นางพญายม
พญายม หรือ พญามัจจุราช หรือ Hades ...ผู้อยู่เหนือความตาย และเป็นผู้ดูแลโลกแห่งความตาย...


คมเคียวด้ามยาวในมือของหญิงสาว ส่องประกายสีเงินหยอกล้อกับแสงไฟยามราตรี ดูวาววับน่ากลัวแก่ผู้พบเห็น หากแต่เจ้าตัวกลับได้หากลัวความคมของปลายเคียวไม่… เธอยังคงหมุนมันไปรอบตัวอย่างรวดเร็วเหมือนดรัมเมเยอร์กำลังควงคฑา

ตั้งแต่จำความได้…เธอก็เห็นมันอยู่บนมือของตัวเองมาโดยตลอด ถึงแม้บางครั้งเธอจะเก็บมันไว้ด้วยวิธีการของเธอที่ไม่มีใครมองเห็น แต่ทุกครั้งที่ต้องการจะใช้…เพียงแค่แบบมือออกไปเคียวเล่มยาวก็ปรากฏมาอยู่บนผ่ามืออย่างรวดเร็ว

มัน…ทำหน้าที่ของมันด้วยความซื่อสัตย์มาตลอดอายุไข…ของเธอ และ มัน

มัน…ไม่เคยเลือกว่าใครมั่งมีหรือยาจก ไม่เลือกฐานันดร

มัน…ไม่เคยเลือกว่าใครสวย หล่อ หรือ ขี้เหร่ แค่ไหน

มัน…ไม่เคยเลือกเด็ก หนุ่มสาว หรือผู้เฒ่า

มัน…ไม่เคยเลือกคนดี คนเลว

มัน…ไม่เคยเลือกเพศ

เหยื่อของมัน…คือผู้ที่ถึง “ฆาต” ไม่ว่าจะแห่งหนใดบนโลกก็ไม่สามารถหลบหนีพ้นคมเคียวนี้ไปได้เลย หน้าที่ของมันคือปลิดชีพคนเป็น… นำพาพวกเขาเหล่านั้นไปสู่อีกโลกหนึ่งที่เรียกว่า

“ยมโลก”

ใช่…เธอคือผู้อยู่เหนือความตาย เป็นผู้นำพาความตายให้กับคนที่ถึงเวลา…ใครๆ ต่างก็กลัวเกรงเมื่อต้องพบกับเธอ เธอไม่ได้เป็นยมทูตธรรมดา…หากแต่เป็นเจ้าแห่งความตาย เป็นผู้ดูแลยมโลก ใครๆ…ต่างก็เรียกขานเธอว่า

“พญายม” หรืออีกชื่อหนึ่ง “พญามัจจุราช”

ผู้เป็นใหญ่เหนือดินแดนแห่งความตาย…

หากสิ่งที่ต้องแลกมากับตำแหน่งสูงสุด…คือความอ้างว้างและความเหงา

เธอไม่มีเพื่อน... ไม่มีคนรู้จัก... เธอไม่เคยพบหน้าผู้ให้กำเนินของตน ไม่เคยล่วงรู้ถึงความเป็นมาแห่งตน

และที่สำคัญ...เธอไม่มีคนรัก

…


ย้อนกลับไปเนิ่นนาน…จนไม่สามารถระบุเวลาได้

บางทีสิ่งที่เธอรับรู้นั้นอาจจะเป็นความรู้สึกก่อนที่ตัวเองจะตายก็เป็นได้…แต่เธอตายยังไงหรือที่ไหนนั้น หญิงสาวกลับลืมมันไปหมดสิ้น

ในความมืดอันหนาวเหน็บ หญิงสาวซุกตัวกับอ้อมกอดของตน มืด…และหนาว…เหลือเกิน

เสียงร้องขอความช่วยเหลือดังอยู่แค่ในลำคอ เธอรู้สึกปวดจนร้อนผ่าวบริเวณหน้าท้องเหมือนมีใครเอามีดมากรีดท้อง รู้สึกเหมือนสมองจะไหลทะลักออกมาทางจมูกและปาก ร่างกายเหมือนจะแตกเป็นเสี่ยงๆ สิ่งสุดท้ายที่รับรู้ก่อนที่สติเธอจะเลือนหาย…เธอกำลังจะตาย

เมื่อลืมตาขึ้นอีกครั้ง…แปลก…ความเจ็บปวดนั้นจางหายไปแล้ว ร่างกายรู้สึกเบาหวิวเหมือนไม่มีน้ำหนัก

ภาพที่เธอเห็น…ม่านหมอกที่ปกคลุมอย่างเบาบางอยู่ปลายเท้า สุดลูกหูลูกตา ที่ๆ เธอไม่เคยเห็นมาก่อนที่ๆ มีแต่ความสว่างแต่ว่างเปล่า…เธออยู่ที่ไหน ? ตายหรือยัง ?

“สวัสดี มีใครอยู่แถวนี้บ้าง” ไร้เสียงตอบกลับมา หากแต่สิ่งหนึ่งที่เข้ามาในจิตใจ… มันบอกเธอว่าต้องเดินตรงไปเท่านั้น แล้วเธอจะทราบคำตอบทุกสิ่ง

เท้าของเธอมันไม่ได้ก้าว หากแต่เธอกำลังรู้สึกว่าตัวเองเคลื่อนที่ … มุ่งตรงไปข้างหน้า

“เจ้า…ผ่านไปไม่ได้” เสียงคำรามก้องออกมาจากทุกทิศทุกทางรอบตัวตัวเธอ แต่หญิงสาวมองไม่เห็นตัวคนพูด เธอชะงักเหมือนโดนกำแพงลมทำให้ไม่สามารถไปต่อได้ “ที่ของเจ้าไม่ใช่ที่นี่” นำเสียงคำรามก้องออกมารอบทางอีกครั้ง

“แล้วที่ของฉันมันอยู่ที่ไหน” หญิงสาวรวบรวมความกล้าถามออกไป

“ข้างล่าง” สิ้นเสียง หญิงสาวพลันรู้สึกเหมือนตัวเองถูกดูดลงไปในน้ำวนเบื้องล่าง แสงสว่างลอยหายจากตัวเธอไปเรื่อยๆ เธอพยายามไขว่คว้าที่จะขึ้นไป แต่ยิ่งดิ้นยิ่งเหมือนดูดลงไปเบื้องล่าง จนเธอต้องหลับตา

เมื่อลืมตาอีกครั้ง ความรู้สึกแทบไม่ต่างกับตอนที่เธอหลับตาเลย หญิงสาวรับรู้แต่เพียงว่าตอนนี้เธออยู่ท่ามกลางความมืดอีกแล้ว

ไม่ชอบเลย…

“ข้าก็ไม่ได้อยากให้เจ้าชอบนักหรอก แต่นี่…คือที่อยู่ของเจ้านับแต่บัดนี้” เสียงทุ้มที่ดังมาจากข้างหลังทำให้หญิงสาวหันขวับไปมอง

แสงสว่างลอดเข้ามาจากทางด้านหลังชายคนนั้น…. เหมือนเขายืนระหว่างประตูแห่งความมืดและความสว่าง…มันสว่างเสียจนหญิงสาวหยีตาลง

“เอ้า ! จะยืนอยู่ตรงนั้นอีกนานเท่าไร ข้ามารับเจ้าแล้ว” เขาหันหลังเดินไปยังแสงสว่าง…

เขาเป็นใคร ? … ตอนนี้ไม่สำคัญแล้ว ขอเพียงให้เธอออกไปจากคุกมืดนี้ได้ก็พอ


เบื้องนอก…แสงสว่างส่องให้เห็นทุ่งหญ้าสุดลูกหูลูกตา มีเนินเล็กๆ สลับไปมา หากแต่เบื้องหลังที่เธอจากมาคือปราสาทสีดำ ที่ที่เธอผ่านมาเมื่อครู่เป็นประตูที่เชื่อมความมืดและความสว่างเข้าไว้ด้วยกัน

“ขอต้อนรับการกลับมา” เธอพึ่งเห็นเจ้าของเสียงทุ้มนั้นได้ชัดเจน ร่างนั้นพิงตัวเองไว้กับกำแพงปราสาท… ผู้ชายที่อยู่ในอาภรณ์สีดำเหมือนสีของนกกา เสื้อเชิ๊ตสีดำร้อยเชือกแทนกระดุม เปิดให้เห็นแผงหน้าอก กางเกงสีดำกับรองเท้าบูทสีดำที่สูงเทียมเข่า…ไม่ใช่แค่อาภรณ์แม้แต่ผมของเขาก็ยังสีดำสนิทเป็นประกายเงางามหยอกล้อกับแสงแดด

หญิงสาวเงยหน้ามองชายร่างสูง…สูงกว่าคนที่เธอเคยรู้จัก…ใครกันนะ ? นึกไม่ออก หญิงสาวขมวดคิ้ว…เธอลืมใครไปน่ะ

ใครบางคนที่เห็นเป็นเพียงเงาลางๆ ในม่านหมอกความทรงจำ…

“เป็นอะไรไป” เขาถามด้วยสีหน้าเรียบเฉย ทำให้สติของเธอกลับคืนมาอีกครั้ง…เงาลางเลือนจางหาย เธอต้องรู้ให้ได้ เจ้าของเงาคนนั้นเป็นใคร

“ที่นี่คือที่ไหนกัน” เธอเลี่ยงที่จะตอบคำถามและเป็นผู้ถามแทน…

หากแต่ชายแปลกหน้าสำหรับเธอก็ทราบได้ทันทีว่าเธอต้องการจะเลี่ยงคำถาม…และเขาก็ยอม

“ยมโลก” คำตอบสั้นๆ แต่อธิบายถึงความสงสัยของเธอได้เป็นอย่างดี “งั้น…ฉันก็ตายแล้วน่ะสิ”

ชั่วขณะ…เธอเห็นดวงตาสีนิลไหวระริกเหมือนจะกลั้นหัวเราะก่อนจะจางหาย กลายเป็นดวงตาที่เฉยชาเหมือนเดิม …หรือเธอตาฝาดไป

หัวเราะทำไม ? มีอะไรน่าขัน…

แต่เธอก็ไม่ได้รับคำตอบนั้น…เพราะเขาหันหลังให้เธอ

และสิ่งหนึ่งที่เขาพูดทิ้งท้ายว่า “ขอต้อนรับการกลับมา” หมายความว่าอย่างไร ? เธอเคยอยู่ที่นี่มาก่อนอย่างนั้นหรือ…

“เจ้า…เคยอยู่และจะต้องอยู่ตลอดไป” คำตอบที่ได้รับเหมือนจะล่วงรู้ความคิดของเธอ

“ทำไมฉันต้องอยู่ในยมโลก แทนที่จะได้อยู่บนสวรรค์” ชายหนุ่มขมวดคิ้ว

“แล้วเจ้าคิดว่ายมโลกคืออะไร นรกอย่างนั้นรึ ? เจ้าอดีตมนุษย์เอ๋ย…สวรรค์ นรก เป็นสิ่งที่พวกมนุษย์สร้างขึ้น แต่ท้ายสุดแล้วสิ่งที่พวกเจ้าต้องกลับมา คือ…ยมโลก”

“สวรรค์และนรกเป็นสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้นอย่างนั้นรึ งั้น…แสงสีขาวที่ฉันเห็นล่ะคือสิ่งใด” เธอถามกลับ

“แสงที่เจ้าเห็นเป็นที่อยู่ของพวกเทพ และพวกเทพก็มีทั้งดีและเลวเหมือนพวกมนุษย์ เจ้า…ไม่สามารถเข้าไปในนั้นได้ คนที่เข้าไปได้ต้องมีสายเลือดแห่งเทพเท่านั้น สายเลือดแห่งเทพ…เกิดใหม่กี่ครั้งก็ยังเป็นสายเลือดแห่งเทพ ในขณะที่สายเลือดแห่งมรณะ…เกิดใหม่กี่ครั้งก็ยังคงเป็นสายเลือดแห่งมรณะ…เจ้าแห่งยมโลก”

ชายหนุ่มหันมาทางหญิงสาว…ครั้งแรกที่เธอได้ยินเขาพูดประโยคยาว

“ไม่นานเจ้าก็จะเข้าใจ…ดาริล”

…


ใช่…ตอนนี้เธอเข้าใจได้ดี ‘ สายเลือดแห่งมรณะเกิดใหม่กี่ครั้งก็ยังเป็นสายเลือดแห่งมรณะ ‘ ในเมื่อตอนนี้เธอกำลังรับหน้าที่ที่ชายคนนั้นเคยเป็น…

ป่านนี้…เขาจะเป็นอย่างไรบ้างนะ ? ครั้งสุดท้ายที่เธอพบกับเขา…เขามาลาเพื่อที่จะไปเกิดยังโลกมนุษย์

“ใย…ต้องไป” คำถามนั้นออกมาจากผู้เป็นทั้งมือขวา ศิษย์เอกและเพื่อน ?

“ต่างคนต่างมีวาระแห่งตน…ข้าและเจ้าก็เช่นกัน” ร่างหนาหันหลังให้กับเธอ…เมื่อต้องการปกปิดความรู้สึกบางอย่างไม่ให้ใครรับรู้

“เมื่อไรจะกลับ” คำถามที่ทำเอาคนตอบอึ้งไปชั่วขณะ “เมื่อเจ้าไปรับ ข้าจะกลับมา”

“ถ้าข้าไม่ไปรับเจ้าล่ะ” หญิงสาวเอียงคอมอง เขาหันมายิ้มบางๆ เป็นครั้งแรกที่เธอเห็นเขายิ้ม

“ถึงเจ้าไม่ไปรับ ข้าก็ต้องกลับมาอยู่ดี” สายตาจับจ้องมาที่ใบหน้าดาริลเหมือนจะจดจำไว้ส่วนลึกสุดของหัวใจ


…หญิงสาวมองไปเบื้องหน้า แสงราตรีกำลังหลอกล่อให้พวกมนุษย์กำลังหลงระเริง หากจะมีกี่คนที่รู้ตัว…


ความตายไม่ใช่สิ่งน่ากลัว…หากที่คนกลัวคือ…ความเจ็บปวดก่อนตาย
และความทุกข์ที่ต้องจากคนที่รักไป… ทุกคนต้องได้รับ โดยไม่สามารถหลบหนีได้

ได้เวลาล่าเหยื่ออีกครา…การทำงานของคมเคียวเริ่มขึ้น…ก่อนจะจบลงด้วยชีวิตของคนเป็น
…เพื่อนำพาเขาเหล่านั้นไปสู่โลกหลังความตาย…


ละอองสีเงินปลิวหายไปกับสายลม พร้อมกับหน้าที่ที่จะต้องทำในคืนนี้…



“เมื่อถึงเวลา…ข้าจะมารับเจ้า”…สัญญากำลังจะเป็นจริงในไม่ช้า…รอข้านะ



Create Date : 05 พฤศจิกายน 2548
Last Update : 13 ธันวาคม 2548 0:56:05 น.
Counter : 385 Pageviews.

1 comment
ขอขอบคุณ
ขอขอบคุณ...คุณสายลมที่พัดไปไม่ถึงตัวเธอสำหรับโค๊ดและรูปในการทำบล็อกแก็งค์

ขอขอบคุณ...คุณ yodaoi สำหรับแรงผลักดันในการทำบล็อก

ขอขอบคุณเพื่อนผี ที่ช่วยมาเล่าประสบการณ์สยอง

ขอขอบคุณเพื่อนๆ ในดินแดนยมโลก สำหรับกำลังใจ

และ...สุดท้าย

ขอขอบคุณ...ตัวเองที่ทำให้บล็อคนี้เกิดขึ้นได้



Create Date : 05 พฤศจิกายน 2548
Last Update : 5 พฤศจิกายน 2548 18:15:46 น.
Counter : 229 Pageviews.

3 comment

นางพญายม
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



Google