<<
มีนาคม 2558
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
11 มีนาคม 2558
 

ไต้หวัน วันที่ 4 : 02.12.57

 

 

 

วันนี้เราจะไปผูหลี่กัน!!!

ไปทำไม?

ไปดูแกะฮับ  มีคนถามทำไมต้องไปดูแกะที่ไต้หวัน ประเทศไทยมีแกะให้ดูเยอะแยะไป เลือกเอาสิว่าจะไปไหน แค่สวนผึ้งก็มีไม่รู้เท่าไหร่ล้าวววววว  เออ นั่นสิ แล้วทำไมต้องไปถึงไต้หวัน  แง้ววว

เมื่อคืนกว่าจะจัดของเสร็จ กว่าจะได้นอน เหอ เหอ เหอ จากการขนกุเป๋าแบกเป้ขึ้นรถเมล์ในวันแรกที่มาถึงทำให้สำนึกได้ว่าตรูแก่แย้ว ตรูเหนื่อย 5555  เราแบ่งของตามจำนวนที่ต้องใช้ออกมาใส่เป้ใบใหญ่  คืองี้เราเอาเป้มา 2 ใบ ใบย่อมกะใบใหญ่ (โปรดสังเกตว่าไม่ใช่ใบเล็กกับใบใหญ่ ฮี่ ฮี่)  ตอนที่ตะลอนๆในไถจงเราเอาใบย่อมไป  แต่ที่ไหนที่เป็นที่ย่อยๆอย่างผูหลี่  เราจะฝากกระเป๋าละเอาของเท่าที่ต้องใช้ในการดำรงชีวิตออกมาใส่เป้ใบใหญ่ละแบกไปเฉพาะเป้ใบใหญ่ พอถึงจุดหมายก็เข้าที่พักเทสัมภารกทั้งหลายไว้บนเตียง เอาของเท่าที่จำเป็นคือพาสปอร์ต กระเป๋าตังค์ โทรศัพท์และของจุกจิกเล็กน้อย(หรา)ใส่เป้ละแบกเป้ใหญ่ออกตะลอน

วันนี้ตกลงกันว่าไปแท๊กซี่ก็แล้วกันเพราะมันสะดวกกว่าการที่ต้องลากกระเป๋ายักษ์ขึ้นรถเมล์  สถานีรถไฟไถจงอยู่ไม่ไกลถ้าเราไปรถ 5555 

ไปถึงก็เอากระเป๋าไปฝาก สถานีรถไฟไต้หวันรับฝากกระเป๋าทุกที่ สบ๊าย สบายยยยย งุงิ

ฝากกระเป๋ายักษ์เสร็จ ก็แบกเป้เดินไปบริษัทรถกัน หน้าสถานีรถไฟนั่นมีทั้งแท๊กซี่  ป้ายรถเมล์รอบทิศ ป้าย BRT และบริษัทรถไปใกล้ไกลเพียบ  ไปถึงบริษัทที่ต้องการก็ถามเค้าให้ชัวร์อีกทีว่าไม่ผิดที่ซื้อตั๋วละก็นั่งรอรถมา

  

วันนี้เอารองเท้าคู่นี้ออกมาใส่  ซื้อไว้ไม่ต่ำกว่า 2 ปี เหอ เหอ ซื้อตอนเซลล์ง่ะไม่ได้คิดเล้ยว่าจะใส่ไปไหนเพราะปกติก็ใส่แต่รองเท้าแตะ  วันนี้เอาออกมาใส่ครั้งแรกแอบรู้สึกลื่นๆนิดนึง แต่พอใส่ๆไปทั้งทริปก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรแฮะ สงสัยเพราะวันนี้มันเป็นพื้นเรียบละเปียกน้ำเพราะฝนตกเลยลื่นๆนิดนึงมั้ง

ตั๋วรถน่ารักเนอะ มีดอกไม้ด้วย รถที่เราขึ้นก็มีดอกไม้ที่ป้ายไฟด้วย ทำไมหว่า

ทีแรกคิดว่ารถจะแน่นแต่ก็ไม่แน่นนะ รถบัสระหว่างเมืองที่ขึ้นไม่เค้ยไม่เคยจะแน่นเลย วิ่งเล่นได้ตลอดอะ  ก็นั่งกันไปสิคนละเบาะ สบายยยยย

ทีแรกป้อคิดว่าจะเช่าสกูตเต้อร์ขี่ไปกันเองด้วยนะ แต่เราไม่เห็นด้วยอะ เพราะช่วงที่เราไปเนี่ยโดยปกติจะเป็นช่วงที่ฝนตกน้อยที่สุดในรอบปี แต่ปีนี้เราไปกันพบว่าสภาพอากาศไม่ดีเลย ฝนยังตกอยู่เกือบทุกวัน อากาศก็ยังไม่เย็นเท่าปีก่อนๆด้วย ทั้งฝนตกทั้งการจราจรซึ่งกลับฝั่งกับบ้านเรา แค่ข้ามถนนยังเอ๋อทุกครั้งเราเลยว่าไม่ควรจะขี่ไปเองอะ นั่งรถบัสอาจจะช้าแต่ปลอดภัยกว่าเนอะ

ไปถึงผูหลี่ฝนตกๆๆๆ  เราลงจากรถกันมาพบว่า หลงทางฮะ 555 ตลอดอะ เดินเข้าถนนโน้นถนนนี้ถามทางไปเรื่อย  ก่อนจะพบว่าเราลงรถผิดป้าย  คือลงก่อนที่จะถึงป้ายที่ต้องลงถึงได้หาถนนที่จะไปไม่เจอสักที ซึ่งพอเดินไปถึงตรงที่ต้องลงรถเดินไปอีกไม่นานก็เจอที่พักจริงๆแหละ  ฮา

เปิดประตูเข้าไปเจอเด็กปู้จายสองคนนั่งอยู่ พวกนางกำลังจะออก สวนทางกันฮะ เรากะป้อนั่งรออยู่นานไม่มีวี่แววคุณเจ้าของเลยยย  ป้อเลยขึ้นไปข้างบนก็ไม่เจอใครอยู่ดีเลยบอกให้โทรเห๊อะ  สรุปคุณเจ้าของก็อยู่ข้างบนนั่นแหละ ป๊าดดดด  ที่ฮาคือไม่ใช่คนไต้หวันนะ เป็นคนญี่ปุ่นง่ะ  เคยมาเมืองไทยด้วยยี่สิบกว่าครั้ง  แม่เจ้า

แต๊แน ห้องเราเป็นห้องสามเตียง นอนได้ 6 คน มีห้องน้ำในตัว คืนนี้จะมีอีกคนมาพัก แต่อีกคืนจะมีแค่เรา 2 คนเท่าน้านนนนนน

เอาของออกจากเป้ละก็ลุยยยยยยย

คุณเจ้าของวิ่งมาตามพวกเราบอกว่าจะไปดูแกะใช่มั้ย รถจะมาแล้วนะ ทำเอาต้องวิ่งกันเลย ซึ่งพอออกมารอจริงๆก็รอตั้งนานนะ แง่มๆ ฮีบอกว่ามีรถผ่านป้ายหน้าบ้านนี่แหละ ละก็เอาแผนที่ให้ป้อมาด้วย ละก็บอกว่าเราควรจะลงป้ายก่อนถึงหรือป้ายที่เลยไปจำไม่ได้ละ แล้วเดินไปเรื่อยๆวิวสวยอะไรประมาณนั้น แต่เราคงไม่เดิน ไม่ไหวละจ้า ฝนตก ลื่น แล้วเอาจริงก็ยังเหนื่อยกับการเดินแบกเป้ตากฝนหาที่พักอยู่นะ ปร้าแก่แล้น

วิวระหว่างทาง สวยมากกกกกกกกกก รถขึ้นเขาๆๆๆๆๆๆๆ

ถึงแว้วววววววววว

ปราสาทน้องแกะ ชิงจิ้งฟาร์ม เย้ เย้ ซื้อบัตร ปั๊มตราละก็เข้าไปกันเล้ยยยยย

สวยปะล่ะ

ในนั้นมีแกะมั้ย

สูดอากาศกันสุดชิวิต แบบ โอ้ยยย โล่งงงงงง เย็นนนนนนนนนน

ประหนึ่งจะมีแม่มดโผล่ออกมา เอ๊ะ ยังไง

มีลานแสดงด้วยนะ  แต่การแสดงมีแค่วันเสาร์-อาทิตย์

ป้อพยายามถ่ายรูปควันออกปาก 55 ไม่เคยจะสำเร็จอะ

นางใส่เอิ๊ยมด้วยนะจ๊ะ สาวชาวไร่เตรียมพร้อมมาจากกรุงเต๊บเบย เอามาเผื่อป้าด้วยแต่ป้าไม่ไหวนะเอี๊ยมเนี่ย ยังไงก็ขอบใจน้าที่อุตส่าห์แบกมาเผื่อป้าด้วย

เนื้อหอมมากๆๆๆ มีแกะเข้ามากระแซะตัลหลอดดดด  55555  ของกิน ของกิน ของกิน อ้วนเอ๊ย อ้วนตัวจิแตกยังจะขอกินอี๊ก

ว่าใครอ้วนดูตัวเองด้วยนะปร้า นุ้งแกะกล่าวโดยสายตา

ก็พวกแกะนั่นแหละที่อ้วน หึยยยย อยากขย้ำมากอะ อ้วนๆๆๆๆๆ

จริงๆเค้ากั้นนะ  แต่เนี่ยจะกั้นได้มั้ย ไอ่อ้วนมุดเข้ามุดออกกันเป็นว่าเลยเลย

เอาจริงๆ ก็ไม่รุ้หรอกว่าทำไมต้องมาดูแกะไกลขนาดนี้ เมืองไทยก็มีป๊ะ  รู้แต่ว่ามันสุขใจไม่รู้จะบรรยายยังไง  วู้วววววววววววววว

แทบจะวิ่งร้องเพลงลงมาตามเนินเขาแบบเดอะซาวด์ออฟมิวสิค ว่าไปโน้น

พอใกล้เวลารถมาตามตารางที่ป้อเช็คไว้ก็เลยเดินลงมาที่ประตูอีกด้านนึง ถามตารางรถกับพนักงาน นางก็พาไปชี้ให้ดูที่แปะไว้  ยังมีเวลาก็เลยพากันไปเดินดูเต้นท์ขายอาหาร  ซึ่งติดกับค่ะ  55555

หาไรกินก่อนละกัน รถไว้เที่ยวต่อไปก้อด้ายยยย เอิ้ก เอิ้ก ไม่ไหวจะเคลียร์เจรงๆเราสองคนนี่

แอบนินทาโต๊ะข้างๆ นางเป็นกะเทยร่างยักษ์จริตจะก้านแพรวพราวมาก  ชอบอะ!!!  นางมานั่งก๊งกะผู้ชายข่า  คนไทยกินเบียร์ต้องแช่เย็นๆชิป่ะ  ที่นี่เอาเบียร์แช่น้ำร้อนข่า  มันหนาวอะเนอะ ฝนตกๆ มือเย็นเจี๊ยบจะให้กินเบียร์เย็นๆคงไม่ไหว

 

นี่คือของที่เราลองกินกัน ในถ้วยนั่นเป็นซุปหน่อไม้ หน่อไม้หวานๆร้อนๆ ฮ่า อุ่นสบายท้อง ไก่ย่างนั่นอารฒณืประมาณไก่บ้านย่างอะ ตัวเล็กๆเนื้อเหนียวๆ  ส่วนข้าวนั่นที่ราดข้างบนเป็นน้ำเหนียวๆคล้ายๆราดหน้าอยู่ อ้อ คุณพี่ร้านข้าวก็เป็นกะเทยร่างยักษ์ฮ่ะ นางมานั่งก๊งกะโต๊ะข้างๆเราด้วยนะ ขายข้าวไปเม้าท์มอยกะเพื่อนไปเกร๋ๆ

กินอิ่ม ก้เริ่มแบบไม่รีบเนอะ เถลไถลต่อเลยละกัน  ทีแรกว่าจะกลับเข้าไปเล่นแกะอ้วนอีกรอบแต่เห็นมีทางเดินขึ้นอยู่แถบนึงเลยเดินไปสำรวจซะหน่อย หุ หุ

เจอกุนเชียงไต้หวันเข้าไป อาหย่อยยยย  คือป้อชอบป้ออยากกิน (โยนให้น้อง อิ อิ) มีหลายไส้ลองคนละไส้  ของเรามัสตาร์ด ของป้อวาซาบิ อาหย่อยยย น้ำตาจิไหล  อร่อยจริงจังอะ แต่ไม่เจอแบบนี้อีกเลยอะ คือกุนเชียงนะเจอแต่ใส่ไส้แบบนี้ไม่เจอ แอบเซ็ง อยากกินอีก

กินเสร็จเห็นมีทางเดินขึ้นไปอีกก็เลยลองเดินขึ้นไป

เดินๆไปละเจอแม่มดชั้นจะไม่แปลกใจเลยจริงๆ

ยังอุตสาห์มีจุดถ่ายรูปอีกนะ แบบ โอ้โห  ทีนี้เลยไม่กลับไปทางเก่าละ  ลองเดินไปเรื่อยๆดูว่ามันจะไปโผล่ตรงไหน

เดินไปเจอประตู ประตูบานพับแบบธรรมดาปิดล็อคให้ใช้ประตูแบบหมุนๆ

เดินไปอีกก็เจอแบบเดิมอีก คือประตูแบบบานพับธรรมดาปิดล็อคให้ใช้ประตูหมุนๆ  ทำไมง่ะ  อิแกะอ้วนชอบหนีเที่ยวแล้วมันใช้ประตูหมุนไม่เป็นเหรอ คือหมุนละออกไม่ได้หรือว่าหมุนไม่เป็นหรืออะไร อยากรู้แต่ไม่รู้จะถามใครเพราะมีแต่ประตูกะร้านค้าร้าง 555  เค้าคงสร้างใหญ่โตตอนแรก อยู่ๆไปคนไม่มากเท่าที่คิดคงปิดไปทีละส่วนง่ะ หรือเพราะเป็นวันธรรมดาคนเลยไม่เยอะหว่า จนด่านสุดท้ายถึงมีคนอยู่เฝ้าร้านค้าแบบเหงาๆให้เราถามทางว่าไปทางนี้ได้จริงๆใช่มิ

 

พอเห็นราวบันไดเขียวๆนี่เลยเดาเอาว่ามันน่าจะไปโผล่ตรงป้ายข้างหน้ามั้ย  เหมือนเห็นทางเดินเทรกกิ้งแวบๆตอนนั่งรถมา  ตรงนั้นจะมีร้านขายของ ร้านข้าว ห้องน้ำไรงี้ง่ะ อะเดินๆไปดูจิ๊จะใช่มั้ย

วิวสวยเกิ๊น ไอ้ที่จะไม่ทันรถๆก็หยุดถ่ายรูปตลอดเว

คุยกันว่า เพราะมันสวยแบบนี้อะเนอะ คุณเจ้าของที่พักถึงได้บอกให้เราเดิน ขนาดฟ้ามืดฟ้าหม่นฝนตกยังสวยขนาดนี้เลย

ในที่สุดก็ลงมาถึงถนน ถึงจะไม่ใช่จุดที่เราคาดไว้แต่ก็โอเคอะ อย่างน้อยก็มีที่นั่งให้รอรถ

นั่งรถลงมาก็เห็นข้างทางมีอะไรต่ออะไรเยอะแยะ ทั้งสวนดอกไม้ ร้านอาหาร โรงแรม

มีคนขึ้นมานอนบนนี้เยอะเหมือนกันนะ ขากลับรถคนเยอะเชียวล่ะ  อิตต๋า

ลงมาถึงท่ารถก็รอรถสายอื่นต่ออีก 555 วันนี้ยังไม่จบฮะ เราจะไปเปเปอร์โดมกันต่อ แต่อย่าถามนะว่ามันคืออะไรยังไง เก๊าไม่ยู้ ป้ออยากไปเก๊าก็ไปล่วย

ไปลงรถที่ท่ารถละก็นั่งรอคันที่จะไปเปเปอร์โดม  ป้อถามเจ้าหน้าที่ที่ท่ารถคุณยายคนนึงได้ยินก็เลยบอกว่าลงที่เดียวกะยายเดี๋ยวลงพร้อมยายนะ  รถก็ตามเคยว่างแสนว่างแทบจะนอนกันไป  รถออกนอกเมืองคนละทิศกับตอนเช้า  เออ นี่เป็นโรคอะไรกัน เช้า-บ่ายนี่คนละทิศตลอด

พอถึงป้ายคุณยายก็เรียกเราลงพร้อมคุณยาย  เดินเข้าปากทางเดียวกันแต่บ้านคุณยายแยกไปอีกทางนึง  เราเดินไปก็งงไปว่าดูไม่น่ามีสถานที่ท่องเที่ยวอยู่แถวนี้ได้แต่ป้ายใหญ่มากมันต้องอยู่ทางนี้แหละ คุณยายก็ชี้มาทางนี้  แป๊บนึงก็เจอนักท่องเที่ยวเดินสวนทางมาเป็นอันแน่ละว่าทางนี้แหละ  เดินๆไปอีกนิดก็เจอทางเข้า  ข้างหน้ามีตู้ไปรษณีย์ด้วย ป้อเกิดอาการอยากส่งโปสการ์ดอีกแระ 55 เลยเอาไว้ก่อนเดี๋ยวค่อยส่งขากลับนะป้อนะ  ซื้อบัตรเสร็จ  เข้ามาเจอกรุ๊ปทัวร์เลยนั่งพักที่โต๊ะข้างหน้า

งัดเอาของกินมานั่งแทะ กินน้ำ เข้าห้องน้ำ ลั้ลลากันไป รอให้กรุ๊ปทัวร์เบาบางละค่อยเข้าไปข้างใน

ดูปริศนาธรรมบึงบัวกันไป หุ หุ

พอคนเริ่มน้อยจะเดินเข้าไปข้างในปรากฎว่าโดนสะกัดดาวรุ่งด้วยสิ้งนี้

มหกรรมตราปั๊มครับท่านผู้ชม คือเราอะปั๊มเฉพาะของเราแต่ป้อต้องปั๊มให้มลลี่ด้วย เหอ เหอ ป้อสู้ๆ

อันนี้น่ารักเนอะ

คนเริ่มน้อย แต่แหงล่ะ ฟ้าก็เริ่มมืดด้วย

ของจริงส้วยสวย  แบบโปร่งสบาย อากาศดี๊ดี

เห็นแล้วแทบกรี๊ดดดด  อยากทำบ้านแบบเน้  อยากมีระเบียงกว้างๆ ทำบานเฟี้ยมรับลมมมมม

นี่ละเปเปอร์โดม  ข้างในมีทีวีฉายตลอด แต่เก๊าฟังมะรู้เรื่อง จบนะ อยากรู้ไรถามป้อ ฮา

สวย ชอบบบบ เป็นคำประพันธ์เกี่ยวกับธรรมชาติ สิ่งแวดล้อมอะไรประมาณนั้น ถ้าจำไม่ผิด แฮ่

กินเข้าไปคงอิ่มทั้งทริป  นี่เป้นหนอนแก้วยอดฮิตนะขอบอก คนถ่ายรูปด้วยมากมายกว่าจะถึงคิวนี่

ชอบอันนี้มากอะ ปาก ใบไม้ ผีเสื้อ ทรีอินวันสุดอะไรสุด

ข้างๆโดมคือสระน้ำ เลยสระน้ำไปเป็นร้านอาหาร ซึ่ง ณ วันที่ไปคือไม่มีอะไรเลย ไม่รู้ว่าเย็นแล้วเลยเก็บหรือเพราะเป็นวันธรรมดาหรืออะไรกันแน่ เหมือนกัน

เดินอ้อมไปเจอสระบัว  เรื่องของเรื่องคือจะหาที่นั่ง  ป้อจะรอถ่ายรูปตอนมืด

น่าร้ากกกกกกกกกกก

เดินวนละก็ไม่รู้จะนั่งตรงไหนดี  เลยว่ากลับไปดูตรงร้านของที่ระลึกข้างหน้ากันดีกั่ว

ตรงนี้แหละ  สวยมากกกกก  ข้างในมีทั้งร้านของที่ระลึกแล้วก็ร้านชาด้วย

เดินเข้าไปซ้ายมือจะเจอร้านขายของเลย  แต่ร้านชาต้องเดินเบี่ยงไปทางขวามือ 

มีชาหลายชนิดให้เลือก  มีของกินประเภทแบบแซนวิชไรแบบนั้นด้วย ทีแรกก็เอ๊ะจะลองกินดีมั้ย  แต่ก็อิ่มอยู่นะ ป้อบอกว่าบัตรของที่นี่หางบัตรใช้ได้ 2 แบบคือจะเอามาแลกชุดชาไปจิบเกร๋ๆ(กำหนดไว้แล้วเลือกไม่ได้) หรือจะใช้เป็นส่วนลดในร้านขายของที่ระลึกก็ได้  สรุปก็เลยเลือกใช้เป็นส่วนลดซื้อของกันทั้งคู่ อิ อิ

อยู่ในร้านกันสักพัก ป้อก็บอกว่ากลับกันเลยก็ได้ไม่ต้องอยู่รอถ่ายรูปก็ได้ คงเห็นป้าหมดสภาพมากแล้ว  ก็เลยอะกลับๆ 

ตอนเดินออกมาเห็นรถบัสวิ่งตามๆกันมา 3 คัน ก็พูดกันว่าเฮ้ยไม่ใช่ว่ารถมาแล้วนะ แต่มันยังไม่ถึงเวลาไม่ใช่เรอะ กรี๊ดๆๆๆ 

ข้ามถนนออกไปรอที่ป้ายรถฝั่งตรงข้าม รอจนเลยเวลาที่เช็คไว้ปรากฎว่าเงียบ อย่าบอกนะว่ามันคือรถบัส1ใน3ที่ผ่านไปตอนเราเดินออกมา ฮือออออออ ใจร้ายมาก่อนเวลาทามมายยยยย

นั่งมืดและหนาวกันจนแบบ เอาวะ รถอะไรผ่านมาจะลองโบกกก 5555  ก็คือรถบัสส่วนมากจะมีป้ายไฟข้างหน้าบอกว่าไปไหนก็ให้ป้ออ่าน  ก้มีแต่รถไปโน่นไปนี่ไปไกลๆไม่ใช่รถไปผูหลี่เลยสักคัน  มีรถไปไทเปคันนึงคงเห็นว่ามืดมากแล้วเลยจอดแต่เค้าไม่เข้าผูหลี่  รอๆๆๆจนในที่สุดก็มีบัสเล็กคันนึงขึ้นป้ายว่าไปผูหลี่รีบโบกสุดชีวิต  ดีใจเหมือนพระมาโปรด เป็นรถบัสคันเล็กๆกลมๆมีประมาณสิบกว่าที่นั่งมีคนนั่งมา4-5คน และดูแล้วเป็นคนท้องถิ่นหมดเลย คุณยายคนนึงนั่งเม้าท์กะคนขับมาตลอดทางเสียงดังมากแค่ฟังยังฮาเลย  คนที่นี่พูดภาษาถิ่นอะไม่ได้พูดจีนกลางฟังแล้วนึกถึงซีรี่ที่อิตี๋เล่นเลยอะ

ลงจากรถที่ป้ายที่ถูกต้อง 555 เมื่อเช้าป้อหลงวงเวียนน่ะ  มันมีวงเวียน2วงเวียนเลยลงผิดที่  ลงจากรถแล้วเจอร้านเสื้อผ้าราคาน่าสนใจเลยชะแว้บเข้าไปดู  เสียตังค์เลยค่ะ TOT 

เดินกลับที่พักผ่านแฟมิลี่มาร์ทเลยแวะเหมือนโดนดูดวิญญาณ

อากาศหนาววววววววววว ก็เลย...

กินอะไรอุ่นๆนิสนุง  ครุคริ งุงิ มุมิ  อาหย่อย อยากกินอีกแต่ไม่เจออีกเลย  แง่มๆ

 

กลับถึงที่พักอาบน้ำนอน  สาวอีกคนที่คุณเจ้าของบอกไว้มาดึกมากอะ แล้วก็ไปเช้ามากอะ  ตื่นมาไม่เจอแล้ว เหอ เหอ เหอ

 

 

บับบุย 

 

จนกว่าจะถึงพรุ่งนี้

 

 

 

 

 

 




Create Date : 11 มีนาคม 2558
Last Update : 13 มีนาคม 2558 16:33:33 น. 1 comments
Counter : 1351 Pageviews.  
 
 
 
 
สวัสดีนะจ้ะ เราแวะมาเยี่ยมนะจ้ะ ^____^ สักคิ้ว 6 มิติ ลบรอยสักคิ้วด้วยเลเซอร์ ลบรอยสักคิ้ว Eyebrow Tattoo Removal เพ้นท์คิ้วลายเส้น เพ้นท์คิ้ว 3 มิติ
ให้ใจหายใจ สุขภาพ วิธีลดความอ้วน การดูแลสุขภาพ อาหารเพื่อสุขภาพ ออกกำลังกาย สุขภาพผู้หญิง สุขภาพผู้ชาย สุขภาพจิต โรคและการป้องกัน สมุนไพรไทย ผู้หญิง ศัลยกรรม ความสวยความงาม แม่ตั้งครรภ์ สุขภาพแม่ตั้งครรภ์ พัฒนาการตั้งครรภ์ 40 สัปดาห์ อาหารสำหรับแม่ตั้งครรภ์ โรคขณะตั้งครรภ์ การคลอด หลังคลอด การออกกำลังกาย ทารกแรกเกิด สุขภาพทารกแรกเกิด ผิวทารกแรกเกิด การพัฒนาการของเด็กแรกเกิด การดูแลทารกแรกเกิด โรคและวัคซีนสำหรับเด็กแรกเกิด เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ อาหารสำหรับทารก เด็กโต สุขภาพเด็ก ผิวเด็ก การพัฒนาการเด็ก การดูแลเด็ก โรคและวัคซีนเด็ก อาหารสำหรับเด็ก การเล่นและการเรียนรู้ ครอบครัว ชีวิตครอบครัว ปัญหาภายในครอบครัว ความเชื่อ คนโบราณ
 
 

โดย: peepoobakub วันที่: 14 มีนาคม 2560 เวลา:14:28:43 น.  

Name
* blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Opinion
*ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet

vanever
 
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




[Add vanever's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com