Group Blog
 
 
กันยายน 2550
 
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
30 
 
10 กันยายน 2550
 
All Blogs
 

คำถามที่คาใจ

ต้นไม้แก่ตายได้ไหม ?

ต้นไม้มีอายุยืนเท่าไหร่ครับ และเวลามันตาย หมายถึงว่ามันหมดอายุขัย คือแก่ตายใช่หรือไม่ ?

ไม่ ในความหมายเดียวกับคน คนเรามีชีวิตที่แน่นอน เราสามารถมีชีวิตอยู่ได้ถึงอายุหนึ่ง ไม่นานไปกว่านั้น ทุกวันนี้คนโดยเฉลี่ยจะมีช่วงชีวิตประมาณ 74 ปี มีคนจำนวนน้อยที่จะอยู่จนถึง 90 ปี หรือมากกว่านั้น อย่างไรก็ตาม นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าเป็นไปไม่ได้เลยทางกายภาพที่คนเราจะมีชีวิตยืนยาวเกิน 120 ปี

ต้นไม้ทุกต้นต้องตายลงในที่สุด แต่ต้นไม้ไม่มีช่วงชีวิตที่กำหนดตายตัวเหมือนอย่างคนเรา ต้นไม้โดยเฉลี่ยอาจขืนต้นอยู่เป็นจำนวนปีที่แน่นอน ขึ้นอยู่กับว่าต้นไม้นั้นเป็นต้นไม้ชนิดใด ต้นไม้ส่วนใหญ่ถูก "ฆ่า" ตั้งแต่ในช่วงต้นของชีวิต โดยมนุษย์ อุบัติเหตุ โรคพืช แมลง และสาเหตุอื่น ๆ แต่ต้นไม้อีกหลายชนิดมีอายุยืนยาวกว่ามาก ตัวอย่างที่ดีที่สุด คือต้นสนบริสเซิลโคนซึ่งมีอายุยืน 200-375 ปี นักวิทยาศาสตร์ค้นพบว่าต้นสนบริสเซิลโคนในรัฐแคลิฟอร์เนียสมีอายุเกินกว่า 4,000 ปีด้วยซ้ำ

ทำไมต้นไม้มีชีวิตยืนยาว เหตุผลหลักก็คือ ต้นไม้มีโครงสร้างที่สลับซับซ้อนน้อยกว่าคนมาก คนและสัตว์มีสมองสั่งการและควบคุมการทำกิจกรรมต่าง ๆ เมื่อสมองตายเราก็ตาย แต่สำหรับต้นไม้แล้ว เช่นเดียวกับพืชทุกชนิด โครงสร้างของมันเรียบง่ายกว่ามาก ต้นไม้ไม่มีสมอง หลายส่วนของมันอาจตายไปโดยไม่ทำให้ต้นไม้ทั้งต้นตายไปด้วย อันที่จริงส่วนใหญ่ของต้นไม้ที่ปรกติสมบูรณ์ดีกลับเป็นส่วนที่ตายแล้ว ตัวอย่างเช่นเนื้อไม้ใจกลางลำต้น สวนของต้นไม้ที่มีชีวิตอยู่ คือชั้นเนื้อเยื่อบาง ๆ ใต้ผิวเปลือกไม้ เรียกว่า แคมเบียม (cambium) กับใบไม้ ปลาย ราก และกิ่งก้านเท่านั้น

ทั้งหมดที่เหลือรอดมีชีวิตอยู่ของต้นสนบริสเซิลโคนโบราณในรัฐแคลิฟอร์เนียก็คือเนื้อเยื่อแคมเบียมและใบไม้ แต่ปีแล้วปีเล่าต้นสนยังคงยืนหยัดต่อไป อาจเป็นไปได้ว่ามันจะมีชีวิตยืนยาวต่อไปอีกนานหลังจากที่พวกเราลาจากโลกนี้ไปแล้ว

คุณลุงหน้าร้าน KFC เป็นใคร

ตุ๊กตาที่ตั้งอยู่หน้าร้านไก่ทอดเคเอฟซีเป็นรูปคุณลุงแก่ ๆ นั้นเป็นใครกัน เดาว่าเป็นเจ้าของร้านใช่หรือไม่

หุ่นที่เราเห็นเวลาผ่านหรือเข้าไปใช้บริการในร้านเคเอฟซีนั้นคือสัญลักษณ์ที่เป็นตัวแทนผู้ก่อตั้งเคเอฟซีตั้งแต่ปี ค.ศ.๑๙๓๙

คนคนนี้มีชื่อว่า ฮาร์แลนด์ ดี แซนเดอรส์ เกิดเมื่อวันที่ ๙ กันยายน ค.ศ.๑๘๙๐ มีพี่น้องทั้งหมดสามคน เป็นลูกชายคนโตเมื่อเขาอายุได้เพียงหกขวบ บิดาก็เสียชีวิต ทำให้แม่ต้องทำงานเพื่อหาเลี้ยงครอบครัวแต่เพียงผู้เดียว แซนเดอรส์ซึ่งยังเป็นเด็กน้อยอายุหกขวบ ต้องเลี้ยงดูน้องชายอายุสามขวบและน้องสาวซึ่งยังแบเบาะอยู่ เขาต้องทำงานบ้านทุกอย่างรวมถึงทำอาหารเองด้วย แซนเดอรส์มีพรสวรรค์ในเรื่องนี้จนได้เป็นผู้ชนะเลิศในการประกวดปรุงอาหารประจำหมู่บ้านขณะที่อายุเพียงเจ็ดขวบ
แซนเดอรส์เริ่มรับจ้างทำงานครั้งแรกเมื่ออายุได้ ๑๐ ปี โดยเริ่มจากงานในฟาร์มใกล้บ้าน ได้ค่าแรงเพียงเดือนละ ๒ ดอลลาร์ พออายุได้ ๑๒ ปี ก็ออกจากบ้านไปทำงานที่ฟาร์มในหมู่บ้านเฮนรี วิลล์ ซึ่งนับเป็นจุดเริ่มต้นของชีวิตการทำงานหลาย ๆ อย่างที่เขาเคยทำ เช่น นักดับเพลิง ฝึกงานที่ศาล ขายประกัน ขายยาง ทำงานที่สถานีขนส่ง เมื่ออายุ ๔๐ ปี แซนเดอรส์เริ่มปรุงอาหารจำหน่ายแก่ผู้โดยสารที่แวะหยุดพักที่สถานีขนส่งในเมืองคอร์บิน รัฐเคนตั๊กกี้ ปรากฏว่าอาหารฝีมือการปรุงของแซนเดอรส์เป็นที่เลื่องลือ แซนเดอรส์จึงลาออกไปทำร้านอาหาร หลังจากนั้นเก้าปี คือในปี ค.ศ.๑๙๓๙ แซนเดอรส์ได้คิดสูตรปรุงไก่ทอดโดยใช้ส่วนผสมลับเฉพาะจากเครื่องเทศ ๑๑ ชนิด และใช้วิธีการทอดแบบพิเศษเพื่อรักษารสชาติและความหอมอร่อยของไก่ทอด ซึ่งถือเป็นต้นกำเนิดไก่ทอดสูตรต้นตำรับเคเอฟซี แซนเดอรส์สร้างชื่อเสียงให้แก่รัฐเคนตั๊กกี้มาก ผู้ว่าการรัฐจึงแต่งตั้งให้เขาเป็น "ผู้พันเคนตั๊กกี้" เพื่อเป็นเกียรติ
จากนั้นมาผู้พันแซนเดอรส์ก็เดินทางไปทั่วสหรัฐอเมริกา และแคนาดาเพื่อขายเฟรนด์ไชส์ธุรกิจไก่ทอดของเขา ซึ่งนับเป็นจุดเริ่มต้นของการขายเฟรนด์ไชส์ในปี ค.ศ.๑๙๕๐ และได้จัดตั้งเป็นบริษัทไก่ทอดเคนตั๊กกี้ในปี ค.ศ. ๑๙๕๕
ผู้พันแซนเดอรส์ล้มป่วยด้วยโรคลูคีเมียและถึงแก่กรรมในปี ค.ศ.๑๙๘๐ รวมอายุได้ ๙๐ ปี
จนถึงวันนี้ รวมเป็นเวลากว่า ๕๙ ปีแล้วที่เคเอฟซีถือกำเนิดมาในตลาดธุรกิจฟาสต์ฟูด ปัจจุบันเคเอฟซีได้ขยายสาขามากกว่า ๒๙,๕๐๐ แห่งใน ๙๒ ประเทศทั่วโลก จากอเมริกาสู่กำแพงเมืองจีน จากตะวันตกสู่ตะวันออก...โดยมีหุ่นผู้พันแซนเดอรส์ปรากฏอยู่หน้าร้านเหมือนจะเป็นเครื่องรับประกันความอร่อยของไก่ทอดยี่ห้อนี้

หมวกของเชฟ

ทำไมพ่อครัวต้องสวมหมวกสีขาวทรงสูง ?

หมวกของพ่อครัวใหญ่หรือเชฟ (Chef) ออกแบบให้เป็นหมวกทรงสูงเพื่อระบายอากาศร้อน ต่อมาได้ข้อมูลเพิ่มเติมในเชิงประวัติความเป็นมา จึงขอนำมาขยายต่อดังนี้

ธรรมเนียมปฏิบัติของเชฟในการสวมหมวกทรงสูงพองโป่งด้านบนย้อนกลับไปถึงศตวรรษที่ ๑๕ ในยุคนั้นพ่อครัวเป็นอาชีพที่ทำรายได้สูงมากและยังเป็นที่ยกย่องนับถือของชาวกรีกในกรุงไบแซนเทียม (ชื่อโบราณของกรุงอิสตันบูล จนถึงปี ๓๓๐ ก่อนคริสตกาล) เมื่อพวกเติร์กล้มล้างจักรวรรดิไบแซนทีนใน ค.ศ. ๑๔๕๓ บรรดาพ่อครัวต้องหนีไปหลบซ่อนตัว สถานที่หลบภัยก็คือสำนักสงฆ์ เพื่อให้กลมกลืน พวกเขาสวมใส่เครื่องแต่งกายเช่นเดียวกับพระที่พวกเขามาขออาศัยอยู่ด้วย

เครื่องแต่งกายชิ้นหนึ่งของพระก็คือ หมวกสีดำทรงสูงที่พองโป่งตรงส่วนยอด ต่อมาพวกพ่อครัวได้เปลี่ยนเฉพาะสีของหมวกเป็นสีขาวเพื่อให้พอแยกออกระหว่างพวกเขากับพระจริง ๆ ส่วนรูปทรงของหมวกนั้น เข้าใจว่าพวกพ่อครัวคงชอบมาก จึงคงไว้แบบเดิมไม่เปลี่ยนแปลง

พูดถึงเชฟแล้ว คุณณัชชารู้หรือไม่ว่า เรื่องตำแหน่งหน้าที่ในครัวฝรั่งดูแล้วไม่ต่างอะไรจากกองทัพที่มีนายร้อย นายพัน นายพลเลย อแมนดา เกล เชฟหญิง เล่าไว้ใน จีเอ็ม ปักษ์หลังกรกฎาคม ๒๕๔๗ ว่า โดยทั่วไปที่เป็นพื้นฐานเลยก็คือตำแหน่งฝึกงานซึ่งจะได้ค่าจ้างน้อย ๆ ก่อน แล้วพอทำงานไปเรื่อย ๆ อาจจะเป็น ๑ ปี ๒ ปี ๓ ปี ๔ ปี แต่ละปีก็จะได้เงินมากขึ้นเรื่อย ๆ แล้วหลังจากนั้นก็ได้ก้าวขึ้นมาเป็นเดมิเชฟเดอพาตี คำว่า เดมิ (demi) ก็คือ small หรือเล็ก จากนั้นถึงจะได้ขึ้นมาเป็นเชฟเดอพาตี มีหน้าที่ดูแลแผนกต่าง ๆ จากนั้นถึงจะเป็นเดมิซูส์เชฟ ก่อนจะเป็นซูส์เชฟ แล้วก็เชฟ และเอ็กเซ็กคูทีฟเชฟในที่สุด

อะแคเดอมีแปลว่าอะไร ?

กำลังติดรายการ Academy Fantasia ทางเคเบิลทีวีอย่างงอมแงม เขาจับหนุ่มสาว ๑๒ คนมาไว้ในบ้านเดียวกัน สอนการแสดงและร้องเพลง แล้วค่อย ๆ คัดออกสัปดาห์ละคนโดยการโหวตของผู้ชมทางบ้าน เข้าใจว่า Academy คงหมายถึงสถาบันหรือโรงเรียนอะไรสักอย่าง เลยอยากทราบความหมายที่แท้จริง

นิยามความหมายอย่างกว้างที่สุด “Academy” ก็คือโรงเรียน โรงเรียนจำนวนมากโดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกาจะเรียกว่าอะแคเดอมี
อะแคเดอมีแห่งแรกสุดคือโรงเรียนที่นักปราชญ์ชาวกรีกโบราณเพลโต (Plato) เป็นครูสอนในช่วงศตวรรษที่ ๔ ก่อนคริสตกาล โรงเรียนนี้ได้ชื่อมาจากคำว่า “Academia” ซึ่งหมายถึงสวนมะกอกตรงชานกรุงเอเธนส์ ที่สวนมะกอกนี้เพลโตและพวกลูกศิษย์จะอภิปรายถกเถียงหัวข้อต่าง ๆ หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ธรรมชาติ รวมถึงรัฐบาลที่ดี
ภายหลังจากที่เพลโตตายไป “The Academy” ยังดำเนินการเรียนการสอนต่อมาโดยสานุศิษย์และผู้สืบทอดภารกิจของเขา โรงเรียนแห่งนี้อยู่มาจนถึงปี ค.ศ. ๕๒๙ เมื่อจักรพรรดิโรมันจัสติเนียนปิดมันลง
ทั้งครูและนักเรียนชาวกรีกใน “เดอะอะแคเดอมี” มุ่งความสนใจในเรื่องศิลปะ วรรณคดี ดนตรี และวิทยาศาสตร์ ดังนั้นในปัจจุบันกลุ่มคนใดที่มารวมตัวกันเพื่ออภิปรายแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในหัวข้อเหล่านี้จึงอาจเรียกได้ว่า อะแคเดอมี
หลายประเทศได้ก่อตั้งสถาบันอะแคเดอมีขึ้น ที่มีชื่อเสียงที่สุดในปัจจุบันน่าจะเป็น Academie Francaise ของประเทศฝรั่งเศสซึ่งตั้งขึ้นในปี ค.ศ. ๑๖๓๕ โดยพระคาร์ดินัลริเชลลิ [Cardinal Richelieu] สมาชิกของอะแคเดอมีแห่งฝรั่งเศสนี้มีภารกิจในการเขียนพจนานุกรมซึ่งดำเนินการตั้งแต่ปี ค.ศ. ๑๖๓๙-๑๖๙๔ และจากช่วงนั้นมาอะแคเดอมีนี้ถือเป็นองค์กรเดียวที่มีอำนาจชี้แนะในเรื่องภาษาฝรั่งเศส
ส่วนสถาบันอะแคเดอมีที่เป็นที่รู้จักกันดีที่สุดของสหรัฐอเมริกา ก็คือ The Academy of Motion Picture Arts and Sciences เจ้าของรางวัล Academy Award ซึ่งเป็นชื่ออย่างเป็นทางการของรางวัลออสการ์นั่นเอง รางวัลนี้มอบให้แก่นักแสดง ผู้กำกับ ช่างภาพ นักออกแบบ และผู้ทำงานในอุตสาหกรรมภาพยนตร์เป็นประจำทุกปีนับตั้งแต่ปี ค.ศ. ๑๙๒๙
ในประเทศอังกฤษสถาบันอะแคเดอมีที่รู้จักกันดีที่สุด คือ The Royal Academy of Arts ก่อตั้งในปี ค.ศ. ๑๗๖๘ และ The Royal Academy of Music ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. ๑๘๒๒ ทั้งสองสถาบันนี้ตั้งอยู่ในกรุงลอนดอน





 

Create Date : 10 กันยายน 2550
1 comments
Last Update : 12 กันยายน 2550 13:24:02 น.
Counter : 982 Pageviews.

 

animatiom น่ารักอะ

ชอบๆๆๆๆๆ

เริ๊ดค่ะเริด...

 

โดย: ae"chem IP: 202.28.77.34 19 กันยายน 2550 14:40:06 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


DR.SEE
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




คติของเรา
ทำวันนี้ให้ดีที่สุด
อย่าท้อแท้เมื่อยังมีหวัง
ไม่มีอะไรยาก ถ้าเราคิดจะทำ
อย่ามัวยืนรอความฝันให้เข้ามาหา
ชนะใจคนอื่นเรื่องง่ายชนะใจตนเองเรื่องยาก
ยินดีที่เข้ามาครับ
Friends' blogs
[Add DR.SEE's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.