นหน้าซอนเย wonder girls เขาจะรู้สึกปวดใจทุกครั้ง เด็กสองคนที่โตมาด้วยแต่โจควอนไม่รู้เลยว่าเวลา 7 ปีที่ทุ่มเทไปจะได้รับการเรียกตัวเพื่อเป็นศิลปินวันไหน ไม่รู้แม้แต่วันที่จะโดนขอให้ลาออกจากบริษัท แต่วันนี้ 7 ปีที่เฝ้าฝึกและเหนื่อยมาตลอดมาวันนี้ผู้ชายตัวเล็กๆฮาๆที่มีแค่ความสามารถ ในการร้อง กลับกลายเป็นผู้ชายที่รายการโทรทัศน์ต้องการตัวมากที่สุด หลายๆ คนผ่านช่วงเวลาที่เรียกว่าขีดเส้นตาย จะกลับไปเรียนอย่างเดิมเหมือนคนทั่วไป หรือจะเดินเข้าออกบริษัทเพื่อเรียนเต้นและร้องทุกๆวันเกือบเช้า จากตัวอย่างน้อง ปณิตา เด็กไทยที่ได้รับโอกาสให้เข้าฝึกที่บริษัท JYP Ent. หลายๆคนถามถึงว่าทำไมยังไม่ได้เดบิวต์หรือหายไปไหน นี่เป็นอีกบททดสอบของเด็กคนหนึ่งที่ทิ้งความอบอุ่นหรือสิ่งที่เหมือนๆกับคน อื่นๆได้รับคืออ้อมกอดจากพ่อแม่หรือความสุขเมื่อได้อยู่กับเพื่อนๆ ช่วงวัยเด็กที่สดใสเหล่านั้นอาจจะหายไป เด็กอายุแค่ 9 ขวบ กับการเลือกเดินตามฝันของตัวเองวันนี้น้องปณิตาอายุแค่สิบต้นๆ และยังมุ่งมั่นที่จะเทรนด์ที่ JYP Ent. ต่อไปทั้งๆที่ก็ไม่รู้ว่าจะได้เดบิวต์เมื่อไหร่ แต่แค่ความเชื่อในตัวเอง ในความสามารถที่สามารถพัฒนาต่อ น้องก็ยังคงเดินหน้าทำมันต่อไป... พูดมา อาจจะไม่เชื่อค่ะ แต่น้องปณิตาพยายามฝืนตัวเองร้องเพลงเลยเที่ยงคืนทุกๆคืนเพื่อจะได้สอบวัด ความสามารถในช่วงการสอบของบริษัท เด็กคนนึงที่ต้องพยายามร้องเพลงเกาหลี พูดเกาหลี พูดจีน และเรียนเต้นไปด้วยทุกๆวันจนดึกดื่น กลับได้รับการตอบแทนจากคนไทยด้วยกันเองอย่างไม่น่าให้อภัย บุคคลเหล่านั้นไม่เคยรู้จักหรือพบเจอแต่ได้ตั้งเว็บแอนตี้น้องซึ่งถ้าเรา เป็นบริษัทเกาหลีเราเองก็คงอยากจะพักแผนเดบิวต์เพราะคนไทยด้วยกันเองยังไม่ สนับสนุนน้อง...คลิก google มาสองปีก็ยังก็เจอเว็บนั้นเสมอ ไม่สามารถบรรยายกับสิ่งที่เราต่อต้านคนของเราเองได้เลย ~น่าเศร้าค่ะ ทำไม คนเกาหลีถึงได้รักไอดอล หรือชื่นชมในตัวศิลปินนักร้อง เพราะเด็กอายุแค่สิบกว่าสามารถเป็นนักร้องได้ก็ต้องผ่านประสบการณ์ที่เลว ร้ายและลำบากมาเยอะ ไม่สามารถกลับบ้านได้ในช่วงเวลาที่เศร้าเสียใจ หรือถูกตำหนิ บางคนต้องฝึกหนักไม่มีแม้แต่วันปีใหม่ที่ได้อยู่กับครอบครัว หรือแม้แต่วันเกิดที่จะได้เป่าเค้กวันเกิดกับคนที่เขารัก พวกเด็กฝึกหัดมีแค่ "เพื่อน" ที่ให้กำลังใจและกอดกันไว้เมื่อเหงา เศร้า หรือทุกข์ใจ สมาชิกของทุกๆวงน่าชื่นชมที่เขาและเธอไม่ทิ้งความฝันไปกลางคัน กล้าที่จะเผชิญปัญหา บางคนอาจจะรักกันแบบเพื่อนหรือแฟน แต่มันดีไม่ใช่เหรอคะที่พวกเขาค่อยๆก้าวไปพร้อมกันเพื่อความสำเร็จให้ครอบ ครัวได้ภูมิใจ แม้ขณะที่ได้เดบิวต์มาเป็นศิลปินเต็มตัวทุกๆคนก็ต้องพบ กับปัญหาการทำงาน รวมทั้งผลกระทบด้านจิตใจที่ผ่านเข้ามา พวกเขาสามารถผ่านมันไปได้เพราะช่วงเวลาที่เป็นเด็กฝึกหัดจะสอนให้เขาคิดเสมอ ว่าแม้แต่เวลาที่ไม่มีใครอยู่ให้กำลังใจ หรือไม่มีแม้แต่คำปลอบใจเมื่อท้อ ใจตัวเองยังสู้ และไม่มีวงไหนหรอกที่ไม่มีน้ำตาหรือไม่เคยมีรอยยิ้ม ต่างมีสุขและทุกข์คละกันไปทุกคน ขึ้นอยู่แค่ว่าจะมีแรงพยุงความฝันเอาไว้ได้นานแค่ไหน...พูดมาเยอะแต่มันอั้น กับความสัมพันธ์ที่หลายๆคนลืมไปว่าเบื้องหลังของมิตรภาพไม่ได้อยู่ที่ค่าย หรือวงใดๆ แต่อยู่ที่ความเป็นเพื่อนร่วมฝัน อย่าทำลายมิตรภาพเหล่านี้เพราะความแคลงใจอื่นใดเลยค่ะ ให้เกียรติศิลปินวงอื่นๆเหมือนที่ศิลปินให้เกียรติกันและกันนะคะ... |
Taekookyeoja
![]() ![]() ![]() ![]() ![]() Give your hearts, but not into each other's keeping. For only the hand of Life can contain your hearts. And stand together yet not too near together: For the pillars of the temple stand apart, And the oak tree and the cypress grow not in each other's shadow. Group Blog All Blog Link |
||
Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved. |