หรือจะเป็นเพราะ...เวรกรรมที่ต้องชดใช้

ชิโร่ kung
Location :
อ่างทอง Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]


ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ชีวิตเรียบง่าย สบาย ๆ ไม่เรื่องมาก
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add ชิโร่ kung's blog to your web]
Links
 

 

บันทึกถึง ลูกรัก

วันนี้วันอาสาหบูชา เมื่อเช้าแม่ก็ไปทำบุญมานะคะ บางที ไอ้สิ่งที่แม่ทำ คนเห็นอาจจะ หรืออะไรก็แล้วแต่เขาเถอะนะ แม่ไม่สนใจหรอก ถ้าปฏิหารมีจริง แม่อยากให้ดอลลี่ มองเห็น หนูจะได้เล่นกับเพื่อน ๆได้ ก็น้าหมอต้องเ ขาบอกกับแม่นี่นาว่า ปฏิหารมักเกิดกับแม่เสมอ

อย่างเรื่องพี่ชิโร่ไง แม่ก็นึกว่าต้องเสียพี่ชิโร่ไปแล้ว ถึงวันนี้พี่ชิโร่ ไม่ได้อยู่กับเราในวันนี้ แต่นับจากวันนั้น พี่ชิโร่ ก็อยู่กับแม่มาอีกตั้งหลายปี

รู้มั๊ยคะ เวลาที่แม่นึกถึงเรื่องของพวกหนู แม่ไม่ได้ร้องไห้นะ แต่น้ำตาไหลเองทุกที แม่อาจจะเป็นคนขี้ลืม แต่เรื่องของพวกหนู แม่ไม่เคยลืมเลย สักเรื่องเดียว ความจำสั้น แต่รักชั้นยาวนะ

แม่หวังว่า บุญที่แม่ทำ ผลบุญที่แม่ส่งถึงพวกหนู ผ่านบทสวดมนต์ที่แม่แผ่เมตตาให้ทุกคืน พวกหนูคงได้รับนะคะ พวกหนูจะได้ไม่ลำบาก ไม่ต้องทนหิว

ที่ที่หนูอยู่เป็นยังไง เหงาไหม หิวหรือเปล่า พวกหนูคิดถึงแม่ไหม แต่แม่คิดถึงพวกหนูนะ มากด้วย

ชิโร่ วันนี้ครบรอบการจากไปของหนู แม่คิดถึงหนูจังเลย ตอนนี้ที่บ้านเรามีสมาชิกใหม่นะ หนูดอลลี่ แม่ห่วงดอลลี่เป็นพิเศษ เหมือนที่ห่วงหนูแหละ เพราะดอลลี่ตาบอดสนิททั้ง 2 ข้าง ดอลลี่เป็นชิสุห์นะคะ ตัวเล็กนิดเดียว เจ้าของมันใจดำเนอะ ทิ้งดอลลี่ได้ลงคอ ตอนที่แม่เจอ ดอลลี่นอกจากตาบอด หัวยังมีแผลเน่าด้วยนะ

แต่ตอนนี้ดอลลี่ มีสุขภาพจิตดีแล้ว เวลาที่ได้ยินเสียงแมว จะลุกทันที บางทีกำลังหลับอยู่เลยนะ หูไวจริง ๆเรื่องแมวนี่ แต่อย่างหนึ่ง ที่เหมือนชิโร่เลย คือการนอนขี้เซามาก เวลาดอลลี่หลับนะ อุ้มมานอนจะตัวอ่อนปวกเปียกเลย บางทีเขย่าตัวยังไม่ค่อยจะตื่น

เพราะความขี้เซาของชิโร่แหละ หนูจำได้ไหม ตอนที่น้ำท่วมอ่ะ แม่ต้องตามไฟรอบบ้านทั้งคืน เพราะพวกไม่มีความรับผิดชอบมันเลี้ยงจรเข้แล้วหลุดออกมา งูเหลือมก็หลายตัว ที่แม่กลัวที่สุดก็ กลัวมันมาทำร้ายหนูแล้วหนูไม่ตื่นนี่แหละ แม่ถึงต้องมานอนเฝ้าพวกหนูไง คนอื่นน่ะ ไม่มีปัญหาหรอก ชิโร่แหละ แม่ว่า แม่ตื่นไวกว่าชิโร่อีก เสียสัณชาติญาณหมาหมดเลยนะเราเนี่ยะ

หลับฝันดีนะลูกชาย ฝากความคิดถึงให้ ป้าโจ จิ๊กโก๋ หูตูบ หูตั้ง มู่ทู่ ลักกี้ เบนโตะ ลูกหมี ปุ๊กลุ๊ก ด่าง ลุงแดง ป้าแดง ขาวปลอด โชกุน ผักชี ชมพู่ โอวเลี้ยง ดำ ตัวยุ่ง ด้วยนะ หรือถ้าหนูเจอ เพื่อน ๆร่วมสายพันธ์ ลองถามเขาซิ รู้จักแม่เราเปล่า บางที เขาอาจจะเป็นตัวที่แม่ช่วยเขาไว้ก็ได้นะคะ




 

Create Date : 27 กรกฎาคม 2553    
Last Update : 29 กรกฎาคม 2553 12:45:10 น.
Counter : 582 Pageviews.  

จิ๊กโก๋

ในขณะที่แม่เขียนเรื่องของจิ๊กโก๋ แม่หวังว่าหนูคงจะได้เจอแม่ เจอพี่น้องของหนูที่บนสวรรค์แล้วนะครับ ถ้าเจอชิโร่ กับป้าโจ อย่าลืมบอกนะครับ ว่าให้กลับมาหาแม่บ้าง แม่นั่งรอที่หน้าบ้านทุกคืนเลย

แม่ของจิ๊กโก๋ กับพี่หรือน้องอีกตัว เป็หมาวัดท้องแก่ที่ถูกคนไล่ยิงด้วยปืนลม เพราะกลัวจะไปออกลูกที่บ้านเขา "แม่นวล" กับ "แม่แดง" ทั้งคู่หนีมาออกลูกที่ใต้ยุ้งฉางเก็บข้าวบ้านลุงที่ปากซอย สภาพแม่หมาทั้งคู่ผอมเหมือนซี่โครงไก่ที่เขาเอามาชุบแป้งทอดขายเลย
ด้วยความสงสาร เราเอาข้าวไปให้ เป็นธรรมดาที่ต้องมีคนไม่ชอบ พูดจาไม่ดี ถ้าเราใสใจคำพูดคนพวกนั้น พวกหนูกับแม่ คงนอนตายแห้งอยู่ที่ใต้ยุ้งข้าวเป็นแน่
กลางดึกของคืนหนึ่ง แม่นวลกับแม่แดงก็คาบลูกทั้งหมด 15 ตัวมาขุดโพรงอยู่ที่ใต้ถุนบ้านเรา จิ๊กโก๋ เป็นหนึ่งในนั้น ที่แม่ตั้งชื่อหนูว่าจิ๊กโก๋ เพราะเมื่อก่อนทำหมัน หนูเกเรมาก
เมื่อ 2 เดือนก่อน แม่สังเกตเห็นจิ๊กโก๋ผอมลงมาก เวลาที่แม่ปล่อยพี่น้องหนูออกจากห้อง ช่วงนั้น แม่ก็จะเอาข้าวไปให้หนู แม่ว่า คงมีพี่หรือน้องของหนูแอบอิจฉาหนูแน่ ๆ แล้วหนูก็เริ่มกินน้อยลงเรื่อย ๆ สุดท้าย แม่ต้องป้อนอาหารปั่นให้หนูเหมือนนุก
แม่พาหนูไปรักษาที่สุพรรณ โชคหนูไม่ดีที่ไม่เจอคุณหมอแก้วขวัญ คุณหมอบอกว่าหนูเป็นเรื้อนเปียก กับพยาธิเม็ดเลือด ให้ยามากิน
อีก 1 สัปาดาห์ แม่พาหนูกลับไปหาหมอตามนัด แม่บอกหมอว่า วันที่กลับจากคลินิค ตอนที่แม่ป้อนข้าว จิ๊กโก๋มีอาการเกร็ง กัดเล็บแม่จนเลือดไหลเล็บแตก ปวดจนแม่ร้องไห้ แต่แม่ไม่เคยโกรธจิ๊กโก๋เลยนะ พยายามป้อนข้าวหนูจนหมดชาม แว๊บหนึ่งในความคิด ที่แม่นึกถึงคำที่น้าหมอต้องเคยบอกไว้ ถ้าเมื่อไหร่ที่ร่างกายอ่อนแอ ถึงฉีดวัคซีน หนูก็สามารถติดหัดได้ แม่ถึงพยายามให้จิ๊โก๋กินยาเขียวจนหมดซอง บอกหนูว่า พรุ่งนี้เราจะไปหาหมอกัน
มหัศจรรย์ยาเขียว ตอนเช้าที่แม่ป้อนข้าวจิ๊กโก๋ หนูอ้าปากกินข้าวได้เหมือนปกติ วันนั้นแม่ถามหมอว่า ทำไมข้อขาหนูถึงบวม ทำไมกินยาพยาธิเม็ดเลือดครบแล้ว หนูมีอาการทางระบบประสาท หมอตอบไม่ได้ ตอนนั้นแม่ก็ฉุกใจแล้วว่า จิ๊กโก๋ ต้องเป็นอะไรที่มากกว่าพยาธิเม็ดเลือด ก็ที่วัดโพธิ์เอน แม่รักษาพยาธิเม็ดเลือด ไม่เกิน 7 วันมันต้องดีขึ้น แต่ทำไมหนูทรุดลงแบบนี้
คืนนั้น หนูร้องโวยวายทั้งคืน แต่พอแม่จับจิ๊กโก๋นอน ลูบตัวสักพัก หนูก็จะสงบลง สักพัก หนูก็จะเป็นอีก ทั้งคืน จนเช้าแม่ต้องลางาน เพราะไปทำงานไม่ไหว แม่พาจิ๊กโก๋กลับไปที่คลินิคอีกครั้ง ครั้งนี้ได้เจอคุณหมอแก้วขวัญ คุณหมอสงสัยว่าหนูติดเชื้อ streptococcus spp. ที่เข้าทางข้อ และเชื้อมันเข้าไปทำลายระบบประสาท จิ๊กโก๋ต้องถูกฉีดยาเข้ากล้ามเนื้อทุก 12 ชั่วโมง หมอบอกว่า ยานี้ปวดมาก ทุกคร้งที่ฉีด จิ๊กโก๋จะร้อง เวลาที่หนูร้อง แม่จะกอดหนูไว้ สงสารหนูจับใจ แต่แม่ก็ต้องทำ
6 วันที่หนูรักษากับคุณหมอแก้วขวัญ จิ๊กโก๋ฉี่เป็นเลือดเต็มแผ่นรองซับเลย อีกครั้งที่แม่ทำในสิ่งที่ไม่เคยทำ แม่เจาะเลือดจิ๊กโก๋เอง ด้วยตัวคนเดียว มือซ้ายfix เส้นเลือด มือขวาเจาะเลือด การทำงานของไตหนูเริ่มไม่ดี กรดยูเรียในเลือดสูงมากกว่าปกติ 3-4 เท่า หมอให้ยามาฉีดเพิ่ม
จิ๊กโก๋รู้มั๊ยครับ เพราะหมอบอกให้แม่ระวังเรื่องหนูจะอาเจียน ทำให้แม่นึกถึงนุก แม่ถามถึงยาที่จะทำให้นุกไม่อาเจียนเวลาที่แม่ป้อนข้าว แม่ไม่เคยหวังแล้ว ว่านุกจะมีทางรักษา จนคุณหมอพูดถึงทางเลือกสุดท้ายของนุก การรักษาด้วยเคมีบำบัด ควบคู่กับการรักษาแบบชีวจิต

ในขณะที่นุก เริ่มมีความหวัง แต่หนูกลับทรุดลง คืนนั้น แม่ถึงพาจิ๊กโก๋ไปนอนบนบ้านด้วยเพราะหนูนอนนิ่งมาก ไม่มีปฏิกิริยาตอบสนอง แต่พอเช้า จิ๊กโก๋ ก็ส่งเสียง จนแม่มีกำลังใจอีกครั้ง ก่อนที่แม่จะมาเข้าเวรนอนเย็น แม่ให้จิ๊กโก๋นอนบนที่นอน กันข้าง ๆที่นอนอย่างดี กลัวหนูดิ้นหล่น ไม่คิดหรอกว่า นั่นเป็นครั้งสุดท้ายที่แม่ได้กอดจิ๊กโก๋ ทั้งที่ยังมีลมหายใจอยู่ หนูไม่ต้องทรมานแล้วลูก

18 เมษายน 2552 ตอนเช้าแม่พานุกไปสุพรรณบุรีเพื่อเริ่มรักษาด้วยเคมีบำบัด ตอนบ่ายแม่ต้องกลับไปสุพรรณบุรีอีกครั้ง เพื่อฝากหนูไว้กับแม่ธรณี เจอแม่ เจอพี่ เจอน้อง แล้วอย่าเพลินจนลืมกลับมาเยี่ยมแม่บ้างนะครับ




 

Create Date : 19 เมษายน 2552    
Last Update : 19 เมษายน 2552 23:26:56 น.
Counter : 337 Pageviews.  

โจอี้

โจอี้ สุนัขตัวที่ 2 ของเรา โจอี้เป็นพันธุ๋สปริท สีขาว แม่จะเรียกโจอี้ว่า "นางสาวไทย " เพราะโจอี้เรียบร้อยมาก ส่วนเรากับพี่จะเรียกโจอี้ว่า"ป้าโจ"

เดิมป้าโจเป็นสุนัขบ้านอัยการ คนเมาไปลักป้าโจมา ก่อนที่พี่สาวเราจะไปขอป้าโจมาเลี้ยง เวลาที่เราไปเยี่ยมพี่ เราจะพาป้าโจมานอนด้วย แต่ปกติ พี่เราจะเลี้ยงป้าโจไว้นอกบ้าน จนวันหนึ่ง..พี่เราย้ายไปอยู่ระยอง พี่พาป้าโจมาฝากไว้ที่บ้านที่อ่างทอง หุหุ แล้วพี่เราก็ไม่ได้ป้าโจกลับไปเลี้ยงอีกเลย เพราะเราไม่คืน ด้วยเหตุผลว่า อยู่กับเรา ป้าโจถูกเลี้ยงอยู่บนบ้าน เราเลี้ยงดีกว่า ป้าโจอยู่กับเราต่อมาอีก 11 ปี ป้าโจก็เริ่มสุขภาพไม่ดี

ทุกเย็นที่กลับบ้าน ป้าโจต้องออกมารับหน้า แต่วันนั้นไม่มีแม้แต่เงาป้าโจ ร้องเรียกเท่าไหร่ก็ไม่ออกมา เดินหาจนร้องไห้ โกรธที่เตี่ยปิดประตูบ้านไม่ดูว่าป้าโจขึ้นบ้านหรือยัง เพราะปกติ เวลาที่จะขับถ่าย ป้าโจจะลงไปทำธุระข้างล่างบ้าน จนเมื่ออายุมากขึ้น ป้าโจขึ้นบ้านไม่ได้ เสร็จธุระ ป้าโจจะมานั่งรอที่ตีนบันได รอเรากับแม่ลงไปอุ้มขึ้นบ้าน

วันนั้นจนพี่ป้าน้าอาเห็นเราร้องไห้ ก็ช่วยกันออกตามหา ป้าโจถึงลุกมาจากใต้กองไม้ ป้าโจไม่สบาย สงสัยอาการเราวันนั้นจะหนัก อาเลยไปหาลูกหมามาให้อีกตัว เป็นพันธุ์ผสมแจ็ค พี่เราเรียกว่า"หนูก็องส์" ตอนนั้น บอกตรง ๆ ไม่ได้อยากได้มันเลย ในใจมีโจอี้ตัวเดียวจริง ๆ

เวลานอน เราจะอุ้มหนูก็องส์ไปนอนด้วย แม่จะบอกให้ป้าโจนอนกับอาม่า ป้าโจจะเดินมามองเหมือนจะขอนอนด้วย สุดท้าย เราก็จะเดินมาอุ้มป้าโจไปนอนด้วยทุกคืน ที่โมโหมาก คือหนูก็องส์ชอบเกเรป้าโจ มันชอบนอนละเมอบางที่ ตี 2 ตี 3 กระโดดข้ามมากัด ป้าโจจะร้องน่าสงสารมาก แล้วเวรกรรมก็มีจริง เมื่อเราพาหมูหยองลูกพุดเดิ้ลผสมจากวัด มารักษาและรับเลี้ยงไว้ หมูหยองก็จะทำกับหนูก็องส์เหมือนที่มันทำกับป้าโจเลย

แล้ววันที่เรากับแม่เสียใจที่สุดก็มาถึง แม่โทรมาบอกว่า ป้าโจถูกรถชน เป็นรถของลูกอา ถอยหลังมาชนป้าโจ แม่บอกป้าโจเพิ่งลงไปจากบ้านไปทำธุระส่วนตัว ไม่ถึง 5 นาทีเอง หมอบอกว่าป้าโจกระดูกสะโพกหัก ให้นอนดูอาการที่คลินิค ยังจำภาพนั้นได้ติดตา ป้าโจเดินเขยกตามมาที่หน้าร้าน

ทุกเย็นที่ไปเยี่ยม เราจะซื้อของกิน ไปอยู่เป็นเพื่อนจนคลินิคปิดทุกวัน หมอบอกว่า ผลเลือดป้าโจไม่ดีนัก เม็ดเลือดขาวสูงมาก 4 หมื่นกว่า ป้าโจต้องนอนคลินิคต่อ ทุกวันที่กลับจากคลินิค แม่จะถาม เมื่อไหร่โจอี้จะกลับบ้าน

วันที่ 9 ของการนอนรักษาที่คลินิค ป้าโจกินอะไรก็อาเจียนออกมาหมด เราบอกหมอให้เจาะเลือดมา เราจะตรวจเอง ตอนที่เห็นผลเลือด เรายืนร้องไห้ที่หน้าเครื่องเลย มันไม่ใช่เม็ดเลือดขาว แต่มันเป็นเม็ดเลือดแดงตัวอ่อน

โจอี้ซีดมาก จนร่างกายสร้างเม็ดเลือดแดงตัวอ่อนออกมาชดเชย ห้องแลปที่ตรวจ คงเห็นเป็นเพียงสุนัขตัวหนึ่งเท่านั้น เขาเลยไม่สนใจ ผลตรวจเลือด ค่าตับ ค่าไต ค่าหัวใจ สูงเป็นพัน ยังไม่ทันที่เราจะกลับไปหาป้าโจอีกครั้ง หมอโทรมาบอกว่า โจไปแล้ว

หลายคนเป็นห่วง รับอาสาจะขับรถให้ แต่เราบอกว่าเราขับได้ ในสมองบอกว่า ต้องพาโจอี้กลับบ้าน เราบอกแม่ โจอี้กลับบ้านแล้ว แม่ร้องไห้โฮ โจอี้อยู่กับเรามา 11 ปี เป็นเหมือนส่วนหนึ่งของครอบครัว ปม่นอนน้ำตาไหลล จนเราต้องบอกแม่ว่า โจอี้ไม่ได้ไปไหน โจอี้นอนอยู่ใกล้ ๆแม่ ส่วนเรา ลางาน 3 วัน ทำงานไม่ได้ ร้องไห้ตลอด กลางคืนเราจะนั่งมองที่ลานดิน หวังว่าโจอี้จะกลับมาให้เห็น แต่โจอี้ก็ไม่กลับมา

อยากบอกป้าโจนะ ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน ป้าโจยังอยู่ในใจของทุกคนเสมอ ไม่เคยมีใครลืมป้าโจเลย




 

Create Date : 13 เมษายน 2552    
Last Update : 13 เมษายน 2552 1:39:35 น.
Counter : 405 Pageviews.  

เบนจี้

จำได้ว่าสุนัขตัวแรกที่เลี้ยงชื่อ "เบนจี้" เราเจอเบนจี้ช่วงที่เรียนจบ กลับไปใช้ทุนที่ รพ.พะเยา เบนจี้เป็นพันธุ์เตี้ย ขนยาว ลักษณะพิเศษของเบนจี้ คือ พันล่างที่ยื่นออกมาท เหมือนเขี้ยวยักษ์ แต่น่ารัก เวลาที่เบนจี้ยืน 2 ขา ทำท่าสวัสดี หุหุ ใครเจอท่านี้ของเบนจี้ ก็อดใจอ่อนไม่ได้

เบนจี้อยู่กับเราประมาณ 1 ปี ก็ต้องมาเป็นมะม๋าที่ จ.ตราด ในวันที่พี่เราขึ้นไปเที่ยวที่พะเยา พอเห็นเบนจี้ เขาขอกลับไปเลี้ยงที่ตราด

เบนจี้เคยสร้างวีรกรรมทำให้เราเกือบเผ่นจากพะเยามาตราดในวันที่พี่บอกว่า รถที่พี่ขับมาเสียหลักลงข้างทาง โชคดีไม่มีใครเป็นอะไร แต่เบนจี้กระเด็นหายไปจากรถ โชคดีอีกครั้ง ที่มีคนได้ยินข่าวจากวิทยุกระจายเสียง เลยพาเบนจี้มาส่งถูก พี่คนนั้นบอกว่าเบนจี้พลัดตกลงไปในบ่อกุ้ง

เบนจี้อยู่กับพี่เราต่อมาอีกหลายปี ทั้งที่อายุมากแล้ว เบนจี้ก็ยังเที่ยวไปเรื่อย พี่ต้องไปอุ้มกลับร้านประจำ แล้ววันหนึ่ง เบนจี้ก็จากไป เหลือเพียงความทรงจำในใจเรา




 

Create Date : 13 เมษายน 2552    
Last Update : 14 เมษายน 2552 18:46:08 น.
Counter : 391 Pageviews.  

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.