เวลาน้อย แต่อยากแชร์ประสบการณ์เที่ยว ^_^
Group Blog
 
All Blogs
 
Day 1 : Zurich - Lucern

 คืนวันแรกออกจากเมืองไทยตอนประมาณตี 2 ด้วยสายการบิน Emirate ที่มีแอร์หน้าคม พาเราไปแวะ transit ที่ Dubai สถานที่ที่คุณต้องรีบเตรียมตัวถ่ายภาพราคาสินค้าที่คาดว่าจะไปซื้อที่สวิสไว้ก่อนเลย เช่น ช็อคโกแลต เป็นต้น เพราะขอกระซิบบอกเลยว่าจากประสบการณ์รอบแรกที่ได้มาเยือนสวิส บอกได้เลยว่าของหลายอย่างที่ Dubai ถูกกว่าซื้อในประเทศผู้ผลิตเองอีกครับ^_^

รอบนี้เลยให้แฟนและผองเพื่อนเตรียมการเช็คราคาไว้เลย ด้วยเวลา Transit ที่มีว่างอยู่ 2-3 ชม.ได้ ซึ่งมาถึงก็เช้าตรู่ ก็ต้องล้างหน้าแปรงฟันกันซะหน่อย แล้วก็เดินสำรวจราคากัน



เมื่อถึงเวลาก็นั่งต่อกันไปจะถึง Zurich ประมาณ บ่าย 2-3 บวกกับกว่าจะ process พาเพื่อนที่ยังไม่ได้ซื้อ Swiss Half Fare Card ไปซื้อก่อนที่อาคารด้านหน้า จากนั้นก็ไป Process การจัดหา SIM Internet ไว้สำหรับเล่น  net หรือใช้ Google Map ที่สนามบินก็มีให้เลือกอยู่ 2 ค่าย คือ SwissCom กับ Sunrise แต่ค่ายที่เค้าว่าฮิตสุด SwissCom ดัน Sim Card หมดวันนั้น ผมเลยได้ใช้ Sunrise มาใช้แทน กว่าจะเช็ค promotion ที่ลงตัว และเงื่อนไข ก็เสียเวลาอีกระดับนึง หมดค่าใช้จ่ายไป 50 CHF แล้วจึงมารับรถใน zone ที่เป็นแหล่ง Car Rental โดยเฉพาะเลย ซึ่งผมจองผ่านทาง RentalCars มาด้วยส่วนลดเล็กๆ น้อยๆ แล้วได้รถเป็นของ EuropCar ก็ติดต่อที่เคาน์เตอร์ EuropCar ได้เลย ไม่ยุ่งยากมากนัก แต่หากคุณจองตรงกับ EuropCar จะมีข้อดี คือ เค้ามี Chat Support ที่ช่วยแนะนำพวกรายการเสริมต่างๆ ได้ เช่น Car Seat, Add Driver เป็นต้น 

ขั้นตอนของผม ก็คือ วางแผนมาแล้ว ก็เอามาตามนั้น แม้เค้าจะชวนเอาประกันเพิ่ม หรือ upgrade รถต่างๆ แต่แล้วปรากฎระทึกแรก คือ ผมหน่ะเอาแต่ใบขับขี่สากลมาอย่างเดียว เพราะเคลียร์กระเป๋าสตางค์ตัวเองก่อนวันเดินทาง อะไรคิดว่าไม่ใช้เอาออกหมด ลืมไปว่าต้องพกใบขับขี่รถไปด้วย แบบตอนไปนิวซีแลนด์ บรรลัยเกือบเกิดครับ ถ้าเพื่อนคนขับที่ 2 เอาทุกอย่างไปครบเพราะขี้เกียจจัดกระเป๋าสตางค์ โอ้ว .... รอดไป ไม่นั้นไม่มีใครมีสิทธิขับรถ T_T

จัดการเอกสารเรียบร้อย ก็ขนของเดินมาที่รถเอากระเป๋าของคนสี่คนที่ล้วนเป็นใบยักษ์ทั้งหมด เพราะตอนประเมินจากรูปที่เค้าบอกว่าใส่ใหญ๋ได้ 3 ก็คิดว่าคงพอเบียดๆ ได้ ปรากฎว่ารถที่วางแผนไว้ ไม่พอ ดังภาพ เรื่องวุ่นๆ จึงเกิดขึ้นอีกระลอก ต้องวนกลับไปขอเปลี่ยนรถ คราวนี้ลุ้นสิครับ ว่าจะมีรถขนาดใหญ่กว่ารองรับหรือไม่ พร้อมต้องแจ้งลูกทัวร์ทำใจนะครับ เตรียมตัวเจอค่าเช่าเพิ่มอี๊ก 

โชคยังดีอยู่มากที่มีรถใหญ่ให้ได้อีกคัน เค้าถามเหมือนรู้เลยว่าที่วางกระเป๋าไม่พอใช่ไหม (กร๊าก! แต่ตอนนั้นขำไม่ออกครับ เพราะกลายเป็นว่าเสียเงินเพิ่มอีก) พอได้รถสุดสวยใหญ่จุใจ Feature ครบครัน จากนั้นก็ต้องติดตั้ง Car Seat ที่ซื้อใหม่เอี่ยมมาจากไทย เพราะกฎที่นี่เด็กต่ำกว่า 12 ขวบ และมีความสูงต่ำกว่า 150 cm (children under the age of 12 and under 150cm (59 inches) ต้องนั่ง Car Seat นะครับ แล้วถ้าเช่า Car Seat ของ EuropCar เบ็ดเสร็จตลอดทริป เอาค่าเช่ารายวันคูณจำนวนวันเช่า 10 วัน ร่วมราคาหมื่นกว่าเลยครับ ฉะนั้นซื้อจากไทยไปคุ้มกว่าครับ


แล้วกว่าจะหาที่ติดได้ก็หาอยู่นาน วนไปถามเคาน์เตอร์ ก็ตอบมาว่าอยู่ตรงข้างเก้าอี้แถวที่นั่งกลางด้านหลัง ก็ควานกันใหญ่ หาไม่เจอ สุดท้ายต้องไปเชิญเค้ามาหาเอง ปรากฎว่า หาไม่เจอด้วย เอ๊าาาา แล้วเค้าก็มองไปมองมา สรุปเค้าหาเจอสายรัดอยู่บนหลังคา โอ้ว บอกให้ผมหาตรงแถวเก้าอี้ เจ้าหน้าที่ก็ขอโทษขอโพย บอกว่ารถใหม่ เค้าก็ไม่ค่อยทราบเหมือนกัน

สุดท้ายเกือบ 6 โมง พร้อมเดินทาง ก็งูๆ ปลาๆ มึนๆ กะการขับพวงมาลัยขวา แล้วเจ่อะกะป้ายทางออกที่เป็นภาษาเยอรมัน ตอนแรกไม่ทันเตรียมตัวมาก่อนคิดว่าจะเจอคำว่า Exit ผมในหน้าที่ Navigator ก็ต้องรีบหาศัพท์ทันทีจังหวะเดียวกันคณะทัวร์เราก็ยืนยันให้คนขับนั้นขับวนในอาคารจอดรถให้ชินสักพักก่อน

จุดหมายหลับนอนที่ผมวางแผนไว้ คือ เมือง Lucern แต่กะว่าจะแวะซื้อของกิน Coop (คล้ายกับ Top/Big C/7-11/Lotus บ้านเรานี่แหล่ะครับ แต่ใครไปสวิสต้องระมัดระวังเรื่องเวลาปิดร้านนะครับ เพราะปิดเร็วมาก รอบแรกที่ผมมากับแม่ไปเที่ยวด้วยรถไฟกลับมาถึงเมืองเกิน 6 โมง Coop ปิดหมดแล้ว ร้านอาหารก็ปิดหมดแล้วเช่นกัน ต้องพึ่งพามาม่าเลย) รวมทั้งวางแผนว่ากาแฟที่นี่คงจะแพง แต่กาแฟรสชาดดีๆ ที่ดังในบ้านเราจาก Europe Zone นั่นคือ Nespresso นั่นเอง จึงเพิ่มอีกรายการในการ shopping ในวันแรกกันเลย คือ ซื้อเครื่องชงกาแฟแบบแคปซูล และราคาไม่แพงมากหากซื้อหามาครอบครองจากในยุโรป

ร้าน Nespresso ที่ Zurich ปิดดึกหน่อย เลยยังทัน แต่จุดแรกที่ต้องวางแผนดีๆ ของ Navigator คือต้อง mark จุดจอดให้เรียบร้อย จะได้วางแผนการจอดและเที่ยวต่อได้ชิวๆ เมือง Zurich ก็มีที่จอดแบบหยอดเหรียญริมถนนอยู่แถวร้านพอดี และใกล้ Coop แบบ Mini ด้วย เลย happy ทั้งทัวร์ครับ 

ขอแนะนำว่าที่จอดรถริมถนนแม้จะต้องเสียตังค์ ก็ถูกกว่าในตึกหรือของเอกชนแน่นอนครับ แต่มักมีข้อจำกัด เช่น จอดได้สูงสุด 2 ชม. เป็นต้น ตามระเบียบครบ max แล้วต้องวนออกไปหาที่ใหม่นะครับ ไม่ใช่ยอดต่ออีก 2 ชม. ไม่นั้นหากคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เดินตรวจมาพบละก้อ หึๆๆๆ ใบสั่งถามหาเอาง่ายๆ นะครับ ถ้าไม่อยากเสียเวลาพยายามทำให้ตามกฎนะครับ

หลังจากได้ข้าวของตามใจหมายเรียบร้อย ก็มุ่งหน้าต่อสู่ Lucern ด้วย GPS ซึ่งผมก็ได้เตรียมการมาแล้วด้วย GPS แบบ offline ที่เตรียมมา แต่ด้วยการ upgrade รถมานี่เอง ทำให้รถของเรามี GPS ในตัวด้วย เพื่อความชัวร์ ก็ต้อง mark เพิ่มในรถไปด้วย แต่ขอบอกว่าในรถมันไม่มีแผนที่ให้จิ้มจุดเอาแบบในมือถือหรือ tablet นะครับ แต่มันต้องบอกบ้านเลขที่และชื่อถนน แบบเป๊ะเว่อร์ ซึ่งถ้าที่พักหรือสถานที่เที่ยวของคุณไม่มีบ้านเลขที่แล้วละก้อออออ คุณก็อาจงืดได้ หากจะหวังพึ่งพา GPS ในรถอย่างเดียว

ที่นี่ก็ดีอย่างที่มืดช้า ทำให้เรามีเวลากิจกรรมท่องเที่ยวนานกว่าปกติ แต่ไม่อยากจะบอกว่าแผนที่ผมเตรียมไว้ ทำให้ลูกทัวร์ต้องสลบกันอย่างง่ายดายเมื่อเข้าที่พัก ทริปนี้ก็เน้น Youth หรือ Hostel ครับประหยัดงบ

ผมพึ่งเคยพักที่ Lucern เป็นครั้งแรก แต่คิดว่าถ้ามาถึงเร็วจะได้เดินไปชมอะไรได้ หรือตื่นเช้ามาเที่ยวได้เลย แต่ขอบอกเลยว่า youth ที่ lucern ทำผมหลังแทบหัก แล้วยอกไปทั้งตัวเกือบป่วยหมดสนุกเลยทีเดียว เพราะเนื่องจากวันแรก แล้วได้ห้องชั้นบนสุด (เดินขึ้นด้วยบันได) เพราะเป็นห้องที่อยู่กันเองเลย 4 คนใน 1 ห้อง ประกอบกับของทั้งหมดพึ่งมาสดๆ ร้อนๆ จากเมืองไทย หนักเอียดทุกใบครับ ถึงที่พักข้างนอกก็หนาว ฝนก็ปรอย ที่จอดรถก็อยู่ด้านหลัง ก็ต้องขนกระเป๋าทั้งหมดลงรถมา เพื่อจัดกระเป๋าสัมภาระในการเตรียมตัวไม่ต้องยกกระเป๋าทุกใบในวันถัดๆ ไป แต่ทางขึ้นดันแยกเป็น 2 ปีก ตอนยกของหนักๆ ขึ้นมาตรงทางแยก ก็ดันมองไม่เห็นอีกปีก ก็ยกไปจนชั้นบนสุด หาห้องไม่เจอ จึงรู้ว่าเดินหลงผิดทาง ต้องยกลงมาขึ้นอีกปีก ... Sad!!!

แถมห้องพักก็สุดแสนอบอุ่นนี้ ก็ขนาดเล็กแถวแมวดิ้นตาย กระเป๋า 4 ใบที่ยกขึ้นมาหาที่วางแทบไม่ได้ ถือเป็นห้องพักที่เล็กที่สุดในตลอดทริปนี้เลยครับ แต่พวก Youth เค้าจะมีห้องเด็กเล่นดังรูปนะครับ ลูกชายยิ้มเลยยย ส่วนอาหารมื้อเย็นวันนี้เลยได้ทานมาม่าสูตรเด็ดแฟนผมกันละคร้าบ เพราะมาดึกขนาดนี้ตามที่บอกไว้ปิดเกลี้ยงครับ ครัว Youth ก็ปิดเรียบร้อย 



ก็จบวันแรกกันไปด้วยความหมดเรี่ยวหมดแรง ผมก็หลังยอกกันไป ต้องทานยาพาราแก้ปวดและลดไข้ที่ทำท่าจะขึ้นด้วย แต่ในฐานะหัวหน้าทริปก็ต้องเตรียมปลุกตัวเองแต่เช้าเพื่อลุยตามแผน ไปติดตามต่อวันพรุ่งนี้คร้าบ 



Create Date : 25 พฤษภาคม 2558
Last Update : 14 กรกฎาคม 2558 22:50:22 น. 0 comments
Counter : 536 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Mr.Falcon
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ให้ทิปเจ้าของ Blog [?]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add Mr.Falcon's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.