|
|||
นางพญายม
พญายม หรือ พญามัจจุราช หรือ Hades ...ผู้อยู่เหนือความตาย และเป็นผู้ดูแลโลกแห่งความตาย...
คมเคียวด้ามยาวในมือของหญิงสาว ส่องประกายสีเงินหยอกล้อกับแสงไฟยามราตรี ดูวาววับน่ากลัวแก่ผู้พบเห็น หากแต่เจ้าตัวกลับได้หากลัวความคมของปลายเคียวไม่ เธอยังคงหมุนมันไปรอบตัวอย่างรวดเร็วเหมือนดรัมเมเยอร์กำลังควงคฑา ตั้งแต่จำความได้ เธอก็เห็นมันอยู่บนมือของตัวเองมาโดยตลอด ถึงแม้บางครั้งเธอจะเก็บมันไว้ด้วยวิธีการของเธอที่ไม่มีใครมองเห็น แต่ทุกครั้งที่ต้องการจะใช้ เพียงแค่แบบมือออกไปเคียวเล่มยาวก็ปรากฏมาอยู่บนผ่ามืออย่างรวดเร็ว มัน ทำหน้าที่ของมันด้วยความซื่อสัตย์มาตลอดอายุไข ของเธอ และ มัน มัน ไม่เคยเลือกว่าใครมั่งมีหรือยาจก ไม่เลือกฐานันดร มัน ไม่เคยเลือกว่าใครสวย หล่อ หรือ ขี้เหร่ แค่ไหน มัน ไม่เคยเลือกเด็ก หนุ่มสาว หรือผู้เฒ่า มัน ไม่เคยเลือกคนดี คนเลว มัน ไม่เคยเลือกเพศ เหยื่อของมัน คือผู้ที่ถึง ฆาต ไม่ว่าจะแห่งหนใดบนโลกก็ไม่สามารถหลบหนีพ้นคมเคียวนี้ไปได้เลย หน้าที่ของมันคือปลิดชีพคนเป็น นำพาพวกเขาเหล่านั้นไปสู่อีกโลกหนึ่งที่เรียกว่า ยมโลก ใช่ เธอคือผู้อยู่เหนือความตาย เป็นผู้นำพาความตายให้กับคนที่ถึงเวลา ใครๆ ต่างก็กลัวเกรงเมื่อต้องพบกับเธอ เธอไม่ได้เป็นยมทูตธรรมดา หากแต่เป็นเจ้าแห่งความตาย เป็นผู้ดูแลยมโลก ใครๆ ต่างก็เรียกขานเธอว่า พญายม หรืออีกชื่อหนึ่ง พญามัจจุราช ผู้เป็นใหญ่เหนือดินแดนแห่งความตาย หากสิ่งที่ต้องแลกมากับตำแหน่งสูงสุด คือความอ้างว้างและความเหงา เธอไม่มีเพื่อน... ไม่มีคนรู้จัก... เธอไม่เคยพบหน้าผู้ให้กำเนินของตน ไม่เคยล่วงรู้ถึงความเป็นมาแห่งตน และที่สำคัญ...เธอไม่มีคนรัก ย้อนกลับไปเนิ่นนาน จนไม่สามารถระบุเวลาได้ บางทีสิ่งที่เธอรับรู้นั้นอาจจะเป็นความรู้สึกก่อนที่ตัวเองจะตายก็เป็นได้ แต่เธอตายยังไงหรือที่ไหนนั้น หญิงสาวกลับลืมมันไปหมดสิ้น ในความมืดอันหนาวเหน็บ หญิงสาวซุกตัวกับอ้อมกอดของตน มืด และหนาว เหลือเกิน เสียงร้องขอความช่วยเหลือดังอยู่แค่ในลำคอ เธอรู้สึกปวดจนร้อนผ่าวบริเวณหน้าท้องเหมือนมีใครเอามีดมากรีดท้อง รู้สึกเหมือนสมองจะไหลทะลักออกมาทางจมูกและปาก ร่างกายเหมือนจะแตกเป็นเสี่ยงๆ สิ่งสุดท้ายที่รับรู้ก่อนที่สติเธอจะเลือนหาย เธอกำลังจะตาย เมื่อลืมตาขึ้นอีกครั้ง แปลก ความเจ็บปวดนั้นจางหายไปแล้ว ร่างกายรู้สึกเบาหวิวเหมือนไม่มีน้ำหนัก ภาพที่เธอเห็น ม่านหมอกที่ปกคลุมอย่างเบาบางอยู่ปลายเท้า สุดลูกหูลูกตา ที่ๆ เธอไม่เคยเห็นมาก่อนที่ๆ มีแต่ความสว่างแต่ว่างเปล่า เธออยู่ที่ไหน ? ตายหรือยัง ? สวัสดี มีใครอยู่แถวนี้บ้าง ไร้เสียงตอบกลับมา หากแต่สิ่งหนึ่งที่เข้ามาในจิตใจ มันบอกเธอว่าต้องเดินตรงไปเท่านั้น แล้วเธอจะทราบคำตอบทุกสิ่ง เท้าของเธอมันไม่ได้ก้าว หากแต่เธอกำลังรู้สึกว่าตัวเองเคลื่อนที่ มุ่งตรงไปข้างหน้า เจ้า ผ่านไปไม่ได้ เสียงคำรามก้องออกมาจากทุกทิศทุกทางรอบตัวตัวเธอ แต่หญิงสาวมองไม่เห็นตัวคนพูด เธอชะงักเหมือนโดนกำแพงลมทำให้ไม่สามารถไปต่อได้ ที่ของเจ้าไม่ใช่ที่นี่ นำเสียงคำรามก้องออกมารอบทางอีกครั้ง แล้วที่ของฉันมันอยู่ที่ไหน หญิงสาวรวบรวมความกล้าถามออกไป ข้างล่าง สิ้นเสียง หญิงสาวพลันรู้สึกเหมือนตัวเองถูกดูดลงไปในน้ำวนเบื้องล่าง แสงสว่างลอยหายจากตัวเธอไปเรื่อยๆ เธอพยายามไขว่คว้าที่จะขึ้นไป แต่ยิ่งดิ้นยิ่งเหมือนดูดลงไปเบื้องล่าง จนเธอต้องหลับตา เมื่อลืมตาอีกครั้ง ความรู้สึกแทบไม่ต่างกับตอนที่เธอหลับตาเลย หญิงสาวรับรู้แต่เพียงว่าตอนนี้เธออยู่ท่ามกลางความมืดอีกแล้ว ไม่ชอบเลย ข้าก็ไม่ได้อยากให้เจ้าชอบนักหรอก แต่นี่ คือที่อยู่ของเจ้านับแต่บัดนี้ เสียงทุ้มที่ดังมาจากข้างหลังทำให้หญิงสาวหันขวับไปมอง แสงสว่างลอดเข้ามาจากทางด้านหลังชายคนนั้น . เหมือนเขายืนระหว่างประตูแห่งความมืดและความสว่าง มันสว่างเสียจนหญิงสาวหยีตาลง เอ้า ! จะยืนอยู่ตรงนั้นอีกนานเท่าไร ข้ามารับเจ้าแล้ว เขาหันหลังเดินไปยังแสงสว่าง เขาเป็นใคร ? ตอนนี้ไม่สำคัญแล้ว ขอเพียงให้เธอออกไปจากคุกมืดนี้ได้ก็พอ เบื้องนอก แสงสว่างส่องให้เห็นทุ่งหญ้าสุดลูกหูลูกตา มีเนินเล็กๆ สลับไปมา หากแต่เบื้องหลังที่เธอจากมาคือปราสาทสีดำ ที่ที่เธอผ่านมาเมื่อครู่เป็นประตูที่เชื่อมความมืดและความสว่างเข้าไว้ด้วยกัน ขอต้อนรับการกลับมา เธอพึ่งเห็นเจ้าของเสียงทุ้มนั้นได้ชัดเจน ร่างนั้นพิงตัวเองไว้กับกำแพงปราสาท ผู้ชายที่อยู่ในอาภรณ์สีดำเหมือนสีของนกกา เสื้อเชิ๊ตสีดำร้อยเชือกแทนกระดุม เปิดให้เห็นแผงหน้าอก กางเกงสีดำกับรองเท้าบูทสีดำที่สูงเทียมเข่า ไม่ใช่แค่อาภรณ์แม้แต่ผมของเขาก็ยังสีดำสนิทเป็นประกายเงางามหยอกล้อกับแสงแดด หญิงสาวเงยหน้ามองชายร่างสูง สูงกว่าคนที่เธอเคยรู้จัก ใครกันนะ ? นึกไม่ออก หญิงสาวขมวดคิ้ว เธอลืมใครไปน่ะ ใครบางคนที่เห็นเป็นเพียงเงาลางๆ ในม่านหมอกความทรงจำ เป็นอะไรไป เขาถามด้วยสีหน้าเรียบเฉย ทำให้สติของเธอกลับคืนมาอีกครั้ง เงาลางเลือนจางหาย เธอต้องรู้ให้ได้ เจ้าของเงาคนนั้นเป็นใคร ที่นี่คือที่ไหนกัน เธอเลี่ยงที่จะตอบคำถามและเป็นผู้ถามแทน หากแต่ชายแปลกหน้าสำหรับเธอก็ทราบได้ทันทีว่าเธอต้องการจะเลี่ยงคำถาม และเขาก็ยอม ยมโลก คำตอบสั้นๆ แต่อธิบายถึงความสงสัยของเธอได้เป็นอย่างดี งั้น ฉันก็ตายแล้วน่ะสิ ชั่วขณะ เธอเห็นดวงตาสีนิลไหวระริกเหมือนจะกลั้นหัวเราะก่อนจะจางหาย กลายเป็นดวงตาที่เฉยชาเหมือนเดิม หรือเธอตาฝาดไป หัวเราะทำไม ? มีอะไรน่าขัน แต่เธอก็ไม่ได้รับคำตอบนั้น เพราะเขาหันหลังให้เธอ และสิ่งหนึ่งที่เขาพูดทิ้งท้ายว่า ขอต้อนรับการกลับมา หมายความว่าอย่างไร ? เธอเคยอยู่ที่นี่มาก่อนอย่างนั้นหรือ เจ้า เคยอยู่และจะต้องอยู่ตลอดไป คำตอบที่ได้รับเหมือนจะล่วงรู้ความคิดของเธอ ทำไมฉันต้องอยู่ในยมโลก แทนที่จะได้อยู่บนสวรรค์ ชายหนุ่มขมวดคิ้ว แล้วเจ้าคิดว่ายมโลกคืออะไร นรกอย่างนั้นรึ ? เจ้าอดีตมนุษย์เอ๋ย สวรรค์ นรก เป็นสิ่งที่พวกมนุษย์สร้างขึ้น แต่ท้ายสุดแล้วสิ่งที่พวกเจ้าต้องกลับมา คือ ยมโลก สวรรค์และนรกเป็นสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้นอย่างนั้นรึ งั้น แสงสีขาวที่ฉันเห็นล่ะคือสิ่งใด เธอถามกลับ แสงที่เจ้าเห็นเป็นที่อยู่ของพวกเทพ และพวกเทพก็มีทั้งดีและเลวเหมือนพวกมนุษย์ เจ้า ไม่สามารถเข้าไปในนั้นได้ คนที่เข้าไปได้ต้องมีสายเลือดแห่งเทพเท่านั้น สายเลือดแห่งเทพ เกิดใหม่กี่ครั้งก็ยังเป็นสายเลือดแห่งเทพ ในขณะที่สายเลือดแห่งมรณะ เกิดใหม่กี่ครั้งก็ยังคงเป็นสายเลือดแห่งมรณะ เจ้าแห่งยมโลก ชายหนุ่มหันมาทางหญิงสาว ครั้งแรกที่เธอได้ยินเขาพูดประโยคยาว ไม่นานเจ้าก็จะเข้าใจ ดาริล ใช่ ตอนนี้เธอเข้าใจได้ดี สายเลือดแห่งมรณะเกิดใหม่กี่ครั้งก็ยังเป็นสายเลือดแห่งมรณะ ในเมื่อตอนนี้เธอกำลังรับหน้าที่ที่ชายคนนั้นเคยเป็น ป่านนี้ เขาจะเป็นอย่างไรบ้างนะ ? ครั้งสุดท้ายที่เธอพบกับเขา เขามาลาเพื่อที่จะไปเกิดยังโลกมนุษย์ ใย ต้องไป คำถามนั้นออกมาจากผู้เป็นทั้งมือขวา ศิษย์เอกและเพื่อน ? ต่างคนต่างมีวาระแห่งตน ข้าและเจ้าก็เช่นกัน ร่างหนาหันหลังให้กับเธอ เมื่อต้องการปกปิดความรู้สึกบางอย่างไม่ให้ใครรับรู้ เมื่อไรจะกลับ คำถามที่ทำเอาคนตอบอึ้งไปชั่วขณะ เมื่อเจ้าไปรับ ข้าจะกลับมา ถ้าข้าไม่ไปรับเจ้าล่ะ หญิงสาวเอียงคอมอง เขาหันมายิ้มบางๆ เป็นครั้งแรกที่เธอเห็นเขายิ้ม ถึงเจ้าไม่ไปรับ ข้าก็ต้องกลับมาอยู่ดี สายตาจับจ้องมาที่ใบหน้าดาริลเหมือนจะจดจำไว้ส่วนลึกสุดของหัวใจ หญิงสาวมองไปเบื้องหน้า แสงราตรีกำลังหลอกล่อให้พวกมนุษย์กำลังหลงระเริง หากจะมีกี่คนที่รู้ตัว ความตายไม่ใช่สิ่งน่ากลัว หากที่คนกลัวคือ ความเจ็บปวดก่อนตาย และความทุกข์ที่ต้องจากคนที่รักไป ทุกคนต้องได้รับ โดยไม่สามารถหลบหนีได้ ได้เวลาล่าเหยื่ออีกครา การทำงานของคมเคียวเริ่มขึ้น ก่อนจะจบลงด้วยชีวิตของคนเป็น เพื่อนำพาเขาเหล่านั้นไปสู่โลกหลังความตาย ละอองสีเงินปลิวหายไปกับสายลม พร้อมกับหน้าที่ที่จะต้องทำในคืนนี้ เมื่อถึงเวลา ข้าจะมารับเจ้า สัญญากำลังจะเป็นจริงในไม่ช้า รอข้านะ ขอขอบคุณ
ขอขอบคุณ...คุณสายลมที่พัดไปไม่ถึงตัวเธอสำหรับโค๊ดและรูปในการทำบล็อกแก็งค์
ขอขอบคุณ...คุณ yodaoi สำหรับแรงผลักดันในการทำบล็อก ขอขอบคุณเพื่อนผี ที่ช่วยมาเล่าประสบการณ์สยอง ขอขอบคุณเพื่อนๆ ในดินแดนยมโลก สำหรับกำลังใจ และ...สุดท้าย ขอขอบคุณ...ตัวเองที่ทำให้บล็อคนี้เกิดขึ้นได้ |
นางพญายม
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?] Group Blog Friends Blog
Link |
||
Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved. |