วันนี้มีเวลาว่างเลยมาอัพบล็อคนะคะ ครั้งนี้ แอ๊ฟจะขอเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับศัลยกรรมต่างๆที่ได้ทำมานะคะ ซึ่งครั้งนี้จะเน้นศัลยกรรมเกี่ยวกับใบหน้านะคะ ศัลยกรรมหากเราทำแล้ว เราพร้อมด้านปัจจัยทางเงิน ก็ทำไปเหอะค่ะ เพราะมันทำให้เรามั่นใจขึ้น สวยขึ้น ค่ะ อีกอย่างมีคนหลังไมค์และเมล์มาถามเยอะมากว่าทำแล้วเป็นไง เท่าไหร่ ที่ไหน ก็เลยอยากให้บล็อคนี้ เป็นคำตอบให้กับหลายๆคน และเป็นตัวเลือก ในการตัดสินใจด้วยนะคะ เดิมแอ๊ฟก็หน้าตาเหมือนกับเด็กผู้ชายธรรมดา ไม่ได้มีอะไร ที่เป็นโครงสร้างคล้ายผู้หญิงเลย
เชิญชมวิวัฒนการ version ไม่ต้องพึ่งพาศัลยแพทย์ได้เลยค่ะ
ตอนประถมค่ะ ตอนนั้นใครก็เรียกว่า ด๊อกเตอร์ หารู้ไม่ว่าโตขึ้นจะเป็นดอกเตอร์สาวแสนสวย
หล่อมะคะ... ^^"
หลังจากปรับผิวพรรณด้วยยาฮอร์โมนแล้ว นี่คือใบหน้าตอนยังไม่ได้ทำอะไรนะคะแต่ว่าผ่าตัดแปลงเพศและเสริมหน้าอกแล้ว
น่ารักมะ...คริ คริ
^^
เมื่อโตขึ้นปัจจัยพร้อมทางการเงิน จึงตัดสินใจแก้ไขจุดปมด้อยจุดแรกที่โดนเพื่อนล้อมาตั้งแต่เด็กก็คือ ปากนั่นเองเพื่อนชอบล้อว่าปากห้อย อิอ
รูปตอนยังไม่ได้ทำปากนะคะ
ศัลยกรรมตัดปากเป็นศัลยกรรมที่ทรมาน ที่สุดบนใบหน้าเนื่องจาก คิดดูว่าขนาดไม้จิ้มฟัน หรือแปรงสีฟันกระแทกยังเจ็บปวดมากแต่นี่คือการกรีดเนื้อส่วนเกิน ออกไปและซ่อนรอยแผลไว้ จึงทำให้เจ็บปวดเป็นอย่างมากและบวมแบบน่ากลัวเป็นอาทิตย์ๆ เลยค่ะ
รูปที่เพิ่งทำเสร็จใหม่ๆค่ะเย็บแบบนี้เลยน่ากัวจัง
ปากที่ทำเสร็จแล้ว ระยะเวลาสองอาทิตย์จะเริ่มยุบบวมเป็นผู้เป็นคนขึ้นมาระหว่างทำบอกตรงๆว่าออกนอกบ้านไมได้เลย เคยเห็นนกแก้วไหมคะ ปากเป็นแบบนั้นเลยค่ะ งุ้มๆใหญ่ๆ หนาๆ แต่เสร็จแล้วโอเคนะคะ
ข้อดี : ปากสวยได้รูป
ข้อเสีย : มีอาการชาที่ปาก เป็นเวลาหลายปี ถ้าหมอไม่เก่งตัดมากเกินไป ก็ทำให้ไม่สามารถ หุบปากได้สนิทตลอดชีวิต
นี่ทำเสร็จได้สองอาทิตย์ค่ะ เล็กลงไหม
ต่อไปเป็นศัลยกรรม ที่ทำบนใบหน้าเป็นชิ้นที่สอง ก็คือศัลยกรรมเสริมคาง เนื่องจากคางเดิม มีลักษณะเป็นมุมป้านไม่สวยได้รูปคล้ายผู้ชาย ศัลยกรรมเสริมคางเป็นศัลยกรรมที่ค่อนข้างปลอดภัย ไม่ใช่ฉีด ถ้าฉีดอาจจะโย้หรือเบี้ยวได้ และอันตรายมาก วิธีทำคือหมอจะฉีดยาชา ที่เหงือกคล้ายถอนฟันแล้วเจาะช่องลงไปเพือ่ใส่ซิลิโคนแท่งไป แล้วทำการเย็บปิดแผล ศัลยกรรมชนิดนี้ ในความคิดส่วนตัวคิดว่าถอนฟันเจ็บกว่าอีกนะคะ ถ้าเราดูและรักษาดีๆหลังจากการทำ คือ รักษาความสะอาดของช่องปากเพื่อป้องกันการติดเชื้อและมาพบหมอ ตามที่หมอนัด อ่อ ห้ามเท้าคางเป็นเวลาสองอาทิตย์ด้วยค่ะ
| | ก่อนทำ | หลังทำ |
จะเห็นว่ามีความดูเป็นผู้หญิงขึ้นมาบ้าง อิอิ ไม่มากก็น้อยนะคะ ว่าไหม ดูไม่แข็งเท่าของเดิม
ศัลยกรรมสุดท้าย คือศัลยกรรมจมูก ที่เป็นนิยมมากและคนเมล์มาถามเขียนถึงมากที่สุด เนื่องด้วย ต้องขอเล่าที่มาว่าก่อนที่จะได้ทำจมูก เนี่ยลำบากมาก เพราะหมอจะไม่ทำให้เพราะเห็นว่าเป็นคนมีจมูกอยู่แล้ว อ้อนเป็นเวลาหลายเดือนกว่าจะได้ ทำ ค่ะ เพราะว่า จมูกนี่เวลาเราถ่ายรูปมาจะเห็นเลยนะคะ ว่าคนที่มีดั้งแล้วถ่ายรูปออกมาหน้าจะมีมิติและสวยกว่าคนที่มีจมูกน้อย หรือไม่มีเลย
รูปก่อนทำค่ะ มีจมูกอยู่บ้างแต่ไม่พอใจ อิอิ ^^"
แอ๊ฟเลือกทำจมูกแบบใช้ยาชา เพราะผลข้างเคียงน้อยกว่ายานอนหลับ ค่ะวิธีการทำหมอจะฉีดยาชา ทั้งสองข้างระหว่างร่องจมูก สักพักเมื่อชาแล้วหมอก็จะทำอะไร ที่เราไม่รู้สึกตัวเลยแต่รู้สึกว่ามันยุกยิกในรูจมูก แล้วก็ได้กลิ่นเลือดคละคลุ้งในจมูก ของแอ๊ฟหมอต้องขูดกะดูกเก่าออก เพื่อให้รูปจมูกดูหวานขึ้น เพราะถ้า ไม่ขูดออกจมูกจะดูเป็นแท่งออกมา น่ากลัวมากกว่าสวยช่วงที่ขูดก็ไม่เจ็บแต่ได้ยิน เหมือนกับ ขูดก้อนหิน เลย มันหวาดเสียวและน่าหวาดเสียวกว่า ที่มันอยู่ในจมูกเรา ด้วย รู้ตัวตลอด คุยโต้ตอบกับหมอได้คะ ถ้าเรารู้สึกเจ็บเราก็ยกมือบอกหมอ ว่าขอยาชาเพิ่ม ยาชาจะเจ็บเข็มแรกที่สุด เข็มต่อๆมาก็โอเค ค่ะ จี๊ดๆ
รูปจมูกทีทำเสร็จใหม่ๆ ช้ำๆ เลยค่ะ ต้องขอบอกว่า จะเป็นอย่างนี้ไปอีก4-5 วันเลย วันที่สอง จะคล้ายสิงโต ไม่กล้าส่องกระจกเลย น่ากัวมากตาบวมจะปิด จะเบาลงในวันที่ 4 ค่ะ
นี่คือจมูกที่ทำเสร็จแล้วสองอาทิตย์ค่ะ ^^
วิธีทำความสะอาด ก็คือเอาคัตตอนบัทเข้าไปชุบๆปั้น กับน้ำสบู่แล้วล้างรูจมูกล้างหน้าได้ตามปกติค่ะ แต่ควรระวังการสัมผัส หรือกระแทกที่รุนแรง เนื่องจากร่างกายยังไม่สร้างผังผืดเกาะแท่งซิลิโคนไว้ ต้องรอประมาณ 1 เดือนนะคะ
นี่คือรูปอัพเดทล่าสุดนะคะ
ถ่ายเมื่องานมีทติ้งพันทิป meet&eat ห้องอาหารการกิน ณ โรงแรมตะวันนาวันที่ 12 กพ. ที่ผ่านมาค่ะ เพือ่นๆได้เปิดโอกาสให้แอ๊ฟได้ไปโชว์ ค่ะ รู้สึกยินดีมากๆที่หลายๆคนชอบ
ไว้คราวหน้าจะมาเล่ารายละเอียดเกี่ยวกับศัลยกรรมส่วนต่างๆของ body รวมถึงการผ่าตัดแปลงเพศ 3 รอบที่แสนทรมานแต่ก็นำมาสู่การประสบความสำเร็จสูงสุดของสาวประเภทสองทุกคนในชีวิตค่ะ
|
เรานึกว่าเป็นรูปพี่ หรือน้องนะคะ
คุณเปลี่ยนไปเยอะมากๆ