|
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 |
8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 |
15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 |
22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 |
29 | 30 | |
|
|
|
|
|
|
|
ทำไมถึง"ขับรถชิดซ้าย ชิดขวา"
ประวัติและจุดกำเนิด ....... มีหนึ่งในสี่ของโลกขับรถชิดซ้าย และส่วนใหญ่เป็นอาณานิคมของอังกฤษ หลายคนคงสงสัยปนสับสนว่าทำไมบางประเทศขับรถชิดซ้ายกัน บางประเทศก็ขับชิดขวา แต่ทั้งหมดนี้ มีเหตุผลและที่มาที่ไปครับ
....... ในปีคศ. 1998 ไม่นานมานี้ นักโบราณคดี ค้นพบเส้นทางเก่าแก่ตัดไปยังเหมืองของชาวโรมัน ใกล้ๆกับเมืองSwindon ในประเทศอังกฤษ ปรากฎร่องรอยบนถนนเส้นนั้นว่า ด้านซ้ายของถนนมีรอยลึกน้อยกว่าด้านขวาของถนนอย่างมีนัยสำคัญ มีเหตุผลที่จะเชื่อได้ว่ายานพาหนะที่มุ่งไปยังเหมืองแห่งนั้นน่าจะไม่ได้บรรทุกอะไรเข้าไปยังเหมือง ในทางกลับกันขากลับน่าจะมีการขนหินหรืออะไรก็ตามออกมา ร่องรอยที่ค้นพบนักโบราณคดีลงความเห็นว่า ชาวโรมันน่าเดินทางชิดด้านซ้ายของถนนเป็นแน่แท้ อย่างน้อยก็ในบริเวณที่ค้นพบหลักฐาน
 
.......ในอดีต เกือบทุกคนเดินทางชิดซ้ายของถนน ตั้งแต่สมัยสังคมศักดินา สังคมมีการต่อสู้รบราฆ่าฟัน เพราะว่าผู้คนส่วนมากถนัดขวา นักดาบเวลาเดินทางไปไหนชอบอยู่ในตำแหน่งที่ชิดซ้าย เพื่อที่ว่าฝ่ายตรงกันข้ามจะได้เข้ามาทางด้านขวา เปิดโอกาสให้นักดาบสามารถใช้อาวุธได้ถนัดกว่าในขณะที่มือซ้ายต้องถือฝักดาบ ยิ่งกว่านั้นยังลดโอกาศในการที่ฝักดาบที่ถือด้วยมือซ้ายไปกระทบกับคนอื่น
.......นอกจากนี้ คนที่ถนัดขวาง่ายและสะดวกที่จะปีนขึ้นม้าจากด้านซ้ายของม้า โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถ้าพกดาบซึ่งส่วนใหญ่จะคาดอยู่บนเอวทางด้านซ้าย และการขี้นหรือลงม้าจากด้านซ้ายของม้านั้นขึ้นหรือลงจากริมถนนจะปลอดภัยกว่าที่จะขึ้นลงจากกลางถนน ดังนั้นถ้าขึ้นลงม้าจากด้านซ้าย ก็ควรจะขี่ม้าชิดซ้ายของถนน .......ในอังกฤษรถม้าของชาวอังกฤษจะมีขนาดเล็ก และมีที่นั่งคนขับซึ่งปกติจะอยู่ทางด้านขวาของรถม้า (ดูรูปบน)เนื่องจากต้องใช้แส้ยาวๆด้วยมือขวาโดยไม่ให้กระทบกับรถด้านหลัง จากเหตุผลนี้มันจึงปลอดภัยกว่าถ้าต้องขับรถม้าชิดซ้ายเพื่อให้แน่ใจว่าเวลารถสวนกันล้อจะไม่ไปกระทบกัน จากเหตุนี้ในอังกฤษหรืออาณานิคมของอังกฤษจึงยึดถือการเดินทางชิดซ้ายเป็นแบบแผน

.......แต่ในราวคศ.1700 รถเทียมม้าเกิดขึ้นในฝรั่งเศส และสหรัฐ ใช้สำหรับขนส่งผลิตภัณฑ์การเกษตร โดยมีลักษณะเป็นรถมีล้อขนาดใหญ่ผูกเข้ากับม้าหลายๆตัว รถเทียมม้าเหล่านี้ไม่มีที่นั่งคนขับ คนขับจะขี่บนม้าตัวซ้ายแถวหลังสุด (ดูรูปข้างบนสังเกตุคนขี่) เพื่อที่จะได้ใช้แขนขวาถือแส้เฆี่ยนม้าทุกตัวได้สะดวก จากการที่เขาต้องขับรถเทียมม้าทางด้านซ้ายมันเป็นการดีกว่าที่จะให้รถม้าคันอื่นสวนมาทางด้านซ้ายของตัวเอง เพื่อที่จะแน่ใจว่ารถมีระยะห่างพอที่จะไม่ให้ล้อของรถไปเกี่ยวกันจนเกิดอุบัติเหคุ เพราะฉะนั้นการขับรถชิดขวาของถนนจึงปลอดภัยกว่า
.......หลังจากการปฏิวัติในฝรั่งเศสของ 1789 ทำให้การเดินทางชิดขวาแพร่หลายในยุโรป ก่อนการปฏิวัติพวกคนชั้นสูงจะเดินทางชิดซ้ายของถนน มีการแบ่งชนชั้นกันโดยการบังคับชาวชนบทให้เดินทางชิดขวา แต่หลังจากเกิดกบฎแหกคุก Bastille และเกิดเหตุการณ์วุ่นวายต่อมา คนชั้นสูงหวาดกลัวไม่อยากทำตัวให้แปลกแยกเป็นที่สงสัยจึงจำเป็นต้องเดินทางชิดขวาตามอย่างชาวชนบท กฏหมายการเดินรถชิดขวาถูกประกาศใช้ในปารีสเมื่อปี คศ.1794 ใกล้เคียงกับประเทศเดนมาร์กซึ่งบังคับใช้ในปีคศ.1793
.......ต่อมาเมื่อนโปเลียนแผ่อิทธิพลเข้าไปประเทศต่างๆอ้างกันว่าทำให้เกิดเปลี่ยนแปลงการเดินรถชิดขวาในประเทศที่นโปเลียนแผ่อิทธิพลไปถึง เช่น เบลเยี่ยม เนเธอร์แลนด์ ลักซ์เซมเบอร์ก สวิตเซอร์แลนด์ เยอรมัน โปแลนด์ รัสเซีย รวมทั้งส่วนใหญ่ของสเปน และอิตาลี่ ส่วนประเทศที่ต่อต้านนโปเลียน ยังคงมีการเดินรถชิดซ้ายซี่งได้แก่ อังกฤษ อาณาจักรออสเตรีย ฮังการี และโปรตุเกส การแบ่งแยกการเดินรถชิดซ้ายชิดขวาในยุโรปหลังจากนั้น ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงเป็นเวลามากกว่า 100 ปี จนกระทั่งหลังจากสงครามโลกครั้งที่ 1
.......ถึงแม้ว่าในประเทศสวีเดน(ประเทศที่ขับซ้าย) จะเสียดินแดนฟินแลนด์ให้กับรัสเซีย(ประเทศที่ขับชิดขวา)หลังจากสงคราม รัสเซีย - สวีเดนในปีคศ.1808 - 1809 กฏหมายสวีเดนซึ่งรวมถึงกฎจราจร ยังคงใช้ในฟินแลนด์ต่อมาเป็นเวลา 50 ปี จนกระทั่งปีคศ.1858 จักรวรรดิรัสเซียก็ประกาศให้ฟินแลนด์เปลี่ยนแปลงการเดินรถไปเป็นชิดขวา
 ....... แนวโน้มในประเทศต่างๆยังคงนิยมเดินรถชิดขวา แต่ในประเทศอังกฤษยังคงอนุรักษ์การขับชิดซ้ายไว้อย่างเหนียวแน่น ประเทศต่างๆในโลกมีการขยายตัวของการเดินทาง และการก่อสร้างถนนที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในระหว่างทศวรรษที่1800 กฎจราจรถูกร่างขี้นในทุกประเทศ รวมทั้งกฎการจราจรชิดซ้ายถูกบังคับใช้ประเทศในเครือจักรภพอังกฤษ รวมทั้งดินแดนที่อยู่ในอาณานิคมของอังกฤษในปีคศ. 1835 ทำให้ ปัจจุบันประเทศอินเดีย, ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และอดีตอาณานิคมของอังกฤษในแอฟริกาเดินรถชิดซ้าย ยกเว้นประเทศอียิปต์ซึ่งถูกยึดโดยนโปเลียนก่อนเป็นเมืองขึ้นของอังกฤษ .......ในช่วงต้นของอาณานิคมของอังกฤษในอเมริกาเหนือ การเดินทางเป็นแบบชิดซ้ายตามอย่างอังกฤษ แต่หลังจากได้รับอิสระภาพจากอังกฤษ จากการต้องการตัดขาด ไม่ต้องการเชื่อมโยงกับอิทธิพลของอังกฤษ จึงพร้อมใจกันเปลี่ยนการเดินทางเป็นแบบชิดขวา ( ซี่งอาจเป็นอิทธิพลของชนชาติประเทศชาวยุโรปประเทศอื่นๆ ) กฏหมายแรกของการชิดขวาเกิดขึ้นใน Pennsylvania ในปีคศ.1792 และกฏหมายซึ่งคล้ายกันในNew York ปีคศ. 1804 และNew Jersey ในปีคศ.1813
.......แม้ว่าในสหรัฐและบางส่วนของแคนาดา ยังคงชิดซ้าย แต่หลังจากสงครามโลกครั้งที่สองไม่นานนัก อาณาเขตที่ควบคุมโดยฝรั่งเศส(จาก Quebec ถึง Louisiana ) ชิดขวาตามแบบฝรั่งเศส แต่อาณาเขตที่ครอบครองโดยอังกฤษ(British Columbia, New Brunswick, Nova Scotia, Prince Edward island และ Newfoundland ) ยังคงชิดซ้าย ต่อมา British Columbia และAtlantic provinces เปลี่ยนเป็นชิดขวาในปีคศ. 1920 เพื่อให้สอดคล้องกับแคนาดา และสหรัฐอเมริกา Newfoundland ชิดซ้าย จนถึงปีคศ.1947 และรวมเป็นแคนาดาในปีคศ.1949 ....... ในยุโรป ประเทศที่ยังขับชิดซ้าย พากันทยอยเปลี่ยนเป็นขับชิดขวา เริ่มจากโปรตุเกสที่เปลี่ยนในปีคศ.1920 การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นวันเดียวทั่วประเทศรวมถึงในอาณานิคมต่างๆ อีสต์ ติมอร์ ,อินโดนีเซีย เปลี่ยนเป็นชิดขวา แต่ได้เปลี่ยนกลับมาชิดซ้ายจากการเรียกร้องของชาวอินโดนีเซียใน1975 อย่างไรก็ตามยังคงเหลือประเทศในอาณานิคม ที่ห่างออกไปที่ไม่ได้ปฎิบัติตาม นั่นคือเหตุผลว่าทำไม มาเก๊า Goa(ปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของอินเดีย)และอาณานิคมของโปตุเกสในแอฟริกาตะวันออก ที่ยังคงเป็นแบบชิดซ้ายตามระบบเก่า .......ในอิตาลีการขับชิดขวาเริ่มในช่วงท้ายทศวรรษที่ 1890 กฎหมายทางหลวงอิตาลีฉบับแรก ถูกกำหนดในวันที่ 30 มิถุนายน1912 กำหนดไว้ว่าพาหนะทั้งหมดจะต้องขับชิดขวา อย่างไรก็ตามในบางเมืองที่มี เครือข่ายรถราง ยังอนุโลมให้จัดเดินรถชิดซ้ายได้ โดยมีสัญญาณหรือป้ายเตือนก่อนเข้าเขตเมือง ต่อมาในปีคศ.1923 การบังคับเริ่มเข้มงวด แต่กรุงโรม และทางเหนือของMilan, Turin และ Genoa ยังคงชิดซ้าย จนกระทั่งกลางทศวรรษที่ 1920 โดยคำสั่งของกระทรวงงานสังคม( Ministry of Public Works) การขับชิดขวาก็กลายเป็นมาตรฐานทั่วประเทศ กรุงโรมเมืองหลวงของอิตาลีก็เปลี่ยนเป็นชิดขวาในวันที่ 1 มีนาคม 1925 และ Milan ในวันที่ 3 สิงหาคม1926
.......ล่วงเลยมาจนถึงทศวรรษที่ 1930 สเปนยังไม่มีกฎหมายจราจรแห่งชาติ บางส่วนขับชิดซ้าย(เช่น Madrid ) บางส่วนของประเทศที่ขับชิดขวา (เช่น Barcelona ) Madrid เปลี่ยนไปเป็นชิดขวา ในวันที่ 1 ตุลาคม 1924 .......การล่มสลายของ อาณาจักรออสเตรีย-ฮังการี ที่เป็นสาเหตุที่ทำให้ไม่เกิดการเปลี่ยนแปลงใน เชคโกสโลวาเกีย ยูโกสลาเวีย และ ฮังการี ที่ยังคงเดินรถชิดซ้าย ออสเตรียเองเป็นอะไรที่เรียกว่าแปลกประหลาด ครี่งหนึ่งของประเทศขับชิดซ้ายขณะที่อีกครี่งขับชิดขวา โดยมีเส้นแบ่งพื้นที่จากผลกระทบที่เกิดจากสงครามในสมัยของนโปเลียนในปีคศ.1805 เมื่อเยอรมันรุกรานออสเตรียในปีคศ.1938, Adolf Hitler สั่งให้เปลี่ยนการจราจรจากชิดซ้ายเป็นชิดขวาทั้งหมดในชั่วข้ามคืน การเปลี่ยนแปลงสร้างความยุ่งยากสับสนเป็นอย่างมาก เพราะผู้ขับรถไม่สามารถมองเห็นป้ายจราจรส่วนใหญ่บนถนน ในกรุงเวียนนาเป็นไปไม่ได้ที่จะเปลี่ยนรถรางในชั่วข้ามคืน ดังนั้นขณะที่การจราจรอื่นๆทั้งหมดชิดขวาของถนน รถรางยังคงวิ่งชิดซ้ายเป็นเวลาหลายสัปดาห์ เชคโกสโลวาเกียและฮังการีเป็นประเทศท้ายๆบนแผ่นดินใหญ่ของยุโรปที่ขับชิดซ้าย การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นหลังจากเยอรมันเข้ายึดครองในปีคศ.1939 ....... ในห้วงเวลานั้น แนวโน้มของการขับชิดขวากำลังเติบโตขึ้นเรื่อยๆ รถอเมริกันถูกออกแบบให้ขับชิดขวา โดยมีที่นั่งคนขับและอุปกรณ์ควบคุมอยู่ทางซ้ายรถอเมริกันได้ชื่อว่าประหยัดทนทาน มีการส่งออกไปในหลายประเทศทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงกฎจราจรในหลายประเทศ เพื่อรองรับรถที่นำเข้าจากอเมริกา
.......ยิบรอลต้าที่เปลี่ยนการจราจรเป็นแบบชิดขวาในปีคศ. 1929 เนื่องจากรถส่วนใหญ่นำเข้ามาจากสเปน ซึ่งขับชิดขวา

.......ถึงแม้ว่าประเทศญี่ปุ่นจะไม่เคยตกเป็นอาณานิคมของอังกฤษ การเดินทางของชาวญี่ปุ่นเป็นแบบชิดซ้ายมาตั้งแต่โบราณ จุดกำเนิดนี้ถอยหลังไปตั้งแต่สมัยเอโดะ ประมาณปีคศ. 1603-1867 ยุคที่ซามูไรเป็นชนชั้นปกครองประเทศ เหตุผลก็เนื่องจากต้องขี่ม้าและใช้ดาบต่อสู้ แต่ไม่ปรากฎว่ามีกฎหมายบังคับอย่างเป็นทางการ จวบจนกระทั่งปีคศ.1872 ทางรถไฟสายแรกของญี่ปุ่นถูกสร้างขี้นด้วยการช่วยเหลือทางเทคนิคของอังกฤษ โครงข่ายทางรถไฟและรถรางขนาดใหญ่ถูกสร้างขี้น แน่นอนรถไฟและรถรางทั้งหมดจะขับชิดซ้ายตามแบบอังกฤษ ถึงกระนั้นญี่ปุ่นก็ใช้เวลาเกือบครึ่งศตวรรษจวบจนกระทั่งในปีคศ. 1924 การขับชิดซ้ายของประเทศญี่ปุ่นถึงจะถูกบัญญัติเป็นกฏหมาย
.......เมื่อชาวดัชท์มาถึงที่ประเทศอินโดนีเซียในปีคศ.1596 นำนิสัยการขับชิดซ้ายแบบเดิมของตนเองมาเผยแพร่ จนกระทั่งนโปเลียนที่พิชิตประเทศเนเธอร์แลนด์หลังจากนั้นชาวดัชท์ก็เปลี่ยนเป็นขับชิดขวา แต่อาณานิคมของเนเธอร์แลนด์ทั้งหลายอย่างอินโดนีเซีย สุรินัม ยังคงขับชิดซ้ายตามแบบชาวดัชท์ดั้งเดิม
....... ในประเทศจีนแผ่นดินใหญ่จนถึงปีคศ.1946 ทางตอนเหนือของจีนขับชิดขวา( ซึ่งอาจจะเป็นอิทธิพลจากรัสเซีย ซึ่งชิดขวามาตั้งแต่ปีคศ. 1920 ) ส่วนทางจังหวัดตอนใต้อย่างเช่น Guangdong ขับชิดซ้ายอาจด้วยเหตุผลในการติดต่อกับอาณานิคมของอังกฤษและโปรตุเกส อย่างเช่น Hongkong และ Macau หลังจากปีคศ.1946 จีนเปลี่ยนแปลงการเดินรถชิดขวาทั้งหมดตามอย่างสหรัฐอเมริกา จากการที่สหรัฐอเมริกามีส่วนช่วยเหลือจีนในการทำสงครามกับญี่ปุ่นระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 และรถของอเมริกันได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นในแผ่นดินใหญ่ แม้ว่าระหว่างการปฎิวัติวัฒนธรรมครั้งใหญ่ในจีนแผ่นดินใหญ่กองทัพแดงในเมืองใหญ่บางเมืองจะเกิดความคิดที่ว่าการเดินรถชิดขวาเป็นแนวคิดของพวกลัทธิขวาจัด และเสนอให้เปลี่ยนแปลงการเดินรถเป็นแบบชิดซ้าย บางคนถึงกับเสนอให้เปลี่ยนไฟแดงเป็นสัญญานให้"ไป" ไฟเขียวเป็นสัญญานให้"หยุด" แต่ว่าแนวคิดนี้สุดท้ายก็สร้างความสับสนและถูกต่อต้านอย่างหนัก จนกระทั่งต้องล้มเลิกภายในเวลาไม่กี่เดือน ปัจจุบันนี้ก็ยังมีความสับสนในการเดินทางระหว่าง Hongkong Macau กับแผ่นดินใหญ่ Hongkong Macau ยังคงขับชิดซ้ายในขณะที่แผ่นดินใหญ่ขับชิดขวา ....... ในไต้หวันการเปลี่ยนแปลงจากชิดซ้ายเป็นชิดขวาเกิดขึ้นหลังจากการปฎิวัติในแผ่นดินใหญ่ เช่นเดียวกับในเกาหลีเหนือและใต้เกิดขึ้นหลังจากหลังจากสนธิสัญญาหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ระหว่างญี่ปุ่น กับสหรัฐและโซเวียต
........ปากีสถาน เคยมีความคิดที่จะเปลี่ยนเป็นขับชิดขวาในทศวรรษ 1960 อีกด้วย แต่ภายหลังก็ตัดสินใจยกเลิก เหตุผลหลักคือเป็นการยากที่จะดัดนิสัยการเดินทางของอูฐพาหนะยอดนิยม ก่อให้เกิดอันตรายในเวลากลางคืน สุดท้ายก็ล้มเลิกความคิดในการเปลี่ยนแปลง

.......ใน Mianmar แม้ว่าจะเคยเป็นอาณานิคมของอังกฤษในอดีต รถส่วนใหญ่ใน Mianmar ขับชิดซ้าย จนกระทั่งปี คศ.1970 นายพลเนวิน สั่งให้มีการเปลี่ยนแปลงเป็นชิดขวา กล่าวกันว่าเกิดจากการแนะนำของโหร ซึ่งแนะนำว่า Move to the right มีความหมายอีกนัยว่า " เปลี่ยนไปในทางที่ถูก" แม้ว่ารถส่วนใหญ่ใน Mianmar จะเป็นรถมือสองจากไทย มาเลเซีย สิงคโปร์ ซึ่งเป็นรถพวงมาลัยขวาขับชิดซ้ายตามแบบอิทธิพลของอังกฤษและเนเธอร์แลนด์ในย่านนี้ เวลาโดยสารรถใน Mianmar เป็นเรื่องปกติที่ผู้โดยสารจะเป็นคนช่วยดูรถให้คนขับเวลาจะแซง แต่ปัจจุบันมีการนำเข้ารถใหม่ๆ จากจีนโดยเฉพาะรถหรูๆซี่งเป็นรถพวงมาลัยซ้าย
....... ไนจีเรีย อาณานิคมของอังกฤษในอดีต เดิมขับชิดซ้ายจากการที่นำเข้ารถพวงมาลัยขวาจากอังกฤษ, แต่หลังจากได้รับอิสระภาพ ไนจีเรียพยายามลบภาพการเป็นอาณานิคมของอังกฤษอย่างรวดเร็ว จึงตัดสินใจเปลี่ยนแปลงการเดินรถเป็นแบบชิดขวา
.......หลังจากสงครามโลกที่สอง ประเทศสวีเดนซึ่งเป็นประเทศท้ายๆที่ยังคงขับชิดซ้ายในแผ่นดินใหญ่ของยุโรป เริ่มเกิดแนวความคิดให้มีการเปลี่ยนแปลงการเดินรถให้เข้ากับประเทศอื่นๆในทวีปยุโรป ปัญหาคือเพื่อนบ้านทั้งหมดต่างขับชิดขวา และในสวีเดนมีถนนขนาดเล็กตามพรมแดนระหว่างนอร์เวย์ และฟินแลนด์จำนวนมากที่ยังไม่มีสัญญานเตือนการเปลี่ยนข้างของการเดินรถ ซึ่งก่อให้เกิดความสับสนและอันตราย ในปีคศ.1955, รัฐบาลสวีเดนจัดการสำรวจประชามติในการเปลี่ยนแปลงการเดินรถเป็นแบบชิดขวา ปรากฎว่าประชาชนกว่า 82.9%ไม่เห็นด้วย แต่ในที่สุดเมื่อปีคศ.1963 รัฐสภาสวีเดนก็ได้ผ่านกฏหมายเปลี่ยนแปลงการเดินรถเป็นแบบชิดขวา โดยกำหนดให้วันอาทิตย์ที่ 3 กันยายน คศ.1967 เวลา 5 นาฬิกาในตอนเช้า ชาวสวีเดนเรียกวันนี้ว่า วัน Dagen H (H-day H: ย่อมาจาก Hogertrafik แปลว่า ขับชิดขวา) ยานพาหนะส่วนตัวทั้งหมดถูกห้ามวิ่ง 4 ชั่วโมงก่อน 5 นาฬิกา แม้จะได้รับความช่วยเหลือจากกองทัพยังต้องใช้เวลาเพิ่มอีกหนึ่งชั่วโมงหลังจากเส้นตายจึงสามารถปรับย้ายสัญญาณการจราจรใหม่ได้ทั้งหมด มีการออกกฎหมายจำกัดความเร็วที่ต่ำมากเพื่อป้องกันอุบัติเหตุ ต้องใช้เวลาเกือบหนึ่งเดือนทุกอย่างจึงเข้าที่เข้าทาง
.......หลังจากประสบความสำเร็จในสวีเดน Iceland ก็เปลี่ยนแปลงเป็นขับชิดขวาตาม ในเช้าวันอาทิตย์ที่ 26พฤษภาคม ปีคศ.1968 เวลา 6 นาฬิกา โดยมีเพียงรายงานการเกิดอุบัติเหตุกับเด็กขี่จักรยานคนหนึ่ง และรถโดยสารจำนวนหนึ่งติดขัดอยู่บนถนน
.......ในทศวรรษที่ 1960 ในอังกฤษเกิดกระแสเรียกร้องให้มีการเปลี่ยนแปลงการเดินรถตามอย่างในยุโรปแผ่นดินใหญ่ แต่ก็ไม่สามารถทำได้เนื่องจากพ่ายแพ้กระแสอนุรักษ์นิยมของคนในประเทศ และที่สำคัญคือคาดว่าต้องใช้งบประมาณไม่ต่ำกว่าพันล้านปอนด์ในการเปลี่ยนแปลงทุกสิ่งทุกอย่าง สุดท้ายรัฐบาลอังกฤษก็ล้มเลิกความคิดในการเปลี่ยนแปลงจวบจนมาจนถึงปัจจุบัน
.......ทุกวันนี้ในยุโรปยังคงเหลือเพียง 4 ประเทศที่ยังคงขับรถชิดซ้าย คือ สหราชอาณาจักร, Ireland, Cyprus และ Malta

.......ในอเมริกาหลังจากประกาศอิสระภาพ มีการเปลี่ยนแปลงการเดินรถเป็นชิดขวา จากเหตุผลหลายๆอย่างเช่น ความต้องการตัดความเกี่ยวข้องกับจักรวรรดิอังกฤษ รวมทั้งการที่ได้รับอิทธิพลจากฝรั่งเศสจากการช่วยเหลือในสงครามประกาศอิสระภาพ กฎหมายเดินรถชิดขวาปรากฎครั้งแรกในปีคศ.1792 รถอเมริกันในสมัยแรกๆ ยังคงที่นั่งคนขับไว้ด้านขวา ตามแบบรถเทียมม้าอังกฤษเดิม การเปลี่ยนแปลงเริ่มต้นเมื่อช่วงต้นของศตวรรษที่ 20 Ford ย้ายที่นั่งคนขับสำหรับรถที่ผลิตไปทางซ้าย ในปีคศ.1908 และ Cadillac ในปีคศ.1916 ปัจจุบันยังเหลือดินแดนที่อยู่ในอาณัติของสหรัฐ ที่ยังคงขับชิดซ้ายคือ U.S. Virgin Islands
.......แม้ว่าการเปลี่ยนแปลงการเดินรถในโลกจะเป็นการเปลี่ยนแปลงจากชิดซ้ายเป็นชิดขวา แต่มีอยู่ไม่กี่แห่งที่เปลี่ยนแปลงจากชิดขวาเป็นชิดซ้าย คือ ที่โอกินาวา Okinawa ซึ่งขับชิดขวาตามแบบสหรัฐอเมริกาเปลี่ยนเป็นขับชิดซ้ายตามแบบญี่ปุ่นในวันที่ 30 กรกฎาคมปีคศ.1978 หลังจากกลับไปอยู่ในอาณัติของญี่ปุ่น ใน East Timor เปลี่ยนจากชิดขวาเป็นชิดซ้ายตามแบบ Indonesia ในปีคศ. 1976 และยังคงไว้แม้ว่าจะประกาศอิสระภาพแล้ว หมู่เกาะ Channel Islands เปลี่ยนจากชิดซ้ายเป็นชิดขวาหลังจากถูกยึดครองโดยเยอรมัน แต่เปลี่ยนกลับมาเป็นขับชิดซ้ายเหมือนเดิมในปีคศ.1945
 ประเทศที่ขับรถชิดซ้าย ในปัจจุบัน 1. Anguilla 2. Antigua and Barbuda 3. Australia 4. Bahamas 5. Bangladesh 6. Barbados 7. Bermuda 8. Bhutan 9. Botswana 10. Brunei 11. Cayman Islands 12. Christmas Island (Australia) 13. Cook Islands 14. Cyprus 15. Dominica 16. East Timor 17. Falkland Islands 18. Fiji 19. Grenada 20. Guernsey (Channel Islands) 21. Guyana 22. Hong Kong 23. India 24. Indonesia 25. Ireland 26. Isle of Man 27. Jamaica 28. Japan 29. Jersey (Channel Islands) 30. Kenya 31. Kiribati 32. Cocos (Keeling) Islands (Australia) 33. Lesotho 34. Macau 35. Malawi 36. Malaysia 37. Maldives 38. Malta 39. Mauritius 40. Montserrat 41. Mozambique 42. Namibia 43. Nauru 44. Nepal 45. New Zealand 46. Niue 47. Norfolk Island (Australia) 48. Pakistan 49. Papua New Guinea 50. Pitcairn Islands (Britain) 51. Saint Helena 52. Saint Kitts and Nevis 53. Saint Lucia 54. Saint Vincent and the Grenadines 55. Seychelles 56. Singapore 57. Solomon Islands 58. South Africa 59. Sri Lanka 60. Suriname 61. Swaziland 62. Tanzania 63. Thailand 64. Tokelau (New Zealand) 65. Tonga 66. Trinidad and Tobago 67. Turks and Caicos Islands 68. Tuvalu 69. Uganda 70. United Kingdom (England, Wales, Scotland and Northern Ireland) 71. Virgin Islands (British) 72. Virgin Islands (US) 73. Zambia 74. Zimbabwe
ประเทศที่ขับรถชิดขวา ในปัจจุบัน 1. Afghanistan 2. Albania 3. Algeria 4. American Samoa 5. Andorra 6. Angola 7. Argentina 8. Armenia 9. Aruba 10. Austria 11. Azerbaijan 12. Bahrain 13. Belarus 14. Belgium 15. Belize 16. Benin 17. Bolivia 18. Bosnia and Herzegovina 19. Brazil 20. British Indian Ocean Territory (Diego Garc?a) 21. Bulgaria 22. Burkina Faso 23. Burundi 24. Cambodia 25. Cameroon 26. Canada 27. Cape Verde 28. Central African Republic 29. Chad 30. Chile 31. China, People's Republic of (Mainland China) 32. Colombia 33. Comoros 34. Congo 35. Congo (former Republic of Zaire) 36. Costa Rica 37. Croatia 38. Cuba 39. Czech Republic 40. Denmark 41. Djibouti 42. Dominican Republic 43. Ecuador 44. Egypt 45. El Salvador 46. Equatorial Guinea 47. Eritrea 48. Estonia 49. Ethiopia 50. Faroe Islands (Denmark) 51. Finland 52. France 53. French Guiana 54. French Polynesia 55. Gabon 56. Gambia, The 57. Gaza Strip 58. Georgia 59. Germany 60. Ghana 61. Gibraltar 62. Greece 63. Greenland 64. Guadeloupe (French West Indies) 65. Guam 66. Guatemala 67. Guinea 68. Guinea-Bissau 69. Haiti 70. Honduras 71. Hungary 72. Iceland 73. Iran 74. Iraq 75. Israel 76. Italy 77. Ivory Coast 78. Jordan 79. Kazakhstan 80. Korea, Democratic People's Republic of (North Korea) 81. Korea, Republic of (South Korea) 82. Kuwait 83. Kyrgyzstan 84. Laos 85. Latvia 86. Lebanon 87. Liberia 88. Libya 89. Liechtenstein 90. Lithuania 91. Luxembourg 92. Macedonia 93. Madagascar 94. Mali 95. Marshall Islands 96. Martinique (French West Indies) 97. Mauritania 98. Mayotte (France) 99. Mexico 100. Micronesia, Federated States of 101. Midway Islands (USA) 102. Moldova 103. Monaco 104. Mongolia 105. Morocco 106. Myanmar (formerly Burma) 107. Netherlands 108. Netherlands Antilles (Cura?ao, St. Maarten, St. Eustatius, Saba) 109. New Caledonia 110. Nicaragua 111. Niger 112. Nigeria 113. Northern Mariana Islands 114. Norway 115. Oman 116. Palau 117. Panama 118. Paraguay 119. Peru 120. Philippines 121. Poland 122. Portugal 123. Puerto Rico 124. Qatar 125. R?union 126. Romania 127. Russia 128. Rwanda 129. Saint Barth?lemy (French West Indies) 130. Saint Martin (French West Indies) 131. Saint Pierre and Miquelon (France) 132. Samoa 133. San Marino 134. Sao Tome e Principe 135. Saudi Arabia 136. Senegal 137. Serbia and Montenegro 138. Sierra Leone 139. Slovakia 140. Slovenia 141. Somalia 142. Spain 143. Sudan 144. Svalbard (Norway) 145. Sweden 146. Switzerland 147. Syria 148. Taiwan 149. Tajikistan 150. Togo 151. Tunisia 152. Turkey 153. Turkmenistan 154. Ukraine 155. United Arab Emirates 156. United States 157. Uruguay 158. Uzbekistan 159. Vanuatu 160. Venezuela 161. Vietnam 162. Wake Island (USA) 163. Wallis and Futuna Islands (France) 164. West Bank 165. Western Sahara 166. Yemen
แปลโดย " ผมเอง " ข้อมูลจาก "Wikipedia" "//users.pandora.be"
Create Date : 16 เมษายน 2550 |
|
11 comments |
Last Update : 18 เมษายน 2550 11:03:57 น. |
Counter : 3360 Pageviews. |
|
 |
|
|
| |
โดย: pinestand IP: 202.91.18.192 16 เมษายน 2550 21:13:27 น. |
|
|
|
| |
โดย: pinestand IP: 202.91.18.192 16 เมษายน 2550 21:17:32 น. |
|
|
|
| |
โดย: Banky IP: 124.121.57.211 16 เมษายน 2550 21:33:12 น. |
|
|
|
| |
โดย: ตามมาอ่าน IP: 218.28.178.242 16 เมษายน 2550 23:57:50 น. |
|
|
|
| |
โดย: Im onair IP: 203.146.63.185 17 เมษายน 2550 1:03:20 น. |
|
|
|
| |
โดย: B12nismo IP: 136.8.1.100 17 เมษายน 2550 13:06:06 น. |
|
|
|
| |
โดย: banjo IP: 222.123.146.115 17 เมษายน 2550 16:13:49 น. |
|
|
|
| |
โดย: e20dku IP: 61.19.52.58 18 เมษายน 2550 11:21:13 น. |
|
|
|
| |
|
|
จขบ. ก็ขยันแปลมากๆเลย
ปล. ลูกชายน่ารักดีค่ะ....เอ่อ...แต่มีโตกว่านี้มั้ยคะ