Group Blog |
::Review:: สักคิ้ว 6 มิติ เฮ้ยยย !!!! มันถึงขนาดนี้แล้วหรอเนี่ยยยย
เฮลโล่วววววววว เอวี่บอดี้ ห่างหายจากการเขียน Blog ไปนานมากกกกกกกกกกกกก (ก ไก่ 2.2 ล้านล้านตัว อุ๊บส์ !!) เนื่องด้วยเพิ่งเรียนจบ และเริ่มงานใหม่ จนตอนนี้งานที่ทำก็อยู่ตัวแล้วอะไรแล้ว จึงได้ฤกษ์กลับมาแชร์ความงามกันอีกครั้ง เย้ !!!!!!!!!!!!!!!! พอดีว่า .... เมื่อวานนี้ แพรวไปสักคิ้ว 6 มิติมาค่ะ ตอนเห็นโฆษณาครั้งแรกคือ ต๊กกะใจมากกกกกกก แม่เจ้า !! คิ้ว 6 มิติ คืออัลไล??? คือ เคยเห็นแค่ 3 มิติ กว้าง * ยาว * สูง แล้วมิติที่ 4 5 6 มันคืออะไรน้อออออ ด้วยความที่เป็นคนไม่ชอบสงสัยอะไรนาน มันรู้สึกคาใจพิลึก จึงจัดการหาข้อมูล แต่ก็ยังไม่ค่อย get เท่าไหร่ เพราะมีการให้ข้อมูลทั้งสองฝ่าย ฝ่ายหนึ่งบอกว่า มันก็คือ 3 มิติแบบเดิมๆเบๆนั่นแหละค่ะคู๊ณณณ แค่โฆษณาให้เว่อร์เพื่ออัพราคา อีกฝ่ายก็บอกว่า 6 มิติ เส้นจะพริ้วกว่า ธรรมชาติกว่า 3 มิติอีกนะย่ะ ขอโบกกกกกกก อย่ากระนั้นเลย ขออย่างงี้ มันต้องลอง ถึงจะรู้จ้าาาาาา เมื่อคิดได้ดังนั้น ก็รีบ Google หาข้อมูลในทันใด ราคาสักคิ้ว 6 มิติราคาสูงกว่า 3 มิตินะ เท่าที่ดูมา ส่วนใหญ่ราคา 7,000 up ทั้งนั้นเลย แต่โชคดีมาก ไปร้านนี้จัดโปรเหลือ 3,500 บาทเท่านั้น แถมอยู่โคราชเหมือนกันซะด้วย กระโดดตัวลอย (ประมาณ 2 นิ้ว เพราะหนักไขมัน) ด้วยความดีใจสุดฤทธิ์ แล้วก็โทรไปจองคิวในทันใด จองปุ๊บ ทำวันถัดมาเลยจ้า (เร็วไปม๊ายยยยย) ![]() ร้านนี้แหละ Beauty House Bu Koi จัดโปรได้ราคามุ้งมิ้งมาก พี่จะพลาดได้อย่างไร 55555 ต้องบอกก่อนว่า แพรวเองเคยสักคิ้ว 3 มิติมาได้เกือบ 2 ปีแล้วค่ะ ร้านที่เคยสัก เป็นร้านดังในโคราช นั่งดูรีวิวนานมากจึงตัดสินใจเลือกร้านนี้ เพราะรีวิวสวยจริง ทรงคิ้วก็เป็นแบบที่ชอบ แต่พอไปทำจริง สงสัยจะซวยไปหน่อย เราดันเป็นเคสที่มีปัญหา ช่างสักเส้นคิ้วเกินมาหลายจุด เราไปลบมา 2 รอบ (ลบเฉพาะส่วนที่เกินนะคะ) แต่ก็ไม่ช่วยอะไร สุดท้ายเลยทำใจ แล้วใช้วิธีเขียนคิ้วปิดบังส่วนเกินเอา และรอคอยเวลาที่คิ้วมันจะจาง เพื่อจะไปได้ทำใหม่สักที นี่คือรูปคิ้วก่อนสัก 6 มิติค่ะ (แต่สัก 3 มิติมา 2 ปีแล้วน้า) ![]() ![]() ![]() ว๊ากกกกกกก รูปใหญ่มาก ขออภัยคนที่ขวัญอ่อนด้วยนะค่า ขั้นตอนแรก เราก็มาลงยาชากันค่ะ ช่างจะลบคิ้ว และเครื่องสำอางค์บริเวณคิ้วออก ด้วยแอลกอฮอล์ จากนั้นก็ลงยาชาแบบครีม แปะฟิล์ม และทิ้งไว้ประมาณครึ่งชั่วโมงค่ะ ![]() เมื่อยาชาออกฤทธิ์แล้วก็เข้าสู่ขั้นตอนที่ 2 คือ การออกแบบทรงคิ้ว ขั้นตอนนี้เป็นขั้นตอนที่สำคัญมากๆๆๆๆนะคะ เราต้องแจ้งช่าง สื่อสารกับช่างให้เข้าใจว่าเราต้องการคิ้วแบบไหน เพราะคิ้วเนี่ย พลาดแล้วพลาดเลย เดี๋ยวจะมาเสียใจภายหลังแบบเค้า อย่างของแพรวเนี่ย แพรวบอกช่างว่าอยากได้คิ้วหนานิดๆ ตรงช่วงหางโค้งๆเกือบตรง ไม่เอาเหลี่ยมเด็ดขาดเพราะไม่ชอบ ช่างก็จะออกแบบคิ้วตามที่เราต้องการ นั่งปรับตรงนู่น แก้ตรงนี้ เพิ่มหัวคิ้วหน่อย ขอหางยาวๆหน่อย ก็แก้ไขกันไปจนกว่าจะได้แบบที่พอใจที่สุด ![]() ก็จะได้ออกมาแบบนี้ค่ะ ที่เห็นเหมือนคิ้วไม่เท่ากัน จริงๆแล้วมันเท่าน้า น่าจะอยู่ที่มุมภาพมากกว่าค่ะ เมื่อได้ทรงคิ้วแล้ว ช่างก็จะโป๊ะยาชาให้อีกรอบนึง เพื่อไม่ให้รู้สึกเจ็บปวดขณะสักค่ะ ![]() จากนั้นก็มาถึงขั้นตอนสำคัญคือ การขึ้นลายเส้น ตรงส่วนนี้แพรวว่าค่อนข้างต่างจาก การสักแบบ 3 มิติพอสมควรนะคะ 1. อุปกรณ์คนละอย่าง ตอนแพรวสัก 3 มิติ ช่างจะใช้เครื่อง ลักษณะคล้ายๆปากกาอ้วนๆในการสัก แต่สำหรับคิ้ว 6 มิติ เค้าจะใช้ใบมีดในการขึ้นลายเส้นค่ะ ตอนทำไม่เจ็บนะ เพราะยาชาออกฤทธิ์อยู่ แต่มันจะได้ยินเสียง แคว่ก แคว๊กกกก เป็นระยะๆ เพราะเค้าใช้ใบมีดกรีดบนคิ้วเราอ่ะคะ เวลาโดนขนคิ้วก็จะเกิดเสียงดัง และนี่คือ ภาพลายเส้นคิ้วของเค้าเอง ![]() เส้นมันพริ้วมากกกกกกกกกกกกกกกกกกก คือ สวยกว่าสักแบบ 3 มิติจริงๆค่ะ อันนี้ต้องยอมรับเลย มันดูเหมือนจริงกว่าเยอะอะคะ (ขออภัยที่รูปไม่ชัดนะคะ เค้าถ่ายจากกล้องหน้าไอโฟนอ่ะค่ะ) อ่ะ อ่ะ แถมให้อีกสักข้าง ![]() โอ๊ยยยยยยยยยยยย ทั้งรอยสิว รอยดำ เห็นชัดเกินไปม๊ายยยยยยยยยยยยยยยย ทีลายเส้นคิ้วดันไม่ชัดซะงั้น 5555 ตอนแรกก็คิดว่าจะเสร็จแค่นี้ เพราะจำได้ว่าตอนสักคิ้ว 3 มิติ พอเค้าขึ้นลายเส้นเสร็จก็จบ ทายา กลับบ้านได้ แต่นี่ไม่ใช่จ้ะ เมื่อกี้เป็นแค่การขึ้นลายเส้น ขั้นตอนต่อไปจะต้องผลักสี และหมักสี เพื่อให้สีซึมเข้าไปในเส้นที่กรีดไว้ และติดทนนานยิ่งขึ้น ขั้นตอนการผลักสีไม่ได้ถ่ายรูปไว้นะคะ แต่ความรู้สึกจะคล้ายๆเวลาเราใช้มีดเฉือนไปในเนื้อหมูอ่ะคะ ประมาณนั้นเลย แต่ไม่เจ็บนะ ระหว่างทำ ช่างจะลงยาชาแบบนาโนให้เรื่อยๆ ไม่รู้สึกอะไรเลยจริงๆ จะมีแสบนิดๆตอนที่ลงยาชา เพราะมันเหมือนคิ้วเราเป็นแผล แล้วโดนน้ำอ่ะเนอะ จะแสบๆยิบๆ แปบๆก็หายค่ะ ![]() ป้ายยาชาตลอด ไม่ต้องกลัวเจ็บค่ะ เมื่อช่างผลักสีเสร็จ ก็จะเอาสีมาทาคิ้วเราให้ทั่ว และทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที ขั้นตอนนี้เรียกว่าการหมักสีค่ะ ![]() เอิ่มมมมมมมมมมมมม เค้าไปแคสเป็นชินจังจอมแก่นได้เลยนะเนี่ยยยยย แต่ช่างน่ารักค่ะ เห็นเราชอบถ่ายรูป (หรือหมั่นไส้ที่เราเอาแต่ถ่ายรูปจนรบกวนการทำงานของช่างก็ไม่รู้ 555) เราเลยได้คิ้วสวยๆ มาแบบนี้ v v v v ![]() ![]() เมื่อหมักสีเสร็จ ก็ถือว่าเสร็จสิ้นกระบวนการในการทำคิ้ว 6 มิติแล้วค่ะ ขั้นตอนต่อไป ช่างจะให้เราเช็คความเรียบร้อย มีเส้นเกินไหม ขนาดโอเคไหม เพื่อจะได้แก้ไขให้ตรงตามความต้องการที่สุด (เริ่ดอ่ะ ประทับใจช่างร้านนี้มากๆๆนะบอกเลย คือ ใส่ใจลูกค้าดีมากกกกกกกกก) และแล้วก็...............แท้ แด่ !!!! ![]() ![]() ![]() เค้าได้หลังคาใหม่แล้วจ้า สวย ถูกใจมากกกกกกกกกกกกกกกกก รู้สึกปลื้มปริ่มน้ำตาจะไหล ยิ่งกว่าตอนเมย่า คว้าตำแหน่ง MTW2014 อีกค่ะ 55555 ส่วนี้เป็นร่องรอยเก่า ที่ช่างร้านเดิมทำไว้ค่ะ จะเห็นว่าทำหัวคิ้วเข้ามาลึกมา ไม่สวยเลยค่ะ (ตรงที่ค้อนทุบอยู่นะคะ อิอิ) ![]() อ่ะ อ่ะ ไหนๆ ก็คิ้วสวยละ ขอแต่งหน้าสักนิด เพราะตอนไปทำไม่ได้โบกอะไรบนหน้าเลย หน้าโล้นแบบสุดๆ ![]() อั๊ยย่ะ !!!! คิ้วสวยย มันทำให้การแต่งหน้าง่ายขึ้นเยอะมากเลยนะคะ ขอบอกกกกกกก คิ้วแบบซูมๆๆ (อาจจะเห็นไม่ชัดนะคะ เพราะใช้กล้องหน้าถ่าย ไม่มีคนถ่ายให้เลยจริงๆ) ![]() คิ้ววันที่ 2 ค่ะ โบกน้ำยาบำรุงทุกครั้งที่นึกออก ก็เป็นปรกตินะคะ ช่วงแรกๆจะดูเข้มปั๊ด เป็นชินจังจอมแก่นไปหน่อย เดี๋ยวพอคิ้วลอก สีจะดรอปลงอีกเยอะค่ะ ใจเย็น ๆ ๆ นะคะ แต่จริงๆ เค้าแอบอยากให้มันเข้มปี๋แบบนี้ตลอดเลยอ่ะ เค้าเป็นชะนีที่มีปมเรื่องคิ้วมาทั้งชีวิต เค้าชอบคิ้วเข้ม เข้มมมมมมมมม ไม่อยากให้จางเลย 5555 สรุปความแตกต่างระหว่างคิ้ว 3 มิติ กับคิ้ว 6 มิติ (จากประสบการณ์และความเข้าใจของตัวเองล้วนๆนะคะ) 1. อุปกรณ์ที่ใช้ - แบบ 3 มิติ จะใช้เป็นปากกาแท่งอ้วนๆอ่ะคะ คือ จุ่มสี แล้วใช้ปากกาผลักสีลงบนคิ้วเลย - แบบ 6 มิติ จะใช้มีดแฉกๆ วาดลายเส้นก่อน แล้วใช้อะไรก็ไม่รู้ฝังสีให้เข้าไปในลายเส้นที่วาด และก็หมักสีด้วย (อันนี้ไม่รู้ว่าหมักทำไมเหมือนกัน แต่มันตลกดี 555) 2. ระยะเวลาที่ใช้ในการทำ เนื่องจากแบบ 6 มิติมีขั้นตอนที่เยอะกว่า จะใช้เวลานานกว่าค่ะ 3. ความสวยของเส้น สำหรับคนที่มีคิ้วอยู่แล้ว อาจจะสังเกตได้ไม่ชัดเจนนัก แต่สำหรับสาวคิ้วแม่ชีอย่างเรา มันต่างกันมากค่ะ - แบบ 3 มิติ เส้นจะค่อนข้างใหญ่ และความถี่จะน้อยกว่า (ขึ้นอยู่กับฝีมือของช่างแต่ละคนด้วยนะคะ) - แบบ 6 มิติ เส้นจะเล็กกว่ามาก และดูสมจริงมากกว่าค่ะ (ก็ขึ้นอยู่กับฝีมือช่างแต่ละคนอีกนั่นแหละนะ) สรุปความพอใจที่มีต่อร้าน Beauty House By Koi - ผลงานที่ออกมา ให้ 4 ห้องหัวใจไปเลยยยยยยยย ช่างน่ารักและเป็นกันเองมากกก เราเป็นคนที่เรื่องมากนะ เพราะเราถือว่าคิ้วเป็นส่วนที่สำคัญ บวกกับเจอประสบการณ์ที่ไม่โอเคเท่าไหร่มาจากครั้งที่แล้วด้วย เราให้ช่างแก้คิ้วเรานานมากกกกก ขนาดตอนที่ทำเสร็จแล้ว เรามองว่าหางไม่เท่ากัน ช่างก็ไปเอาไม้บรรทัดมาวัด และก็ไม่เท่ากันจริงๆ ต่างกันแค่ 1 มิลเท่านั้นเอง ช่างยังชมว่าเราช่างสังเกตมาก และก็นั่งแก้คิ้วให้เราใหม่ เพิ่มตรงส่วน 1 มิลให้เรา (แต่ใช้วิธีเหมือนทำคิ้วแบบเต็มทุกอย่าง ทั้งวาดเส้น ผลักสี หมักสี ) คือ เราประทับใจในจุดนี้มาก งานละเอียดมาก และช่างใส่ใจมากจริงๆค่ะ - ความสะอาด เราพอใจนะ อุปกรณ์ทุกอย่างที่จะใช้กับเรา ช่างจะเอามาให้ดูก่อนตลอดว่า เป็นของแกะใหม่เลยนะ และอธิบายตลอดว่า ตัวนี้คืออะไร ใช้ทำอะไร ของที่ใช้ทุกอย่างต้องแกะใหม่ และผ่านการฆ่าเชื้อในเครื่องอบฆ่าเชื้อด้วย - การตกแต่งร้าน ร้านตกแต่งได้น่ารัก ไม่แออัด ตกแต่งสวย สไตล์วินเทจ มี Free-Wifi มีทีวีให้ดู มีขนมกับน้ำให้ทั้งลุกค้าและผู้ติดตามทุกคน เก๋อ่ะ ปล. เค้าไม่ได้เป็นหน้าม้า ไม่ได้เป็นสปอนเซอร์นะจ้ะ นี่ลงทุนเอง หาข้อมูลเอง และประทับใจจริงๆจึงอยากจะมาแชร์จ้าาาาา ไว้คิ้วลอกเมื่อไหร่ จะมาอัพเดตให้ดูอีกทีนะค่า Bye ![]() ::Review :: ลิป NYX ในกรุน้อยๆของช้านนนนนนน
สวัสดีค่า เพื่อนๆที่น่ารักทุกคน
วันนี้แพรวจะมารีวิวลิป NYX ที่มีอยู่ในกรุน้อยๆให้ได้ชมกันนะคะ จริงๆแล้ว แพรวเป็นคนไม่ค่อยได้ทาลิปสติกเท่าไหร่ เวลาแต่งหน้ามักจะทาแค่ทิ้น กับ กลอส เพราะคิดว่า การทาลิปสติกมันจะทำให้ดูแก่ แต่เมื่อไม่นานมานี้ ไปเห็นรีวิวลิปตัวนี้ในเวบเข้า โอ้โห!! สีสันมันกระแทกเข้าตาเต็มๆ นั่งเพ้อละเมอหา ดูรีวิวเวบนู่นทีเวบนี้ที จนในที่สุด ก็ต้านทานความอยากของตัวเองไม่ไหว สั่งมาซะ 6 สี เดี๋ยวจะมารีวิวให้ดูกันนะคะ ว่าแต่ละสีนั้นเป็นอย่างไรบ้าง ( ไม่มีรูปตัวแท่งลิปนะคะ พอดีลืมถ่ายไป มัวแต่เทสต์สีเพลินไปหน่อย) เริ่มจากชาร์ทสีบนแขนก่อนนะคะ ![]() สำหรับลิป NYX เราซื้อมาในราคาแท่งละ 80 บาท ซึ่งถือว่าถูกมาก มีสีสันให้เลือกเยอะแยะมากมายเลยค่ะ ตอนที่ดูรีวิวในเวบต่างๆ โอ้โห สวยทุกสีเลย กว่าจะเลือกได้ คิดแล้วคิดอีก ดูแล้วดูอีก สนใจยิ่งกว่าตอนอ่านหนังสือสอบอีกค่ะ เราจะให้คะแนนตามรู้สึกของเรานะคะ สีสัน :: 10/10 เลยจ้า มีสีให้เลือกเยอะมาก อันนี้สาวๆคงรู้กันเนอะ แพคเกจ :: 8/10 เราชอบแพคเกจมันนะ สีดำดูคลาสสิคดีอ่ะ ถึงพลาสติกจะบางไปหน่อย แต่ทำตกก็ไม่แตกร้าว(หรือเราทำตกเบาๆหว่า?) พกพาได้สะดวก ไม่เปลืองเนื้อที่ในกระเป๋าเท่าไหร่ เนื้อลิป :: เราชอบนะ เม็ดสีแน่น กลบสีปากเราได้มิดเลยทีเดียว บางสีทาแล้วอาจรู้สึกแห้งๆไปหน่อย แก้ไขได้โดยการทาลิปมันไว้ก่อนลงลิป หรือจะตามด้วยลิปกลอสก็ได้ค่ะ ลืมให้คะแนน 9/10 ค่ะ หักตรงบางทีแอบแห้งไปหน่อย คราบ? :: สำหรับสีที่เราสีมา ไม่เป็นคราบนะคะ อาจเป็นเพราะเราบำรุงปากทุกครั้งก่อนทาลิปด้วยอ่ะ ต่อไปเราจะมาดูสี เมื่อทาลงบนปากกัน สีที่ได้จะแตกต่างกันไปตามสีปากเดิมของแต่ละคนนะคะ ^^ เรามาดูสีแรกกันเลย สี REA ค่ะ ![]() ภาพแรก เป็นภาพปากเราซึ่งลงลิปบำรุงแล้วนะคะ เราเป็นคนปากค่อนข้างคล้ำ สีออกแดงๆน้ำตาลๆ ไม่สวยเลยอ่ะ Y_Y ภาพสอง ลงลิปแล้วค่ะ ปาดจากแท่งเลยนะคะ ประมาณ 2 รอบได้ แล้วใช้นิ้วเกลี่ยๆ สักหน่อย ให้สีมันนัวๆ ^^ จะเห็นได้ว่า กลบสีปากเดิมได้มิดเลยค่ะ สีออกน้ำตาลอมเหลือง ทาแล้วป่วยมากกกกกกกถึงมากที่สุด ต้องแต่งสโมกกี้อายตาดำปี๋เท่านั้นแหละค่ะ ถึงจะดูโอเค แต่ปรกติเราแต่งหน้าแบบธรรมดา ก็เลยใช้ลิปตัวนี้ เพื่อนดรอปสีลิปตัวอื่นลง ทำให้เราได้ลิปสีใหม่ๆเพิ่มขึ้นด้วยค่ะ ภาพสาม เป็นสีจากแท่งนะคะ ในภาพสีค่อนข้างตรง สภาพลิปแย่มากเลย เพราะเราเผลอทาแรงไปหน่อย ลิปก้เลยหักอ่ะ อ้อ พูดถึงลิปหัก อยากจะบอกว่า ลิป NYX รุ่นนี้ หักง่ายมากเลยค่ะ เนื้อมันอ่อนไปหน่อย ฉะนั้น เวลาทา สาวๆต้องเบามือกันหน่อยนะคะ ไม่เช่นนั้นจะเป็นแบบของเรา Y_Y สีต่อมา สี Paris ค่ะ ![]() สีนี้เราปลื้มมาก ทาแล้วกระแดะได้ใจ ^^ ทาไปกี่ครั้ง เพื่อนก็แซวทุกครั้งเลย ฮ่าๆๆ สำหรับสีนี้ ออกชมพูแปร๋นๆอมม่วงนิดๆ ได้ลุคแบบตุ๊กตาบาร์บี้เลยทีเดียว แต่งตาโตๆ ทำหน้าแบ๊วๆหน่อยนี่ ใช่เลยอ่ะ!!! แต่....ค่ะ แต่.... แต่ว่า ตัวนี้ต้องทาให้ประณีตสักนิดนึง เพราะถ้าทาไม่ดีมันจะเป็นคราบค่ะ เคล็ดลับของเราคือ ทาลิปลงไปบนปากก่อน 1 รอบ แล้วใช้นิ้วนี่แหละค่ะ ค่อยๆเกลี่ยๆ แตะๆ ให้มันกลืนๆกัน ทาสียังไม่จี๊ดพอ ก็ใช้นิ้ววนๆจากแท่ง แล้วค่อยๆมาแตะที่ปาก จะช่วยลดคราบได้นะคะ คอนเฟิร์ม !!! ถัดมา คือ สี Tea Rose ค่า ![]() สี Tea Rose เป็นสีที่ใช้ได้บ่อยค่ะ เป็นโทนชมพูอมส้มนิดๆ ดูสุภาพ ไม่หวือหวา ใช้ได้เรื่อยๆ ได้ทุกโอกาส ทาแล้วได้ลุคที่เรียบร้อย อ่อนหวานสมชื่อจริงๆค่ะ สำหรับสีนี้ เนื้อชุ่มชื้นดี ทาแล้วไม่แห้ง ไม่เป็นคราบค่ะ สีต่อไป ได้ชื่อว่าเป็ฝาแฝดกับ Tae Rose นั่นก็คือ Fig นั่นเอง ![]() สี Fig ตัวนี้เห็นหลายคนบอกว่า เป็นฝาแฝดกับ Tea Rose ตอนแรกก็ลังเลเหมือนกันว่า จะสอยสีไหนดีน้า สุดท้าย ก็เอามาทั้งคู่เลย ^^ เราว่า มันก็คล้ายกันมากๆเลยนะคะ แต่ตัว Fig เนี่ย จะออกชมพูอมแดงหน่อยๆ คือ สีจะชมพูกว่า Tea Rose ทาแล้วได้ลุคแบบว่า เด็กสาววัยสดใส ดูน่ารักสมวัย ประมาณนั้น ถ้าถามว่า เราชอบสีไหนมากกว่า เราชอบ Fig มากกว่านะคะ มันดูสดใสกว่าอ่ะคะ สีนี้ก็ไม่เป็นคราบนะคะ เป็นสีโปรดของเราเลย นึกอะไรไม่ออกก็หยิบสีนี้นี่แหละ ^^ สีที่ 5 แล้ว เหนื่อย ๆ ๆ เช็ดปากจนแสบไปหมด แต่ก็ต้องสู้ต่อไป ^^ สี Frappucino ค่ะ ![]() สีนี้เป็นโทนนู้ดๆ อีกตัวนึง แต่ตัวนี้เป็นนู้ดที่ทาได้ทุกวัน ไม่ป่วย สวย ดูดี สำหรับสีนี้จะออกโทนน้ำตาลค่อนไปทางส้ม เราทาแล้วสีแทบจะไม่ต่างจากสีปากเดิมเลยค่ะ เหมือนไม่ทาเลยอ่ะ แต่ก็ชอบนะ วันไหนแต่งหน้าเยอะหน่อย ก็จะใช้สีนี้แหละ สุดท้ายแล้วววววววววว เย้ ๆๆ สี Heredes ค่า ![]() สีนี้บอกตามตรงว่า เราดูในรีวิวแล้วชอบมากๆๆๆ ในรีวิวมันดูส้มๆ อยากได้ลิปสีส้มอ่ะ ก็เลยสั่งมา แต่ปรากฏว่า พอเปิดแท่งออกมา อ้าว!! ไมมันออกแดงๆงี้หว่า ? จะส้มให้ช้านไหมเนี่ย จากนั้น จึงค่อยๆบรรจงทาบนปากด้วยใจสั่นไหว ภาวนาในใจ ขอให้ส้ม ๆๆ และแล้ว....มันก็ส้มค่ะ แต่...ส้มนิดเดียว แดงเยอะๆ Y_Y เศร้าใจนิดนึง แอบผิดหวังที่มันไม่ส้มเหมือนที่เราต้องการ แต่ไม่ใช่ว่า ไม่ชอบ นะคะ ชอบค่ะ มันเป็นสีส้มแดง ออกอิฐๆหน่อยอ่ะ สีแปลกดี ทาออกมาแล้วก็สวยใช้ได้ ไม่แรงไป ไม่เว่อร์ไป อาจจะดูแก่เกินวัยไปนิด แต่เราก็ชอบนะ มันแสดงถึงความภูมิฐาน ^^ เพิ่งเคยรีวิวเครื่องสำอางค์เป็นครั้งแรก (ปรกติรีวิวแต่คอนแทคเลนส์) เหนื่อยมากเลยค่ะ แต่ก็สนุกดีเนอะ หวังว่า เพื่อนๆคงชอบกันนะคะ แล้วพบกันใหม่ รีวิวหน้าจ้า ขอบคุณค่า ^^ ::Review::Big Glamour Brown ลุคฝรั่งแบบเนียนๆ
วันนี้ แพรวมีคอนแทคเลนส์ตัวใหม่จะมาแนะนำ จริงๆรุ่นนี้ก็มีขายนานแล้วนะคะ แต่เพิ่งถอยมาใส่ฉลองปีใหม่ซะหน่อย เลนส์ตัวนี้มีชื่อเก๋ว่า " Big Glamour " สีที่ซื้อมาคือสีน้ำตาลค่ะ แอบเห็นรีวิวของคุณเบลล์ ใส่แล้วสวยมาก (ก็แหงละ คนเค้าสวยอยู่แล้วนี่นา ใส่ไรก็สวยหมดอ่ะ) เริ่มที่รายละเอียดของเลนส์กันก่อนนะคะ ![]() บริษัทที่ผลิต : DUEBA ชื่อรุ่น : Big Glamour สี : Brown DIA : 14.5 B.C. : 8.6 Water : 55% ลักษณะเลนส์ : เลนส์เป็นสีน้ำตาลอ่อน ออกนมๆหน่อยอ่ะคะ มีจุดดำๆตรงกลางไล่ไปจนเกือบถึงขอบเลนส์ ทำให้ใส่แล้วดุเนียน เป็นธรรมชาติ ขอบเลนส์สุดเก๋ ด้วยขอบสีน้ำตาลเข้ม มีลายเป็นเส้นๆสีดำ แทนการทำขอบดำตามปรกติ ทำให้เลนส์ดูเป็นธรรมชาติมากๆ เนียนแบบสุดๆเลยค่ะ ขนาดของเลนส์ ไม่ใหญ่มากนะคะ มีขอบใสเหลือเยอะอยู่เหมือนกัน ต่อไป มาดูตอนใส่เลนส์กันบ้างนะคะ ![]() ภาพแรก : ตาเปล่า ภาพที่ 2 : ใส่เลนส์แล้ว 1 ข้างนะคะ จะเห็นได้ว่า เลนส์จะโตกว่าตาดำไม่มากนัก เหมาะสำหรับสาวๆที่ไม่ชอบเลนส์โตเว่อร์ค่ะ ใส่แล้วธรรมชาติมากๆ ขนาดกำลังดีเลยทีเดียว ภาพที่ 3 : ใส่เลนส์ 2 ข้าง ถ่ายในร่ม ตาดูหวานขึ้น ด้วยความที่เลนส์สีค่อนข้างอ่อน เราว่า มันให้ลุคแบบฝรั่งๆดีนะคะ ภาพที่ 4 : ลองถ่ายกับแสงแดดจ้าให้ดูค่ะ ตาแอบหยีนิดนึง สีเลนส์ธรรมชาติมาก เหมือนว่า ตาสีน้ำตาลมาตั้งแต่เกิด ^^ ภาพหน้าเต็ม ![]() สรุปคะแนนนะคะ ความโต : 4/5 ขนาดไม่โตมากนะคะ โตกว่าตาดำเรานิดเดียวเอง ความใส่สบาย : 4/5 ใส่สบายตาดีค่ะ ไม่เคืองตาด้วย แต่แอบหักตรงที่ พอใส่ๆนานก็ต้องมีหยอดน้ำตาเทียมบ้าง ไม่งั้นจะรู้สึกตาแห้งจนเกินไป สีสันของเลนส์ : 5/5 สีน้ำตาลสวยมาก ฝรั่งสุดๆ ความธรรมชาติ : 5/5 ธรรมชาติสุดๆ ใครที่มองหาเลนส์สีน้ำตาลสวยๆ ขนาดกำลังดี แต่ก้ไม่ธรรมดาจนเกินไป เราว่า ตัวนี้ถือว่า โอเคเลยค่ะ ภาพรวม : 5/5 ปลื้มมาก ใส่แล้วไม่เอเลี่ยน สวยๆ ใสๆ แบ๊วได้ไม่โอเว่อร์ ^^ ไว้คราวหน้า จะมารีวิวเลนส์ตัวใหม่ที่เพิ่งถอยมา แล้วเจอกันใหม่ค่า^^ ::Review:: คอนแทคเลนส์ 5 คู่ที่เคยใส่มาจ้า
วันนี้แพรวจะมารีวิวคอนแทคเลนส์ที่เคยใส่มา ให้ทุกๆคนได้ชมกันค่ะ
จริงๆมีเยอะกว่านี้อีก แต่หารูปไม่เจอ ก็เลยเอาเท่าที่มีมารีวิวก่อน ถ้าพร้อมแล้ว ไปชมกันเลยจ้า............... คู่แรกนะคะ เป็นรุ่น King Brown เป็นเลนส์ลายดอกไม้ ตัดขอบดำนะคะ ใส่แล้วสีค่อนข้างจะธรรมชาติ ออกน้ำตาลเข้มๆ ไม่โดดนะคะ ถึงจะไม่ได้แต่งหน้าแต่งตาแบบเต็มสตรีม ก็สามารถใส่ได้ค่ะ ตัวนี้ใส่บ่อยเหมือนกัน นึกอะไรไม่ออกก็จะหยิบตัวนี้มาใส่ก่อนเลย รุ่นนี้ จะเห็นได้บ่อยๆตามนิตยสารญี่ปุ่นค่ะ *หน้าศพมาก ไม่ได้แต่งหน้าเลย ขออภัยในความไม่สวยค่ะ ^^ ![]() อีกรูป แบบซูม ๆ ๆ ค่ะ ![]() ต่อมาเป็นรุ่น Misty Gray หรือ Joy Gray นะคะ รุ่นนี้เป็น 3tone แบบซอฟต์ สีไม่แรงค่ะ ใส่แล้วจะเทาแบบเนียนๆ แอบเห็นชมพู่ อารยา ก็ใส่รุ่นนี้เหมือนกันนะคะ ปลื้มม ม มมม ![]() อีกรูปนะคะ หน้าโทรมจริงอะไรจริง ไม่ไหวจะเคลียร์ เลนส์รุ่นนี้ไม่โตมากนะคะ กำลังดีเลย สาวตาเล็กแบบเรา ใส่ได้ไม่เอเลี่ยนแน่นอนค่ะ ![]() อีกรูปนะคะ หน้าโทรมจริงอะไรจริง ไม่ไหวจะเคลียร์ เลนส์รุ่นนี้ไม่โตมากนะคะ กำลังดีเลย สาวตาเล็กแบบเรา ใส่ได้ไม่เอเลี่ยนแน่นอนค่ะ ![]() รุ่นต่อมาเป็นรุ่น Gossip Blink Gray ตัวนี้ตอนเห็นในรูปรีวิวที่โฟร์ใส่ แบบว่า กรี๊ด ดดดด มาก สวยสุดๆ พอได้มาปุ๊บ...ลองใส่ ง่ะ ทำไมมันไม่เหมือนกับที่วาดฝันไว้เลย ตรงกลางเป็นเส้นๆเหลืองๆแปลกๆ ไม่ค่อยชอบเท่าไร มันไม่เนียนเหมือนรุ่น 3toneของ GEO เลย พอแฟนเห็น แฟนก็บอกว่า ลายน่ากลัว หลังจากนั้น เก็บเข้ากรุ ไม่ค่อยได้หยิบมาใส่อีกเลย จริงๆ เราว่าเลนส์ตัวนี้ เหมาะกับคนที่แต่งหน้าจัดๆหน่อยนะคะ มันจะช่วยเสริมให้เลนสืดูสวยและเด่นมากเลย ![]() ต่อมา รุ่น Big Nudy Brown รุ่นนี้ฮิตจริงอะไรจริง เราก็เลยซื้อตามกระแส เป็นเลนส์ที่ธรรมชาติดีค่ะ สีน้ำตาลออกส้มๆหน่อย ขนาดเลนส์กำลังพอดี ไม่โตเว่อร์ เป็นอีกตัวที่ใส่บ่อยๆค่ะ ![]() ตัวสุดท้ายแล้ว รุ่น Extra Black หรือ Bigbt Black เป็นเลนส์สีดำที่โตมากๆๆๆและดำเข้มสะใจมากๆๆๆ เหมาะสำหรับสาวๆที่ตาโต แต่เราตาเล็กอ่ะ ใส่แล้วเอเลี่ยนอีกแล้ว วว Y_Y แต่ไม่เป็นไร ชอบค่ะ ใส่แล้วแบ๊วๆดี ถึงมันจะโตไปหน่อยก็เหอะ จริงๆแล้วยังมีอีกหลายคู่เลย แต่ยังไม่ได้ถ่ายรูปไว้ วันหลังจะมารีวิวให้ชมอีกนะคะ หวังว่ารีวิวนี้ คงช่วยเพื่อนๆในการตัดสินใจเลือกซื้อเลนส์ได้บ้างนะคะ เพราะเราเห็นบางครั้ง เวลานางแบบใส่เนี่ย ซ๊วยสวยยย แต่พอใส่จริงๆ ไม่สวยอย่างนางแบบซะงั้น ไม่รู้ต้องโทษเลนส์ หรือ โทษที่เราไม่สวยเอง ^^ สุดท้าย ฝากถึงเพื่อนๆทุกคนที่ใส่คอนแทคเลนส์ หรือคิดอยากจะใส่นะคะ ดวงตาเป็นสิ่งที่สำคัญ ไม่มีอะไหล่เปลี่ยนนะคะ เพราะฉะนั้น ต้องดูแลรักษาความสะอาดให้ดีๆนะคะ ขอบคุณทุกๆคนที่ติดตามชมจ้า บะบายจ้า^^ ![]() ::Review:: Hanabi Gray วิ้งๆใสๆใหญ่สะใจจริงๆ
![]() คราวหน้าจะมีรีวิวเลนส์ตัวอื่นๆที่เคยใส่นะคะ ขอบคุณทุกคนที่สนใจจ้า ^^ |
คุณหนูขี้วีน
![]() ![]() ![]() ![]() ![]() พะ แพรวค่ะ ^____^ Friends Blog
Link |