ออนทัวร์รายปักษ์มาอีกแล้วจ้า อิอิ

ไปหินตกริเวอร์แคมป์คราวนี้แทบจะยกครัวกันไปเลยที เดียวเพราะไปกันเืกือบหมดบ้านคือพ่อแม่ น้องนุ่งและครอบครัวตัวเองไปกัน 7 คน นอนกันสามหลัง น้องสาวซื้อ voucher มาจากงานท่องเที่ยวที่ผ่านมาราคาคิดต่อหัวคนล่ะ 990 บาท น้องซื้อไว้สี่ใบ แต่พอรู้ก็อยากไปบ้างเลยโทรไปขอเพิ่มห้องโดยใช้เรท voucher คือ 990 บาท ต่อคนแต่ต้องเพิ่มตัวเล็กไปซึ่งเค้าคิด 500 บาท ราคานี้รวมอาหารเช้าและเย็นนะคะ

หินตกริเวอร์แคมป์อยู่เส้นน้ำตก ไทรโยคน้อย (323) คืออยู่ห่างจากเมืองกาญฯไปราวๆ 80 กม. ถึงแก่งเสี้ยนแล้วเลี้ยวซ้ายไปทางไทรโยค แล้วขับผ่านเลยไปเรื่อยๆ ถึงน้ำตกไทรโยคน้อย แล้วก็ขับผ่านเลยไปอีกราวนิดหน่อย (ระหว่างทางไม่มีป้ายรีสอร์ทเลยน่ะ) ผ่านอนุสรณ์สถานช่องเขาขาดนิดหน่อย แล้วให้สังเกตุหลักกม.ที่ 69 แล้วเลี้ยวซ้ายตามป้ายรีสอร์ทไปอีกราวๆ 7 กม. ลึกเข้าไปใช้ได้เลยล่ะ แต่มีป้ายบอกเป็นระยะๆนะคะ ตอนที่ขับไปก็นึก
เล่นๆ่ว่า "ใครน้าช่างคิดมาซื้อที่ทำรีสอร์ทที่ไกลเข้าป่ามาลึกลับขนาดนี้ ??? และคิดอีกที ใครน้าที่ช่างจะมาพักที่นี่ .............. ??

เออ อ้าว ....เราเองนี่หว่า !! อิอิ "

เอาเป็นว่าทางเข้าอาจจะดูเหมือนเข้าป่าไกลไปหน่อย แ่ต่พอไปถึงแล้วหายเหนื่อยจ้า (ถ้าอากาศไม่ร้อนอ้าวน่ะ เพราะไม่งั้นก็ตัวใครตัวมันเหมือนกัน อิอิ)

อ้อ ทริปนี้ (และทุกทริป) รูปเยอะมากเลยขอเอามารวมฮิตเล็กๆแบบนี้นะคะ เพราะไม่งั้นโหลดกันหลับแน่

===> แต่คลิกดูรูปใหญ่ดูกันถนัดตาได้กระทู้รีวิวที่พันทิปได้ที่นี่ค่ะ <====

วันดีฟ้าใสแดดแรงม้าก ฟ้าเข้มใสอย่างแรงจนน้องหนอนยังตกใจ

มุดเข้าเต็นท์เลยดีกว่า ร้อนดีนัก ......(เข้าแล้วร้อนกว่าอีก แหะๆๆ) เราได้เต็นท์โซนด้านหน้าลานกิจกกรรมรอบกองไฟพอดี เพราะัวันที่ไปพัก แขกมีราวๆครึ่งนึงได้จาก 30 กว่าเต็นท์ เข้าเต็นท์แล้วก็อืมมม... ร้อนน่ะ
เอ๊ย .. สวยดีน่ะ สวยกว่าทุกโรงแรมแนวเต็นท์ที่ไปเห็นมา รวมถึงความสะอาด การออกแบบ การใช้ััวัสดุทำเต็นท์คือว่าดีเลยทีเดียว เข้ากันไปหมด เฟอร์นิเจอร์เข้าชุดยกเซ็คทั้งโต๊ะเครื่องแป้ง ชั้นวางของและตู้เอาไว้เก็บตู้เย็น รวมทั้งพื้นก็ปูด้วยสื่อแบบเดียวกับที่ทำเฟอร์ฯเลย ดูกลมกลืนสวยดี และัสะอาดเรียบร้อยดี
เพราะเคยไปเห็นบูติคเต็นท์แนวนี้มาหลายแห่ง เห็นจะมีที่นี่ที่ใช้วัสดุทำเต็นท์คุณภาพดี เพราะมองแล้วสะอาดไม่มีขึ้นเห็นราเหมือนที่เคยเห็น ไม่อับ ไม่ชื้น ดูสบายตา มารู้อีกทีว่าผ้าเต็นท์นี่นำเข้าจากเกาหลีเชียว แต่จะของใน ของนอกก็ไม่สนใจหรอก ขออย่างเดียว จริงใจกันหน่อยก็พอ มาเห็นที่นี่แล้วคิดว่าเค้าตั้งใจทำออกมาได้ดีทีเดียว

ร้อนๆๆ ไปว่ายน้ำที่สระน้ำริมแควกันดีกว่า ขอบอกว่าน้ำเย็นสดชื่นมากๆเลยค่ะ







แดดบ่ายส่องเข้าเต็มๆ อย่าลืมพกครีมกันแดดไปด้วยนะจ๊ะสาวๆ ไม่งั้นบอกจะดำสามระดับเหมือนจขกท.ไม่รู้ด้วย อิอิ

อีกรูป อีกระยะค่ะ .... อ้อ เึ้่ค้าห้ามว่ายน้ำตรงนี้นะคะ เป็นช่วงโค้งของแม่น้ำ กระแสน้ำแรงจ้า แต่เห็นเรือคายัคด้วย อยากเล่นน่ะแต่กลัวไม่มีใครไปตามเก็บที่ปลายทาง อิอิ








มุมแพนั่งเล่นนี้สวยดี อยู่ตรงโค้งน้ำพอดี ชอบจัง








ฟ้าเป็นฟ้า เมฆสวยๆ และแสงอาทิตย์ยามเย็นงามๆ เข้ากันดีจัง







รีบเล่นน้ำจนบ่ายแก่ๆก็ต้องรีบขึ้น เพราะเวลาอาหารเย็นเริ่มหกโมงครึ่ง เป็นบุฟเฟ่ต์ อาหารรสชาติดีแต่ตัวเลือกน้อยไปหน่อย และไม่มีน้ำหวานให้







อาหารเย็นวันนี้มี BBQ หมู ไก่, ข้าวกับแกงเขียวหวาน ไก่ทอด ผัดผัก แกงจืดเต้าหู้หมูสับ ผัดเนื้อพริกไทยดำ แต่ขอสั่งไข่เจียวเพิ่มได้ค่ะ และผลไม้มีแตงโมกับสัปปะรด แค่นี้ก็อิ่มจะแย่แต่สมาชิกบ่นๆว่าอาหารน้อยอ่ะ

ปล.. แกงเขียวหวานชนะเิลิศจ้า



























และเหมือนเคยคือเดินเล่นถ่ายรูปเพลินใจ








ตอนกลางคืนมีฝนค่ะ แต่ไม่ต้องกลัวว่าจะจะปลอดภัยมั้ยเพราะที่นี่เค้าสร้างโครงเหล็กยึดอีกที เหมือนเอาเต็นท์ไปครอบบ้านอ่ะ อิอิ สรุปว่าฝนตกนั่นแหล่ะดีเพราะทำให้อากาศตอนกลางคืน ตอนเช้าเย็นสบายแถมมีหมอกอุ่นๆให้ชื่นใจ









อากาศยามเช้า หมอกลงเย็นสบาย เลยชวนน้องๆออกไปขี่จักรยานเล่นกัน เพราะเช้านี้ตั้งใจจะไปถ่ายรูปที่สะพานที่ข้ามไปวัดหาดงิ้วกันแต่แกบอกว่าไกลสามสี่กม.เลยขับรถกันไปแทน









สะพานไม้ ทุ่งนาเขียวๆ แม่น้ำแคว สายหมอกบางๆ อากาศเย็นสบาย โอ๊ย เริ่ด ... จริงแล้วบรรยากาศยามเช้าตามชนบทที่ไหนๆก็เหมือนกันหมดคือสวยงามสงบเรียบง่าย ชอบจัง ขออย่างเดียว อย่าร้อนเป็นใช้ได้ อิอิ









ใช้เวลาอยู่แถวสะพานกันพอสมควร ก็ขับรถกลับรีสอร์ท เห็นหมอกยังลงอยู่เลย







อาหารเช้า 6 โมงครึ่ง ที่ห้องอาหารริมแคว เห็นวิวสูงๆของแม่น้ำแคว ภูเขาเคล้าหมอกเป็นฉากหลัง สบายจัง








เวลาส่วนตัวตามประสามาดาม










แต่ไปกับครอบครัวหลายคน เลยไม่ได้ใช้เวลากับมาโครได้นานเท่าที่ใจต้องการ เลยเก็บดอกไม้ใบหญ้ามาได้นิดหน่อย แต่ก็ไม่เป็นไร โอกาสหน้า ครั้งหน้ายังมี









อาหารเช้าเรียบง่ายมาก มี ABF พวกไข่ๆ แฮม ขนมปัง ชา กาแฟ ผลไม้สองอย่างเหมือนเมื่อคืน








ข้าวต้มและก๊วยเตี๋ยวผัดซีอิ้ว









ทานอาหารเช้าเสร็จแล้วก็เดินทัวร์รอบรีสอร์ทกันอีกซักพัก ท้องฟ้าเมืองกาญฯใสเข้มดีจัง









ยิ่งสาย ยิ่งฟ้าเข้ม อย่างรูปซ้ายบนสุดนี้ก็ไม่ได้ทำอะไรกับรูปเลย ย่ออย่างเดียว ยังฟ้าเข้มเนียนได้ขนาดนี้









ลาก่อนหินตก .. ไว้มาโอกาสเราคงจะได้เจอกันอีกน่ะจ๊ะ

ปรกติจะไม่ค่อยบอกข้อดี ข้อเสียของรีสอร์ทที่ไปพักเพราะเป็นความรู้สึกส่วนตัวล้วนๆ กลัวจะเอาไปเป็นบรรทัดฐานกัน แต่รีวิวจากนี้ไปจะขอบอกเล็กๆเอาไว้เป็นไอเดียล่ะกัน


ข้อดีที่ชอบ

■ สถานที่กว้างขวาง บรรยากาศดี เต็นท์สวย ออกแบบสวยงาม ใช้วัสดุดีมีคุณภาพ เอาใจใส่ดูแลเรื่องความสะอาดอย่างดี
■ ไม่มีทีวีในห้องพัก (ซึ่งบางคนอาจคิดว่าเป็นข้อเสีย) แต่มีเครื่องนึงที่สปา
■ มีสระว่ายน้ำธรรมชาติอยู่ติดริมแคว บรรยากาศดีมาก
■ รอบๆรีสอร์ทเป็นหมู่บ้านเล็กๆบรรยกาศดี มีจักรยานให้ขี่เล่น (ซึ่งเป็นธรรมดามของรีสอร์ทแนวนี้)
■ อาหารอร่อยรสชาติใช้ได้ (แกงเขียวหวานอร่อยมาก) แต่ถ้าต้องไปค้างสองคืนไม่รู้จะเปลี่ยนเมนูหรือปล่าวหรือว่าต้องทานอาหาร ซ้ำสองวันเหมือนบางรีสอร์ท
■ ห้อง 106 แอร์เย็นช่ำมากขอบอก อิอิ


ข้อไม่ค่อยดีที่นึกออก

■ เข้าป่าอยู่ลึกไปนิด เข้าแล้วเข้าเลย ไม่มีมินิบาร์ แต่สั่งให้มาส่งได้ ไม่มี snacks ของทานเล่น และไม่เห็นเค้าขายด้วย คนติดกินของเล่นให้ซื้อติดตัวมาด้วยจะดีมาก
■ กุญแจให้มาชุดเดียว เอาเราจะไว้คล้องปิดเต้นท์ด้านหน้า ซึ่งคิดว่าน่าจะให้มาสองชุดสำหรับปิดด้านหลังที่เป็นส่วนเชื่อมกับห้องน้ำ ด้วย เพราะห้องน้ำเปิด แม้จะสูงพอสมควรแต่คนก็ปีนเข้ามาได้และจะเปิดเข้าเต็นท์จากด้านหลังได้ (ตรงนี้ติดตามากับกระทู้แนะนำวันก่อน ทำให้กลัวหน่อยๆ)
■ สมาชิกที่บ้านบอกว่าอาหารน้อย และมีแต่น้ำเปล่าให้ให้เลยไม่ค่อยปลื้มตรงนี้เท่าไหร่ แต่สำหรับตัวเองทานอิ่มจร้า อิอิ
■ ห้องน้ำมีกลิ่นเล็กน้อย คิดว่าน่าจะมาจากท่อ และไม่รู้ว่าจะเป็นเหมือนกันทุกห้องหรือปล่าว แต่ห้องพ่อและห้องมาดามเป็น !!
■ มีน้องหมาสองตัวน่ารักมากๆมาป้วนเปี้ยนและกินอยู่ด้วยกันที่บ้าน แต่ไม่ส่งเสียงน่ะ คนที่ไม่ชอบหมาอาจจะรำคาญเพราะถ้ามันชอบคุณ มันจะไม่ไปไหนเลย ขอบอก (เอามาไว้ในข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ปลื้มน้องหมาเท่านั้นจ้า)


ขอบคุณทุกคนที่แวะมาส่งแรงเชียร์และทักทายกันน่ะจ๊ะ