|
|
|
|
|
|
ป.4 จะจดทะเบียนแบบไหนดี ระหว่าง หจก. กับ บริษัท
ทั้ง 2 แบบ เราเรียกว่าเป็นรูปแบบ นิติบุคคล หจก. - ตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป -ค่าใช้จ่ายตอนจดทะเบียน ค่าธรรมเนียมไม่เกินห้าพันบาทโดยประมาณ -การทำบัญชีเหมือนกัน บริษัท - ตั้งแต่ 3 คนขึ้นไป - ค่าใช้จ่ายตอนจดทะเบียนแพงกว่านิดหน่อย ค่าธรรมเนียมไม่เกินหมื่น - ความน่าเชื่อถือมีมากกว่า
การทำบัญชีในรูปแบบนี้เราคงไม่สามารถทำคนเดียวได้เพราะว่า ต้องมีการบันทึกบัญชีให้ถูกต้องตามหลักการ มีผู้จัดทำบัญชีเซ็นชื่อ มีผู้ตรวจสอบบัญชีเซ็นชื่ออีก ยุ่งพอสมควร ด้านภาษี ต้องยื่นแบบกลางปี คือ ภงด. 51 และปลายปีคือ ภงด. 50 ไม่เหมือนบุคคลธรรมดา เอาหละ ถึงตอนนี้ ก็อยากจะแนะนำให้หาผู้เชี่ยวชาญ เอาที่คุณภาพสมราคา แล้วเราก็มีหน้าที่ขายของหารายได้ไปดีกว่า งานจุกจิกปล่อยให้ฝ่ายบัญชีเค้าจัดการกันไปเถอะ แต่ก็อยากจะย้ำหน่อยนะว่า ให้เก็บเอกสารทุกอย่างให้เรียบร้อย การจ่ายเงินค่าใช้จ่ายเก็บบิลด้วย Bank statement, payin ต่าง ๆ เก็บให้หมดนะ การรรับเงินด้วย เพื่อให้บัญชีของคุณมีเอกสารน่าเชื่อถือไงหล่ะ
Create Date : 15 เมษายน 2552 | | |
Last Update : 15 เมษายน 2552 14:35:06 น. |
Counter : 777 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
ขึ้นป.3 ต้องรู้จักบริหารภาษี
หลังจากขึ้นป. 2 แล้วก็ขายดีขึ้นเรื่อย ๆ เราไม่ต้องกังวลเรื่องยอดขายเกิน 1.8 ล้านแล้ว แต่ให้รวมยอดขายทุก ๆเดือน เพื่อเสียภาษีกลางปี+ปลายปี ทีนี้ถ้ามันเยอะมาก ๆ หละ ภาษีก็เยอะตามไปด้วย จะทำไงดีหละ ขั้นที่ 1 ไปดุสิว่า ของที่เราขายเนียหัก ค่าใช้จ่ายแบบเหมาได้ กี่ % รายได้ตามมาตรา 40(8) ซึ่งส่วนมากจะอยู่ที่70-80 % ขั้นที่ 2 สมมุตินะว่าขายสินค้าหักได้ 70 % เราก็รวมยอดขายตั้งแต่ต้นปี จนถึงปัจจุบัน เอามาตั้ง หักด้วย 70% เหลือเท่าไหร่เป็นรายได้หลังหัก คชจ. Ex. ขาย 3,000,000 หัก 70% 1,400,000 เงินได้หลังหัก คชจ. 600,000 หักลดหย่อนตนเอง 30,000 หักลดหย่อนภรรยา 30,000 (ถ้ามี ต้องไม่มีรายได้นะ) อื่น ๆ อีกเยอะแยะ ดูได้จากนี้ //www.rd.go.th/publish/557.0.html หักจนหมดแล้ว ก็เป็นเงินได้สุทธิที่ต้องนำมาคำนวณภาษีหล่ะ 150,000 แรก ไม่ต้องเสียภาษี 350,000 ต่อมา เสีย 10% 500,000 ต่อมา เสีย 20 % 3 ล้านต่อมา เสีย 30% เกินจากนี้เสีย 37 % ดูได้จากนี้ค่ะ //www.rd.go.th/publish/1780.0.html ที่นี้ถ้าเจอ rate 20% ขึ้นไป หรือรู้สึกว่า รับไม่ไหวแล้วค่าภาษีบุคคลธรรมดาเนี่ย ก็ขึ้นชั้นมาจดทะเบียนเป็น ห้างหุ้นส่วน หรือบริษัท ได้แล้วแหละ
Create Date : 11 มิถุนายน 2551 | | |
Last Update : 15 เมษายน 2552 14:18:16 น. |
Counter : 388 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
ขึ้น ป.2 ต้องรู้จัก ภาษีมูลค่าเพิ่ม vat
ภาษีมูลค่าเพิ่ม (vat) คือ ภาษีที่ผู้ขาย เรียกเก็บจากผู้ซื้อ งง..งง เมื่อเราในฐานะบุคคลธรรมดามีรายได้เกิน 1.8 ล้านบาท ก็ต้องจดทะเบียนเป็นผู้ประกอบการภาษีมูลค่าเพิ่ม เอาเป็นว่า เมื่อขึ้น ป.2 (ไปอ่านป.1 ก่อน) สิ่งที่ต้องทำเพิ่มมีดังนี้ -ไปจดทะเบียนพาณิชย์ บุคคลธรรมดา ที่ พาณิชย์จังหวัดของเรา แบบฟอร์มตามนี้ //www.dbd.go.th/mainsite/index.php?id=1375 เราก็จะได้ ใบทะเบียนพาณิชย์ของเรา เก็บไว้ใส่กรอบโชว์ได้ -ไปสรรพากรพื้นที่ ที่เราอยู่ สอบถามเอานะ เพื่อขอขึ้นทะเบียนเป็นผู้ประกอบการภาษีมูลค่าเพิ่ม ใช้แบบ ภพ. 01 แนบบัตรประชาชน+ทะเบียนพาณิชย์+ทะเบียนบ้าน+รูปถ่ายบ้าน+แผนที่บ้าน กรอกแบบฟอร์มตามนี้ //www.rd.go.th/publish/22368.0.html หรือยื่นจดทางเน็ตก็ได้ ตามนี้ //vsreg.rd.go.th/ หาอ่านรายละเอียดตาม Link ที่ให้นี้ไปเรื่อย ๆ เดี๋ยวก็เก่ง หลังจากขึ้นทะเบียน เป็นผู้ประกอบการภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว ต้องทำอะไรบ้างหล่ะ -เปลี่ยนแบบฟอร์มจาก บิลเงินสด มาเป็นใบกำกับภาษี (เราเป็นคนขายก็เรียกว่า ภาษีขาย) ต้องมีการเรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม(vat) ด้วย -ตอนซื้อสินค้ามาขาย ก็ขอใบกำกับภาษี จากผู้ขายมาด้วย (เป็น ภาษีซื้อของเรา) -ปลายเดือนก็รวบรวม ภาษีขาย มา run แล้วรวมยอดขาย , ภาษีขาย ทำรายงาน -รวบรวม ภาษีซื้อ มา run วันที่ แล้ว รวมยอดซื้อ. ภาษีซื้อ ทำรายงาน ***ต้องยื่นแบบ ภพ.30 ภายในวันที่ 15 ของเดือนถัดไป ศึกษาเอาจากนี้ //www.rd.go.th/publish/7066.0.html เห็นมั้ย เด็ก ป. 2 การบ้านเยอะกว่าเด็ก ป.1 กลางปี ยื่น ภงด.94 ปลายปียื่น ภงด. 90 เหมือนเด็ก ป. 1 อย่าลืม บริหารภาษีด้วยนะ เช่น ซื้อกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ, ประกันชีวิต , บริจาค นำมาลดหย่อนภาษี
Create Date : 05 มิถุนายน 2551 | | |
Last Update : 15 เมษายน 2552 14:16:02 น. |
Counter : 457 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
สำหรับผู้เริ่มทำธุรกิจ จัดการบัญชีอย่างไรดี(ป.1)
หลาย ๆ คน เมื่อเริ่มทำธุรกิจ ไหนจะต้องคิดว่าจะอยู่รอดไม๊ ยังต้องมาคิดถึงเรื่องบัญชีให้ปวดหัวใจอีก ไม่คิดก็ไม่ได้ เดี๋ยวทำไปทำมากำไรจะไม่พอจ่ายภาษีอีก อืม ทำไงดีหล่ะ สำหรับคนยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียง สมมุติให้เป็นเด็ก ป. 1 เนอะ -เตรียมบัตรประชาชน- เอาอันที่สวยที่สุดของเรา ไว้หน้าโต๊ะ -ทำแบบฟอร์มบิลเงินสดหรือใบเสร็จรับเงิน ให้สวยหรู ดูแบบของคนอื่น อันไหนสวยดีไซน์ดี จำไว้ ชื่อบริษัท ก็เปลี่ยนเป็นชื่อเรา ที่อยู่ก็เปลียนเป็นที่อยู่เรา เลขประจำตัวผู้เสียภาษีก็เปลี่ยน เป็นเลขบัตรประจำตัวของเรา สำคัญ ห้ามออกเป็นใบกำกับภาษี และห้ามเก็บ ภาษีมูลค่าเพิ่ม(vat) นะจ๊ะเด็ก ป.1 น่ะ เดี๋ยวว่าง ๆ จะเอาแบบฟอร์มมาแปะให้ดู ก็ copy ไปใช้ได้ -ทำแบบฟอร์มอะไรต่อก็ได้ เช่น ใบเสนอราคา , ใบสั่งซื้อ ออกขายของ ได้เลย ถ้าลูกค้าถาม ก็เลยว่า " สามารถออกใบเสร็จรับเงินให้ได้ครับ/ค่ะ ไม่มีvat แต่คุณก็เอาไปเป็นค่าใช้จ่ายทางบัญชีได้แน่นอน" พูดอย่างมั่นใจและหนักแน่นเข้าไว้ ให้ดูว่าเราเจ๋งกว่าเค้าจิง ๆ ขายของได้เมื่อไหร่ ก็เก็บสำเนาบิลเงินสด run เลขที่ไปเรื่อย ๆ เก็บไว้ชื่นชมถึงรายได้ที่ได้รับ บวกไปเรื่อย ๆ อย่าให้เกิน 1.8 ล้าน ถ้าเกินเมื่อไหร่ก็ต้องขึ้น ป. 2 แระ วิธีเสียภาษี ของพลเมืองดี ประมาณเดือน สค. ก็รวบรวมบิลเงินสด ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม- 30 มิถุนายน มาบวก แล้วก็เอามาคำนวณภาษีกลางปี (ภงด.94 ยื่นภายใน 30 กันยายนของทุกปี) วิธีคำนวณไว้จะทำแปะไว้ให้ หรือไปศึกษาใน //www.rd.go.th ประมาณเดือน มีค. ก็รวมบิลเงินสดทั้งปี(ห้ามเกิน 1.8 ล้านนะจ๊ะ)มาคำนวณภาษีปลายปี (ภงด.90 ยื่นภายใน 31 มีนาคม ของทุกปี) อ่านรายละเอียดได้ที่นี่เลย//www.rd.go.th/publish/558.0.html เด็ก ป.1 ทำแค่นี้แหละไม่มีอะไรมาก ไม่ต้องเครียดเรื่องบัญชี ไปเครียดเรื่องเก็บตังค์ลูกค้าดีกว่า พอขายดี ๆ ยอดขายเกิน 1.8 ล้านเมื่อไหร่ ก็ขึ้น ป.2 เลย หรือบางครั้ง ลูกค้าจะเอาใบกำกับภาษีอย่างเดียว ไม่มีไม่ซื้อด้วย ก็ขึ้น ป.2 ได้เลย
Create Date : 05 มิถุนายน 2551 | | |
Last Update : 15 เมษายน 2552 14:12:24 น. |
Counter : 706 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|