เมื่อความสามารถ มาบรรจบกับสิ่งที่โลกต้องการนั่นคือ "โอกาส"
Group Blog
 
All Blogs
 

ไปเยี่ยมทหารที่บาดเจ็บจากการรบ ที่ รพ.พระมงกฎฯ

เมื่อวันที่ 28 ก.พ.53 มีโอกาสได้ไปเยี่ยมหทารที่บาดเจ็บ

จากการออกปฏิบัติราชาการสนามทั้งจากเขาพระวิหารด้วย จากใต้ด้วย

..สืบเนื่องจากที่ว่า.. วันที่ 1 มี.ค.ต้องเข้าไปซ้อมใหญ่ในการเข้ารับ

พระราชทานปริญญาบัตร ว่าที่มหาบัณฑิตจากชนบทจึงต้องเดินทางเข้ากรุง

วันนี้ผู้กองมาด้วยไม่ได้ เนื่องจากติดภารกิจ

ที่ชายแดน เพราะอยู่ในช่วงเตรียมพร้อม 100%

..................

ครั้งนี้เลยส่งหมู่เอ๋ (ส.อ.สราวุธฯ) มาเป็นเพื่อน

ถามว่าเข้าใจในสิ่งที่ผู้กองเป็นไหมเมื่อเวลามีภารกิจ

คำตอบ..คือ..เข้าใจ..แต่ถามว่ารับได้ไหม น้อยใจไหม ก็ต้องตอบตามตรงว่าบางครั้งรับไม่ได้ และก็น้อยใจ..

และมีคำถามมากมาย ที่กำลังวนเวียนถามตัวเองอยู่ในหัว..ทำไมๆ

แต่สิ่งนึงที่ต้องทำ และทำให้ได้คือ "ทำใจ" อาชีพทหารไม่ใช่ใครก็ทำได้

และคนเป็นเมียทหารก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะเป็นได้ ถ้าไม่แสบ...แบบนี้ แฮ่ๆ

..................

14 ปีที่คบกันมามันไม่ช่วยให้ ความเกเร ในใจเราลดน้อยลงไปเลยแฮะ..

บางครั้งพี่เน็ตก็บอกว่า พี่เน็ตรู้ว่าเจี๊ยบรู้และเข้าใจทุกอย่างที่พี่เน็ตต้องทำ

แค่อยากจะ "เหวี่ยง วีน และเกเร"

....

เมื่อการเดินทางเริ่มต้นขึ้น

การที่ต้องมากับคนที่เรียกได้ว่าไม่คุ้นเคยกันเลย ย่อมมีความกังวลบ้าง

คงไม่ใช่แค่เราที่รู้สึก แบบนั้น หมู่เอ๋ ก็คงไม่ต่างกันและคงมีความกังวล

เป็นหลายเท่าตัว

หมู่เอ๋ คุยเก่ง และมีชีวิตชีวิตชีวาไม่เป็นหุ่นยนต์ มีแนวความคิด

ไม่เหมือนกับทหารบางคนที่พี่เน็ตส่งมาดูแล 555

ช่วงระหว่างเวลาว่างของการเดินทาง

หมู่เอ๋ได้เล่าเรื่องต่างๆให้ฟังหลายเรื่อง บางเรื่องมันทำให้รู้ว่ากำลังพลชั้นประทวนคิดอย่างไร

การคิดต่างไม่ได้แปลว่าใครผิด แต่บางครั้งต่างคนต่างคิด เลยไม่รู้เหตุผลของความแตกต่างนั้น

หมู่เอ๋เล่าถึง หมู่อานนท์ที่โดนระเบิดตอนออกราชการสนามที่เขาพระวิหารเมื่อปีที่แล้ว

ว่าเป็นเพื่อนรักกัน และอยากไปเยี่ยม เหตุการณ์นั้นจำได้เพราะตอนนั้น

ไปอ่านหนังสือเตรียมจะสอบที่สาย ๑ วันนั้นสรุปไม่ได้อ่านเพราะเค้าวุ่นวายว่า

หมู่อานนท์เสียชีวิตหรือยัง รู้แต่ว่า ตอนที่มีคนพบหมู่อานนท์ ต้องใช้ผ้าห่อหัวมา

เพราะหัวเละ ไปหมด และมีการปักธูปให้หมู่อานนท์ในที่เกิดเหตุด้วย

..สาย ๑ แก้หนังสือตั้ง 3 ฉบับ สรุปว่า หมู่อานนท์ กระดูกเหล็กยังไม่ตาย..

แต่กะโหลกยุบ หูทั้งสองข้างดับ และขายังใช้การไม่ค่อยได้

ถึงวันนี้ร่วมปีกว่า ที่หมู่อานนท์ต้องใช้ชีวิตที่โรงพยาบาล ด้วยภารกิจ

ด้วยอะไรๆหลายๆอย่าง หลายคนอาจจะลืมไปแล้วว่ายังมีนายสิบตัวน้อยๆ

คนนี้รอกำลังใจจากเพื่อนๆทหาร จากทุกๆคนอยู่

ภารกิจที่มากมาย ระยะทาง 513 กิโเลเมตรจากยโสธรหน่วยต้นสังกัด ถึงกรุงเทพฯ

ไกลเกินไปที่อาชีพทหารอย่างเพื่อนๆ จะมาหาได้ วันนี้ถ้าหมู่อานนท์ได้อ่าน

อยากให้รู้ว่าทุกคนไม่เคยลืม แต่ด้วยคำว่าหน้าที่ ที่ไม่อาจจะมาเยี่ยมได้

..

อีกหนึ่งที่ได้รับการบอกเล่า คือน้องพลทหาร ที่โดยระเบิดที่ใต้ น้องอาทิตย์เทพ

หมู่เอ๋เล่าถึงเหตุการณ์วันนั้นว่า ได้ยินเสียงระเบิดดัง เลยเอารถออกไปดู


ไปถึงเจอน้องนอนแน่นิ่ง รีบอุ้มน้องวิ่งออกมาจากจุดเกิดเหตุ เพื่อจะไปส่ง
โรงพยาบาล

แต่สิ่งหนึ่งที่หมู่เอ๋เล่า แล้วจะบอกว่าทำให้เจี๊ยบถึงกับปล่อยโฮ.. เมื่อถึงที่พักก็คือ..

ในเสื้อเกราะของน้องเค้าที่หมู่เอ๋ เอาออกมาคือ มีมาม่าแห้ง ที่ขยำละเอียด

และช้อนสั้นอยู่ในถุงมาม่าฟังถึงตรงนี้มันจุก.. นี่เหรอ.. อาหารของนักรบ

นี่เหรอสิ่งที่ทหารไทยได้กินประทังชีวิตเวลาหิวในการออกลาดตระเวณ

เขียนไปก็ยังอดร้องไห้ไม่ได้..


..และที่สำคัญนี่เหรอ คนเป็นเมียอย่างเราตอบแทนสามีด้วความ งี่เง่าในบางครั้ง..


หมู่เอ๋บอกว่า พอถึงโรงพยาบาลถามน้องเค้าว่าจำได้ไหมว่านี่ใคร

น้องเค้าตอบว่าจำได้ แล้วก็บอกชื่อถูกด้วย

หมู่เอ๋บอก ถึงหมอแล้วใจเย็นๆ แล้วค่อยกลับบ้านด้วยกัน..

แต่แล้ววันนั้น...น้องเค้าก็ไม่ได้กลับมา..อีกเลย

หมผู้พันมาถึง ผู้พันร้องไห้ด้วย ถึงน้องเค้าจะเป็นพลทหาร

แต่เมื่อถึงสนามรบพี่เน็ตจะบอกเสมอทุกคนคือเพื่อน..ที่ร่วมเป็นร่วมตายด้วยกัน..

น้องเค้าก็มีพ่อ มีแม่ มีครอบครัว ที่สำคัญครอบครัวน้องเค้ายากจนมาก

อยู่บ้านที่เป็นเพิงเล็กๆ ข้างบ้านหลังใหญ่ที่คนใจดีแบ่งให้พอซุกหัวนอน

ตอนนั้นเจี๊ยบมีโอกาสได้ไปงานศพน้องเค้าด้วย เพราะพี่เน็ตอยากให้ไป

แล้วถ้าถ้าเป็นงานศพไม่ว่าที่ไหน ไกลยังไงเจี๊ยบก็ไม่เคยอิดออดที่จะไป

ถ้าตัวเองไม่ติดอะไรจริงๆ แต่ตอนนี้ครอบน้องได้รับการดูแลให้ที่อยู่ที่พอเหมาะ

กับพ่อแม่และน้องชาย และทางราชการก็จะรับน้องชายของอาทิตย์เทพเป็นนายสิบด้วย


..

คนที่เหลืออยู่ ถึงแม้จะเรียกได้ว่าสภาพไม่เต็ม 100 แต่ก็ถือได้ว่า

สิ่งที่เหลืออยู่นี่แหละ คือสิ่งที่ดีงามที่สุดที่เหลือไห้ประเทศชาติเรานะคะ

ขอบคุณทุกคนที่ทำเพื่อแผ่นดิน ที่ดูแลประเทศชาติ ให้เจี๊ยบได้กินอิ่ม ได้นอนอุ่น

จะบอกว่าวันนี้เป็นอารมณ์ ที่บอกไม่ถูก เป็นอารมณ์ที่มีความสุขมากๆ

ที่ได้ไปเยี่ยม ไปด้วยหัวใจตัวเองที่อยากไป ไปด้วยหัวใจที่เปี่ยมล้นไปด้วย

ความสุข และกำลังใจทั้งหมดที่มี คือหอบเอาไปลงตรงนั้นเลย

และในขณะเดียวกันน้ำตามันก็จะไหลอยู่ตลอดเวลาทั้งที่หน้ายิ้ม

ที่คุยไม่ค่อยได้ไม่ใช่เพราะอะไรนะคะ คือ จะร้องไห้ ตอบตามตรงเลย..

หมู่อานนท์หล่อเหมือนเดิมแล้ว ถ้าไม่ก้มให้ดูเจี๊ยบจะไม่รู้เลยนะคะว่า

กะโหลกมันหายไป









เจี๊ยบหน้าดำมากๆ เลย จากการไปถ่ายรูปตากแดดสวนหลวงฯ







เสร็จจากเยี่ยมหมู่อานนท์ หมู่เอ๋บอกว่า มีกำลังพลของเราอีก 1 นายที่อยู่ที่นี่

ไปต่อกันที่ตึก มวก. คุณลุงจ่าสุวัฒน์ คุณลุงจ่าไม่มีขาแล้ว แต่อารมณ์ดีแจ่มใส

เบิกบานมากๆค่ะ บอกว่าให้ถ่ายรูปไปให้ผู้กองดู ว่าผมมีขาใหม่ สวยเนียนกว่าขาเดิมอีก..





กำลังพลทั้ง 2 นาย ไม่ได้เป็นลูกน้องในสังกัดโดยตรงของพี่เน็ต

วันนี้เจี๊ยบไม่ได้มาในฐานะ ภรรยานายทหาร แต่เจี๊ยบมาในฐานะ

ประชาชนคนไทยคนนึงที่อยากมาขอบคุณ ที่อยากมาเยี่ยม..

เยี่ยมเพื่อนร่วมอาชีพของสามี เยี่ยมคนที่ดูแลประเทศให้เจี๊ยบ

เจี๊ยบถึงได้บอกไงว่า วันนี้เจี๊ยบมีความสุขที่สุดตอนแรกคุณลุงจ่าไม่รู้ด้วยซ้ำ

ว่าเจี๊ยบเป็นใครเจี๊ยบเข้าไปไหว้แกก็รับไหว้เฉยๆ

พอหมู่เอ๋แนะนำ แกหันมาไหว้เจี๊ยบใหม่อีกรอบ ไม่เป็นไรค่า

เจี๊ยบไหว้ทหารทุกคนที่เป็นลูกน้องพี่เน็ตที่อายุ ใครแก่กว่าเจี๊ยบไหว้หมดแหละ

ขอบคุณนะคะ หนังสือที่เจี๊ยบให้อ่านแก้เหงาได้บ้างป่าวคะ

ร.16 ยังรอการกลับมาของทั้งสองคนนะคะ

วันนี้มีความสุขสุดๆค่ะ เจอใครไม่รู้จักก็ทัยก็คุยกับเค้าไปเรื่อย

ถึงจะแสบแบบนี้ก็ซึ้งได้นะคะ








 

Create Date : 12 มีนาคม 2553    
Last Update : 18 พฤษภาคม 2553 21:37:32 น.
Counter : 2249 Pageviews.  

ณ ฐานปฏิบัติการภูสุนัขคำราม

Weblog นี้เปิดเป็นสาธารณะ ขอให้ใช้ข้อความที่สุภาพในการเขียน

และขอให้เป็นข้อความซึ่งไม่ส่อเจตนาต่อการนำมาซึ่งความขัดแย้ง

ในทุกกรณี ขอให้ถือปฏิบัติร่วมกัน..SABB.



ความจริงแล้ว ฐานปฏิบัติการภูสุนัขคำราม เนี่ย..ก็คือ ฐานฯ"ภูหมาหอน"นั่นเอง

จ่าชาญ (จ.ส.อ.ธนศักดิ์ หาญอาสา) เล่าให้ฟังกลางคืนว่าชอบมีหมาป่าขึ้นหมาหอน
บนภูเขา

แต่ครั้นจะเรียกว่าภูหมาหอน ก็จะดูไม่เป็นทางการ

เลยเรียกซะหรูว่า ฐานปฏิบัติการภูสุนัขคำราม แต่..สงสัยนะว่า เจ้าตัวที่หอน

ตอนกลางคืน อาจจะเป็นพวกที่มาออกลูกอยู่แถวฐานก็ได้..


......................


ในวันที่ไม่มีภารกิจอะไรที่หนักหนา บรรดากำลังพลก็จะพากันออกปรับปรุงฐานฯ

มีภาพบรรยากาศ ที่สบายๆ ตามอัธยาสัย(หรือเรียกอีกอย่าง ว่าตามมี ตามเกิดนั่นแหละ) มาให้ดูค่ะ



~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~




รุ้งกินน้ำ ในบรรยากาศที่ดูเงียบสงบ สวย แต่ดูลึกลับ..

. . . . . . .


หากจะพูดถึงเรื่องรุ้งกินน้ำแล้ว จริงๆแล้วทุกครั้งที่เกิดรุ้งจะต้องมีรุ้ง ๒ ตัวเสมอ

หรือที่เคยได้ยินเค้าเรียกกันว่า "รุ้งตัวผู้" กับ "รุ้งตัวเมีย"

รุ้งเกิดจากการที่แสงเดินทางมาถึงหยดน้ำ แล้วแสงก็เกิดการหักเห

เนื่องจากมีการเคลื่อนที่ผ่านตัวกลางที่มีความหนาแน่นต่างกัน

(จากอากาศสู่น้ำ) โดยแสงสีน้ำเงินจะหักเหมากกว่าแสงสีแดง

จากนั้นแสงก็เกิดการสะท้อนภายในหยดน้ำ เนื่องจากผิวภายในของหยดน้ำ

มีความโค้งและผิวคล้ายกระจก จากนั้นแสงก็เกิดการหักเห จากภายใน

หยดน้ำผ่านสู่อากาศอีกครั้ง


รุ้งมี ๒ ประเภท

๑. รุ้งปฐมภูมิ เกิดจากแสงตกกระทบหยดน้ำทางขอบบน เกิดการหักเห 2 ครั้ง สะท้อนกลับหมด 1 ครั้ง โดยจะเห็นเป็นสีต่าง ๆ กันมีสีแดงอยู่บนและมีสีม่วงอยู่ล่างสุด จะเกิดเป็นรุ้งตัวล่าง

๒. รุ้งทุติยภูมิ เกิดจากแสงตกกระทบหยดน้ำทางขอบล่าง เกิดการหักเห 2 ครั้ง สะท้อนกลับหมด 2 ครั้ง โดยจะเห็นเป็นสีต่าง ๆ กันมีสีม่วงอยู่บนและมีสีแดงอยู่ล่างสุด จะเกิดเป็นรุ้งตัวบน




ในรูปนี้ก็มีสองตัว เครดิต จากเวปไร จำไม่ได้จริงๆ






พี่เน็ตถ่ายมาก็เห็นอีกตัวลางๆ เคยสังเกตกันบ้างไหม..




รูปนี้เหมือนมีพลัง..มีความหวังดี





ไปไหนกัน






"ออกลาดตระเวนครับ" แล้วหาอะไรกัน





เจอแล้ว..





ไข่เห็ด







ตั้งแต่เกิดมาก็ยังไม่เคยเห็นของจริง ที่เห็ดแบบนี้อยู่ในธรรมชาติ
ก็อาศัยดูในรูปนี่แหล่ะ




















ชาวบ้านผู้เชี่ยวชาญด้านเห็ด




 

Create Date : 30 กันยายน 2552    
Last Update : 23 ธันวาคม 2552 9:24:32 น.
Counter : 3107 Pageviews.  

สร้างบ้านให้ ผบ.ร้อย

Web Blog นี้เปิดเป็นสาธารณะ ขอให้ใช้ข้อความที่สุภาพในการเขียน

และขอให้เป็นข้อความซึ่งไม่ส่อเจตนาต่อการนำมาซึ่งความขัดแย้ง

ในทุกกรณี ขอให้ถือปฏิบัติร่วมกัน..


..


ทุกคนเรียกที่นี่ว่า "รีสอร์ท" ไม่มีน้ำประปา ไม่มีไฟฟ้า อ้อ.. บางวันก็มีนะ

ไฟฟ้า ปั่นมาจากรถฮัมวี่ จะมีบ้านเป็นของตัวเองแล้วหลังจากไปอยู่มานาน

...













เวลาผ่านไปไวเหมือนโกหก..เสร็จแล้ว..




ภายในบ้านหลังน้อย..



บ้านเปิดประทุน



รถคันนี้นั่งมาตั้งแต่ อายุ 9 ขวบ ถึงแม้จะเก่ามาก แต่ก็เป็นมากกว่ารถ
เพราะรถคันนี้เป็นรถที่พ่อรักมาก แล้วก็ขับไปส่งที่โรงเรียนเสมอ..
ทุกครั้งเห็นรถคันนี้ มันทำให้รู้สึกว่าพ่อไม่เคยจากเราไปไหน พ่อไม่อยู่แล้ว
ยกให้ผู้กองดูแล

ไม่ว่าที่ไหนในผืนแผ่นดินไทย ธงชาติไทยก็ยังคงพร้อมจะโบกสะบัดเสมอ




บรรยากาศยามเย็น ณ.ชายแดนเขาพระวิหาร




 

Create Date : 29 กันยายน 2552    
Last Update : 30 กันยายน 2552 10:52:35 น.
Counter : 471 Pageviews.  

เมื่อคุณนายแสบ..บุกไปชายแดน

วันนี้เป็นโอกาสดี วันหยุดเสาร์ที่ 26 ก.ย.52

ก็ได้เวลาที่ผู้กองชวนไปเยี่ยมพี่จ่า พี่หมู่ น้องๆทหารที่ชายแดนฯ

การเดินทางเป็นไปอย่างทุลักทุเล..

รถที่ใช้อายุรุ่นราวคราวเดียวกับคนขับ

คนนั่งยังสวยเหมือนเดิม อิอิ

ส่วนเจ้าตัวที่อยู่กระบะหลัง ก็ยังคงมีความสุขกับการเดินทางเหมือนเดิม

กว่าจะถึง ถุงน้ำดี ตับ ลำไส้ใหญ่ และลำไส้เล็กส่วนต้น

ได้ขยับลงมากองรวมกัน อยู่ที่กระเพาะปัสสาวะเพียงแห่งเดียว..เฮ้อ..
...

ผู้กองมีภารกิจที่จะต้องกลับมาจากสนามเมื่อคืน

(งานเลี้ยงวันเกิดผู้การ กลับถึงบ้านตี 2) แต่วันรุ่งขึ้นก็ยังกังวลกับลูกน้อง

เลยชวนไปเยี่ยม ปลุกเราตั้งแต่ 6 โมงกว่า เพิ่งนอนไป ไม่ถึง 4 ชม.เลยเรา

เพราะในตอนเย็นจะต้องกลับมาอีก

เพื่อในตอนเช้าจะได้ไปร่วมงาน"การจัดบรรยายธรรรมะ"

เพื่อนำรายได้ไปช่วยทหาร วันรุ่งขึ้นเดินทางไปร่วมการสวนสนาม

ที่โคราชต่อ นี่เป็นทหาร หรือเป็น กอล์ฟ-ไมค์ กันแน่ อิอิ


...

ตามมาดูกัน..
เพื่อนซี้..คู่ใจตัวนี้หอบหิ้วกันมาจากปัตตานี "โงโง่" หรือ "ตูมตาม"



ฝนตก พายุเข้า



ใกล้ถึงแล้ว ขับมา 3 ชม.



หมู่บ้านสุดท้ายก่อนขึ้นเขาพระวิหาร




ถนนดีกว่านี้มีไหม..มาแล้วถึงเข้าใจว่าทำไม รถเก๋งของแสบถึงมาไม่ได้






ถึงแล้ว..ท่ามกลางความห่างไกล ทุระกันดารแค่ไหน ทหารไทยก็ยังยืนหยัด
ปกป้องอธิปไตยของประเทศชาติ..ทุกวินาที





ได้เวลาทานข้าวเที่ยงพอดี นั่งหัวโต๊ะได้ เพราะมื้อนี้ไม่ต้องจ่ายตังค์




กับข้าว 2 อย่าง กับเบี้ยเลี้ยงค่าอาหาร 40 บาท/คน/วัน
วันนี้มีไข่ปิ้งกับมันทอด มันแกวไปฝาก

ข้าวเหนียว..แข็งมาก กินคำแรก พี่เน็ตหันมามองเพราะคงรู้ว่ามันแข็ง
แล้วบอกว่า"เค้าก็กินกันแบบนี้แหละ แข็งไม่แข็ง ดูจากกราม
หมู่สมศักดิ์ 555" แล้วก็ตักต้มยำปลาให้ กินปลาเยอะๆจะได้ฉลาด จะได้รู้ว่า
เวลาออกสนาม ทหารเค้าลำบากยังไง..แป่ว










ครัว..ที่ไม่ต้องถูกสุขลักษณะ ขอให้มีกินทุกมื้อพอ






หลังคาบ้านผู้กองที่ทำคราวก่อน กันแดดได้ แต่กันฝน..ไม่ได้



เสื้อเกราะที่หนักมากกกกก..ขอให้แขวนไว้แบบตลอดนะ ขออย่าให้ได้ใช้เลย



ตะเกียง..สุดโรแมนติก เอาไว้จุดกลางคืน



รองเท้าคู่ใจ อยู่ที่ไหนผู้กองซ่า ก็ต้องออกกำลังกาย



"ดอกทานตะวัน" ดอกไม้ที่คุณนายแสบชอบที่สุดในชีวิต เพราะรู้สึกได้ถึงความเบ่งบาน ท้าทาย
และสดใสอยู่เสมอ...แต่ "ดอกคุณนายตื่นสาย" คงเป็นดอกไม้ที่ผู้กองชอบ
ที่สุด เพราะเห็นบอกเสมอ ว่าชื่อนี้ช่างเหมาะกับ
ภรรยาผู้เป็นที่รักเสียจริง ทั้งฐานฯ เลยมีแต่ดอกไม้สองชนิดนี้เต็มไปหมด
ออกดอกเมื่อไหร่จะเก็บภาพมาฝากอีกค่ะ




ข้างบนเป็นสวนดอกไม้ ข้างล่างเป็น"รู" หรือเป็น "หลุม" ดีนิ่






ว่างจากภารกิจก็จะมานั่งดูทีวี โปรด..สังเกตดีๆ ทีวีรุ่นพลาสมา..อิอิ



เจ้าหมามาอยู่ที่ฐานหลายตัวเลย เพราะพอมีทหาร ก็มีข้าวกิน
"เลี้ยงลูกหมาไปก่อนนะผู้กอง ลูกหมาไม่ต้องเปลืองแพมเพิร์ส




"ต้นมันเทศ..ปลูกมันปลูกเผือก ไว้กินเอง"



"ต้นเผือก เพิ่งเคยเห็นครั้งแรกเหมือนกัน"



พืชผักสวนครัว ปลูกทุกอย่างที่กิน และกิน
ทุกอย่างที่ปลูก




น้ำตกอยู่ไม่ไกลจากฐานเท่าไหร่




"อาบน้ำให้หน่อยครับนาย"



อาบเสร็จ "ขอบคุณนะก๊าบ"



"ดอกอะไร ก็ไม่รู้อยู่แถวน้ำตก สวยดี เก็บมาฝาก"



"เท้าทั้งสอง" ยังจะเดินคู่กันไปเสมอ
ถ้าถึงมิถุนาปีหน้าก็จะพ้น 13 ปี ที่ใครๆต่างเรียกว่า "ปี Luky Number"
แต่สำหรับเจี๊ยบ ปีไหนเจี๊ยบก็ยังคง Lucky เสมอ ตลอด 13ปี
ที่พี่เน็ตดูแล ตั้งแต่เป็นเด็กๆจนเราโตมาด้วยกันพี่เน็ตก็ยังเหมือนเดิม
ขอบคุณนะคะ..




จบภารกิจของคุณนายแสบ ด้วยหัวใจชื่นมื่น ระหว่างเดินทางกลับ
สิ่งมีชีวิตที่อยู่กระบะหลัง และลืมไปว่าตัวเองเป็นหมา ร้องไห้ "หงากๆ"
เอาขาหน้าเคาะกระจกหลัง เอาหัวดัน"นายค๊าบมันมืดแล้ว ข้างหลัง
ผมกลัวๆๆ" จอดรถ เอา"หมา" มานั่งข้างหน้าด้วย ได้เวลา
เอาหัวซุกตักนาย หลับถึงบ้านเลย..




ถึงบ้าน...สังเกตดีๆมีสิ่งมีชีวิตอยู่ในผ้าห่ม
ยังดีที่อาบน้ำ...พลขับกิตติมศักดิ์ เหนื่อยจัด หัวถึงหมอนหลับ ..
ได้กลับมานอนบ้านสบายสักคืน..






จบทริปนี้ด้วยความสุขใจ ขอให้ประเทศไทยสงบสุข..




 

Create Date : 28 กันยายน 2552    
Last Update : 10 พฤศจิกายน 2553 22:42:43 น.
Counter : 3775 Pageviews.  


jaruwan_ben
Location :
ยโสธร Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ให้ทิปเจ้าของ Blog [?]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]


ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add jaruwan_ben's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.