|
ถ้ามีแฟนแล้ว เค้าไม่มีเวลาไปกินข้าวกับเรา เราจะมีแฟนไปทำไมวะ
วันนี้ออกแนว Drama อีกแล้ว ผิด Concept ที่ตั้วใจไว้ว่าจะเขียนแต่เรื่องที่สบายๆ ไม่เครียด แต่ไหงกับเอามาเป็นที่ระบายส่วนตัวซะงั้น  อยากจะเล่าความรู้สึกที่ใครอ่านแล้ว อาจจะหมั่นใส้ เพราะอาจคิดว่า ก็ดีอยู่แล้วนี่ ดีกว่าอยู่คนเดียว แต่จริงๆ ถ้ามาเป็นเราเอง จะรู้ว่า มันไม่ใช่ความสุขที่แท้จริงเลยนะ
ภาพยนต์ Hot Hit กลับคำพูดโดนๆ หลายประโยคในเรื่อง รถไฟฟ้ามหานะเธอ นั้น ถ้าดูแบบไม่คิดอะไร ก็ดีไป แต่เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่คิดอะไร โดยส่วนตัวไม่รู้ว่าโรคจิตอยู่คนเดียวรึป่าว ชอบเอาตัวละครมาเปรียบกับเรา ชอบจินตนาการว่า ตอนนี้เราเป็นนางเอกอยู่ อิๆ เพ้อเจ้อ ทำไมเราดูมันช่างตรงกับเราจังอ่ะ แต่ไม่อิงกับหนังนะ เอามาปรับกับชีวิตของเรา ขอคัดคำพูดเด็ดๆ มาดังนี้
>
"ฉันเหงา" โดนมากสำหรับคนโสด กรณีตกเย็น ไม่เคยได้ Dinner หรือดูหนัง หรือแม้แต่วันเงินเดือนออก ต้องมีมั่งแหละ Dinner หรูๆ ถ้าโบนัสออกต้องมีไป ต่างประเทศกันบ้างแหละ
"ก็เพราะว่ากูอยู่กับพวกมึงไง เลยไม่มีใครมาจีบ" กรณีไปงานแต่งเพื่อน ซึ่งตอนนี้ไม่รู้เป็นอะไรหนักหนา การด์งานแต่งมาเยอะมาก บางการด์มีภาพหวานหยดย้อย ไม่อยากบอกนะว่าอิจฉา แต่ เวลาดูภาพคู่บ่าวสาว ถ้าคนในภาพอายุมากกว่า โอเคไม่เป็นไร อิๆ กูยังมีเวลาหา แต่! ถ้าคนในภาพอายุเท่ากันหรือน้อยกว่าเราอ่ะ แม่เจ้า (กูยังหาไม่ได้เลย)
และ ประโยคที่โดนๆๆๆๆ มากที่สุดของเราคือ
"ถ้ามีแฟนแล้ว เค้าไม่มีเวลาไปกินข้าวกับเรา เราจะมีแฟนไปทำไมวะ" เข้าเรื่องซะที เหมาะสำหรับคนที่มีแฟนอยู่ ตปท. ตจว. ตชด. อันที่ 3 นี่ กรณีมีแฟนเป็นทหาร ก็ดีคนในเครื่องแบบ และสุดท้ายคือ ตวล. อันนี้คิดเอง (ต่างเวลา)
แต่ ของเราเป็นแบบนี้ค่ะ ตปท.
กรณี ตปท จากประสบการณ์ตรง ไม่เคยคิดมาก ถ้าคุณ ไปอยู่ ตปท. ถ้ามีเวลาว่างเราจะเจอกันได้ มีทั้งวันหยุดราชการ ลาพักร้อน ก็น่าจะแบ่งปันจัดสรรมาให้เราได้น่ะ แต่เอาเข้าจริงๆ เฮ้ยไม่ใช่ว่ะ มันต้องดูอะไรหลายๆอย่างเลยนะ อาทิ
ระยะห่าง ยอมรับว่าเป็นคนทำงานเงินเดือนไม่สามารถไป ตปท. ได้ง่ายๆ ด้วยอายุที่ยังไม่มาก เพิ่งจบมาไม่กี่ปี และคนไทยไม่เหมือนประเทศอื่น ที่จะสามารถเดินทางไปเที่ยว ตปท เป็นว่าเล่น ถ้าไม่มีภาระหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบ หรือพื้นเพจัดว่ามีฐานะ อะไรหลายๆอย่าง เหล่านี้ ไม่ใช่ปัญหาสำหรับการเดินทางของเราเลย แต่ความเป็นจริง ไม่นะ ไม่ใช่ ไม่ง่าย ไม่ได้และ ไม่มีทาง แต่โชคดีที่เกิดเป็น หญิง โอกาสเรื่องค่าใช้จ่ายในการเดินทางเลยไม่ใช่ตัวปัญหาอีกต่อไป แต่ที่เอาเรื่องระยะห่างมาพูดก็เพราะว่า โซน เอเชีย ก็โอเคอยู่ งบไม่เท่าไหร่ กรณียุโรป โซนอเมริกา งบก็จะเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว
ระยะเวลาคบ
ถ้าคบกันนานหน่อยก็เลิกยาก เพราะผูกพันกันมาก คิดถึงกันมาก รักกันมาก 3-4 ปี กำลังดีคือ ไม่น้อยและไม่มากจนเกินไป 1-2 ปีล่ะก็ คิดถึงกันแทบขาดใจ ยังใหม่ๆ อยู่ แต่ก็มีโอกาสปันใจได้ง่ายเช่นกัน กรณี 5 ปีขึ้นไป เสี่ยง ไม่เป็นกันทุกคู่ แต่ มีโอกาสหากิ๊ก หาเศษหาเลยสูงทีเดียว (ความคิดเห็นส่วนตัวและจากคนรอบ ถ้าไม่ตรงกับคนอื่นไม่ต้องเอามาใส่ใจ)
ความเป็นไปได้
อันนี้สำคัญมากๆ ที่ต้องพูดถึง เพราะมีคนมากมาย รอคอยอย่างมีความหวัง และการรอคอยอย่าง ลมๆแล้งๆ อย่างแรกก็ดีไป แต่ต้องพิจารณาความเป็นไปได้ เช่น มีโอกาสพบเจอกันบ่อยครั้ง มีโอกาสแต่งงานกัน หรือได้อยู่ด้วยกัน อันนี้รวมถึงนิสัยคนที่เรารอด้วย ถ้าเจ้าชู้ ก็อย่าหวังเลยว่าเราจะตามเช็คเขาได้ ซึ่งยากมาๆ และมีความเสี่ยสูง แต่อย่างหลัง คือเค้าไม่ใช่คนไทย 2 คือเค้าไม่มีโอกาสอยู่ประเทศไทยหรือทำงานอย่างแน่นอน และ3 คือเค้ามีเจ้าของแล้ว สังคมไทยรับไม่ได้หรอกนะเรื่องแบบนี้ คำถามคือ และเราจะรอต่อไปเพื่อ? มันคงไม่ใช่การรอคอยอย่างมีความสุขแบบหนังเรื่อง October sonata หรอกนะ ที่นางเอกรอคอยพระเอกที่เพิ่งเจอกันครั้งแรก รอเจอกันทุกปีๆ ในที่แห่งนั้น จนกระทั่งพระเอกตาย ยังไม่รู้เรื่อง เสียดายเวลา แต่นางเอกมองว่าการรอคอยทำให้มีความสุข ก็เลยรอต่อไป แต่เราไม่ใช่น่ะสิ
ด้วยสาเหตุทั้ง 3 ประการ มันทำให้เกิดที่มาของคำพูดด้านบนที่กล่าวมาก่อนหน้านี้ นั่นก็คือ "ฉันเหงา" "ก็เพราะว่ากูอยู่กับพวกมึงไง เลยไม่มีใครมาจีบ" อันนี้ไม่ใช่เพื่อน แต่เป็นมึง ที่ไม่ได้อยู่ด้วยกันกับกู อิๆ "ถ้ามีแฟนแล้ว เค้าไม่มีเวลาไปกินข้าวกับเรา เราจะมีแฟนไปทำไมวะ"
ทุกวันนี้ก็เลย อยู่เหมือนโสด แต่ไม่โสด มีแฟนก็เหมือนไม่มี ปีๆนึงเจอกันไม่ถึง 3 ครั้ง เทสกาลทีก็ส่งของขวัญมา อยากได้อะไรก็ให้ แต่มันไม่สามารถทดแทนบางสิ่งบางอย่างได้ คำถามก็คือ ถ้าคุณตกอยู่ในสภาพแบบนี้บ้าง คุณจะทำอย่างไร
ก. ทนต่อไป รักคือการอดทน ยังไงซะไม่ได้อยู่ด้วยกัน แต่มันก็ทำให้เรารู้ว่า ยังมีอีกคนที่รักเราและเป็นห่วงเรา 
ข. ก็คบกับเค้าอยู่ แต่เปิดใจมองหาคนอื่นเข้ามาในชีวิต เพื่อมีโอกาสสละโสดมากยิ่งขึ้น ถึงมันจะเป็นการทำร้าย คนคนหนึ่งก็เถอะ 
ค. พยายามเลิกติดต่อ เพราะอยู่ไปก็เหมือน รออย่างลมๆ แล้ง แต่ข้อนี้ทำยากนะ ต้องใช้เวลาสักพักใหญ่ๆเลย 
| Create Date : 23 เมษายน 2553 |
|
28 comments |
| Last Update : 23 เมษายน 2553 17:42:45 น. |
| Counter : 3669 Pageviews. |
|
 |
|
อยากจะเล่าความรู้สึกที่ใครอ่านแล้ว อาจจะหมั่นใส้ เพราะอาจคิดว่า ก็ดีอยู่แล้วนี่ ดีกว่าอยู่คนเดียว แต่จริงๆ ถ้ามาเป็นเราเอง จะรู้ว่า มันไม่ใช่ความสุขที่แท้จริงเลยนะ 
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [
who is the boy in this pic?ur bf?
look very sweet