• ประวัติกล้วยไม้
• ลักษณะทั่วไปของกล้วยไม้
• การปลูกเลี้ยงกล้วยไม้
• ชื่อนั้นสำคัญนะ
• ธาตุอาหารกับการเจริญเติบโตของกล้วยไม้
• เที่ยวไป บ่นไป

พฤกษาสยาม ครั้งที่ ๓ (ภาพกล้วยไม้งาม สวยๆ แพงๆ) ภายในงาน "พฤกษาสยาม" ก็มีจัดประกวดไม้งามพันธุ์ต่างๆ เยอะแยะมากมายเลยครับ กล้วยไม้หอมๆ ก็เยอะเลยครับ ลองดูภาพละกันครับ บางรูปผมไม่รู้ชื่อขอโทษทีนะครับ ๑. ๒. ๓. ๔. ๕. ๖. ๗. ๘. ๙. ๑๐. ๑๑. ๑๒. ๑๓. ๑๔. ๑๕. Phal. Belina ๑๖. ๑๗. ๑๘. ช้าง ศรีสยาม ๑๙. ช้าง บางกอก ๒๐. ๒๑. ๒๒. Ascda. Vaewravee gold ๒๓. รองเท้านารี อินทนนท์ลาว ๒๔. รองเท้านารี เหลืองกระบี่ ๒๕. รองเท้านารี ฟิลิปปินส์ ๒๖. Paph. Calbsum Var. Thanlandense ๒๗. รองเท้านารี ดอยตุง ๒๘. Paph. Pinocchio ๒๙. Paph. Shin Yi x In Charm Red Hawk ๓๐. Paph. อิน ชาม โบวีเดอร์ ๓๑. Paph. Wardii x Holdenii ๓๒. รองเท้านารี ฝาหอย ๓๓. รองเท้านารี ขาวสตูล ๓๔. รองเท้านารี เหลืองเลย ๓๕. แวนด้า เกษมดีไลท์ x ฟ้ามุ่ย ๓๖. แวนด้า ราศรี x บางขุนศรี ๓๗. ๓๘. หนวดพราหมณ์ ๓๙. สามปอย ๔๐. สามปอย ๔๑. เอื้องผึ้ง ๔๒. เอื้องม่อนไข่ รางวัลดีเด่น ๔๓. รางวัลดีเด่น ๔๔. รางวัลดีเด่น ๔๕. Aer. Bangkok Sunset ๔๖.บอนไซต้นนี้ อายุ ๘๐ ปี มูลค่า ๑ ล้านบาทครับ ภาพบรรยากาศในงานครับ พฤกษาสยาม ครั้งที่ ๓ (ภาพบรรยากาศ)   Create Date : 02 เมษายน 2550     Last Update : 3 เมษายน 2550 10:55:16 น. Counter : 2277 Pageviews.   0 comment Share Tweet

พฤกษาสยาม ครั้งที่ ๓ (ภาพบรรยากาศ) พฤกษาสยาม งานแสดงไม้ดอกไม้ประดับ ๓๐ มี.ค. - ๘ เม.ย. ๕๐ MCC Hall The Mall บางแค เนื่องด้วยช่วงนี้ร้อนมากๆเลยครับ ก็เลยต้องหาที่หลบร้อนสักหน่อย ก็ต้องที่ห้างสรรพค้า หรือโรงหนังก็ดี(ดีกว่าทนร้อนอยู่ในบ้าน)ครับ ผมก็เลยเลือกมาที่ เดอะมอลล์ บางแค เพราะมีงาน "พฤกษาสยาม" นั้นเองครับ ก่อนจะเข้างานก็ต้องจ่ายเงินเงินซื้อบัตร ๓๐ บาทเที่ยวได้ทั้งงานซะก่อนครับ ภายในงานจะประกอบไปด้วย สวนย่อมแบบมีน้ำตก กับ ไม่มีน้ำตก มีทั้งนาดเล็ก และขนาดใหญ่ ไม้งามในตะกร้า และไม้งามแบบเดี่ยวๆ บูธให้คำปรึกษาเกี่ยวกับพันธุ์ไม้งามต่างๆ บูธร้านค้าต่างๆ ๑.แบบมีน้ำตกอยู่ด้านหน้างาน ๒.ต่อมา ๓.น้ำตกเล็กๆ ๔.แบบไม่มีน้ำตก ๕.หลากหลาย ๖.อันนี้รางวัลชมเชย ๗.สวนขนาดเล็ก ๑x๑ เมตร ๘.รางวัลที่ ๑ ๙.มีบ้านทรงไทยหลังเล็กด้วย ๑๐.ไม้ดัด 12 นักษัตร ๑๑.กลุ่มกล้วยไม้ที่ได้รางวัลดีเด่น ๑๒.สวนทะเลทราย ๑๓.ชวนชมรางวัลดีเด่น ๑๔. ๑๕. ๑๖. หมดแล้วครับสำหรับบรรยากาศในงาน ส่วนภาพกล้วยไม้ ไม้งามนั้น ยกไปอีกหน้าครับ พฤกษาสยาม ครั้งที่ ๓ (ภาพกล้วยไม้งาม สวยๆ แพงๆ)   Create Date : 02 เมษายน 2550     Last Update : 2 เมษายน 2550 18:21:29 น. Counter : 1281 Pageviews.   1 comment Share Tweet

สุดแดนตะวันตกที่ สังขละบุรี ตอนกลับ เช้าๆที่สังขละอากาศหนาวมาก หมอกก็เยอะมากด้วยครับ เนื่องจากหมอกเยอะทำให้ถ่ายถาพวิวทิวทัศได้ไม่ดีเลยครับ ก็เลยพยายามเดินถ่ายดอกไม้บริเวณรีสอร์ทให้เยอะๆ แทนครับ พอถึงตอนสายๆ ก็นึกขึ้นได้ว่ามาถึงสังขละแล้วก็น่าจะเข้าไปดูเพื่อนบ้านเราสักหน่อย นั้นก็คือพม่านั้นเอง เอกสารก็ที่ใช้ก็ไม่มีอะไรมากครับถ้าเอารถเข้าไปด้วยก็ใช้แค่สำเนาเล่มทะเบียน พร้อมกับสำเนาบัตรประชาชนของผู้ที่จะไปเที่ยวครับ เรื่องถ่ายเอกสารก็ไม่ต้องห่วงที่นั้นมีร้านรับถ่ายเอกสารด้วยครับ ก่อนจะผ่านด่านเข้าไป ประโยคสุดท้ายที่ผมได้ยินก็คือ "ขาบโรดชิขวานะคาบ" ถูกต้องครับเข้าเขตพม่าแล้วรถทุกคันก็ต้องขับชิดขวาครับ โรงเรียน ถนนแถวๆ ด่าน ขับรถเข้าไปก็อ่านป้ายอะไรไม่ออกเลยครับ เพราะเป็นภาษาพม่าล้วนๆเลย ที่แรกที่แวะเข้าไปเดินดูก็คือตลาดที่ขายของให้นักท่องเที่ยวครับ ตลาดชื่ออะไรนั้นผมก็จำไม่ได้ซะแล้วครับ พ่อค้าแม่ค้าที่นี่ล้วนพูดภาษาไทยได้ทั้งนั้นเลยครับ(โชคดีจัง) ของที่ขายให้นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ก็ไม่ค่อยต่างจากฝั่งไทยสักเท่าไหร่ ผมก็เลยไม่รู้จะซื้ออะไรเพราะซื้อของที่ฝั่งไทยเอาไว้แล้วครับ ของที่ขายก็คล้ายๆ ในตลาดฝั่งไทย กล้วยไม้สวยๆ ม่ะคาบ สถานที่เที่ยวยอดฮิตก็คงไม่พ้น วัดเสาร้อยต้น ครับ ด้านหลังก็จะเป็นเจดีย์ของวัดครับ เจดีย์ตั้งอยู่บนเนินเขาลูกเล็กๆ ทางสำหรับรถก็ชันมากๆ ครับ ผมเอารถเก๋งไปก็พอขึ้นได้ครับ บันไดสำหรับให้เดินขึ้นก็มีนะครับ แต่เดินขึ้นคงเหนื่อยน่าดูก็เลยขับรถขึ้นไปดีกว่าครับ ด้านหน้าศาลาวัดเสาร้อยต้น ด้านในศาลา เจดีย์ด้านหลังตั้งอยู่บนเนินเขา ถ่ายจากด้านบนเขาที่ตั้งเจดีย์ ด้านล่าง บันไดขึ้นสู่เจดีย์ พระพุทธรูปยืนเรียงรายหลายองค์มากๆ แล้วก็ได้เวลากลับฝั่งไทยครับ ตอนกลับก็ต้องไปเอาบัตรประชาชนที่ด่านด้วยครับ เวลานั้นก็เป็นช่วงบ่ายแดดแรงมากๆ ทำให้ผมตัดสินใจไม่ไปเที่ยวดูวัดจมน้ำ ก็เสียดายพอสมควรครับ แต่มันร้อนมากแล้วก็ต้องรีบกลับกรุงเทพฯด้วย เลยต้องตัดใจครับ ยังครับ ยังไม่หมดเสียทีเดียว ด้วยความที่ยังรู้สึกอยากเที่ยวอยู่ ผมก็เลยหาสถานที่เที่ยวที่ติดกับถนนหรือเส้นทางกลับกรุงเทพฯครับ เอาแบบไม่ค่อยเสียเวลามากเกินไปครับ สุดท้ายก็ได้ที่ไทรโยคใหญ่เป็นแห่งต่อไปครับ น้ำตกไทรโยคใหญ่ สะพานแขวนไทรโยค เห็นบานสวยอยู่หน้าร้านขายของที่ไทรโยคก็เลยแช่ะๆๆๆ สุดท้าย ท้ายที่สุดจริงซะทีครับ เฮ้อเริ่มหมดแรงแล้วครับ(ขับรถคนเดียวนี่น่า) นั้นก็คือ สะพานรถไฟข้ามแม่น้ำแควครับ ไปถึงตอนเย็นๆพอดีเลย แดดกำลังดี ชาวต่างชาติก็มาเที่ยวกันเยอะมากๆ ครับเต็มทางรถไฟเลยล่ะ ยามเย็น มีที่ยืนสำหรับหลบรถไฟด้วยครับ(น้องสาวยืนคนเดียวไม่เหงาเหรอครับ อิอิ) จากนั้นก็แก้หิวก่อนเดินทางด้วยลูกชิ้นปิ้งแถวสะพานนั้นแหละครับอิ่มแล้วก็เดินทางกลับกรุงเทพฯทันที และแล้วก็สิ้นสุดการเที่ยวในวันหยุดยาวแล้วล่ะครับ เที่ยวทั้งหมดนี่ก็ภายใน ๒ วันเท่านั้น เล่นซะผมเหนื่อยเลยครับ ร่วมแล้วขับรถเป็นระยะทาง ๙๐๐ ก.ม.พอดีเลย เป็นความประทับใจครั้งแรกของผมด้วยครับ เพราะเป็นครั้งแรกที่ออกนอกประเทศไทยด้วย ได้เห็นวิถีชีวิตชาวมอญ พม่า และก็คนไทยแถบชายแดน ซึ่งเป็นการใช้ชีวิตเรียบง่าย ท่ามกลางธรรมชาติ มีแต่ผู้คนยิ้มแย้มแจ่มใส อากาศก็ดีมากๆ ไม่วุ่นวายเหมือนในเมืองกรุง รู้สึกดีจังเลยครับ ใครยังไม่เคยไป ก็ลองไปเที่ยวนะครับ ขอบอกว่าคุ้มจริงๆ   Create Date : 15 มีนาคม 2550     Last Update : 16 มีนาคม 2550 11:11:51 น. Counter : 652 Pageviews.   2 comment Share Tweet

สุดแดนตะวันตกที่ สังขละบุรี ตอนแรก ในที่สุด Blog ของเราก็ใช้ได้อีกครั้งแล้ว เย้ๆ เนื่องในโอกาศวันมาฆบูชาตรงกับวันเสาร์ที่ ๓ มีนาคม ก็เลยทำให้เราชาวไทยได้มีวันหยุดยาว ๓ วัน ตั้งแต่ ๓-๕ มีนาคม กันเลยทีเดียว ผมก็เลยเกิดความคิดอยากเที่ยวทันทีทันใด เมื่อปรึกษากับ ผบ. ก็เลยสรุปจุดหมายปลายทางกันที่ สุดแดนตะวันตก อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี เริ่มเดินทางจาก กทม. ตั้งแต่ ๗ โมงเช้า ขับรถไปถึง กาญจนบุรีใช้เวลาเพียง ชั่วโมงกว่าๆเอง ตอนแรกก็ดีใจ นึกว่าเราทำเวลาดีแล้ว อีกไม่นานคงถึง สังขละ เพราะเหลืออีกแค่ ประมาณ ๒๐๐ ก.ม.เท่านั้น ก็เลยขับรถชมวิวไปเรื่อยๆ (๑๐ โมงกว่าๆ หมอกเยอะมาก วิวดีอ่ะนะ ) ขับไปเรื่อยๆ เริ่มเอ่ะใจ ทำไมไม่มีปั๊มน้ำมันเลยนะ (ก็เริ่มปวดฉื่แล้วอะนะ แย่แล้วๆ) เมื่อไปถึง อ.ทองผาภูมิ ก็เจอปั๊มสักที( เฮ้อเกือบแย่แน่ะ ) ทำธุระกิจเสร็จเรียบร้อย ก็มุ่งหน้าสังขละบุรีทันที ที่สังขละก็มีปั๊มอยู่เพียงปั๊มเดียวเป็น ปตท ครับ(ก็ยังดีกว่าไม่มีอ่ะนะ) สถานที่แรกที่ไปก็คือด่านเจดีย์ ๓ องค์ ไปถึงตอนเที่ยงพอดี แต่อากาศก็ไม่ค่อยร้อนเท่าไหร่ครับ ผิดกับแดดซึ่งแรงมากๆๆๆๆ บริเวณรอบข้างเจดีย์ก็มีร้านค้าขายของที่ระลึกอยู่ ส่วนใหญ่จะเป็นผลิตภัณฑ์ที่ทำจากไม้ล้วนๆ และเครื่องประดับที่มีประกายต่างๆ เดินไปเดินมา ก็สังเกตุเห็นว่ามีร้านค้าส่วนหนึ่งที่มีผู้คนสนใจเดินดูเยอะ ก็เลยเข้าไปดู ที่แท้ก็ร้านขาย กล้วยไม้ป่านั้นเองครับ เดินเข้าไปดูใกล้ๆ แม่ค้าทั้งหลายเป็นพม่าทั้งนั้นเลยครับ ตอนขายกล้วยไม้ก็ดูคล้องแคล้วมาก เธอจะมาพร้อมกับหนังสือรูปกล้วยไม้ของไทย กางให้ดูเปรียบเทียบเสมอ ผมก็งงๆ กับภาษาไทยสำเนียงพม่าอยู่พอสมควร สุดท้ายก็ได้กล้วยไม้กลับมาพอสมควรครับ น้องๆพม่าเมื่อขายเสร็จก็ยกมือไหว้แบบไทยๆ เพื่อเป็นการขอบคุณเราซะด้วย ส่วนสภาพกล้วยที่นำมาขายนั้น ส่วนใหญ่จะแย่ครับ เป้าหมายต่อไปก็คือ วังวิเวการามครับ ต่อด้วยเจดีย์พุทธคยา ตามมาด้วยสพานมอญ บรรยากาศรอบๆ จบวันแรกครับ แค่นี้ผมก็เหนื่อยมากๆ แล้ว   Create Date : 13 มีนาคม 2550     Last Update : 15 มีนาคม 2550 10:22:39 น. Counter : 2163 Pageviews.   3 comment Share Tweet

งานมหกรรมกล้วยไม้ นครปฐม ๕๐ หลังจากได้ทราบข่าวว่า จะมีงานมหกรรมกล้วยไม้ ที่พุทธมณฑล ตั้งแต่วันที่ ๑๘-๒๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๐ ผมก็ตั้งใจอยากจะไปชมงานตั้งแต่วันแรกเปิดงานเลยเชียว แต่สุดท้ายก็ต้องเสียความตั้งใจ เพราะติดกับวันตรุษจีนพอดี ก็เลยต้องเลื่อนไปเสาร์หน้า(๒๔ ก.พ.)แทนครับ พอถึงวันเสาร์(๒๔ ก.พ.) ผมก็ชวน ผ.บ.(ส่วนตัว) ไปชมงานด้วยกัน สถานที่จัดงานก็ไม่ไกลเลย ขับรถไปเรื่อยๆจากปิ่นเกล้า-พุทธมณฑล ก็ครึ่งชั่วโมงเท่านั้นเองครับ เมื่อมาถึงก็ต้องไปกราบ พระศรีศากยทศพลญาณ ซึ่งเป็นพระประธานของพุทธมณฑล เป็นอันดับแรกครับ พระศรีศากยทศพลญาณ พระพุทธรูปปางลีลา จากนั้นก็ขับรถกลับเข้างานมหกรรมกล้วยไม้ครับ ซุ้มประตูภายในงาน ผู้คนที่มาเที่ยวชมภายในงาน กล้วยไม้ที่งานนี้ราคาถูกจริงๆเลย กระบองเพชรสวยๆ ก็เยอะ บัวสวยๆ ก็มี กลิ่นหอมมาก ชื่นใจครับ แคทลียาดอกเบิ่มมากๆ แกรมมาโต ต้นโต๊โต ร้านขายของตกแต่งสวน ช่อชลูด วางขายเต็มตะกร้าเชียว เร่เข้ามา ช่อละ ๑๐ บาทเท่านั้น ร้านอุปกรณ์ปลูกต้นไม้ ข่อนไม้ติดลวดแขวนสำเร็จรูป มาดูส่วนจัดประกวดกล้วยไม้ เหลืองจันทร์งามๆ นึกชื่อไม่ออกครับ สามปอยแท้ หอมมากๆ เอื้องผึ้ง สีสวย ช่อยาว หวายเก้ากิ่ง สวยมากๆ Vasco crowfox redgem x Asc. Yip SumWah มาดูฟาแลนกันบ้าง ฟาแลน ฟาแลน รองเท้านารีสวยๆ เพียบเลย ต้นนี้ชื่อ Paph. S Gratrix รองเท้านารี เหลืองกระบี่ รองเท้านารี เหลืองกระบี่ รองเท้านารี ตรัง x ฝาหอย รองเท้านารี ปีกแมลงปอ แบบที่จัดเป็นกระเช้าก็มี แบบกระเช้า แบบกระเช้า มีการจัดสวนให้ชมด้วยครับ สวนของกลุ่มเกษตรพัฒนา สมุทรสาคร อีกแนวหนึ่ง มีรถเข็นซะด้วย สวนของจังหวัดนครปฐม สวนนี้ผมชอบที่สุดครับ ก็เพราะมีการทำบ่อน้ำไว้ด้วย เข้ากับกล้วยไม้ดีครับ สวนนี้ มีคติสอนใจ ปักเอาไว้ด้วยครับ เที่ยวชมอยู่ชั่วโมงกว่า ก็หมดแรงแล้วครับ เพราะวันนั้นอากาศร้อนมากๆ ผ.บ. ของผมเค้าก็ดูท่าทางจะไม่ไหวซะแล้ว ก็เลยชวนกันกลับบ้านครับ ก่อนกลับก็ต้องกราบลาท่านซะก่อนครับ ไปลา-มาไหว้ครับ ขากลับสู่กรุงเทพฯ ก็ชมความสวยงามของ ถนนอักษะ ไปพลางครับ   Create Date : 26 กุมภาพันธ์ 2550     Last Update : 27 กุมภาพันธ์ 2550 13:51:27 น. Counter : 1693 Pageviews.   2 comment Share Tweet

• Webmaster - BlogGang