สวัสดีชาวโลก
สวัสดีชาวโลกวันเสาร์ที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2550 เวลา ตี 3.07 นาทีใกล้สิ้นปีแล้ว เหลือเวลาอีกไม่กี่วันก็จะเข้าปีใหม่ รู้สึกเหงาจัง จะว่าอยากมีแฟนเหรอ มันก็ไม่ใช่มั้ง อาการก้ำ ๆ กึ่ง ๆ ถ้ามีแล้วงี่เง่า ๆ ปวดหัวตายห่า แต่ไม่มีใครแบบนี้ก็เหงาดีเหมือนกัน 555ปี 2550 ที่กำลังจะผ่านไป เป็นปีที่ครึ่ง ๆ กลาง ๆ เหตุการณ์ในชีวิตดีมั่งแย่มั่งต้นปีหลังจากงานแต่งงานพี่สาวเสร็จเรียบร้อยแล้ว เซ็ง ๆ เบื่อ ๆก็เลยหนีไปอยู่เชียงรายซะ เกือบ ๆ 3 เดือน ( อ่อ ไปอยู่บ้านเพื่อนที่ขอนแก่นก่อนอาทิตย์นึง ) ถ้าเพื่อน อาจารย์ ไม่โทรไปตามให้มาช่วยงาน ไม่รู้ป่านนี้ชีวิตที่เชียงรายจะเป็นยังไงมั่ง คิด ๆ ไปก็คิดถึงห้องเช่าที่เชียงราย ห้องโล่ง ๆไม่มีห่าอะไรเลย มีแค่ ตู้เสื้อผ้า เตียงนอน 2 เตียง ( เอาฟูกมาซ้อนอีกเตียงแล้วโครงอีกเตียงจับตั้งขึ้นเอาไว้พาดผ้า ) โต๊ะพับเหล็กตัวนึง เก้าอี้พลาสติก 2 ตัวห้องน้ำในตัว มีเครื่องทำน้ำอุ่น อยู่ในตัวเมืองแต่ดันเป็นน้ำบาดาลซะนี่แลกกับค่าเช่าเดือนละ 1500 ค่าน้ำเดือนละ 100 ค่าไฟต่างหากยูนิตละ 5 บาทโครตถูกแสนถูก อากาศดี อยู่แล้วมีความสุข ถึงค่าแรงที่นู่นจะถูกโครต ๆก็เถอะ ถ้าใครผ่านไป J.A อพาร์ตเม้นท์ ซอยข้าง ๆ วัดเจ็ดยอด ตึก 4-5 ชั้นทาสีเขียว ๆ ฝากเข้าไปดูประตูห้อง 301 ชั้น 3 ห้องริมสุดด้านนอกด้วยนะประตูห้องด้านในผมใช้ดินสอเขียนภาพสิงห์ไว้ตัวนึง ลงชื่อและวันที่ไว้เรียบร้อยอยากรู้ว่าไอ้สิงห์ตัวนั้นมันเป็นไงมั่ง ไม่รู้มีใครเอาสีไปทาทับรึเปล่าหวังว่าคงจะไม่นะ คิดถึงมึงว่ะ ท่าจะบ้าเนอะ คิดถึงรูปที่ตัวเองวาดเอาไว้ 555อยู่ที่นู่นกิจวัตรประจำวันคือ ตื่นตั้งแต่ 6.30 อาบน้ำแต่งตัวไปทำงานร้านคอมตรงแยกประตูสลี จากซอยข้างวัดเจ็ดยอด เดินไปแยกประตูสลี แป๊บเดียวประมาณ 10 นาที เข้างาน 8.00 ก็ทำงานไป พอถึงเที่ยงก็พักกลางวันบ่ายมาทำงานต่อถึง 5 โมงเย็นปิดร้าน ก็เดินไปแถวไนท์บาซ่า ไปกินก๋วยเตี๋ยวเจ้าประจำใกล้ ๆ 7-11 ราคา 25 บาท ให้เยอะดี อร่อยด้วย แต่เสือกจำชื่อร้านไม่ได้ ไปกินทีไรก็สั่งแต่ เส้นเล็กแห้งจนเจ๊เจ้าของร้านเค้าจำหน้าได้แล้วแดกอยู่ทุกวันไม่รู้แดกไปได้ไง คงเพราะเยอะมั้ง อิ่มดี ประหยัดตังค์กินเสร็จก็เดินกลับห้อง เข้ามาในห้อง โทรทัศน์ คอมเคิม เหี้ยอะไรก็ไม่มีอาศัยซื้อหนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษมาเล่มนึง เลือกเอาที่มันหนา ๆสงสัยอ่ะดิว่าทำไมต้องเป็นหนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษ เพราะถ้าเป็นภาษาไทยอ่านแม่งแป๊บเดียวก็หมดเล่ม ถ้าอ่านหมดเล่มแล้วจะอ่านทำเหี้ยอะไรอีกล่ะจริงมั้ย ? ซื้อหนังสือพิมพ์ได้แล้ว อ่านออก แต่เสือกอ่อนภาษา ก็เลยซื้อดิกชันนารีมาเล่มนึง วัน ๆ กลับจากทำงาน ก็อ่าน ลอกลงสมุด เปิดดิกแปลแต่ละคำ ๆทีละประโยค เออ ก็รู้เรื่องนี่หว่า แม่งก็เพลินดี ถ้าวันไหนเบื่ออ่าน ๆ แปล ๆหนังสือพิมพ์ ก็ไปเขียนไอ้สิงห์นั่นล่ะ เหตุมันมาจากซื้อน้ำสิงห์มากิน เบื่อ ๆก็วาดโลโก้แม่งเลยสวยดี ตีสเกล วาดวันละนิดวันละหน่อย แม่งก็เสร็จได้เว้ยสวยซะด้วย วาดเก่งนี่หว่ากู 555 วันอาทิตย์วันหยุด ตื่นเช้ามาก็ซักผ้า ซักมือแปรงแม่งเข้าไป ออกกำลังกาย 555 ( ถังน้ำ แปรง อุปกรณ์ซักผ้า ไม้แขวนซื้อที่บิ๊กซี เชียงราย ) ซักผ้าเสร็จ ตากเรียบร้อย สะพายกระเป๋ากล้องวิดีโอเที่ยวสิครับพี่น้อง ไปแม่สายมั่ง วัดร่องขุ่นมั่ง บิ๊กซีมั่ง หรือไม่มืด ๆ หน่อยก็ไปไนท์บาร์ซ่ามั่ง ตระเวนไปเรื่อย แล้วแต่อารมณ์ ตอนไปแม่สาย ข้ามไปฝั่งพม่า ท่าขี้เหล็กมันต้องทำหนังสือผ่านแดนก่อน ทำเสร็จ ก็เอาไปยื่นให้เจ้าหน้าที่ฝั่งพม่าเก็บไว้ผ่านไปด่านหนึ่ง ด่านที่สองเสือกทำท่าจะมาจับกูทำเหี้ยอะไร๊ กูคนไทยมาส่งสำเนียงพม่าเจปอง ๆ พ่อง กูไม่ใช่ญี่ปุ่นไอ้เหี้ย กูไทยแลนด์ กูคนไทยเพียงแต่หน้ากูตี๋หน่อยแค่นั้นเองไอ้ห่า ดีที่รอดมาได้ถึงกูจะไม่รู้ภาษาพม่าเลยก็ตามที 555 ของแม่สาย ท่าขี้เหล็ก ถ้าเป็นพวกดีวีดีถูก แต่ถ้าเป็นพวกเสื้อผ้าก็อปแม่งก็พาหุรัดดี ๆ นี่เองไอ้ชิบหาย ละเมิดลิขสิทธิ์กันมันเลยนะพวกมึง 555ขากลับมาฝั่งไทย โดนเจ้าหน้าที่ตรวจกระเป๋าหายาบ้าอีก หน้าตาอย่างกูสงสัยแม่งเหมือนพวกค้ายาบ้ามั้ง เหี้ยจริง ๆ กูออกจะดูดีมีชาติตระกูล มาตรวจกูทำมั้ยยยย 555เล่าไปเล่ามาคิดถึงเชียงรายชิบหาย ตอนนั้นช่วงนั้นกำลังหนาว ๆ กลางคืนถึงเช้า ๆ 20 กว่าองศามั้ง หนาวชิบหาย เตียงนอนเสือกมีแต่ฟูก ไม่มีหมอนไม่มีผ้าห่ม ขนาดใส่กางเกงยีนส์นอนยังเอาไม่อยู่ แต่ก็ต้องทนนอนกอดอกแม่งทั้งคืนตัวงอเป็นกุ้งเลย หลับ ๆ ตื่น ๆ มันส์ชิบหาย หนาวสะใจเข้ากระดูกออกมาจากห้องหมอกเพียบ แต่พอแดดเริ่มแรง หมอกก็หายหมด ทีนี้มันมีช่วงนึง พวกชาวเขา ชาวบ้านทางเหนือ ๆ เค้าฮิตเผาหญ้า เผาฟางกัน ตื่นมาเช้า ๆพอออกจากห้อง โห หมอกเต็มเลยเว้ย แต่แม่งทำไมแสบ ๆ ตาวะ เอ้าไอ้ชิบหายนี่แม่งควันนี่หว่า เผาเหี้ยอะไรกันมากมายวะ ควันปกคลุมทั้งจังหวัดภาคเหนือตอนบน จนขึ้นหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์ ทำไปได้ 555ลาออกจากงานวันที่ 31 มีนา พอวันที่ 1 เมษาปุ๊บ ตอนเช้าก็เก็บของที่ห้อง( อุปกรณ์ถังน้ำ ขัน ฯลฯ ยกให้คนที่ออฟฟิศ ) แล้วก็ไปวัดร่องขุ่นอีกรอบ เดินดูนั่นดูนี่ เสร็จแล้วก็กลับมาเอากระเป๋าที่ห้องรับเงินค่ามัดจำห้องคืน แล้วนั่งรถทัวร์จากเชียงรายมาเชียงใหม่ พอถึงเชียงใหม่ไปซื้อตั๋วรถไฟ ชั้น 3 เสือกเต็มอีกเอาวะชั้น 2 ก็ได้ แต่เสือกมีเที่ยว สามทุ่มกว่า ต้องรออีก 4-5 ชั่วโมง เอาวะเดินไปเดินมาก็ได้ แถมค่าตั๋วยังแพงกว่าเท่ากว่า ๆ แต่มีข้าวให้แดก มีผ้าห่มแล้วก็เป็นตู้แอร์นอนสบายหน่อย ก็โอเคแฮปปี้ ยาฮู้ !!! กูร้องทำไม 555 ท่าจะบ้าพอสามทุ่มก็ขึ้นรถไฟ นั่งมั่ง หลับมั่ง กระฉึกกระฉักมาอีก 12-13 ชั่วโมง ถึงหัวลำโพง ก้าวแรกที่เหยียบหัวลำโพง ความรู้สึกมันเหมือนคนที่จากบ้านไปนานนี่กูจะถึงบ้านแล้วเหรอเนี่ย ออกจากหัวลำโพง ก็ขึ้นรถเมล์ 2 ต่อ ถึงบ้านที่แถว ๆเดอะมอล์ลท่าพระโดยสวัสดิภาพ ช่วงกลับถึงบ้านใหม่ ๆ เป็นช่วงที่ฮอตมากเดินไปไหนใคร ๆ ก็ทัก อื้ม หายไปไหนมาตั้งนาน หายหน้าไปเลย ผอมลงนะ ฯลฯ ถามอะไรกันเยอะแยะ แต่ที่แน่ ๆ กูไม่ได้ไปตายก็แล้วกัน กลับมาแล้วว้อยยย 555 กลับมากินข้าวบ้าน ฝีมือแม่ทำ อร่อยชิบหาย กินข้าวที่ไหนก็ไม่สุขใจเท่าที่บ้าน จริงมั้ย ? หุหุหลังจากนั้นก็มาช่วยงานอาจารย์ที่บางมด เป็นผู้ช่วยวิทยากรฝึกอบรมสอนโปรแกรมแฟลชให้ครูในสังกัดกรมสามัญศึกษาในเขตกรุงเทพมหานคร ก็สอนกันปากเปียกปากแฉะ กันไป แฮปปี้สนุกสนาน คุณครูที่มีอายุหน่อยถึงจะทำความเข้าใจได้ช้าหน่อยแต่ก็พยายามเต็มที่ ส่วนคุณครูสาว ๆ บางคนก็น่ารัก แต่ได้แค่มอง ห่า เค้าให้มาทำงาน ไม่ได้ให้มาจีบ 555 ว่าแล้วก็คิดถึงสาวเหนือสาวเหนือน่ารัก ๆ เพียบเลย แต่ส่วนมากอายุไม่เท่าไหร่ก็มีผัวเป็นตัวเป็นตนไปหมดแล้ว ห้องที่ไปเช่าอยู่ห้องข้าง ๆ เป็นนักศึกษาอยู่กันเป็นคู่ ๆ อายุยังน้อย ๆอยู่เลย อิจฉามันเหมือนกัน แต่ลึก ๆ ก็อนาถสภาพสังคมอยู่ในใจ พ่อแม่พวกมึงจะรู้มั้ยเนี่ยว่ามาอยู่กับผัว 555พอเสร็จงานที่บางมด ก็รับงานมั่งไม่รับมั่ง ไม่มีตังค์ก็กินมาม่าธรรมดา มีตังค์ขึ้นมาหน่อย ก็กินหรูหน่อย กินมาม่าโอเรียนทอล 555 แตกต่างกันตรงไหนวะไอ้ห่า แต่ถ้าใครยังไม่เคยกินมาม่าโอเรียนทอลก็ลองไปกินดูนะ อร่อยดี กะว่าเดี๋ยวไปสมัครแข่งแฟนธุ์แท้บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปดีกว่า แดกบ่อยนัก 555เผลอแป๊บนึงก็จะหมดอีกปีละ ปีหน้าฟ้าใหม่ มีอะไรก็จะเขียนเอามาลงบล็อกให้อ่านกันอีก คงแล้วแต่อารมณ์เจ้าของบล็อกล่ะนะ อาจจะมีสาระบ้าง ไม่มีสาระบ้าง เศร้ามั่ง ฮาร์ดคอร์ หยาบคาย ก็อย่าว่ากันเน้อ มีหน้าที่อ่านก็อ่านไป ถ้าใครอยากอ่านเรื่องแบบไหนก็ลองรีเควสกันมา เรื่องสั้น กลอน เรื่องเล่า อะไรก็ได้ ขอมาเหอะ ถ้ามีอารมณ์ก็จะเขียนล่ะนะ ถ้าไม่มีอารมณ์เขียนก็ไม่เขียนล่ะนะถ้าไม่ได้อ่านชาตินี้ งั้นรอชาติหน้าแล้วกันจะเขียนให้อ่าน 555 รอหน่อยเด้อได้แน่แต่นานหน่อย ทวงบ่อย ๆ หายกัน 555มึงบ่นห่าอะไรเนี่ย ยาวชิบหาย ใครเค้าจะมาอ่านวะ 555 ยาวไม่อ่าน ไอ้บ้า !!!เกือบลืม สวัสดีปีใหม่นะทุกคน ในปีใหม่นี้ คิดอะไรก็ขอให้ได้สมปรารถนามีความสุข แฮปปี้ แฮปปี้กันทุกคนนะครับฮะ ๆ ๆ แฮปปป กันที่นี่ ไป ปะ ๆ ๆ ปรี้รรร กันที่อื่นนะ 555ขอความสุขสวัสดีจงมีแด่ท่านและครอบครัวตลอดปีใหม่เทอญ สาธุนายอำนาจ เสริมพงศ์สุวัฒน์