|
 |
| 1 | 2 | 3 |
4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 |
11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 |
18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 |
25 | 26 | 27 | 28 | |
|
|
 |
1 กุมภาพันธ์ 2550
|
|
|
|
เดจาวูคืออะไร
คำว่า เดจาวู เป็นคำในภาษาฝรั่งเศส (Déjà vu) แปลว่า เคยได้พบเห็นมาแล้ว บัญญัติขึ้นโดย นักจิตวิทยาชาวฝรั่งเศสนามว่า Emile Boirac (1851–1917) ในหนังสือ L'Avenir des sciences psychiques (แปลว่า อนาคตของวิทยาศาสตร์จิตวิทยา)
ความหมายของคำนี้คื่อลักษณะอาการของจิตที่บอกเจ้าของว่า เหตุการณ์นี้ สภาพแวดล้อมแบบนี้ หรือการสนทนานี้ เคยเกิดขึ้นแล้ว หรือจำได้ว่าเคยฝันเห็น
อาการนี้เกิดขึ้นได้กับทุกคน หลายคนอาจจะยังไม่เคยเป็น หลายคนเป็นนานๆครั้ง หลายคนเป็นบ่อยจนตัวเองประหลาดใจ แต่คนที่เคยเป็น จะมีความรู้สึก "รับรู้" เหมือนๆกัน
ทฤษฎีอธิบายการเกิด (ข้อมูลต่อไปนี้นำมาจากวิกิพีเดีย)
ทฤษฎีแรก อดีตชาติ
ทฤษฎีนี้อธิบายว่า สิ่งใดก็ตามที่เคยเกิดไปแล้วในอดีต จะย้อนกลับมาเกิดซํ้าอีก เราจะผ่านประสบการณ์มากมาย และบางสิ่งอาจหลงเหลือในความทรงจำ แล้วย้อนกลับมาเกิดอีก ทำให้รู้สึกว่าเคยเห็นมาก่อน
ทฤษฎีที่สอง พลังจิต
บ้างก็ว่า เดจาวู เป็นพลังจิตรูปหนึ่ง บ้างก็ว่าเป็นทิพจักขุญาณ (ความรู้คล้ายตาทิพย์) ซึ่งได้มาจากการเจริญสมถะภาวนาในหมวดของกสิณ 3 กองคือ เตโชกสิณ (กสิณไฟ), โอทากสิณ (กสิณสีขาว) และ อาโลกสิณ (กสิณแสงสว่าง) จากทั้งหมด 10 กอง
เราทุกคนมีพลังจิต เพียงแต่จะอ่อนจะเข้ม บางทีเพราะเราไม่ได้ฝึก จะเก็บกดไว้ภายใน วันดีคืนดีก็ล้นออกมา ตามตำรา ถ้าได้ฝึก เราสามารถควบคุมได้
มีนักพยากรณ์หลายคน พยากรณ์ได้จากการเพ่ง ว่ากันว่า มีผู้หนึ่งมีเดจาวูแรงกล้ามาก หาใครเปรียบได้ไม่ เขาชื่อ นอสตราดามุส
ทฤษฎีที่สาม จักรวาลคู่ขนาน
อธิบายเกี่ยวกับ โลกคู่ขนาน หรือ จักรวาลคู่ขนาน ก่อนหมายถึง จักรวาลที่ดำเนินไปพร้อมกับจักรวาลที่เราอยู่นี้ ทฤษฎีนี้นักฟิสิกส์ริเริ่มคิดขึ้นมา มีเหตุการณ์ที่เราลังเลอยู่ 2 ทาง แต่เราก็ตัดสินใจไปทางหนึ่ง แล้วคิดไหมว่า ถ้า ณ วันนั้นเราติดสินใจเป็นอย่างอื่น อะไรจะเกิดขึ้น
ในโลกนี้ที่เรามีตัวตนอยู่ในขณะนี้ ขณะเดียวกันก็มีเราอีกคนหนึ่งในอีกโลกหนึ่ง และมีโลกคู่ขนานมากมายนับไม่ถ้วน..
มีคนผูกทฤษฎีเดจาวู กับทฤษฎีจักรวาลคู่ขนาน กล่าวว่า การที่เรารู้สึกหรือเห็นภาพที่คล้ายว่าเคยทำมาก่อน นั่นแหละ คุณเคยทำจริง แต่เป็นคุณในอีกโลกหนึ่งต่างหากที่ได้ทำ คุณในทุก ๆ โลก ถูกผูกกันด้วยสายใยบางอย่าง อาจเป็นเพราะ สมองมีคลื่นตรงกัน ก็เป็นคุณคนเดียวกันนี่นา ในบางจังหวะที่เหมาะสม กระแสประสาทจูนกัน คุณก็ได้รับรู้ถึงกระแสความคิดจากคุณในอีกโลก
ทฤษฎีสุดท้าย คิดไปเอง
ตามแนวคิดของหลักวิทยาศาสตร์อธิบายว่า เกิดจากสมองแปลข้อมูลผิดพลาด พูดง่าย ๆ ก็คือ ไม่ได้เห็นมาแล้วหรอก แต่คิดไปว่าเห็นมาแล้ว
ทางการแพทย์เรียกว่า การไหลของคลื่นกระแสไฟฟ้าในสมองเกิดการผิดปกติ ทำให้การกระทำที่กำลังทำอยู่ ณ ขณะนั้น คลับคล้ายว่าเคยเกิดมาก่อนหน้านี้มาแล้ว แต่ไม่สามารถจำเวลาได้..
คุณสามารถอ่านเรื่องนี้เพิ่มเติมได้จากวิกิพีเดีย
ส่วนคำอธิบายเฉพาะสำหรับนิยามของคำว่า เดจาวู ในพันทิปนั้นหมายถึง
กระทู้ที่ตั้งขึ้นมานั้นเคยมีคนถามแล้วเมื่อไม่นานมานี้ครับ
(เป็นการบอกให้ผู้ตั้งกระทู้นั้นลองใช้ Search Engine ของพันทิปหาดูครับ)

ปล. สำหรับตัวผมเองมีลักษณะอีกแบบหนึ่งคือ ฝันถึงเหตุการณ์หนึ่ง ในฝันนั้นผมทราบว่าเหตุการณ์นั้น จะเกิดขึ้นเป็นเดจาวูในอนาคต เมื่อตื่นขึ้นมาก็ยังจำเหตุการณ์ในฝันนั้น(เฉพาะ)ที่รู้ว่าจะเป็นเดจาวูได้ แล้วมันก็เกิดเป็นเดจาวูจริงภายหลังต่อมา
มีใครเคยฝันแล้วรู้ว่าจะเป็นเดจาวูบ้างไหมครับ
Create Date : 01 กุมภาพันธ์ 2550 |
|
6 comments |
Last Update : 1 กุมภาพันธ์ 2550 2:13:04 น. |
Counter : 14927 Pageviews. |
 |
|
|
| |
โดย: STAR ALONE (STAR ALONE ) 1 กุมภาพันธ์ 2550 1:13:19 น. |
|
|
|
| |
โดย: ดำรงเฮฮา 1 กุมภาพันธ์ 2550 1:16:21 น. |
|
|
|
| |
โดย: กฤตยฎีกา 1 กุมภาพันธ์ 2550 1:44:38 น. |
|
|
|
| |
โดย: ~'o'~LiLLa_KrOnPrInSeSsA~'o'~ (SnOwY~SeAsOn ) 1 กุมภาพันธ์ 2550 10:38:45 น. |
|
|
|
| |
โดย: Due_n 1 กุมภาพันธ์ 2550 12:49:14 น. |
|
|
|
| |
|
 |
กฤตยฎีกา |
|
 |
|
Blog นี้มีผู้เข้าชมแล้ว
คน
|
|
|