แชร์ประสบการณ์ ท้อง - แท้ง ที่ญี่ปุ่น (Summer-Autumn, 2018)
สวัสดีค่ะจขกท แต่งงานกับสามีชาวญี่ปุ่นและอาศัยอยู่ที่โตเกียวค่ะด้วยความที่อายุก็ไม่น้อยแล้ว (ประมาณ 35) พอแต่งงานและอยู่ด้วยกันก็ตั้งใจมีลูกทันทีประมาณไม่ถึง 1 ปี ปจด.ก็ขาดได้สองวันค่ะ (ปกติเป็นคนปจด.มาตรงทุกเดือนตามแอพคำนวณ) ดีใจปนตื่นเต้นนิด ๆ 50%รีบไปซื้อที่ตรวจมา ปรากฎเป็นแบบที่ตรวจได้เมื่อฮอร์โมน HCG สูงกว่า 50 uml ทั้งนั้นเลย** ที่ร้านขายยาที่นี่ส่วนมากมีขายที่ตรวจแบบต้องรอให้ ปจด. ขาดไป 1 อาทิตย์ก่อนนะคะแต่เราก็ไม่ย่อท้อ ไปหาซื้อแบบ Fash check มาจนได้... ตรวจครั้งแรก (ปจด.ขาดไปสองวัน) ผลเป็น Negativeรอต่อไปอีกประมาณสองวัน ปจด. ก็ยังไม่มา ประกอบกับไม่สบาย เป็นหวัด ตัวร้อน ด้วยความที่ไม่แน่ใจว่ามีน้องรึเปล่าก็ไม่อยากไปซื้อยามาทานเอง เลยตัดสินใจไปหาหมอสูติที่คลินิกทันที หมอตรวจภายในด้วยเครื่องมือ U/S ไม่พบถุงตั้งครรถ์ และพบว่าผนังมดลูกหนาขึ้น เลยสรุปว่าประจำเดือนน่าจะกำลังจะมา อาจจะมาเลทเฉย ๆคืนนั้นตัดสินใจกินยาแก้หวัดของญี่ปุ่น (ที่ซื้อมาจากร้านขายยาทั่วไป)... ผ่านไปอีกสองวัน ปจด. ก็ยังไม่มา (ปจด.ขาดประมาณ 7 วัน) เลยลองตรวจอีกรอบครั้งนี้ขึ้นสองขีดจาง ๆ ค่ะ ความดีใจพุ่งเป็น 60% แต่ก็แอบกังวลนิด ๆ ว่าเรากินยาแก้หวัดไปแล้วนะวันพุธ ไปหาหมอสูติที่คลินิกใหม่แถวบ้าน (ที่นี่ต้องนัดก่อนส่วนมาก แล้วกระทันหันแบบนี้คลินิกส่วนใหญ่ก็เต็มหมดเลยค่ะ T_T อ้อ. ทั้ง จขกท และสามี ทำงานทั้งคู่ เลยต้องหาวันที่เราทั้งคู่สามารถลามาหาหมอพร้อมกัน) ตรวจพบถุงต้งครรภ์ หมอบอกว่าเล็กกว่าอายุครรภ์ถ้านับจาก ปจด. ของเดือนก่อน เลยคาดการณ์ว่าอาจจะไข่ตกช้าหมอให้ภาพอัลตราซาวน์มาด้วยค่ะ เห็นถุงตั้งครรภ์เป็นถั่วเลย ดีใจมาก เย็นนั้นรีบโด้ปอาหารสุขภาพมากมาย... แต่สามีอยากให้เปลี่ยนคลินิกเพราะหมอเป็นผู้ชาย และพอถามอะไรก็ไม่ค่อยแนะนำเท่าไหร่ เรื่องของเรื่องคือเราวางแผนบินไปเที่ยวในประเทศไว้แล้ว ทั้งตั๋วเครื่องบิน รร. รถเช่า จองจ่ายเงินไปหมด ก็สองจิตสองใจว่าควรไปไหม หรือแคนเซิลแล้วยอมทิ้งเงินไปดี หมอก็ให้คำแนะนำไม่ได้ บอกแค่ว่าให้ใช้ชีวิตปกติไป เพราะตอนนี้ยังเร็วมากที่จะตัดสินใจอะไรเราเลยลองหาคลินิกกันใหม่ และพิจารณารพ.ใหญ่ ๆ แถวบ้าน แต่โทรไปถามเค้าก็ไม่รับเคส ถ้าไม่ได้แพลนว่าจะคลอดกับที่นั่นเพราะเราตั้งใจว่าอาจจะลากลับไปคลอดที่ไทย เลยยังไม่อยากตัดสินใจรพ.ที่จะคลอดค่ะวันเสาร์ ไปลองหาคลินิกอีกที่หนึ่ง ใกล้บ้านเช่นกัน หมอเป็นผู้หญิง คนรอเยอะมาก ๆ รอหาหมอเกิน 3 ชม. เพราะว่าอายุครรภ์ต่ำกว่า 14 สัปดาห์เค้าไม่ให้จองเวลาหมอ U/S แล้วบอกว่า อายุครรภ์น่าจะประมาณ 5 week แต่ดูจากขนาดเล็กกว่า อาจจะไข่ตกช้า ซึ่งยังบอกอะไรไม่ได้ ต้องรออีกสองอาทิตย์มาตรวจใหม่หมอคุยดี พอปรึกษาเรื่องไปเที่ยว หมอบอกว่า ถ้าไม่มีเลือดออกหรืออาการผิดปกติอะไร ก็สามารถเดินทางได้ แต่อย่าหักโหม ให้นอนพักเยอะหน่อย และห้ามลงเล่นน้ำทะเล หมอแนะนำว่าถ้าอยากทานอาหารเสริมให้กิน Elevit (ที่นี่เป็นแบบจ่ายรายเดือน มาส่งทุกเดือนเลย เป็น Elevit Japan)ช่วงนี้ก็ดูแลตัวเอง กินอาหารที่มีประโยชน์ และ Elevit ไปเรื่อย ๆ จนถึงวันที่เดินทางไปเที่ยวขณะที่ขับรถเที่ยวอยู่ (อาการแพ้ท้องเริ่มมา อยากนอนตลอดทั้งวัน กินอาหารก็ไม่รู้สึกอร่อยเหมือนเดิม ไปเที่ยวครั้งนี้สามีขับรถชมวิวช้า ๆ เราก็นอนดูวิวไปเรื่อย ๆ สูดอากาศริมทะเล พักผ่อนจริง ๆ)มีเลือดออกนิดหน่อย (ประมาณ 2 หยด) เป็นครั้งแรก เห็นแล้วแทบเป็นลม สามีรีบโทรไปถามที่คลินิก พยาบาลบอกว่า ให้สังเกตุว่าถ้าเลือดออกเพิ่มและมีอาการปวดท้องค่อยไปรพ. ตอนนี้ให้สังเกตุการณ์ไปก่อน และนอนพักเยอะหน่อยรีบเข้า รร. นอนพักเลยค่ะ เลือดหยุด ไม่มีออกมาอีก ค่อยโล่งใจไปอีก อาการแพ้ท้องก็หนักขึ้น ๆๆๆวันเดินทางกลับ วันนั้นเดินช้อปปิ้งถนนคนเดินค่อนข้างนาน พอกำลังรอเครื่องกลับ คราวนี้มีเลือดออกมาอีก ตกใจมากร้องไห้มาตลอดทางบนเครื่องบิน... และเนื่องจากเป็นไฟลท์ดึก ก็เลยต้องรอให้เช้าก่อนถึงจะไปคลินิกได้เช้าวันถัดมา รีบไปรอพบหมอแต่เช้า (เราว่าเราไปเช้าแล้วนะ แต่ก็ต้องรอสองชม.อยู่ดี)หมอ U/S พบว่าถุงตั้งครรภ์โต (1.9cm) แต่ภายในนั้นไม่มีตัวอ่อน.... เป็นสีดำสนิทเลยวินาทีที่เห็นจอภาพพร้อมกับสามี มันอดไม่ได้ที่จะร้องไห้ออกมาจริง ๆถามหมอว่าเป็นเพราะเราไปเที่ยวแล้วเดินเยอะใช่ไหมน้องถึงไม่อยู่ หมอบอกว่ากรณีแบบนี้ไม่ใช่เพราะกิจกรรมใด ๆ ที่ทำ มันเกิดขึ้นตั้งแต่ตอนที่ผสมแล้ว ดังนั้นไม่ใช่ความผิดของร่างกายเรา ถ้าเป็นภาวะแท้งคุกคามเพราะร่างกายอ่อนแอ จะต้องเห็นตัวอ่อน แต่อาจจะหัวใจเต้นอ่อน อะไรทำนองนี้อาการเลือดออก อาจจะหมายถึงร่างกายกำลังเข้าสู่ภาวะขับออก (แท้ง) ให้รอร่างกายขับออกเองระหว่างนี้ อาจจะเป็นการแท้งสมบูรณ์ได้ และตอนที่ขับออกมาจะปวดท้อง และเลือดออกมาก หมอเลยให้ยาแก้ปวดมาทานตอนที่แท้งด้วยความรู้สึกตอนนั้นมันเหมือนความฝันพังทลายไปหมดเลย เหมือนความหวังมันน้อยลงไปเยอะมาก ๆ แต่ก็มาอ่านในเน็ท หลาย ๆ คนก็มีอาการแบบเดียวกัน คือซาวน์ไม่เจอตัวเด็ก แต่หลังจากนั้นสองสามอาทิตย์ก็เจอหัวใจเต้นบ้าง คนรอบตัวบางคนก็มีประสบการณ์แบบนี้ แต่สุดท้ายก็ไม่แท้งบ้าง เลยแอบยังมีความหวังอยู่บ้างผ่านมา 1 อาทิตย์ อาการแพ้ท้องยังไม่หาย และเลือดก็หยุดไหลตั้งแต่วันที่กลับมาจากเที่ยวตอนนั้นไปตรวจใหม่อีกรอบ ครั้งนี้ถุงตั้งครรภ์โต 2.5 cm แต่ไม่เห็นตัวเด็กเช่นเดิมหมอบอกว่ารอหลุดออกมาเองก็ได้ แต่ถ้าถุงโต 3-4 cm ตอนหลุดจะเจ็บปวดมาก เลยควรไปผ่าตัด (หมอใช้คำว่าผ่าตัดในภาษาญี่ปุ่น แต่จริง ๆ ไม่มีการกรีดใด ๆ มันคือดูดออกน่ะแหละ) ที่รพ.มากกว่าครั้งนี้น้ำตาไม่ไหลแล้ว คงเพราะทำใจมาระดับนึงคิดแค่ว่า ถ้าจะหลุดออกมาเองก็ขอให้หลุดออกมาให้หมดเป็นแท้งสมบูรณ์ด้วยเถิดเวลาก็ผ่านไปเรื่อย ๆ เริ่มกลับมาใช้ชีวิตปกติ เดินปกติ อาการแพ้ท้องเริ่มน้อยลง กินได้ปกติ มีวันที่เดินเยอะมาก ๆ 2หมื่นก้าว แต่ก็ไม่มีเลือดออกเลยจนผ่านไปเข้าอาทิตย์ที่ 9 ของการตั้งครรภ์ ไปตรวจ U/S อีกรอบ พบว่า ความดันภายในถุงตั้งครรภ์เริ่มลดลง จากที่เป็นลูกกลม ๆ ยาว ๆ ดูเหี่ยว ๆ และขนาดไม่โตขึ้นเท่าไหร่ (อยู่ที่ 2.6cm) หมอเลยบอกว่า อันนี้เริ่มเข้าสู่การแท้งแล้ว จะรอต่อไปก็ได้ ร่างกายก็จะขับออกมาเอง... ซึ่งเมื่อไหร่จะออกมาก็บอกไม่ได้เช่นกันเราเลยตัดสินใจบอกหมอว่า ถ้างั้นไปทำที่ รพ. ดีกว่า จะได้ชัวร์ ๆ และวางแผนลางานมาพักฟื้นได้ด้วยหมอเขียนจม.แนะนำให้ (ต้องมีจม.แนะนำเพราะไม่ใช่คนไข้ที่รพ.นั้น) เอาไปยื่นที่รพ. ที่ดูหรูหราไฮโซแห่งหนึ่ง (หมอแนะนำมาอีกแหละ)