BlogGang.com : : lanlalinzap

รถหกล้อรับจ้าง มีกี่ประเภท เหมาะกับการใช้งานแบบไหนบ้าง

รถหกล้อรับจ้าง มีกี่ประเภท เหมาะกับการใช้งานแบบไหนบ้าง
รถหกล้อรับจ้าง
การใช้บริการ รถหกล้อรับจ้าง เป็นที่นิยมของผู้ที่ต้องการขนย้ายของจำนวนมาก แน่นอนว่าการเลือกรถหกล้อนั้น มีให้เลือกอีกหลากหลายประเภท เพื่อตอบสนองการใช้บริการของทางผู้ว่าจ้าง เพื่อให้คุณสามารถใช้บริการได้ตามความต้องการ สำหรับผู้ที่ต้องการใช้บริการรถหกล้อรับจ้าง เราขอแนะนำข้อมูลให้ทราบก่อนใช้บริการ ดังนี้
รถหกล้อรับจ้าง ที่นิยมใช้งานจริง ๆ มีกี่ประเภท
1.รถหกล้อรับจ้างเล็ก
เป็นรถรับจ้างขนาดเล็ก สามารถย้ายของที่มีขนาดปานกลาง ความยาวไม่มากนัก รถขนาดเล็กเหมาะสำหรับการขนย้ายของที่มีขนาดเล็ก อย่างการขนย้ายเฟอร์นิเจอร์ขนาดเล็ก อุปกรณ์สำนักงานขนาดเล็ก สัมภาระที่มีน้ำหนักไม่มากนัก เป็นต้น ใครที่มีของไม่มากนัก ก็สามารถใช้บริการรถเล็กได้
2.รถ 6 ล้อรับจ้างขนาดใหญ่
รถรับจ้างขนาดใหญ่ สามารถรองรับของได้จำนวนมาก ตัวรถมีความยาวมากกว่ารถเล็ก จึงทำให้สามารถขนย้ายของที่มีความยาวมากได้ เช่น การขนย้ายเฟอร์นิเจอร์ ขนของย้ายกิจการ ย้ายบริษัท เป็นต้น นอกจากนี้ก็ยังเหมาะสำหรับการขนย้ายอุปกรณ์ก่อสร้างที่มีขนาดใหญ่โตด้วย รถ 6 ล้อประเภทนี้น่าจะเป็นที่คุ้นเคยกันดี ใคร ๆ ก็น่าจะเคยเห็นกันตามท้องถนน หากต้องการขนของขนาดใหญ่ ปริมาณมาก การเลือกใช้บริการรถ 6 ล้อขนาดใหญ่ ก็ถือว่าคุ้มค่า คุ้มราคาเลยทีเดียว
3.รถ 6 ล้อรับจ้างตู้ทึบ
สำหรับรถ 6 ล้อรับจ้างตู้ทึบ เป็นรถที่มีการทำไว้ให้ทึบ โดยทำตู้บริเวณด้านข้างของตัวรถให้เป็นตู้ทึบ เพื่อใช้สำหรับการขนย้ายในสิ่งที่สำคัญ หรือขนย้ายสินค้าที่ง่ายต่อการเสียหาย ซึ่งก็สามารถใช้ขนย้ายสิ่งของทั่วไปก็ได้เช่นเดียวกัน จะเรียกง่าย ๆ ว่าเป็น 6 ล้อตู้ทึบขนย้ายของสารพัดอย่างก็ได้ เป็นรถขนย้ายของที่นอกจากจะมีความจุจำนวนมากแล้ว ดีไซน์ของรถนั้นก็ถือว่าสวย น่าสนใจ ไม่เบาเลยทีเดียว
หากคุณกำลังต้องการขนย้ายบ้าน ขนของย้ายออฟฟิศ ขนของย้ายคอนโด เป็นต้น แต่ไม่สามารถขนย้ายด้วยตนเองได้ ก็ขอแนะนำใช้ใช้บริการการขนย้ายของ จาก Captainmove.com เลย เพราะที่นี่มีรถขนย้ายของให้คุณได้เลือกใช้บริการมากมาย พร้อมบริการเสริมเพิ่มเติมที่จะช่วยให้คุณประทับใจด้วย เรามีพนักงานที่พร้อมให้บริการและช่วยเหลือคุณขนย้ายของให้สะดวก ย่นระยะเวลาในการขนย้ายของ เป็นต้น เพียงเท่านี้คุณก็จะได้ขนย้ายของอย่างรวดเร็วด้วยบริการของเราแล้ว
ขอบคุณข้อมูลจาก : https://captainmove.com/6-wheels-truck/

Create Date : 03 มีนาคม 2564

0 comment

Last Update : 3 มีนาคม 2564 12:04:49 น.

Counter : 1147 Pageviews.

Share
Tweet

ทำประกันรถยนต์ 2+ ที่ไหนดี ถ้าเลือกไม่ถูก บอกเลยว่าต้องอ่าน

ประกันรถยนต์ 2+ ที่ไหนดี
คนส่วนใหญ่ที่นิยมทำประกันรถยนต์ 2+ ก็คงเป็นเพราะว่าไม่ต้องการจ่ายค่าเบี้ยประกันภัยในราคาที่แพง เพราะประกันรถยนต์ 2 พลัส นั้นเป็นประกันรถยนต์ที่มีความคุ้มครองใกล้เคียงกับประกันชั้น 1 มากที่สุด แต่คำถามที่คนส่วนใหญ่มักจะถามกันเมื่ออยากทำประกันรถยนต์ 2+ คือ ประกันรถยนต์ 2+ ที่ไหนดี เดี๋ยวเราลองไปดูกันค่ะว่ามีบริษัทประกันภัยเจ้าไหนบ้าง ที่น่าสนใจ และน่าทำประกันรถยนต์ 2+ ด้วยบ้าง
ประกันคุ้มภัย
ประกันคุ้มภัยนั้นค่อนข้างโดนเด่นในเรื่องของค่าเบี้ย ไม่ว่าจะเป็นประกันรถยนต์ชั้น 1 2+ 3+ 3 ค่าเบี้ยประกันภัยก็จะมีราคาถูก และอีกสิ่งหนึ่งที่โดดเด่นไม่แพ้กันก็คือ เรื่องของการเคลม ที่นี่ขึ้นชื่อว่าเคลมง่าย เคลมไว เคลมดี ไม่มีปัญหา ถือว่าเป็นบริษัทประกันภัยรถยนต์ที่น่าตัดสินใจทำประกันรถยนต์ 2+ ด้วยจริง ๆ ค่ะ
วิริยะประกันภัย
ขึ้นชื่อว่าเป็นบริษัทวิริยะประกันภัย ไม่มีใครที่ไม่รู้จักอย่างแน่นอน เพราะถือว่าเป็นบริษัทประกันภัยรถยนต์เจ้าแรก ๆ ที่คนส่วนใหญ่นั้นอยากจะทำประกันรถยนต์ด้วย เนื่องจากว่าทางวิริยะประกันภัยนั้นขึ้นชื่อเรื่องของมาตรฐานการบริการ แต่ก็ต้องยอมรับเช่นกันว่าราคาเบี้ยประกันภัยของบริษัทประกันเจ้านี้ ค่อนข้างสูงกว่าเจ้าอื่น แต่ถ้าลองเทียบกับการบริการที่ดีก็จะทำให้เรื่องเบี้ยประกันนั้นตกเป็นเรื่องรองไปเลยทีเดียว
กรุงเทพประกันภัย
บริษัทประกันเจ้านี้ก็ถือว่ามีความโดดเด่นไม่แพ้กับวิริยะประกันภัย ราคาเบี้ยประกันประเภทต่าง ๆ ก็สูงพอ ๆ กัน ส่วนเรื่องของมาตรฐานการบริการก็ไม่ต้องพูดถึงเพราะว่าเขาขึ้นชื่ออยู่แล้ว ทั้งไม่มีปัญหาเรื่องการเคลม การดูแลจัดซ่อมก็ไม่ติดขัด ถ้าไม่รู้ว่าควรทำ ประกันรถยนต์ 2+ ที่ไหนดี ขอแนะนำเลยค่ะว่าที่นี่นั้นตอบโจทย์จริง ๆ
เทเวศประกันภัย
การบริการของเทเวศประกันภัยนั้นค่อนข้างมีความโดดเด่นอยู่แล้ว ทางเจ้าหน้าที่เคลมเดินทางมาถึงที่เกิดไวมาก แถมราคาเบี้ยประกันรถยนต์ 2+ ก็ไม่สูงจนเกินไป เรียกได้ว่าราคากลาง ๆ คนธรรมดาก็เข้าถึงได้ นอกจากนี้ยังรับประกันรถยนต์หลายประเภทอีกด้วย ถือว่าเป็นบริษัทประกันภัยรถยนต์ที่น่าทำประกันรถยนต์ 2+ ด้วยไม่น้อยเลยแหละค่ะ
นอกจากตัวอย่างที่กล่าวมาแล้ว ก็ยังมีบริษัทประกันภัยเจ้าอื่น ๆ ที่น่าสนใจอีกมากมาย ก่อนตัดสินใจว่าจะทำ ประกันรถยนต์ 2+ ที่ไหนดี ก็ขอแนะนำว่าให้ลองเปรียบเทียบความคุ้มครอง และเงื่อนไขต่าง ๆ จากบริษัทประกัน หรือโบรกเกอร์แต่ละเจ้าให้ดี เพื่อที่จะได้ทำประกันรถยนต์ 2+ ที่ตอบโจทย์ความต้องการมากที่สุด
ขอบคุณข้อมูลจาก www.newlorry.com

Create Date : 05 กุมภาพันธ์ 2563

0 comment

Last Update : 5 กุมภาพันธ์ 2563 13:35:31 น.

Counter : 1460 Pageviews.

Share
Tweet

ทำความรู้จัก ส่วนลดประวัติดี ว่าคืออะไร ช่วยลดเงินค่าเบี้ยได้จริง ๆ หรือ ?

ส่วนลดประวัติดี
แพรเชื่อว่าน่าจะมีหลาย ๆ คนที่ทำประกันรถแล้วได้ยินคำว่า ส่วนลดประวัติดี ภาษาอังกฤษเรียกกันว่า No Claim Bonus (NCB) กันบ้างใช่มั้ยล่ะ เพราะพวกโบรกเกอร์ หรือ บริษัทประกันภัยมักจะสอบถามเราเสมอเวลาที่เราทำเรื่องต่ออายุประกันภัยว่า พี่คะ.. ตามใบเตือนมีส่วนลดประวัติดีมั้ยคะ ? รู้หรือไม่ว่า ส่วนลดประวัติดี ช่วยลดค่าเบี้ยประกันภัยรถยนต์เราได้ ! ในกรณีที่เราไม่เคยแจ้งเคลมประกันเลยสักครั้ง บริษัทประกันภัยจะมีวิธีคำนวณส่วนลดประวัติดีอย่างไร แต่ก่อนอื่นต้องรู้จักกันก่อนว่า ส่วนลดประวัติดี คืออะไร

ส่วนลดประวัติดี คือ
พูดแบบบ้าน ๆ ส่วนลดประวัติดี คือ เงินส่วนลดค่าเบี้ยประกันภัยที่บริษัทประกันลดเบี้ยให้เราในปีต่ออายุประกันภัย แต่การที่จะมีส่วนลดประวัติดีได้ มีเงื่อนไขอยู่อย่างเดียวนั่นคือ ปีที่แล้วเจ้าของรถยนต์จะต้องไม่เคยแจ้งเคลมประกันภัยเลยสักครั้ง !
ส่วนมากแล้ว.. ส่วนลดประวัติดี มักจะมีในประกันชั้น1 ส่วนประกันรถยนต์ 2+ ประกันรถยนต์3+ จะมีส่วนลดประวัติดีเฉพาะบางบริษัทประกันภัย

วิธีการคำนวณส่วนลดประวัติดี
ส่วนลดประวัติดี มีวิธีคิดคำนวณมากจากการขับขี่ภายในปีนั้น ๆ โดยยึดจากฐานเบี้ยประกันเป็นหลัก ซึ่งไม่สามารถระบุเป็นตัวเลขได้แบบเป๊ะ ๆ ว่าส่วนลดประวัติดีลดไปเท่าไหร่ แต่ที่แน่ ๆ ส่วนลดประวัติดีช่วยเซฟค่าเบี้ยได้สูงสุดถึง 50%
-ไม่มีเคลมประกันในปีแรก ลด 20%
-ไม่มีเคลมประกันในปีที่ 2 ติดต่อกัน ลด 30%
-ไม่มีเคลมประกันในปีที่ 3 ติดต่อกัน ลด 40%
-ไม่มีเคลมประกันในปีที่ 4 ติดต่อกันขึ้นไป ลด 50%
ในกรณีที่เราเปลี่ยนบริษัทประกันภัย ก็จะได้รับ ส่วนลดประวัติดี เหมือนกับการต่อประกันกับบริษัทประกันเจ้าเดิม แต่ว่าเราต้องมีหลักฐานยืนยันอย่างใบเตือนต่ออายุว่าเราได้รับส่วนลดประวัติดีจริง ๆ

ขอบคุณข้อมูลจาก https://www.easyinsure.co.th/news/?p=4937

Create Date : 19 เมษายน 2562

0 comment

Last Update : 19 เมษายน 2562 9:27:43 น.

Counter : 4825 Pageviews.

Share
Tweet

ซื้อประกันรถ อย่างไรให้คุ้มค่า ได้ราคาดี ไม่เสียเงินไปฟรี ๆ

ซื้อประกันรถ
อีกหนึ่งสิ่งที่คนมีรถต้องทำเป็นประจำทุกปีนั่นคือการ ซื้อประกันรถ นั่นเอง ไม่ว่าจะเป็นประกันชั้น1 , 2+ , 3+ ,3 ก็ล้วนแต่มีความสำคัญ และส่วนตัวแพรมองว่ามันค่อนข้างจำเป็นทั้งนั้น แต่ราคาประกันรถยนต์ก็ไม่ใช่ถูก ๆ ยิ่งทำประกันรถยนต์ชั้น1 ราคาก็ยิ่งสูง ! เดี๋ยวเราลองมาดูกันเลยดีกว่าว่าจะ ซื้อประกันรถ อย่างไรให้ได้ราคาดี คุ้มค่ากับเงินที่เสียไป
1. ซื้อประกันรถแบบระบุชื่อผู้ขับขี่
การซื้อประกันรถแบบระบุชื่อผู้ขับขี่จะช่วยทำให้เรา ซื้อประกันรถ ได้ในราคาที่ถูกลงกว่าเดิมถึง 20% การระบุชื่อผู้ขับขี่ สามารถระบุได้สุงสุดไม่เกิน 2 คน ซึ่งบริษัทประกันภัยจะคำนวณราคาเบี้ยประกันจากคนที่มีอายุน้อยสุด คนที่มีอายุมากสุด จะเป็นแค่ผู้ขับร่วมเฉย ๆ
2. ซื้อประกันรถแบบมีค่าเสียหายส่วนแรก Deductible
Deductible เป็นค่าเสียหายส่วนแรกที่เจ้าของรถตกลง ยินยอมที่จะจ่ายให้บริษัทประกันภัยเมื่อตนเองเป็นฝ่ายผิด และต้องการนำรถเข้าซ่อม การซื้อประกันรถยนต์ประเภทนี้จะเหมาะกับคนที่มีความชำนาญในการขับขี่ เพราะถ้าคุณเป็นฝ่ายผิดนั้นหมายความว่าคุณจะต้องจ่ายค่า Deductible ตามจำนวนครั้งนั่นเอง
การ ซื้อประกันรถ แบบมี Deductible จะช่วยลดค่าเบี้ยประกันภัยรถยนต์ได้ เช่น ค่าเบี้ยประกันชั้น1 ราคา 18,000 บาท เลือกซื้อประกันรถแบบมี DD จำนวน 3,000 บาท นั่นเท่ากับว่าคุณจะต้องจ่ายค่าเบี้ยประกันแค่เพียง 15,000 บาทเท่านั้น !
3. เลือกซื้อประกันรถยนต์ผ่านโบรกเกอร์
หากมองหาว่าจะซื้อประกันผ่านบริษัทประกันหรือโบรกเกอร์ดี แพรขอแนะนำให้ ซื้อประกันรถ ผ่านโบรกเกอร์ประกันภัยค่ะ เพราะค่าเบี้ยประกันจะมีราคาถูกกว่าบริษัทประกันพอตัว นอกจากนี้ยังมีสิทธิเพิเศษอื่น ๆ อีกเพียบ แถมเงื่อนการชำระเงินก็ยืดหยุ่นกว่า บางโบรกเกอร์ก็ใจดีให้ซื้อประกันรถยนต์แบบผ่อนเงินสดด้วย
ส่วนตัวแล้ว.. ถ้าอยาก ซื้อประกันรถ ราคาถูก แนะนำว่าให้เลือกซื้อประกันรถยนต์ผ่านโบรกเกอร์ประกันภัยโดยตรง หรือจะนำวิธีข้างต้นไปปรับใช้ก็ได้นะคะ รับรองว่าคุ้มค่าเมื่อเลือกซื้อประกันรถอย่างแน่นอนค่ะ

Create Date : 27 มีนาคม 2562

1 comment

Last Update : 27 มีนาคม 2562 11:16:03 น.

Counter : 4763 Pageviews.

Share
Tweet

แชร์ประสบการณ์ ทำประกันรถยนต์ ผ่านโบรกเกอร์เวิร์คกว่าที่คิด

ทำประกันภัยรถยนต์
ก็ไม่มีอะไรมากค่ะ แค่จะมาแชร์เรื่องราวเมื่อแพรตัดสินใจ ทำประกันภัยรถยนต์ ผ่านบริษัทโบรกเกอร์ประกันภัย บอกตามตรงว่าตอนแรกแพรก็ลังเลค่ะว่าจะเลือกทำประกันภัยรถยนต์ผ่านโบรกเกอร์ หรือ บริษัทประกันภัยดี ?

สุดท้าย.. เอาวะ เลือกโบรกเกอร์ประกันรถยนต์ก็ได้ เท่าที่ลองอ่านรีวิวมา ศึกษามาพอตัว แพรว่าเงื่อนไขเค้าน่าสนใจอยู่เหมือนกัน

แต่ไม่ขอบอกนะคะว่า ทำประกันภัยรถยนต์ ผ่านโบรกเกอร์เจ้าไหน ฮ่า

สิ่งที่แพรได้รับจากการทำประกันรถยนต์ผ่านโบรกเกอร์ คือ
1. ค่าเบี้ยประกันรถยนต์มีราคาถูกกว่าบริษัทประกัน ถ้าให้แพรเดาน่าจะเป็นเพราะทางโบรกเกอร์เค้าเป็นนายหน้า เลยได้สิทธิขายประกันรถยนต์ในราคาที่ถูกกว่า จะบอกว่ายิ่งจ่ายเงินสดแบบงวดเดียว ค่าเบี้ยประกันก็ยิ่งถูก เผลอๆ ลดได้ถึง 5%
2 .เงื่อนไขการชำระเงินยืดหยุ่น การทำประกันรถยนต์ ผ่านโบรกเกอร์เค้าจะมีเงื่อนไขการชำระเงินที่ยิดหยุ่นมากกว่าบริษัทประกัน สามารถผ่อนประกันรถยนต์ผ่านบัตรเครดิต 0% 10 งวดได้ หรือถ้าใครไม่มีบัตรเครดิตก็สามารถทำประกันรถยนต์แบบผ่อนเงินสดได้เช่นกัน โบรกเกอร์ประกันบางเจ้าก็ใจดีไม่เรียกเก็บค่าธรรมเนียม หรือค่าดอกเบี้ยด้วย
3. มีสิทธิ โปรโมชั่นพิเศษ โบรกเกอร์ประกันภัยบางเจ้าจะมีสิทธิพิเศษให้ลูกค้าหลังทำประกัน เช่น Gift Voucher ของแถม ของสมนาคุณ ฯลฯ แถมบริษัทโบรกเกอร์บางเจ้าก็ยังมีบริการหลังการขายด้วย เช่น บริการรถใช้ระหว่างซ่อม ศูนย์รับแจ้งเหตุ ให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม. ฯลฯ

ส่วนตัวแล้ว.. แพรชอบ ทำประกันภัยรถยนต์ ผ่านโบรกเกอร์ค่ะ เพราะรู้สึกว่ามันค่อนข้างคุ้มค่า และได้สิทธิพิเศษเยอะดี แต่ทั้งนี้.. ก็ต้องเลือกทำประกันภัยรถยนต์ผ่านโบรกเกอร์ที่น่าเชื่อถือได้ด้วยค่ะ จะได้ไม่ถูกเค้าหลอกเอา ฮ่า

Create Date : 11 มีนาคม 2562

0 comment

Last Update : 11 มีนาคม 2562 14:27:42 น.

Counter : 4878 Pageviews.

Share
Tweet

1 2 3 4

lanlalinzap

Location :

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์

ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]

ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]

[Add lanlalinzap's blog to your web]

Bloggang.com