'Coz Beauty is an Amusement!!
Group Blog
 
All Blogs
 

Makeup Palette ~~**สวยจบครบเครื่อง**~~

กลับมาแล้วค่า....

ลาคลอดไปพักนึง...
ตอนนี้เลี้ยงลูกหัวฟูอยู่...

ตอนท้องเราว่าเหนื่อยแล้ว พอเจ้าตัวเล็กมันโผล่ออกมา อันนี้เหนื่อยของจริงอ่ะ

หลังคลอดเนี่ย..แม่ๆเค้าก็มีภาวะ Baby Blue กันนะ เราก็มีเหมือนกัน ดังนั้นทางออกที่จะไม่ให้ภาวะ Baby Blue มาครอบงำได้นั่นคือ...Shopping Therapy....555


ช่วงงมเลี้ยงลูกหน้ามันอยู่ก็แอบเอาเวลานอน(อันสุดจะน้อยนิด)มาช้อปๆๆๆๆกระจาย เอาให้หายเครียด และผลที่ได้คือเอนทรีนี้แหละ...มาดูกันเร้ย...หุ..หุ..

Pixi Wakeup Kit
พาเลตสีสวยหวานจากเมืองผู้ดี ขยันทำ Limited ออกมาเหลือเกิน
ในที่สุดก็อดใจไม่ไหว ได้พาเลตบิ๊กไซส์อันนี้มา


ต่อมา...
ก็ยังเป็นแบรนด์เดิม Pixi แต่อันนี้เป็น Eyeshadow สีสันอลังการมากๆ




ฺBobbi Brown Shimmer Palette
สีเห็นตลับสวยมากๆ มีแปรงมาให้ในกล่องด้วย
แต่พอทาจริงๆแล้วเราว่าสีไม่ค่อยชัดเท่าไหร่
ทาออกมาแล้วเหมือนๆกันทุกสีเลย




Stila Light Up the World Eyeshadow Palette
Palette ทาตาสีสวยๆที่เนื้อนิ่มไปนิด ทำให้เกลี่ยค่อนข้างยาก
แต่ติดทนมากๆ ดังนั้นเบามือเวลาทาจะดีที่สุด




NYX Nude on Nude Palette
พาเลตนี้มีหลายคนรีวิวิว่าโทนสีเทียบเคียง Urban Decay Naked Palette
และเรารู้สึกว่า Naked Palette ราคาเกินตัวไปหน่อย ถึงแม้เรื่องคุณภาพสี
และความคมชัดของเนื้อ eyeshadow จะขึ้นชื่อก็เหอะ
พาเลตนี้ก็ดูเหมือนจะคุ้มด้วยจำนวนสีและมีลิปมาให้ด้วย


POP Beauty Pretty Puzzle Palette * Smoked Out Silver
พาเลตขนาดน่าเอ็นดูจากแบรนด์เมืองผู้ดีอีกอันที่ดูสีสันน่าใช้
และดูหลากหลายคุ้มค่า
เรื่องเนื้อสีและความติดทนถือว่าดีทีเดียว


E.L.F Day to Night Beauty-on-the-go Palette
พาเลตนี้เป็น Limited จากช่วงปลายปีนี้ 2011
พาเลตคุ้มๆที่แบ่งเป็น 2 เฉดไว้ใช้กลางวันและกลางคืน(ตามชื่อพาเลตเลย)
ลูกเล่นคือใช้ตลับนอกเดียวกัน โดยสามารถงัดเปลี่ยนไส้ในได้อย่างเก๋ไก๋


แถมท้ายด้วย L.A.Colors eyeshdow palette แบบ 6 สี
อันนี้จัดเต็มเหนี่ยว เพราะเหมามาครบทุกสีี่มี
เนื้อ eyeshadow คุณภาพดีและคุ้มเกินราคามากๆ





 

Create Date : 23 ธันวาคม 2554    
Last Update : 23 ธันวาคม 2554 21:08:23 น.
Counter : 3737 Pageviews.  

*+*Lipstick Jungle: L.A. Colors ปะทะ Jordana สวยประหยัดจัดให้*+*

ยัง...ยังไม่คลอดเยยอ่ะ...

น้ำท่วมก็ใกล้บ้านมาทุกที...ไม่รู้ว่าเจ้าจิ๋วในท้องอยากคลอดบรรยากาศบนเรือ(พาย)รึยังงัยนะ...

ระหว่างรอคลอด(ทำยังกะรอคิวธนาคาร) มารีวิวอะไรดีฝ่า..555....

ช่วงที่ไปไหนไม่ค่อยไหวเนี่ย ก็ได้มีนิสัยเสียในการ shopping online แบบข้ามประเทศไปโลด
รีวิววันนี้ก็จะเป็น Lipstick แบรนด์บ้านๆจาก USA ที่เราสั่งมาจากเว็บ Cherry Culture

จะบอกว่าตั้งแต่ลองซื้อของผ่านเว็บนอกมาเนี่ย เว็บนี้ระทึกใจสุดๆ คือ...
Tracking Status เป็น "In Process" นานมว๊าก...มันคือขั้นตอนแพ๊คของเตรียมส่งโดยใช้เวลาจากที่กดสั่งไปแล้ว 8 วัน แพ๊คของนานที่สุดในโลก

ส่วนระยะเวลาที่ส่งคือ Status "Completed" ก็ใช้เวลาก็อีก 8 วัน ช้าสุดๆอ่ะ คราวที่สั่งแปรง Sigma ใช้เวลาส่ง 4 วันเอ๊ง...

บ่นเยอะไปละ... มาดูกันโลด

เริ่มจาก....L.A. Colors Lipstick



สั่งมาได้ 3 สี (จริงๆได้มาเยอะกว่านี้ แต่นายแม่มาจกสีที่เธอโปรดไปก่อนหน้านี้แล้ว)



มาดูสีที่ Swatch ลงบนแขนเหี่ยวๆกัน



Copper สีทองประกาย shimmer อมส้ม หน้าสว่างมาก
Matte Caramel Cream สีโทนนู๊ดอมชมพู สุภาพสุดชีวิต
Matte Purple Passion อันนี้ทาแล้วเด้งดี สีชมพูบานเย็นหวานๆจิกๆ

Lipstick ของ L.A.Colors เนี่ย..เม็ดสีค่อนข้างเยอะ ทาออกมาไม่ต่างจากที่เห็นในแท่งนัก และไม่เป็นคราบเท่า NYX
แต่ความป๊องแป๊งของ Package ก็อย่างที่เห็นค่ะ ไม่แย่ซะทีเดียวแต่ก็ไม่ได้สวยมาก และตัวลิปหมุนลงได้สุดเท่าืที่เห็นในรูปนะคะ คือถ้าใช้ไม่บ่อยนัก ลิปยังไม่กุดลงไปต้องระวังเวลาปิดฝาค่ะ เดี่ยวมันจะเฉี่ยวเอาเนื้อลิปให้เป็นรอยหรือหักให้เจ็บใจเอาง่ายๆ...หุ..หุ..


มาต่อกันที่ผู้ท้าชิง...

Jordana Lipstick



ไม่ต้องแปลกใจที่ package เหมือนกันยังกะแกะ ต่างกันที่ยี่ห้อ
ก็มันเป็นแบรนด์ราคาย่อมเยาว์ที่ USA อ่ะ อย่าคาดหวังเรื่อง Design อะไรมาก เราดูคุณภาพเนื้อลิปเป็นหลักจ้า...



ปาดสีดูซักกะหน่อย เนื้อสีเบาๆอ่ะ...



Lipstick ของ Jordana เนื้อสีค่อนข้างบางค่ะ
อาจจะเป็นเพราะสีที่เราสั่งมันเป็น Shimmer นิดๆนะ ไม่แน่ใจว่าถ้าเป็นสี Matte และสีเข้มๆ เม็ดสีจะแน่นกว่านี้รึเปล่า
ทางแล้วปากไม่แห้งค่ะ แต่ก็ต้องเติมระหว่างวัน(กินทั้งวันก็หายไปเรื่อยๆ)เป็นปกติ
ส่วนตัวแล้วถือว่าโอเคค่ะ

ด้วยราคาที่ต่ำเตี้ยเรี่ยดินของทั้ง 2 แบรนด์นี้ คือราคาแท่งละประมาณ $2-$3 (ราคาปกติ) แต่ถ้าโปรในเว็บบางที่ราคาไปถึง $1.5 เลยแหละ ถู๊ก....กูก...ซื้อแบบไม่ต้องคิดมาก
ก็ทำให้เรารู้สึกว่าไม่เสียดายตังค์เพราะคุณภาพมันใช้ได้เลยเมื่อเทียบกับราคา (กรุณาอย่าไปเทียบกับ M.A.C หรือ NARS นะคะ จ่ายเท่าไหร่ได้เท่านั้นจ้า...)

แต่ก็คำนวนค่าส่งก่อนกดสั่งดีๆเด้อ ดีไม่ไดีค่าส่งค่าภาษีแพงกว่าค่าของอีก...555




 

Create Date : 24 ตุลาคม 2554    
Last Update : 24 ตุลาคม 2554 20:44:27 น.
Counter : 1201 Pageviews.  

SLEEK Make Up**~~ Sleek me, Sleek my looks ;)

ห่างหายไปนานมว๊าก.... เนื่องจากมีน้องจ้า...

ก็แพ้ท้องอย่างบ้าคลั่ง ดูทีวีก็เวียนหัว จ้องคอมพ์นานก็หน้ามืด
เอาเป็นว่าจะให้มารีวิวอะไรนี่หมดสิทธิ์เลย

ตอนนี้ 8 เดือนแล้ว ไหนก็ใกล้คลอด ก็เลยคลอดรีวิวออกมาแก้เหงาซะหน่อยอ่ะ

เข้าเรื่องๆ...
Sleek Make Up คสอ.สัญชาติ UK (แต่ Made in Taiwan) ที่เป็นเนื้อแบบ Mineral แบบใช้สะดวก ไม่หกเลอะเทอะเหมือนแบบผง

ส่วนตัวเราชอบ Mineral Make up นะ เพราะรู้สึกว่าติดทน และไม่ระคายเคืองดี ก็เลยสอยมาลองซะ

เราสั่งมาทั้งแบบหิ้วและลองเสี่ยงสั่งจาก web ของ Sleek โดยตรงและพบว่า...

แบบหิ้วต้องสั่งที่มีสต๊อกอยู่แล้ว จะได้ของไว ราคาบวกเยอะเพราะอย่างบลัชราคาหน้าเว็บแค่ $6.50 เอง แต่ราคาหิ้วเนี่ย 399-490 บาทเชียว

ส่วนบางร้านที่รับหิ้วแต่เป็นแบบพรีออเดอร์ ก็รอไปเลย 10-15 วัน ชิวๆ..เพราะเค้าจะสั่งผ่าน agent ซึ่งต้องมีระยะเวลาเคลียร์ภาษีด้วย..น๊าน..นาน..


แบบสั่งตรง เร้าใจมากๆ เพราะติดต่อ Tracking อะไรไม่ได้เลย
อีเมล์ไปหาใครตามที่แจ้งหน้าเว็บก็ไม่มีแมวที่ไหนตอบมา
เค้าแจ้งว่าจะชาร์จบัตรเครดิตในวันที่ dispatch ของออกมา...
เราสั่งวันที่ 2 ก.ย.แล้วก็เงียบฉี่...
จนวันที่ 8 ก.ย.ถึงจะมีอีเมล์แจ้งว่าส่งของออกมาแล้วนะ..แล้วก็...เงียบฉี่...
และแล้วพัสดุก็มาถึงวันที่ 13 ก.ย.ซึ่งรวดเร็วมากๆ ..โอ้ว..โล่งใจ
อ้อ...ค่าจัดส่งอีก $13.50 นะ เพราะฉะนั้ันถ้าจะสั่ง 1-2 ชิ้น ไม่น่าจะคุ้ม....แต่...
ถ้าสั่งเยอะ...ก็ต้องระวังเรื่องภาษีด้วย อันนี้ของเราไม่โดน เข้าใจว่ามูลค่าไม่เกิน

อ่ะ...อ่ะ...มาดูดีกว่าว่าจกอะไรมาได้บ้าง


จัดมา 4 สีที่น่าสนใจ



Coral --> สีโทนส้มน้ำตาล เนื้อMatt เราว่าปัดออกมาอมส้มบ่มแดดนิดๆ สวยดี... แต่...ไม่เห็นรู้สึกว่าเป็นสีประการังเลยอ่ัะ

Rose Gold ---> อันนี้เข้าใจว่าเป็นสียอดฮิตแน่ๆ เพราะเป็นสีโทนส้มชมพูอมทองแบบที่สาวๆต้องมีติดไว้กันพลาด
คืดปัดยังไงก็ไม่พลาด ได้สีแก้มโกลว์ๆ วาวๆ สวยดีค่ะ ก็...ประมาณ Orgasm ของ NARS นั้นแหละโน๊ะ..

Santorini --> สีนี้เป็นชมพู Fuchsia จัดหนักสุดในบรรดาสีชมพูของ Sleek เวลาเกลี่ยบนแก้มแล้วรู้สึกว่าเม็ดสีเหลืองเยอะค่ะ
ผิวเราเป็น undertone ชมพู เลยปัดแล้วหมองๆยังัยไม่รุ.. คนอื่นปัดแล้วสวยอ่ะ...ทำไมเราปัดออกมาแล้วมันตุ่นๆหว่า..

Scandalous ---> สีแดงเข้มน่าอันตรายมากๆ เข้าข่าย Exhibit-A จาก NARS เช่นกัน...ตอนแรกว่าจะสอย EX-A นะ แต่มาเจออันนี้
ระหว่างทาง ราคาย่อมเยาว์กว่าเยอะ เลยสอย sleek มาลองก่อน แต่ทว่า...เม็ดสีไม่เข้ากับผิวเราเท่าไหร่ ออกมาไม่แจ่มเหมือนคนอื่นรีวิวอ่ะ....มันไม่ดูเป็นแก้มแดงสุขภาพดี...แต่เหมือนแก้มช้ำอ่ะ...ผิวอะไรของช้าน..เนี่ย...

สรุปว่าเนื้อ blush ดีมากๆ อันนี้เราชอบเพราะติดค่อนข้างทน อ้อ...เราผิวผสมเจ้า..
แต่เรื่องโทนสีว่าจะเข้ากับผิวใครได้ดีเนี่ย...ต้องลองปาดๆเองค่ะ
เนื้อสีเข้มและจัดหนักทุกสีค่ะ คือเม็ดสีแน่นมากๆ
สี Santorini กับ Scandalous เนื่ย ต้องแตะเบามือมากๆนะคะ ถ้าจิ้มแรงแล้วปาดบนแก้มเนี่ย...ตูดลิงมาเยี่ยมเลยแน่ๆ
ข้อดีคือ ประหยัดทีเดียว แตะให้ตายก็ไม่พร่อง คงใช้ได้น๊าน..นานเชียว...



คิวต่อมาเป็น
Sleek Divine Eyeshadow Palette

เราสอยสีที่น่าจะได้ใช้มา 2 อัน
สีที่เข้ารอบเลือกมาลองคือ The Original กับ Oh So Special
ดูแล้วเรียบๆ แต่น่าจะใช้ได้บ่อยๆค่ะ

แบบว่า....ยังไม่ได้ลองปาดอ่ะ... ยังไล่ใช้ eyeshadow ของอันอื่นๆที่สอยมาไม่ครบ ตัวนี้อยู่ในคิว... แต่ถ้าลองแล้วจะรีบมา update ด่วนจี๋จ้า...



สีอื่นๆยังดูๆอยู่เพราะเค้าดังสีโทน Smoky อ่ะ
เห็นสาวๆชอบประมาณ Bad Gril กับ Strom อ่ะค่ะ
แต่เราทาสี Smoke มากๆไม่ได้ เราตาโปน......ทีเดียว
ยิ่ง Smoke แบบไม่ได้โอกาสจะน่าสยองมากกว่าเซ็กซี่...




ดูแบบซูมๆนะคะ...


The Original ---> โทนใช้ง่ายครอบจักรวาล กันตาย...555 สีที่เห็นใน Palette ชัดเจนและไม่เป็นฝุ่นกระจุยกระจายเหมือนบางแบรนด์ที่พอมาถึงมือแล้วเลอะไปหมด


Oh So Special ---> เราว่าโทนนี้ดูเป็นทางการดีและสุภาพเป็นการเป็นงานใช้ได้ แต่นู๊ดๆได้สบายๆ หรือจะแอบ smoky ก็ยังมีโอกาสทาได้ paletteนี้ ราคาสูงกว่า Palette ๆปกติประมาณ $2 ค่ะ

SLEEK เป็นแบรนด์ที่น่าจะมาแรงได้ถ้ามี agent ดีๆกระจายสินค้าให้ทั่วถึง แต่ราคาต้องไม่โหดร้ายนะ
เพราะตอนนี้แบรนด์ราคาน่ารักอย่าง E.L.F ก็มาตีตลาดไทยอย่างเมามันส์และครองใจสาวๆไปมากโขแล้ว

และ Sleek มีอีกหลาย item ที่น่าสนใจ แต่เรายังไม่ได้สอย อย่าง Lip Pot และ Lipstick ก็สีสวยค่ะ
ติดที่ว่าขอใช้ของในกรุที่มีให้พร่องก่อนดีกว่า เดี๋ยวจะถูกฝังลืม..หุ..หุ...




 

Create Date : 20 กันยายน 2554    
Last Update : 20 กันยายน 2554 18:22:40 น.
Counter : 4563 Pageviews.  

So sick of my oily eye lid...">_<"" ได้เวลากำราบเปลือกตามัน

ล่วงเลยมาเป็นเดือนกว่าจะได้เข้ามาอัพบล๊อกตัวเอง
เลยปีใหม่มาหน่อยก็งานท่วม ไม่ได้โงหัวจากงานเยย...แง้...

พอปั่นงานได้ซักครึ่งทางก็ขอเงยหน้ามาทำไรอย่างอื่นบ้าง..(จริงๆแวบมานอกเรื่อง)

เอาหล่ะ...ไม่เสียเวลาดีกว่า บล๊อกนี้ไปจกเอาพวก Eye primer มาเล่นดู

เราเป็นคนนึงที่เปลือกตามันมากๆๆๆ(จริงๆมันคือสืบเนื่องมาจากหน้ามันนั่นแหละ) และก็ปัญหาการแต่งตาสารพัดก็ตามมา
ทั้งอายไลน์เนอร์แพนด้า มาสคาร่าก็แพนด้า อายแชโด์สีเพี้ยน(เวลาเจอเหงื่อ)แถมเลือนเละเทะ อย่างหาที่เปรียบไม่ได้

ตอนแรกๆก็โปะแป้งฝุ่นลงเปลือกตาก่อนจะทำอะไรๆๆก็ว่าไป
แต่รู้สึกว่าช่วยได้ในระดับนึงเท่านั้น เพราะมันไม่ได้ทำให้อายแชโดว์ติดทนขึ้น
แต่อาจจะช่วยให้เปลือกตามันช้าขึ้นบ้าง
แต่ความกริบอะไรต่อมิอะไรที่โบกไว้มันก็เลือนช่วงไม่กี่ชั่วโมงต่อมาอยู่ดี

ก็เลยเริ่มมาลองใช้พวก Eye primer โดยจุดประสงค์หลักในตอนแรกคือ...
ไม่อยากให้อายไล์เนอร์เลอะเบ้าตา(ซึ่งตอนอากาศร้อนมากๆแล้วมันจะเลอะเบ้าตาเป็นเส้นเลย น้องสาวบอกว่าเหมือนป้าแชร์มากๆ... พระเจ้า..!!!)

พอใช้ไปซักพักเริ่มติดใจ มาทาอายแชโดว์บ่อยขึ้น เพราะทำให้ลงอายแชโดว์สนุกขึ้น และเบลนได้สีเป๊ะมากๆแบบว่าลื่นดี

มาดูรวมๆก่อนว่ามีอะไรผ่านมือ(เหี่ยวๆ)ของเรามาบ้าง



มีไม่กี่แบรนด์ แต่ของ E.L.Fเป็นแบรนด์ราคาย่อมเยาว์และเป็นหนึ่งในแบรนด์โปรดของเรา ก็เลยสามารถสอยมันทั้ง 3 รุ่นที่เค้ามีเอามาประชันกัน

ดูไล่ไปทีละหน่วยเล้ย...


E.L.F Eyelid Primer
อันนี้เป็นรุ่นเบสิค $1 ราคาน่าคบ
แพคเกจของเค้ามาในแพงกระดาษแบบแขวนได้(แกะแล้วเหวี่ยงทิ้งไปแว้ว..) ดู minimal ดี



E.L.F Mineral Eyeshadow Primer
รุ่นนี้เป็นแบบ Mineral ในราคา $3 (ก็ยังย่อมเยาว์อยู่ดี) และเป็นรุ่นที่คนเลือกใช้เยอะกว่าอันข้างบน เนื้อมันลื่นกว่า แต่เดี๋ยวไปดูรีวิวรวมๆเลยดีกว่า



E.L.F Eye Primer & Liner Sealer
อันนี้ได้ลองน้อยสุด คือยังไม่ได้ลองด้าน Sealer เลย แต่ที่แน่ๆเนื่อไม่เหมือน 2 แท่งข้างบนอย่างสิ้นเชิง เนื้อค่อนข้างบางและลื่นกว่ามาก



ตัวแม่ Urban Decay Eyeshadow Primer Potion สี Eden
เป็นตัวแม่ในวงการ eye primer ที่่สาวๆพูดถึง แต่ไม่ใช่รุ่น Original
เราเลือกใช้รุ่นนี้เพราะเป็นเนื้อ Matte ในแบบที่น่าจะแก้ปัญหาเปลือกตามัน
ได้ตรงจุดกว่ารุ่น original
รุ่น origianl (ขวดม่วง) จะเน้นเรื่องการติดทนของสีอายแชโดว์และเนื้อบางเบามากกกว่า
แต่ Edenทั้งทำให้อายแชโดว์ติดทนและให้สีเปลือกตาดูนู๊ดๆ และยังพรางริ้วรอยบนเปลือกตาได้ดีกว่า
แพคเกจดูอีเดนมากๆ เสือสิงกระทิงแรดกระจายกัยอยู่รอบๆกล่อง อืม...ได้บรรยากาศดี



Victoria's Secret Lasting FX Eyeshadow Primer
อันนี้เป็นรุ่นที่แล้วของ VS ตอนี้รู้สึกว่าตัวหลอดจะเปลี่ยนเป็นสีเงินๆแล้วอ่ะ
แต่เข้าใจว่าเนื้อ Primer ยังเหมือนเดิม
ตัวหลอดดูเรียบง่ายมากๆ ไม่น่าเชื่อว่าเป็นของ VS พาลให้นึกถึงแบรนด์ Kiehl...555 คนละเรื่องเลย



Lime Crime Candy Eyed Eyeshadow Helper
แบรนด์นี้เราก็เพิ่งเคยเห็นอ่ะ แบบว่ามีแม่ค้าร้านนึงเค้าหิ้วมาขาย
เราว่าดูน่าสนใจดูและราคาก็กลางๆ (จำไม่ผิด $17 นะ ยังไม่รวม TAX)
สีกระปุกน่ารักดีด้วย
เล่าให้ฟังนิดนึงว่า เราลองเข้าไปดูสินค้าของแบรนด์นี้ยังไม่หลากหลายมาก แต่ที่โดดเด่นคือลิปสติก
เค้าทำออกมาสีแบบไม่ธรรมดาเลย คนที่สีแบบ MAC Lady GaGa หรือสีม่วงลาเวนเวนเดอร์ก็น่าจะโดนเลย

คราวนี้มาลองปาดๆดูเนื้อแต่ละตัวกันน้า...

ไม่ต้องงง..เราปาดอันที่ 4 กับ 5 สลับกันอ่ะฃ
แปะรูปใหญ่ให้ดูชัดๆอีกทีค่ะ..


อันนี้คือปาดหลายรอบหน่อยนะ เพราะบางอันบาดรอบเดียวไม่สามารถเห็นสีเนื้อ primer ได้
E.L.F Eyelid Primer--> เนื้อแห้งเร็วมาก แห้งแล้วคล้ายเนื้อแป้งเนียนๆ แต่ติดทนกลางๆ ถ้าไว้กันไลน์เนอร์เลยเฉยๆ ตัวนี้ก็พอ

E.L.F Mineral Primer--> เนื้อบางเกลี่ยลื่น แห้งช้ากว่าอันบนหน่อยนึง แต่เนียนดีสมเป็น mineral

E.L.F Primer & Sealer--> เนื้อคล้ายเนื้อครีมในรูปแบบแท่ง ใช้สะดวกดี เกลี่ยไม่ยากแต่ก็ไม่ง่ายเท่า mineralตัวบน ส่วน coverage ดีเลย

Urban Decay -->เนื้อสีออกเหลืองเลย แต่ปาดแล้วเกลี่ยลื่นมากๆ coverage เยี่ยม แห้งไวปานกลาง

vs Lasting FX --> เนื้อบางมากคล้าย moisturizerบางยี่ห้อที่มีสีเนื้อ แต่ให้ความรู้สึกว่าหนึบกับผิวดี น่าจะจับสี eyeshadow ได้แน่น แห้งช้านิดนึง

Lime Crime -->เนื้อบางเกลี่ยลื่น แนะนำว่าต้องลงอายครีมบนเปลือกตาก่อนลง primer ตัวนี้ ไม่งั้นเกลี่ยยากหน่อย มันแห้งไว แต่กริบดี


คราวนี้ก็มาลองทาทับ eyeshadow ดูบ้างว่าสีและ finish ที่ออกมาต่างกันแค่ไหน

โดยคราวนี้ eyeshadow รับเชิญจาก NARS เจ้า...
ใช้สีเดียวด้านซ้ายจาก Kalahari


เราปาด Primer แต่ละอันให้หนากว่าปกติเล็กน้อย จะได้เห็นความแตกต่างของแต่ละอันชัดขึ้น

E.L.F Eyelid Primer--> สีออกมาอ่อนเพราะเราปาดprimerหนา แล้วเน้นมันแห้งไวไปนิด ทำให้ eyeshadow ลอยออกมาเป็นสีอ่อนลง แต่ดูละเอียดทีเดียว

E.L.F Mineral Primer--> อันนี้เนื้อบางกว่าอันบนแต่เหลวกว่า แต่ได้finishที่ลอยน้อยกว่าอันบน แต่สีอ่อนลงใกล้เคียงกัน

E.L.F Primer & Sealer--> อันนี้แปลกดัเพราะมันเป็นแท่งแต่ปาดออกมาดูเหลวกว่าที่คิด พอทา eyeshadow ทับก็ดูสว่างและเนียนดีเลย

Urban Decay -->อันนี้แห้งไวมากพอปาดลงผิว แต่ขับสีให้เรืองรองมากๆ และหนึบกับผิวดีจริงๆ

vs Lasting FX --> เนื้อ primer บางจนไม่คิดว่าจะทำอะไรได้ แต่มันก็สามารถนะ ขับเม็ดสีชัดเจนใช้ได้

Lime Crime --> เนื้อ primer ในกระปุกเหลวกว่าที่คิดเช่นกัน แต่ก็แห้งเร็วดี ทำให้เม็ดสีeyeshadowที่ชัดสุดๆ คือเข้มข้นและเนียนมากๆ



คราวนี้ลองคิดว่าถ้าสาวๆใช้ Primer แล้วเดินตากฝนล่ะ...(ทำมิวสิควีดีโออกหักรึงัย....เป็นหวัดตายเลย...)

เพื่อดูคุณสมบัติกันน้ำนะ...เอ้า...เล่นน้ำกันหน่อย


แต่ละอันก็ไม่ค่อยละเทือนน้ำกันเท่าไหร่
ยอดเยี่ยมไปเลย...




คราวนี้...ลองปาดดูหลังโดนน้ำ
แบบว่า...สมมติว่าสาวๆตากฝนแล้วเช็ดตัวงัย...(เอ็งเพ้อเจ้อมากๆ...แต่เอาวะ..)


เอ้า...ปาด...ซักที่..สองที



ก็...อย่างที่เห็น...
ตัวแม่ Urban Decay ก็ยังครองแชมป์อยู่
แต่อันอื่นก็ถือว่าหนึบดีใช้ได้พอๆกัน Lime Crime ก็ไม่เลวเลย
ในขณะที่ถ้าเราไม่ได้ทา Primer สงสัยเปลือกตาโล้นไปแล้ว

เอาหล่ะ...ก็หวังว่าใครที่มีปัญหาอย่างเราก็น่าจะลองหามาใช้แก้ปัญหาดูนะคะ
เผื่อถูกใจก็ประหยัดเวลาแต่งหน้าและมั่นใจขึ้นเยอะค่ะ





 

Create Date : 11 กุมภาพันธ์ 2554    
Last Update : 12 กุมภาพันธ์ 2554 14:54:44 น.
Counter : 6515 Pageviews.  

(=L=!)~~i LoVE LaDYbOy~~ อยู่ใช่วง...ทบทวนรสนิยม...(>_<*)**

เริ่มปีใหม่แล้วก็เป็นนัยว่าชราลงไปอีก 1 ปี

ช่วงวันหยุดปีใหม่ที่ผ่านมาปีนี้ไม่ได้ไปไหนเลย ก็ืถือโอกาสพักผ่อนซะ เดี๋ยวเปิดงานมาก็มาฟาดฟันกันอีกยาว...

พอวางๆหน่อยก็ได้ดูทีวี และที่สาวๆหลายคน(หนุ่มๆด้วยแหละ)กำลังติดงอมแงมอยู่คือซีรีส์ดังเรื่องนึงไม่แพ้ Gossip Girl เลยคือ..."GLEE"



ซีซันนี้เป็นซีซันที่ 2 แล้ว ซีซันแรกน่าจะเกือบ 2 ปีที่แล้ว(ตอนนี้ USA ซีซันที่ 2 จบแล้ว แต่ที่ไทยกำลังเริ่มเอามาฉายทางช่อง True Series)

GLEE เป็นหนังซีรีส์ที่เป็นลักษณะละครเพลงที่ใช้วัยรุ่นในวันทีนมาเป็นตัวละคร และแต่ละตัวละครก็มีบุคลิกที่ชัดเจนและเป็นตัวแทนของแต่ละประเภทของวัยรุ่นได้ดีมากๆ

เนื้อเรื่องก็เกี่ยวกับชมรมร้องเพลงใน high school แห่งนึงที่จะล่มแหล่มิล่มแหล่ แต่ก็ผ่านมาได้เพราะสมาชิกแต่ละคนพยายามกันผลักดัน...บลาๆๆๆ ประมาณนี้

ความประทับใจแรกคือ เรื่องนี้เค้าคัดนักแสดงจริงๆ คือ...เสียงนี่...แต่ละคนคุณภาพสุดๆ โดยที่การ Cast การแสดงก็ไม่แพ้กัน เรียกว่าทั้งร้องดีและเล่นดีด้วยน่ะ

ประทับใจที่ 2 คือ เพลงที่ใช้ในเรื่องร่วมสมัยมากๆ ใหม่เก่ามีหมด บางเพลงกำลังไต่ billboard(ในไทย)ด้วยซ้ำ และดูได้ทั้งครอบครัีว และบางเพลงเอามา cover ใหม่ก็ทำได้ดีมากๆ โดยไม่ทำให้เพลงดูเห่ย...555

ประทับใจที่ 3 คือ "KURT HUMMEL"
เค้าคนนี้....


ถูกต้องคร๊าบ....
ดูจากโหวเฮ้งและแววตา องศาไหนก็รู้ว่า...เค้าเป็นเกย์
ในเรื่องบทเค้าก็ว่าด้วยการแสดงออกของเกย์อย่างเปิดเผย แต่คนก็ยังยอมรับได้น้อย...เข้าใจ...เค้าเป็นตัวแทนเกย์ในสังคมนั่นเอง
และเข้าใจว่าตัวจริงก็น่าจะเป็นเกย์นะ ไม่งั้นคงไม่เนียนซะขนาด

เคิร์ท(KURT) หนุ่มน้อยคนนี้แหละที่เราจับตาดูทุกตอนเลย ทั้งๆที่เค้าไม่ใช่พระเอก(หรือนางเอก)ของซีรีส์อ่ะ


บุคลิกในเรื่องจะประมาณ..จิกๆ..เชิดๆ..น่ารักมว๊าก....
เท่าที่รู็ตอนนี้เค้ามาแรงมากๆ ไปออกรายการทอล์กโชว์มากกว่าพระเอก(ฟินน์)ของเรื่องซะอีก


อีกซักหนึ่งที...


ลองมานั่งคิดๆดู....

เรามี idol ในดวงใจหลายคนและหลายยุคเลยทีเดียว

Idolในยุคมัธยมเปรี้ยวอมหวาน...
พี่ดัง พันกร ...


โอ๊ย..รูปเก๊า..เก่า...นั่นมันตั้งแต่ยังไม่สาว..เอ๊ย...ตั้งแต่อัลบั้มแรก
นี่..มันต้องรูปนี้..เธอ..เยอะได้อีก


โตขึ้นมาอีกนิด...
ก็ฟังให้ classic และร่วมสมัยขึ้น ก็เลยมาตกหลุมรักลุงคนนี้
เฮียจอช...


โอ๊ย...อย่ามาทำเคราดก ตาฉ่ำนะยะ...
อีกซักรูป...ว้าย...จิกๆๆๆๆ


เอาหล่ะ่....พ้นวัยทีนมาแล้วมันน่าจะหมดแล้วความคลั่งไคล้แบบนี้ได้แล้ว...
แต่ว่า...
มันก็กลับมาอีก....
เมื่อมาเจอกับหนุ่มคนนี้...

ตาจิกๆๆๆๆๆ...ได้อีก

เคลิ้มๆๆๆ...แล้ว...


whataya want from me!!!
(i want ur sexy eyes!!! ---เสียงโหยหวนตอบจากป้าคนนึง)
ขนๆๆๆๆ....นั่นน่ะๆๆๆ(ขนหน้าอก..อย่าคิดมาก)...เซ็กซี่ๆๆๆ...


เอาหล่ะ...พอละ...

จะสตรีข้ามเพศ บุรุษข้ามภพอะไรก็ช่าง...

อยากรู้จริงๆว่าผู้ชายแท้ๆที่มี sex appeal แบบนี้มีบ้างไม๊น้า...

ค้นพบว่าเราชอบแบบจิกๆดิบๆเชิดๆ อะไรประมาณนี้(ไม่มีในผู้ชายแท้ๆแน่นอน) น่ารักน่าหยิกมาก....

ขณะคิดก็หันไปมองชายคนหนึ่ง(สามี)ที่ปลายเตียง กำลังนอนเกาพุงอ่านหนังสือยานยนต์อย่างเอาเป็นเอาตายอยู่...

หมดมู๊ดบูดจริตเป็นที่สุด....




 

Create Date : 07 มกราคม 2554    
Last Update : 8 มกราคม 2554 10:15:34 น.
Counter : 1376 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  

beautycircus
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ให้ทิปเจ้าของ Blog [?]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




'Coz beauty is an amusement!!
Friends' blogs
[Add beautycircus's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.