bloggang.com mainmenu search
Raphael Sanzio or Raffaello (April 6, 1483 – April 6, 1520) was an Italian master painter and architect of the Florentine school in High Renaissance, celebrated for the perfection and grace of his paintings. He was also called Raffaello Sanzio, Raffaello Santi, Raffaello da Urbino or Rafael Sanzio da Urbino.



ราฟาเอล (Raphael) ผู้สร้างสรรค์ศิลปกรรมจนได้ชื่อว่า “ศิลปินสมบูรณ์แบบ” (The Perfect Painter) เพราะภาพวาดส่วนมากเน้นความงามที่เกิดจากรูปร่างของมนุษย์ ที่แสดงอารมณ์หลากหลายต่าง ๆ กันออกมา การใช้สีนิยมสีสดคล้ายกับงานศิลปะในสมัยไบแซนทีน แต่กายวิภาคมีความงดงาม อ่อนช้อย ทั้งชายและหญิง และเด็กเล็ก ท่าทางของบุคคลในภาพแสดงออกเหมือนเคลื่อนไหวได้ สร้างอารมณ์ให้แก่ผู้ชมได้เป็นอย่างดี ภาพเขียนที่มีชื่อเสียงมากที่สุดคือ “โรงเรียนเอเธนส์” (The School of Athens) เป็นภาพที่เกี่ยวกับนักปรัชญากรีกหลายคน รวมทั้งตัวราฟาเอลด้วย



The School of Athens
Raphael, 1509–1510
Fresco, 500 × 770 cm
Vatican City, Apostolic Palace





The bracketted names are the contemporary characters from whom Raphael is thought to have drawn his likenesses. 1: Zeno of Citium or Zeno of Elea? — 2: Epicurus — 3: Unknown — (Frederik II of Mantua?) 4: Anicius Manlius Severinus Boethius or Anaximander or Empedocles? — ? 5: Averroes — ? 6: Pythagoras — ? 7: Alcibiades or Alexander the Great? — ? 8: Antisthenes or Xenophon? — ? 9: Hypatia — (Francesco Maria della Rovere or Raphael's mistress Margherita.) 10: Aeschines or Xenophon? — ? 11: Parmenides? — ? 12: Socrates — ? 13: Heraclitus — (Michelangelo). 14: Plato holding the Timaeus — ( Leonardo da Vinci). 15: Aristotle holding the Ethics — ? 16: Diogenes of Sinope — ? 17: Plotinus? — ? 18: Euclid or Archimedes with students — ( Bramante)? 19: Strabo or Zoroaster? — (Baldassare Castiglione or Pietro Bembo). 20: Ptolemy — ? R: Apelles — (Raphael). 21: Protogenes — (Il Sodoma or Perugino)[2].


ราฟาเอล แสดงให้พวกเรามองเห็นภาพผู้คนเท่าที่เป็นอยู่จริง ไม่ใช่ภาพที่ทำกันเป็นแบบแผนอย่างที่ รูเบนส์ และ ฟานไตด์ เขียนกัน ภาพแม่พระอุ้มพระบุตรหลายภาพที่เขาเขียนขึ้นในกรุงโรม มีความงดงามยิ่งกว่าภาพที่เขาเคยเขียนไว้ในนครฟลอเรนซ์เสียอีก บางทีภาพ "ซิสตินมะดอนนา" อาจเป็นภาพเขียนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในบรรดาเรื่องนี้ทั้งหมดก็เป็นได้

ราฟาเอล ปฏิบัติการเขียนภาพภายในโรงสวดแห่งนี้ โดยปกปิดไม่ให้ผู้คนพบเห็น แต่หลังจากที่ได้ดูผลงานของ มิเคลันเจโล แล้วเขาก็เปลี่ยนไปไม่ทำแบบนั้นอีก เป็นความจริงอย่างแน่นอนที่จะกล่าวว่า ภาพเขียนของเขาเองเริ่มจะกลายเป็นแบบที่แข็งกล้า และมีสีสันอุดมมากขึ้น






Sistine Madonna
Raphael, 1513-1514
Oil on canvas
265 × 196 cm
Gemäldegalerie Alte Meister, Dresden


ราฟาเอล เริ่มจะกลายเป็นจิตรกรที่มีงานยุ่งมากขึ้น เขาได้เสร็จภาพเขียนไปอีกชุดหนึ่ง เป็นภาพเขียนสำหรับพระสันตปาปาจูเลียสที่ 2 อยู่ในห้องเฮลิโดรุส ภาพเหล่านี้แสดงถึงความกล้าหาญด้านการรบทัพจับศึกของพระสันตปาปาในทางทหาร และแสดงให้เห็นว่า พระเจ้าได้ช่วยสนับสนุนพระองค์ให้ประสบชัยชนะได้อย่างไรด้วย



Portrait of Pope Julius II (Raphael)




สถาปัตยกรรมที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของสมัยนี้ คือ โบสถ์เซนปีเตอร์ ซึ่งสร้างมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1506 และสร้างเสร็จเมื่อปี ค.ศ. 1626 ใช้เวลาก่อสร้าง 120 ปี มีศิลปินและสถาปนิกช่วยกันออกแบบ 4 คน คือ บรามันเต (Bramante) ราฟาเอล (Raphael) ไมเคิลแอนเจโล (Michelangelo) และเบอร์นินี (Bernini) ทำให้โบสถ์เซนต์ปีเตอร์มีความวิจิตรพิสดารจนเป็นศิลปกรรมชิ้นเอกของโลก และเป็นรูปแบบมาตรฐานในทางสถาปัตยกรรมของสมัยต่อ ๆ มา



Madonna with the Fish.

คำว่า “เรอแนสซองส์” นี้เป็นภาษาฝรั่งเศสแปลว่า “การเกิดใหม่” ซึ่งในที่นี้ หมายถึงอารยธรรมกรีกและโรมัน ได้ถูกฟื้นฟูให้เกิดใหม่ขึ้นมาอีกครั้งหนึ่งหลังจากการเสื่อมสลาย ระยะเวลาแห่งความเจริญของสมัยนี้อยู่ระหว่างคริสต์ศตวรรษที่ 14 – 16 โดยมีศูนย์รวมอยู่ที่กรุงโรม ประเทศอิตาลี เมื่อพูดถึงสมัยเรอแนสซองส์คนส่วนมากมักจะนึกถึงอิตาลีมากกว่าที่อื่น ๆ ทั้ง ๆ ที่รูปแบบของเรอแนสซองส์ มีหลายแบบ เช่น เรอแนสซองส์แบบฝรั่งเศส และเรอแนสซองส์แบบสเปน เป็นต้น แต่ทั้งหมดนี้ต่างเกิดขึ้นมาจากความปรารถนาของศิลปินที่จะกลับมาสู่โลกอันแท้จริง ซึ่งต่างจากสมัยกลางที่มีรูปแบบศิลปะอยู่ภายใต้อิทธิพลของศาสนา



Resurrection of Christ.


ศิลปะแบบเรอแนสซองส์มีเอกลักษณ์อยู่ที่ความพยายามสรรสร้างงานศิลปะให้เหมือนธรรมชาติมากที่สุด และแสดงออกถึงจิตใจของกลุ่มชนแทนที่จะแสดงออกซึ่งความรู้สึกของใครคนใดคนหนึ่งอันเป็นลักษณะเฉพาะหน่วย การสร้างงานศิลปะในสมัยนี้จึงเป็นการแสดงออกซึ่งคุณค่าของความเป็นมนุษย์ไม่ใช่สรรสร้างเพื่อยกย่องเทิดทูนพระมหากษัตริย์หรือศาสนา



Sybils, fresco in the church of Santa Maria della Pace in Rome.
จิตรกรรม

ในสมัยนี้ได้เกิดความก้าวหน้าทางการวาดเขียนเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการวาดภาพบนฝาผนังแบบเฟรสโก (Fresco) ซึ่งเป็นวิธีวาดภาพบนผนังปูนเปียกให้เสร็จเรียบร้อย ก่อนผนังปูนแห้ง มิฉะนั้นจะต้องคอยพรมน้ำให้พื้นผนังปูนเปียกอยู่เสมอ เพื่อว่าจะได้ง่ายต่อการดูดซึมซับของสี วิธีการแบบนี้ไม่สะดวกต่อการเก็บรายละเอียด แต่ให้ความคงทนถาวรเป็นเยี่ยม


Madonna del Granduca
Raphael, 1505
Oil on wood
84 × 55 cm
Palazzo Pitti, Florence


นอกจากนี้ การวาดภาพยังนิยมวาดให้มีทัศนียภาพ ทำให้เกิดภาพ 3 มิติ (Perspective) ภาพวาดจึงดูสมจริงและมีชีวิต ลักษณะการวาดภาพแบบนี้เคยทำกันมาบ้างแล้วในสมัยโรมัน



The Madonna of the Pinks
Raphael, c. 1506–1507
oil on fruitwood
28.8 × 22.8 cm
National Gallery, London




เราจะเห็นได้วางานศิลปกรรมในสมัยเรอแนสซองส์นี้สะท้อนความคิดทางปรัชญาและศาสนาได้อย่างประสานกลมกลืนกันดี ศิลปินสนใจในด้านความงามแบบสากลจนเกิดเป็นแบบอุดมคติ (Idealism) ทั้ง ๆ ที่พยายามสร้างให้เหมือนจริงตามธรรมชาติก็ตาม ลักษณะเด่นของงานศิลปกรรมในสมัยนี้ โดยเฉพาะผลงานของไมเคิลแอนเจโลมีลักษณะที่เราอาจเรียกได้ว่าเป็นสาวใช้ของศาสนา และเป็นกระบอกเสียงของคริสตจักรในการสอนศาสนาโดยไม่ต้องอาศัยตัวหนังสือ



Madonna of Foligno
Raphael, 1510-1511
Oil on canvas
320 × 194 cm
Pinacoteca Vaticana, Vatican City


ภาพเขียนหรืองานแกะสลักจะปรากฎเป็นภาพเปลือย แสดงให้เห็นส่วนสัดของร่างกาย แต่ภาพเหล่านี้ไม่ได้ทำให้ผู้ชมบังเกิดความรู้สึกในทางต่ำทรามแบบภาพอนาจารทั้งหลาย ในทางตรงข้ามภาพเหล่านี้ได้ช่วยให้บุคคลในสมัยนั้นเข้าใจเนื้อหาของศาสนาดียิ่งขึ้น จึงอาจกล่าวได้ว่าเป็นคัมภีร์ไบเบิลฉบับรูปภาพ เพราะภาพเขียนส่วนมากแสดงเนื้อหาที่ได้มาจากพระคัมภีร์ไบเบิลทั้งฉบับเก่า และฉบับใหม่



La Madonna de Bogota by Raphael; after restoration work by Leo. A Marzolo.



La Madonna de Bogota by Raphael; as Santiago Martinez Delgado discover it.

ราฟาเอล (อังกฤษ: Raphael) (พ.ศ. 2026-2063) มีชื่อเต็มว่า “ราฟาเอลโล ซันซิโอ” เป็นจิตรกรชาวอิตาลีที่มีอาวุโสน้อยที่สุดในบรรดาจิตรกรผู้ยิ่งใหญ่ในยุคฟื้นฟูศิลปวิทยา โดยมีอายุน้อยกว่าเลโอนาโด ดา วินซี 31 ปีและอ่อนกว่าไมเคิลแอลเจลโล 8 ปี เมื่อ พ.ศ. 2051 ราฟาเอลได้เดินทางไปยังเมืองฟลอเรนซ์เพื่อศึกษางานของเลโอนาโด ดา วินซีและของไมเคิลแองเจลโล ต่อมาในปี พ.ศ. 2055 ได้ไปอยู่ที่กรุงโรมและพากเพียรเขียนภาพเพื่อให้ทัดเทียมกับศิลปินผู้ยิ่งใหญ่ทั้งสองท่านที่เขายกย่อง ราฟาเอลได้เขียนภาพปูนเปียกหลายชิ้นในนครวาติกัน ซึ่งถือกันว่าเป็นผลงานขั้นสูงสุดในยุคฟื้นฟูศิลปวิทยาที่สามารถรวมเอาความสงบนิ่งไว้กับความสมดุลได้อย่างกลมกลืน ราฟาเอลได้รับการแต่งตั้งเป็นสถาปนิกผู้รับผิดชอบในการก่อสร้างมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ในปี พ.ศ. 2057 และมีส่วนในการวางผังเมืองกรุงโรม



Raphael's Creation of the World

ภาพเขียน ลา ฟอร์นารินาโดยราฟาเอลงานจิตรกรรมของราฟาเอลในระยะหลังมีความเรียบง่ายและมีความใหญ่โตมากขึ้น แต่ยังคงรักษาความมีชีวิตชีวาของงานยุคต้นของตนเองไว้ได้ งานของราฟาเอลที่แสดงถึงความงามของผู้หญิงนับได้ว่าเป็นผลงานที่มีอิทธิพลต่อศิลปินกลุ่มนีโอคลาสสิกเป็นอย่างมาก



Christ Falling on the Way to Calvary
Raphael, 1516-1517
Oil on panel transferred to canvas
318 × 229 cm
Museo del Prado, Madrid


ราฟาเอลมีความใกล้ชิดสนิทสนมกับเจ้าผู้ครองนครและพระสันตปาปามากในช่วงปลายของชีวิต น่าเสียดายที่ราฟาเอลเสียชีวิตด้วยวัยเพียง 37 ปี ศพของราฟาเอลได้รับการฝังไว้ที่มหาวิหารแพนเธอนอนในกรุงโรมโดยพระบัญชาของพระสันตะปาปาปาลีโอที่ 10



Canigiani Holy Family
Raphael, 1507-1508
Oil on wood
131 × 107 cm
Alte Pinakothek, Munich


ราฟาเอลมีชีวิตอยู่ตรงกับรัชสมัยระหว่างสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถและสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 2แห่งสมัยกรุงศรีอยุธยา




The Transfiguration
Raphael, 1516-1520
oil on wood
405 × 278 cm
Pinacoteca Vaticana, Vatican City





The Expulsion of Heliodorus from the Temple (1511-1512) - Fresco, width at base 750 cm, Vatican, Rome




St. Michael Vanquishing Satan
Raphael, 1518
Oil transferred from wood to canvas
268 × 160 cm
Louvre, Paris


Source : //en.wikipedia.org/wiki/Raphael
Create Date :04 สิงหาคม 2550 Last Update :4 สิงหาคม 2550 21:40:27 น. Counter : Pageviews. Comments :2