ไม้จริง หรือไม้เนื้อแข็งที่ผ่านการเจาะรูด้วยเครื่องมือช่าง แบ่งเป็นที่นิยมหลายประเภทไม้ จากประสบการณ์ตรงของผมเอง พอจะสรุปได้ดังนี้
-
ไม้สัก ไม้สักเป็นไม้สีสวยอ่อนๆ ขลุ่ยในภาพนี้ให้เครดิตช่างโสภณครับ นุ่มละมุน มีเสียงที่อ่อนหวาน เสียงออกจะเบา ทุ้ม เหมาะกับการเป่าคนเดียวในที่ทึบ เป่านอกบ้านเสียงหายหมด ข้อเสียคือตรงจุดนี้นั่นแหละ ไม่อาจนำไปเป่าร่วมกับวงได้ เพราะเสียงเบาเกิน แต่หลังจากที่ได้ทำการทดสอบ เสียงเบาหรือดังอยู่ที่ช่างทำขลุ่ยด้วยเช่นกัน ขลุ่ยของช่างหลายท่านที่ฝีมือติดความนิยม ไม้สักเสียงดังเช่นกัน เช่น ไม้สักท่านโสภณ เป็นต้น ผมจึงย้ำเสมอว่าอยู่ที่ช่างมากกว่าที่ไม้
-
ไม้ชิงชัง เป็นไม้เนื้อแข็งมาก เสียงค่อนข้างหวานกระด้าง สำหรับคนที่ชอบเป่าแนวลูกทุ่ง ผมแนะนำตัวนี้เลย
-
ไม้ดำดง ไม้ชนิดนี้สวยงามมาก ส่วนตัวชอบแบบติดลายเหลืองๆ มาด้วย เสียงขลุ่ยจะหวานมาก นุ่มมาก แต่ไม่ทุ้ม (ปล. ส่วนตัวผมชอบไม้ชนิดนี้ครับ)
-
ไม้มะริด เสียงจะอยู่ตรงกลางระหว่างไม้ชิงชักกับไม้สัก อันนี้ด้วยความเข้าใจของผมนะครับ เสียงมันจะหวานก็ไม่หวาน จะแข็งก็ไม่แข็ง อยู่กลางๆ แต่ผมชอบลายไม้มะริดครับ
-
ไม้มะเกลือดำ เสียงออกแข็งดุๆ ส่วนตัวเคยทำมาใช้ 2 เลา แตกง่ายมาก อยู่ๆ ก็ลั่นแตกไปดื้อๆ ตรงส่วนนี้ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าเป็นที่ผมเองหรือว่าไม้มันลั่นง่าย
-
ไม้มะเกลือเลือด ในภาพประกอบเป็นเครดิตคุณเติ้ลครับ ผมเคยลองใช้อยู่แต่เป็นของคนอื่น ไม่ใช่ของคุณเติ้ลนะ เสียงนุ่มแหลม ใช้ได้เลย แต่พอขึ้นเสียงสูงจะแหบๆ ตรงจุดนี้ไม่แน่ใจว่า เป็นที่ช่างหรือตัวไม้
-
ไม้พญางิ้วดำ เสียงออกด้านๆ แต่ใสกังวาร ฟังไปฟังมาคล้ายขลุ่ยพีวีซี
-
ไม้กระพี้เขาควาย เสียงคล้ายชิงชัน แต่หวานกว่า
-
ไม้รัก เสียงออกเบาๆ ส่วนตัวผมไม่ชอบครับ เพราะจะหวานก็ไม่หวาน จะดุก็ไม่ดุ ถ้าเป็นรักแดงบางชนิด จะมีพิษ คนแพ้อาจผิวอักเสบได้ต้องระวัง
-
ไม้พยุง เสียงหวานออกดุๆ ไพเราะใช้ได้เลย
-
ไม้รวก ผมให้คะแนนไม้รวกเป็นอันดับ 1 ครับ ข้อเสียคือพกไปไหนมาไหนลำบาก ผมเคยใส่กล่องอย่างดิบดีบินไปอเมริกา พอเปิดกล่องแตกตั้งแต่หัวยันหางขลุ่ย T^T
ข้อเสียของไม้ลวก คือ โคนใหญ่ปลายเรียว ทำเสียงคีย์สากลไม่ตรงหรือตรงยากมาก และเสี่ยงต่อการชำรุดง่าย
-
พีวีซี ภาพนี้เครดิตภาพช่างวิรัตน์ ส่วนตัวผมมองว่าเสียงดีกว่าไม้บางเลานะครับ แถมเสียงไม่ค่อยตกเวลาอากาศเปลี่ยน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับช่างด้วย เพราะมี 3 ท่อนที่สามารถปรับจูนเสียงได้ โดยการขยับเลาให้ยาวขึ้นทั้งหัวท้ายให้เท่ากันนั่นเอง โดยที่เมื่อขลุ่ยยาวขึ้น เสียงจะต่ำลง ใช้ปรับในกรณีที่อากาศร้อนที่ทำให้ขลุ่ยเสียงสูงขึ้น
- ไม้ตะแบกขาว เสียงคล้ายไม้สักมาก แต่จะดุกว่า และหวานน้อยกว่า
- ขลุ่ยไม้มะขาม เสียงใสกังวาลดัง แต่แข็งกร้าว ไม่เหมาะเอามาเล่นเพลงเศร้านัก
- ไม้แอฟริกันแบ็คหวูด (African Blackwood) สีดำของไม้พอส่องกับแสงจะออกสีทองปนเหลืองส้ม เสียงคล้ายคลึงไม้พยุงมาก แต่ใสและกังวาลกว่า ส่วนความนุ่มน้อยกว่าไม้พยุงนิดหน่อย
ทั้งนี้ทั้งนั้นเสียงจะดีกว่าที่เขียนไว้ หรือใช้งานได้มากกว่าที่เขียนไว้หรือไม่ ขึ้นอยู่กับความเก่ง ของช่างที่ทำขลุ่ย ส่วนตัวผมเองเคยเห็นกับตาแล้วว่าช่างเก่งๆ สามารถทำให้เสียงไม้แต่ละชนิดดีขึ้นอย่างผิดตา ได้จริงๆ
* หมายเหตุ สำหรับภาพประกอบที่ใช้ ผมนำมาจาก Google นะครับ บางภาพผมทราบที่มาก็จะใส่เครดิตไว้ให้ หากเจ้าของภาพมาเจอภายหลังแล้วยืนยันได้ว่าเป็นเจ้าภาพจริง ต้องการให้ใส่เครดิตเพิ่ม หรือจะให้นำภาพออกก็ยินดีครับ