เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2557 ที่ห้องประชุมสิริภูมิ โรงแรมฮอลิเดย์การ์เด้น จ.เชียงใหม่ เครือข่ายศูนย์คุ้มครองสิทธิผู้บริโภค 16จังหวัดภาคเหนือ ร่วมกันจัดเวทีสาธารณะผู้บริโภคภาคเหนือ ครั้งที่1 “การเยียวยาช่วยเหลือผู้บริโภคกรณีปัญหาจากรถโดยสารสาธารณะ”  โดยได้รับเกียรติจากนายนาวิน สินธุสอาด รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ มาเป็นประธานในการเปิดเวที ซึ่งภายในงานมีผู้บริโภคที่ได้รับผลกระทบจากรถโดยสารสาธารณะในกรณีต่างๆ องค์กรหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการคุ้มครองช่วยเหลือเยียวยา องค์กรท้องถิ่น องค์กรประชาสังคม และแกนนำอาสาสมัครคุ้มครองสิทธิผู้บริโภคจาก 16 จังหวัดภาคเหนือมาร่วมเวทีกว่า 80 คน

เครือข่ายศูนย์คุ้มครองสิทธิผู้บริโภค 16 จังหวัดภาคเหนือ ตั้งแต่ จ.แม่ฮ่องสอนไปจนถึง จ.นครสวรรค์ เป็นองค์กรภาคประชาชนที่ดำเนินงานในการให้ข้อมูลความรู้เกี่ยวกับสิทธิผู้บริโภคและรับเรื่องร้องทุกข์ ร้องเรียนเกี่ยวกับปัญหาผู้บริโภคมาตั้งแต่ปี 2547

สำหรับประเด็นการคุ้มครองผู้บริโภคด้านบริการรถโดยสารสาธารณะ ทางเครือข่ายศูนย์คุ้มครองสิทธิผู้บริโภค 16 จังหวัดในภาคเหนือ มีบทบาทในการติดตามให้ความช่วยเหลือด้านข้อมูลข่าวสารกับผู้ประสบอุบัติเหตุ ด้วยการเข้าไปแจ้งสิทธิต่างๆ ที่สมควรได้รับ เช่น การรักษาพยาบาล การเยียวยาชดเชยต่างๆจากแหล่งที่ต้องรับผิดชอบ เช่น บริษัทประกันภัย บริษัทเจ้าของรถและจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมธุรกิจประกันภัย บริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด เป็นต้น บางกรณีก็ช่วยอำนวยความสะดวกในการส่งต่อเรื่องเพื่อรับการช่วยเหลือจากหน่วยงานต่างๆ

อย่างไรก็ดี ในพื้นที่ภาคเหนือพบสถานการณ์ที่รถโดยสารสาธารณะและรถเช่าเหมาลำประสบอุบัติอยู่บ่อยครั้ง เช่น รถเช่าเหมาลำจาก ต.ชมภู อ.สารภี จ.เชียงใหม่ ประสบอุบัติเหตุตกเหวที่ อ.วังเหนือ จ.ลำปาง กรณีรถโดยสารประจำทางเชียงใหม่ – แม่ฮ่องสอน คว่ำที่ อ.ฮอด จ.เชียงใหม่ กรณีรถทัศนศึกษาของนักเรียน อ.ดอยหล่อ ประสบอุบัติเหตุพลิกคว่ำที่ห้วยฮ่องไคร้ และกรณีรถโดยสารขอนแก่น - เชียงราย ตกเหวที่ อ.น้ำหนาว จ.เพชรบูรณ์ เป็นต้น

ปัญหาจากการดำเนินการช่วยเหลือผู้ได้รับความเสียหายจากบริการรถโดยสารสาธารณะของเครือข่ายศูนย์คุ้มครองสิทธิผู้บริโภคภาคเหนือ พบว่า กระบวนการช่วยเหลือเยียวยาเมื่อเกิดอุบัติเหตุแต่ละครั้งมีความแตกต่างกัน บางกรณีเร็วบางกรณีช้า ไม่มีการเชื่อมประสานการช่วยเหลืออย่างทันท่วงที หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ค่อยมีการแจ้งสิทธิให้ผู้ได้รับความเสียหายได้เข้าใจจำนวนเงินช่วยเหลือเยียวยาในกรณีเสียชีวิต ในกรณีบาดเจ็บก็พบว่ามีวงเงินไม่สูงมากเมื่อเทียบกับสภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน ตลอดจนภาระของผู้เสียหายในการรวบรวมเอกสารหลักฐานจำนวนมากเพื่อขอรับการช่วยเหลือ ซึ่งบางกรณีที่ไม่มีระบบประกันก็ยิ่งเป็นภาระต่อผู้เกี่ยวข้องและผู้บริโภคอย่างมาก

ดังนั้น การจัดเวทีสาธารณะในครั้งนี้จึงเป็นการสร้างพื้นที่แห่งการเรียนรู้ โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาร่วมแลกเปลี่ยนให้ข้อมูลกับประชาชน นอกจากนี้ เครือข่ายศูนย์คุ้มครองสิทธิผู้บริโภคทั้ง 16 จังหวัดภาคเหนือ ยังได้ร่วมกันพัฒนาข้อเสนอนโยบายสาธารณะด้านการเยียวยาช่วยเหลือโดยมีสาระสำคัญ ดังนี้

1. ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องชี้แจงสิทธิของผู้เสียหายโดยเร็ว ครบถ้วน พร้อมคำแนะนำในการเข้ารับบริการทั้งเรื่องการรักษา และการรับค่าชดเชยเยียวยา
2. ให้มีการนำเสนอนโยบายปรับเพิ่มเพดานการช่วยเหลือเยียวยาให้เพิ่มสูงขึ้น สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจ และมีวงเงินในการจ่ายเบี้ยประกันที่เหมาะสม รวมถึงให้มีการสร้างแรงจูงใจให้บริษัทรถเจ้าของรถเห็นความสำคัญของการทำประกันภัย
3. พลเมืองผู้บริโภคควรได้รับความรู้เรื่องสิทธิอย่างต่อเนื่องและหลากหลายช่องทาง เมื่อเกิดความเสียหายจากรถโดยสารสาธารณะ และสนับสนุนให้เกิดการรวมตัวเป็นกลุ่มผู้บริโภคในการทำหน้าที่สื่อสารและคุ้มครองสิทธิร่วมกัน